ตอนที่แล้วบทที่ 38 เจ้าตัวน้อย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 40 ซากปรักหักพัง

บทที่ 39 พื้นที่เพาะปลูก


หลังจากที่กั่วเจียตรวจสอบผืนดินแล้ว เขาก็พยักหน้าเข้าใจอยู่เพียงคนเดียว

เขาทราบถึงความสำคัญของดิน และพืชผลจากประสบการณ์นานนับสิบปี

เมื่อเวลาผ่านไป หมู่บ้านจะได้รับการยกระดับเป็นเมือง และมีผู้คนเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ

การล่าสัตว์ และการเก็บผลไม้ ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อีกต่อไป

การทำฟาร์ม และเลี้ยงสัตว์คือกุญแจสำคัญ!

ในตอนนี้ หมู่บ้านหยู่เปิงเหนือกว่าหมู่บ้านอื่นมาก ตั้งแต่เริ่มต้น!

กั่วเจียยังคงรักษาการแทนเย่ปิงในหมู่บ้าน:

"ในการวางอสูรราตรีระดับเงิน และทองแดงอีกห้าตัวลงในหลุม พวกท่านต้องเริ่มวางจากศูนย์กลางของที่ดิน แล้วค่อยเติมไปสู่ภายนอก"

เขามีลางสังหรณ์ว่าจิตวิญญาณของซากศพทั้งหกนี้ จะช่วยให้ดินในพื้นที่เพาะปลูกยกระดับไปสู่ระดับที่สูง!

กั่วเจียถือเมล็ดหลิงซุยทองไว้ในมือ ซึ่งมันเป็นพืชที่มีความสวยงาม หาที่เปรียบมิได้

เจิดจรัสยิ่งกว่าทองคำแท้ ซึ่งแสงของมันดึงดูดความสนใจของชาวบ้าน

นี่คือต้นแม่!

เครื่องมือมากมายที่จางซานหล่อหลอมขึ้นมา มีส่วนช่วยในการเพาะปลูกครั้งนี้เป็นอย่างมาก

กาลเวลาล่วงเลยผ่านไป ภายใต้ความอุตสาหะของชาวบ้าน

มีพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมด 15 ไร่ โดยแบ่งเป็นดินสีแดงคุณภาพสูง 5 ไร่! และมีดินสีดำธรรมดามากถึง 10 ไร่!

ชาวบ้านทั้ง 20 คนต่างก็ดีใจมาก ถึงแม้พวกเขาไม่เคยรู้จักดินที่อุดมสมบูรณ์เช่นนี้มาก่อน แต่พวกเขาก็มองออกว่าดินนี้นั้นยอดเยี่ยม

พวกเขามั่นใจว่าจะสามารถปลูกพืชผักอื่นๆ ได้มากมายที่นี่

“จงสังเกตให้ดี สารอาหารจากศพผู้นำทั้งหกเป็นสารอาหารที่หายาก! พวกเราฝังพวกมันไว้ตรงใจกลางของพื้นที่เพาะปลูก! มันจะเป็นดินที่มีคุณภาพสูง”

กั่วเจียอธิบายให้ชาวบ้านเข้าใจเกี่ยวกับดินเพาะปลูก

ชาวบ้านถามด้วยความสงสัย: “ท่านกั่วเจียขอรับ ดินเหล่านี้มันต่างกันเช่นนั้นหรือ?”

กั่วเจียพยักหน้าและพูดว่า "ใช่แล้ว มันขึ้นอยู่กับสารอาหารที่เราฝังไว้ในดิน ซึ่งสิ่งที่เราฝังยิ่งมีระดับที่สูง คุณภาพของดินก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย”

กลุ่มชาวบ้านเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง แต่พวกเขาก็ยิ้มด้วยความดีใจที่หมู่บ้านจะมีพื้นที่เพาะปลูก

ผ่านไปซักพัก กั่วเจียก็ตรวจสอบคุณสมบัติตรงกลางพื้นที่เพาะปลูกอีกครั้ง

“เยี่ยมไปเลย ดินแดนแห่งนี้เป็นพื้นที่เพาะปลูกที่วิเศษแล้ว พลังที่กักเก็บไว้ด้านล่างคือสสารแห่งจิตวิญญาณ ซึ่งมันจะถูกดูดซึมมาใช้ได้จากพืชบนนั้น และนี่คืออสูรระดับเงินซึ่งสามารถเร่งการเติบโต 200% และเพิ่มผลผลิตพืช 100%!”

เมื่อกั่วเจียมั่นใจแล้วว่า ดินมีสารอาหารเพียงพอต่อข้าววิญญาณสีทองที่เขาต้องการจะปลูก ดังนั้นเขาจึงลงมือปลูกมันด้วยตัวเองในทันที

ภายใต้สายตาที่มึนงงของชาวบ้าน พวกเขาไม่เข้าใจสิ่งที่กั่วเจียพูด แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็ปลูกต้นข้าววิญญาณอย่างมีความสุข เพราะทั้งฟาร์มดูเหมือนจะถูกปกคลุมไปด้วยแสงของทองคำ

เมล็ดสีทองเปล่งประกายด้วยแสงจากตะวัน เหล่าเมล็ดพันธุ์ดูดสารอาหารจากสิ่งมีชีวิตระดับเงินที่อยู่เบื้องล่างในทันที

แสงสีทองกระจายไปทุกทิศทุกทาง

ต้นกล้าข้าวก็ปรากฏบนที่ดินสีแดงเลือดกินพื้นที่ 5 ไร่

สำหรับดินสีดำชั้นนอกสุด ไม่ได้เพาะปลูก เพราะมันไม่ได้มีจิตวิญญาณเพียงพอสำหรับปลูกข้าววิญญาณทองคำ

"ว้าวๆ!"

มีเสียงเชียร์ดังขึ้นจากชาวบ้าน เมื่อพวกเขามองเห็นทะเลทองอยู่ตรงหน้า

ชาวบ้านมองดูข้าวในทุ่งนาอย่างตื่นเต้น รู้สึกว่ามันน่าดึงดูดยิ่งกว่าทองคำแท้เสียอีก

"ดูเหมือนว่าข้าววิญญาณสีทองที่พวกเราเพิ่งปลูก จะสามารถเก็บเกี่ยวได้ในอีกสามวัน"

กั่วเจียตรวจสอบต้นกล้าอย่างรอบคอบ และพิจารณาว่ากลุ่มแรกจะเติบโตเต็มที่ในสามวัน!

“พวกเราจะปล่อยพื้นที่สีดำสิบกว่าไร่ว่างเปล่าไม่ได้ พวกท่านทั้งหลายสามารถขอพืชผักจากแม่นางเสี่ยวเหมิงมาปลูกได้”

เมื่อกลุ่มของเสี่ยวเหมิงออกไปเก็บผลไม้ในป่า พวกเขายังพบเมล็ดผัก และเมล็ดไม้ผลมากมายในป่า

ผ่านไปสักพัก ชาวบ้านก็ได้นำเมล็ดพันธุ์พืชปลูกบนพื้นดินสีดำอย่างตื่นเต้น

{ติ๊ง! พริกทรงกลม 100 ต้น ถูกปลูกในพื้นที่เพาะปลูกของคุณ!}

{ติ๊ง! กะหล่ำปลี 100 ต้น ถูกปลูกในพื้นที่เพาะปลูกของคุณ!}

{ติ๊ง! หัวไชเท้าสีม่วง 200 ต้น ถูกปลูกในพื้นที่เพาะปลูกของคุณ!}

….

เมื่อเย่ปิงและเหล่านักรบหยุดสังเกตการณ์ที่หน้าหุบเขา เขาได้รับการแจ้งเตือนเป็นชุดๆ จากฝั่งหมู่บ้านดังขึ้นเป็นระยะๆในหูของเย่ปิง

ข่าวที่สะดุดตาที่สุดคือ:

{ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จในการเพาะปลูกระดับสูง ข้าวหลิงซุยทอง มันถูกปลูกบนพื้นที่ 5 ไร่ของท่าน}

เย่ปิงได้คิดคำนวนอีกครั้งเกี่ยวกับการเพราะปลูก:

‘เรามีพื้นที่เพาะปลูกจำนวนมาก ผลผลิตอาจเป็นสองเท่าหรือสามเท่าจากที่คาดไว้! และมันน่าจะต้องใช้เวลาสี่ถึงห้าวันกว่าจะออกดอกผล เมื่อถึงเวลานั้น เราน่าจะเก็บเกี่ยวข้าววิญญาณทองคำได้ 20,000 ปอนด์!”

เขาหัวเราะขึ้นทันที เมื่อนึกถึงภาพข้าววิญญาณทองคำ 20,000 ปอนด์!

"ฮ่าๆๆๆ!"

เย่ปิงกลั้นเสียงหัวเราะไว้ไม่ได้

“ทำไมท่านหัวหน้าถึงหัวเราะในเวลานี้?”

“ฮ่าๆ! ข้าขอโทษด้วยที่ทำให้พวกท่านตกใจ ข้าเพิ่งได้รับข่าวดี คนที่อยู่ในหมู่บ้านทำพื้นที่เพาะปลูกสำเร็จแล้ว ในอนาคตเราจะมีข้าววิญญาณสีทองจำนวนมาก นอกจากเป็นอาหาร และเครื่องนุ่งห่มแล้ว มันสามารถพัฒนาร่างกายของพวกเราได้อีกด้วย!”

นักรบทั้งห้าคนต่างดีใจมากเช่นกัน การเพาะปลูกครั้งนี้สำคัญมาก! เพราะมันกำหนดศักยภาพ และรากฐานของความเป็นอยู่ในหมู่บ้านเป็นอย่างมาก

"ห๊ะ!"

ทันใดนั้น นกอินทรีตัวน้อยบนไหล่ของเย่ปิงก็ขยับปีก ราวกับว่ามันกำลังเตือนพวกเขา

เย่ปิงตั้งสติ และมองไปข้างหน้า

บริเวณหุบเขาลึกลับมีหมอกปรากฏขึ้นเต็มไปหมด

ด้วยสายตาที่เฉียบแหลมของเย่ปิง เขาสามารถมองเห็นได้ว่า มีเสาหินอ่อนล้มเอียงระเนระนาด และกำแพงโบราณมากมายที่ซ่อนเร้นในหมอกสีขาวนั้น

“อสูรที่ท่านพบครั้งล่าสุดมีลักษณะอย่างไร?”

เย่ปิงเอ่ยถามจงยี่ผู้เคยพบเห็นอสูรมาก่อน

จงยี่ตอบกลับทันทีว่า: "มันสูงราวๆ 3 เมตร พวกมันมีลักษณะคล้ายโครงกระดูกลิงสีดำ มีขายาวเท่ากันทั้งสี่ขา สีหน้าดุร้าย แม้ว่าพวกเราจะไม่เห็นอสูรเช่นนี้แถวหมู่บ้าน แต่ข้าว่าพวกมันจะกลายเป็นภัยคุกคามใหญ่ต่อหมู่บ้านของเราในอนาคตเป็นแน่!”

“ครั้งแรกที่ข้ามาที่นี่ ข้าพบพวกมันเพียงสองตัวเท่านั้น ข้าคิดว่าพวกมันน่าจะมีอีก ข้ากับชาวบ้านก็เลยถอยกลับหมู่บ้าน”

เมื่อเย่ปิงได้ยินข้อมูลทั้งหมดจากจงยี่ เขาจึงพูดขึ้นว่า

"สิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างแรกคือ สำรวจให้ได้ว่าพวกมันมีกี่ตัว? และมันมีหัวหน้าของพวกมันหรือไม่? โดยไม่ไห้พวกมันรู้ตัว!"

เย่ปิงมองไปที่นกอินทรีมงกุฎทองคำตัวน้อยๆ บนไหล่ของเขา

รอยยิ้มอย่างกะทันหันเกือบทำให้มันบินหนีหนีกลับลัง

ในเวลานี้ นกน้อยรู้สึกว่า เจ้านายต้องการอะไรบางอย่างจากมัน

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด