ตอนที่แล้วตอนที่ 665 พรจากอูหวังไห่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 667 จะเป็นมิตรหรือศัตรู?

ตอนที่ 666 ถังเทียนปรากฏตัว


แสงฉายวาบออกมา

บึ้มมม!

ฝูตงคูรู้สึกว่าแสงสว่างเจิดจ้าและรุนแรงบดบังการมองของเขาทำให้เขาตาบอดแสงไปชั่วคราว เรือรบที่ใต้เท้าเขาสั่นสะเทือนรุนแรง และในขณะนั้นเขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคงราวกับว่าถูกพายุโหมกระหน่ำ ในช่วงเวลาต่อมานั้น เสียงระเบิดกึกก้องก็ดังตามมา ทำให้ทุกคนตาพร่าหูอื้อไปตามๆกัน

ใจของฝูตงคูว่างเปล่าไม่ใช่ความขี้ขลาด แต่เป็นธรรมชาติของมนุษย์

หลังจากนั้นไม่กี่วินาที  สายตาของเขาก็กลับคืนเป็นปกติ และเขาตกใจกับภาพที่เห็นทันที  รอบๆตัวเขาออกไปสองกิโลเมตรก็คือเรือรบลำอื่น ตกอยู่ในท่ามกลางเปลวเพลิง ทหารต้องการจะวิ่งหนีออกมาจากเรือรบ แต่พวกเขาไม่สามารถดิ้นรนหนีออกมาจากเปลวเพลิงที่น่ากลัวได้

แครก  แครก แครก!

เสียงแตกระเบิดที่น่ากลัวดังขึ้น ฝูตงคูรู้สึกผิวชาขณะที่เขาเห็นเรือรบข้างหน้าเขาเริ่มแตกเป็นสองเสี่ยง  กลายเป็นกองไฟขนาดใหญ่สองกอง

ฝูตงคูไม่ใช่มือใหม่  แต่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นฉากภาพโศกนาฏกรรมแบบนั้น

นั่นคือเรือรบระดับเงิน!

เรือรบระดับเงินขนาดกลางมีความสามารถป้องกันที่โดดเด่น  และด้วยโครงสร้างที่ทรงพลังพอๆ กันด้วยอาวุธของมัน จึงทำให้เรือรบระดับเงินนี้มีราคาอย่างน้อยสองแสนล้านคลาวด์

สองแสนล้านคลาวด์เผาไหม้อยู่ต่อหน้าเขาทำให้ฝูตงคูตะลึง

ความสูญเสียทำให้เขาเจ็บปวดหัวใจ

ซุ่มโจมตี!

เป็นการซุ่มโจมตีของศัตรู!

ฝูตงคูสั่นสะท้านและตะโกนทันที  “ถอนกำลัง!  ทุกคน ถอนกำลัง!”

ฝ่ายตรงข้ามควบคุมการโจมตีของพวกเขาไว้ได้ตั้งแต่ต้นบังคับให้เรือโจมตีเคลื่อนมาข้างหลังและให้เรือรบหลักเป็นโล่กันข้างหน้า  จากนั้นพวกเขาจงใจลดกำลังยิงลงทำให้สำคัญผิดว่าอ่อนแอ  ทำเหมือนกับว่าพวกเขาตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน  เรือรบเข้าไปใกล้เกินไป  ดังนั้นจึงไม่สามารถหลบพลังโจมตีได้  แผนทั้งหมดในแต่ละการเคลื่อนไหวมีความต่อเนื่อง  ถ้าพวกเขาต้องกลับไปเริ่มใหม่ฝูตงคูคงถูกหลอกอีกครั้ง

เป็นแผนที่ทรงพลังอำนาจจริงๆ

ฝูตงคูบังคับตนเองให้สงบใจ  ถ้ารายงานเป็นความจริง อย่างนั้นจะไม่มีประโยชน์อะไรกับอีกฝ่ายที่วางแผนซุ่มโจมตี  เพราะพวกเขามีกำลังไม่เพียงพอ แผนอย่างนั้นไม่ทำให้พวกเขาได้รับชัยชนะแม้แต่น้อย

เว้นแต่...

ฝูตงคูใจเต้นแรง

‘ทั้งหมดนี้เป็นอุบาย? พวกเขาปล่อยข้อมูลว่าทวีปซางโจวว่างเปล่าไม่มีสิ่งสนับสนุน?  และข้อมูลสะพานลอยเป็นข้อมูลเท็จ?  ความคิดมากมายผ่านเข้ามาในใจของฝูตงคู  ยิ่งคิดมากขึ้นก็ยิ่งรู้สึกกลัวความหวาดระแวงนี้ทำให้ความมั่นใจของเขาสั่นคลอน เขาตัดสินใจถอยไปดูสถานการณ์

พวกเขาถอยห่างออกไป 30กิโลเมตร

****************************

เรือรบของศัตรูใกล้เข้ามาทุกทีทำให้ถังเทียนสงบใจได้มาก ความเคลื่อนไหวของปู้จื้อเฟยสร้างความตกใจให้กับเขา  แต่ในเวลาอันรวดเร็ว  เขากลับประทับใจแทนที่  ‘ดูเหมือนว่าเจ้าคนหงุมหงิมนั่นจะมีมาตรฐานไม่เบา’ เขาไม่ได้หลับหูหลับตาป้องกันป้อมปราการถ่วงเวลาอย่างเดียวและยังสามารถทำลายเรือรบศัตรูได้ นี่ทำให้ถังเทียนรู้สึกนับถือเขา

เมื่อเห็นว่าโจรสลัดตกใจเหมือนฝูงนกและถอยไปอย่างจงใจ  ถังเทียนรู้สึกดีใจมากขึ้น

ราวกับว่าพวกเขาอยู่บนแผ่นเงิน พวกเขาประหยัดเวลาในการเดินทางจนมาถึงด้านหลังกองเรือ  ถังเทียนให้สัญญาณกับพวกที่เหลือ  ทุกคนตื่นเต้นกันมาก ต่างถือสมบัติดวงดาวเอาไว้เพียงแต่ยังไม่กระตุ้นการทำงาน

“เริ่มได้”

ทันทีที่ถังเทียนสั่งการพวกเขา พวกเขากระตุ้นการทำงานของสมบัติดวงดาวในมือของพวกเขาพร้อมกัน

กลุ่มแสงสว่างวาบขึ้นอย่างรวดเร็ว บรรดาสมบัติที่หลับใหลถูกกระตุ้นให้ตื่นขึ้น  และจิตวิญญาณยุทธซึ่งเดิมที่มาจากสวรรค์วิถีพอประสบกับพลังงานที่หนาแน่น ก็เริ่มทำงานอย่างยินดีทั้งหมด

พวกมันเริ่มสูบพลังงานอย่างเมามัน

พลังงานทั้งหมดเริ่มทะลักเข้าหาสมบัติเหล่านั้นอย่างคลุ้มคลั่ง  พวกเขาอยู่ในทะเลพลังงานซึ่งไม่ใช่แหล่งขาดแคลนพลังงาน  สมบัติทุกชิ้นจึงกลายเป็นเหมือนวังวน  ครั้งนี้ถังเทียนใช้สมบัติค่อนข้างน้อย สมบัติในมือของพวกเขาเป็นสมบัติระดับเงินทั้งหมด

แต่พวกมันถูกเจ้าของข่มไว้ได้แล้ว

สมบัติที่ถูกข่มจะกระสับกระส่ายดิ้นรนอยู่ในมือเจ้าของๆพวกมัน  สำหรับสมบัติระดับเงิน 700ชิ้นที่ดิ้นรนพร้อมกัน จะก่อให้เกิดความปั่นป่วนใหญ่ขนาดย่อมๆ ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายใกล้กันมาก ดังนั้นจึงทำให้พวกเขาตรวจพบเจอ

“พวกเขาตามเรามาข้างหลัง!”

บริวารคนหนึ่งร้องลั่นทำให้ฝูตงคูต้องรีบมาดูที่หน้าต่าง

ด้านนอกเรือรบมีร่างมนุษย์หลายคนพร้อมกับปรากฏแสงจางๆ อยู่ในมือของพวกเขา

แย่แล้ว!  ซุ่มโจมตี!

ฝูตงคูสีหน้าเปลี่ยน,น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปทันที “เราต้องไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!”

ในขณะนั้นเองเสียงตะโกนดังมาจากด้านนอกกองเรือ  “โยนเลย!”

คำสั่งของถังเทียนทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนกับว่าได้ปลดภาระออกจากบ่าพวกเขา  สมบัติในมือของพวกเขากำลังเผาไหม้เหมือนกับเหล็กหลอมและพวกเขาโยนออกไปใส่กองเรือ หลังจากนั้นทุกคนหันหลังวิ่งโดยไม่ลังเล ทุกคนแตกกระเจิงเหมือนกับว่ามีหมาล่าเนื้อวิ่งไล่กวดพวกเขา  และไม่ต้องสนใจภาพลักษณ์ว่าจะเป็นเช่นไร  พวกเขาดูเหมือนจะกลัวบางอย่าง

กลุ่มแสงเดินทางไม่ไว  แต่ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายใกล้เกินไป

แสงไฟที่อยู่ในมือพวกเขาเริ่มบวมขึ้นในระดับที่น่าตกใจเมื่อพวกเขาโยนออกไป  กลายเป็นขนาดเท่าอ่างอยู่ในกลางอากาศ  แสงเหล่านั้นมีมากมายหลายสีมีวังวนอยู่ที่ปลายขอบ แสงไฟเหล่านี้ยังคงสว่างขึ้นอย่างรวดเร็ว!

ความรู้สึกถึงอันตรายที่รุนแรงครอบงำฝูตงคู  ตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขาตกลงไปในบ่อที่เต็มไปด้วยคมมีด

พลังงานทั้งหมดโดยรอบกำลังทะลักเข้าหาแสงนั้น

สมบัติดวงดาวพอสูญเสียการควบคุมก็ดูดซับพลังงานอย่างบ้าคลั่งเกิดเป็นรัศมีแพรวพราวเต็มท้องฟ้า เหมือนกับดาวตกพุ่งผ่านท้องฟ้า

“เราต้องออกไปเดี๋ยวนี้!”  ฝูตงคูคำราม  ตาของเขาแดงก่ำเหมือนนักพนันที่เล่นจนหมดตัว

“เรือรบกำลังจะถูกดูดเข้าไป!”เสียงของบริวารดังขึ้นเต็มไปด้วยความกลัวและความสิ้นหวัง

หลังจากกระตุ้นสมบัติดวงดาวแล้ว พวกเขากำลังข่มสมบัติดวงดาวไม่ให้สูญเสียการควบคุม  แต่หลังจากกดข่มแล้ว สมบัติชั้นเงินเหล่านี้สามารถดึงพลังมาจากรอบด้านอย่างไม่ถูกจำกัดพลังงานไร้ขอบเขตทำให้จิตวิญญาณยุทธภายในสมบัติเติบโตอย่างรวดเร็ว  ขณะที่สมบัติเหล่านั้นเสริมพลังต่อไป  การสูบพลังงานของสมบัติกลับทรงพลังมากยิ่งขึ้น

สมบัติชั้นเงิน 700ชิ้นดูดเก็บพลังงานพร้อมกันทำให้พลังงานในรัศมี 50 กิโลเมตรถูกดูดเข้ามา แม้แต่ภูมิภาคกระแสพลังใต้ซึ่งถังเทียนและพวกที่เหลือก็ยังไม่กล้าลองดู  พลังงานเส้นสายสีดำคล้ายกับภูษาสีดำเริ่มถูกดึงดูดเข้าไปในแสง

กองเรือของฝูตงคูอยู่ที่ใจกลางวังวนพวกเขาจะหลบไปได้อย่างไร?

ถังเทียนและศิษย์ของตระกูลใหญ่ไม่ได้หันกลับไปดู  พวกเขาพยายามเผ่นหนีอย่างสุดกำลังพยายามไปให้ไกลที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ พวกเขารู้ว่าแสงนั้นน่ากลัวเพียงไหน เพราะพวกเขาได้ดูดซับพลังงานในเกาะใต้มาก่อนครั้งหนึ่งแล้ว

ปัจจุบันนี้พวกเขาอยู่ในทะเลพลังงานที่ซึ่งในทุกตารางนิ้วหนาแน่นไปด้วยพลังงาน

‘หนี!’

‘หนีอย่างสุดกำลัง!’

นั่นคือความคิดที่อยู่ในใจของทุกคน  พลังดูดที่น่ากลัวด้านหลังพวกเขาสั่นสะท้านพลังงานรอบตัวพวกเขา  พวกเขาเป็นเหมือนปลาที่ว่ายน้ำทวนกระแส  ทุกๆ ย่างก้าวทำได้อย่างยากลำบาก  ความเร็วของพวกเขาตกลง

เสียงครางดังอยู่ข้างๆเขา ทำให้ถังเทียนหันไปดู เขาเห็นศิษย์ตระกูลคนหนึ่งสูญเสียการควบคุมตนเอง  ในพริบตาที่จะถูกดึงไป ร่างถังเทียนกระพริบและมาปรากฏที่ข้างตัวศิษย์ผู้นั้นและคว้าคอเสื้อเขาไว้และตะโกน  “ระวังตัวเจ้าเองไว้ด้วย!”

เพียงแค่นั้นเขาเหวี่ยงศิษย์ผู้นั้นไปอีกด้านหนึ่ง ถ้าเป็นวันธรรมดา ด้วยพลังของถังเทียนคงเหวี่ยงเขากระเด็นไป 300 เมตร  แต่ขณะนั้นเขาเหวี่ยงออกไปได้ 30 เมตร

ศิษย์ตระกูลเริ่มแสดงอาการเหนื่อยล้าเพิ่มขึ้น  ทำให้ถังเทียนตื่นตัว  แรงดูดด้านหลังพวกเขาเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นถ้าพวกเขาไม่หลบไปให้พ้นรัศมี พวกเขาจะถูกดูดเข้าไปในวังวนทันที

“เกาะหลังข้าไว้!”

ถังเทียนคำราม เขาวิ่งมาอยู่ข้างหน้าของกลุ่มและระดมหมัดชกไปข้างหน้าอย่างดุดัน

บึ้ม!

พลังกลายเป็นปั่นป่วน  และมีพื้นที่ว่างข้างหน้าเขา  ถังเทียนก้าวไปข้างหน้า  ก่อนที่กระแสพลังจะบรรจบอีกครั้ง  เขาปล่อยหมัดออกไป

บึ้ม  บึ้ม บึ้ม!

ถังเทียนเหมือนกับรถไถปรับพื้นที่พุ่งเข้าใส่ทุกอย่าง

ศิษย์ในตระกูลใหญ่ที่อยู่ด้านหลังเขารู้สึกพลังกดดันพวกเขาผ่อนคลายลงจึงได้สติกลับคืน

ทันใดนั้นมีหัวน้อยๆโผล่ออกมาจากชุดของถังเทียน  เป็นหยาหยานั่นเองตาของมันสว่างวาบ  ‘นี่เป็นสิ่งที่ข้าถนัดที่สุดไม่ใช่หรือ? ขุด  ขุด  ขุด?’  มันโห่ร้องและกระโดดออกมาจากอกถังเทียน ธงน้อยๆที่ก้นของมันโบกสะบัดอยู่ในอากาศ มันควงหมัดและเริ่มขุดทะลวง แม้ว่าหมัดของมันจะเล็ก แต่หมัดเหล่านั้นก็มีความรุนแรงและมีความถี่ในการโจมตีสูง  มันสามารถเบิกทางสายหนึ่ง  ในพริบตาก็มีคนกลุ่มหนึ่งตามหลังหยาหยาออกไป

‘เด็กๆ!’ เสี่ยวเอ้อมองดูหยาหยาผู้ตื่นเต้นกำลังคำรามอย่างบ้าคลั่งด้วยสายตาเย็นชา เขายังคงเฉยเมยขณะที่เขามาปรากฏที่ด้านหน้ากลุ่มเหมือนกับภูตพราย  ด้วยกระบี่เซียนปราบสมุทรสีใสในมือ  เขาแทงกระบี่ออกไป

ม่านพลังแสงในรูปร่มกางออกที่ปลายกระบี่  ร่มดวงดาวกลุ่มดาวหมีใหญ่

ดวงดาวโคจรอยู่บนผิวร่มสร้างละอองชั้นบางๆ เสี่ยวเอ้อยังคงใจเย็น กระบี่เซียนปราบสมุทรวิวัฒนาการแล้ว และกลายเป็นอาวุธทรงอานุภาพมาก แม้เผชิญหน้ากับกระแสพลัง เขาก็ยังใช้ออกได้ง่าย

ศิษย์ตระกูลใหญ่ติดตามด้านหลังเสี่ยวเอ้อทันที

จิ่งหาวหัวเราะ เขายกกระบี่ดื่มเลือดเซียนและฟันใส่กระแสพลังข้างหน้าเขา ซี่.....กระแสพลังงานข้างหน้าฉีกขาดจากกัน และศิษย์ประจำตระกูลด้านหลังของเขารู้สึกว่าแรงกดดันที่ตัวพวกเขาผ่อนคลายลง  เมื่อเขาเห็นว่ากระแสพลังบรรจบกันอีกครั้งจิ่งหาวก็ฟันอีกครั้งหนึ่ง

หลังจากฟันอีกครั้งหนึ่ง  จิ่งหาวใช้กระบี่ดื่มเลือดเซียนตามปกติ  และกลุ่มคนก็มารวมอยู่ด้านหลังของเขา

ด้วยการมีพวกเขานำทาง  ความเร็วของพวกเขาเพิ่มขึ้นอีกมาก  แต่การเดินทางได้ 25กิโลเมตรจำเป็นต้องใช้เวลาถึงสิบนาที และในสิบนาทีนี้ รู้สึกเหมือนเป็นเวลาทั้งชีวิต  ปกติ ระยะทางยี่สิบห้ากิโลเมตรจะใช้เวลาแค่เพียงพูดจบแล้วเท่านั้น

แรงดึงดูดด้านหลังพวกเขาเริ่มอ่อนลง  พวกเขารู้ว่าพวกเขาหลบพ้นอันตรายได้แล้ว

หลายคนนั่งลงอ่อนแรงโดยไม่สนใจภาพพจน์ ขณะที่ศิษย์ในตระกูลที่ยังมีเรี่ยวแรงก็ยืนเท้าเข่าหอบหายใจ

“โอวพระเจ้า ดูสิ!”

เสียงหนึ่งดังขึ้นดึงดูดความสนใจของทุกคน  ทุกคนหันหน้าไปดู ฉากภาพข้างหน้าของพวกเขาทำให้พวกเขาตกตะลึง  บางคนก็เอามือกุมหัวด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด