ตอนที่แล้วตอนที่ 659 ซุ่มโจมตี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 661 โจรสลัดบุก

ตอนที่ 660 สู้รบรุนแรง


ดวงอาทิตย์น้อยหลายดวงพุ่งทะยานสู่ท้องฟ้าเป็นแถวแนวโค้งสีส้มพุ่งกระแทกใส่แถวของศัตรู

บึ้มบึ้ม บึ้ม!

เมื่อกระทบเข้ากับตัวเรือรบโจมตีเร็วรังสีธนูกลมก็ระเบิดทันทีพร้อมกับปล่อยพลังงานสีส้มทะลักออกมาอย่างบ้าคลั่ง  ตัวเรือพอไม่มีม่านพลังป้องกันภายใต้คลื่นพลังงานรุนแรงสีส้มจึงอ่อนยุ่ยเหมือนกับกระดาษและแตกกระจายเป็นผุยผงทันที

ระเบิดแสงไฟลูกแล้วลูกเล่าเจาะทะลวงทุกสิ่งทุกอย่าง

พวกโจรสลัดทุกคนตาเบิกกว้างตกใจระลอกคลื่นพลังงานที่รุนแรงสะท้านแก้วหูพวกเขาจนหูอื้อไปชั่วคราว แสงรังสีที่ทะลุทะลวงปกคลุมเต็มไปทั่วทุกพื้นที่  ทั่วทั้งพื้นที่สว่างไสวไม่มีเงาหรือเสียง  เพลิงลุกไหม้รอบๆ เรือรบที่หักพัง  หมอกละอองเลือดระเหยอยู่ในท้องฟ้าลอยละล่องเหมือนกับใบไม้ที่เคลื่อนไปตามแรงคลื่นซัด...

ฉากภาพที่เจ็บปวดเกิดขึ้นอยู่ในความเงียบ

โจรสลัดทั้งหมดไม่ได้เตรียมตัวเลยแม้แต่น้อยและตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้

มีเพียงขุนพลที่อยู่บนเรือรบแถวหน้าตะโกนลั่น  “โจมตี!  โจมตีเดี๋ยวนี้!”

“จะ..โจมตีตรงไหน?” รองหัวหน้าประจำเรือโพล่งขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว  ศัตรูของพวกเขาโจมตีมาจากทุกตำแหน่งทิศทางจะให้พวกเขาโจมตีไปทางไหน?

ก่อนที่ผู้บัญชาการเรือจะทันได้ตอบจู่ๆ ก็มีบางคนร้องขึ้นด้วยความกลัว “แย่แล้ว!  พวกเขากำลังขึ้นบนเรือของเรา!”

ทุกคนบนเรือได้รับการเตือนทันที  ใบหน้าของพวกเขาแสดงความหวาดผวา  ‘ถ้าศัตรูขึ้นเรือได้...’

พวกเขาไม่กล้าคิดถึงฉากเช่นนั้นเลย

“ป้องกันเอาไว้!”  คนหัวหน้าตะโกน  เสียงของเขาสูง ขุนพลที่มาจากทวีปกวงหมิงไม่มีประสบการณ์การต่อสู้อย่างดุเดือดแบบนั้น  เหมือนกับว่ความรู้ประสบการณ์ต่อสู้ในอดีตของเขาทั้งหมดสูญเสียไปหมด

‘กับดัก!  เป็นกับดักจริงๆ!  ศัตรูเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว!’

การตัดสินใจเช่นนี้ทำให้หัวใจของเขาสั่นสะท้าน

หลิงซิ่วคือคนที่แข็งแกร่งประดุจเหล็ก  เขามักจะเป็นผู้นำหน้าอยู่เสมอ  ดวงตาสีแดงเพลิงของเขาลุกโชน  เขาวิ่งขึ้นหน้าพร้อมกับหอกของเขา

ลูกเรือบนเรือเพียงเห็นแต่ดาวสีเงินแผ่อยู่ข้างหน้า  รังสีเงินวิ่งมาข้างหน้าของพวกเขา ตอนนั้นพวกเขาจึงตระหนักได้ว่าแสงสีเงินนั้นความจริงก็คือคนผู้หนึ่ง

ทหารนั้นกรีดร้องและไม่มีเวลาทันตั้งตัว  แสงเงินระเบิดกระจายเต็มหน้าของเขา รังสีเงินนับไม่ถ้วนเป็นเหมือนทะเลดวงดาวกระแทกใส่เรือเร็วโจมตี

หอกดาวแกะ!

ซี่  ซี่ ซี่!

รังสีเงินหนาแน่นหนักหน่วง  ทหารยกอาวุธในมือขึ้นตามสัญชาตญาณและรู้สึกเหมือนกับว่าถูกเครื่องจักรหนักกระแทกใส่  พวกเขาร้องครวญคราง และกระเด็นออกไปทุกคน  ก่อนที่ทหารเหล่านี้จะร่วงถึงพื้น  ทหารทุกคนหลั่งเลือดจากหู, จมูกและปากร่างกายปราศจากชีวิต

บึ้ม,ปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งแตกทำลายเป็นผุยผงจากรังสีเงินสองเท้าของหลิงซิ่วยืนอยู่บนเรือแล้ว

เมื่อเห็นผลงานที่น่ากลัวของหลิงซิ่ว ศิษย์ตระกูลหวีที่ติดตามอยู่ด้านหลังหลิงซิ่วรู้สึกมีกำลังใจเพิ่มสูงขึ้นพวกเขาโห่ร้องขณะบุกขึ้นเรือรบ

ในระยะไกล  ปิงมองดูฉากภาพดังกล่าว  การขึ้นเรือได้ลำหนึ่งจะทำให้การสู้รบโหดร้ายและรุนแรงมากขึ้น และแม้แต่ทหารที่ฝึกมาดีแล้วก็ยังกลัวที่จะทำเช่นนั้น แต่ปิงกล้าใช้มือใหม่บุกขึ้นเรือเป็นเพราะเขาได้เปรียบในการซุ่มโจมตี  และเพราะหลิงซิ่ว

‘หนึ่งหอกหนึ่งชีวิต’‘หลิงซิ่วผู้แกร่งกร้าว’ มีอารมณ์ร้อนแรง ความตั้งใจสู้ของเขามีมากมายเหลือเฟือเสมอ  เขารู้สึกไม่หวาดหวั่นและจะวิ่งเข้าสู้รบก่อนเสมอเขาใช้การสู้ระยะประชิดและร่วมประสานงานซึ่งเป็นด้านสำคัญที่สุดก็ดูดีสง่างาม

เมื่อหลิงซิ่วเข้าต่อสู้อย่างห้าวหาญสง่างามทำให้เขาดูแข็งแกร่งที่สุดเกินกว่าทุกคน

บนเรือรบไม่เพียงแต่หลิงซิ่วจะมีใบหน้าขลาดกลัวต่อศัตรูแปลกหน้าที่อยู่ต่อหน้าเขา  แต่ความตั้งใจต่อสู้ของเพิ่มขึ้นสูง เขาคำรามเหมือนฟ้าผ่าและวิ่งตะลุยเข้าหาพวกเขา หอกเงินในมือของเขาถูกใช้ไม่มีหยุด ไม่ว่าตรงไหนที่เขาไปก็จะมีคนพ่ายแพ้ถูกบดขยี้จนโลหิตไหลนอง

ศิษย์จากตระกูลหวีที่หลิงซิ่วสอนเพิ่งจะมาถึงและกระโจนเข้าหาศัตรู

หวีชิงอี้ฉลาดมากเขารู้ว่าพลังของพวกเขายังห่างไกลจากหลิงซิ่ว เขารู้ว่าเมื่อเทียบกับโจรสลัดฝีมือดี พวกเขายังเป็นรองเล็กน้อย ดังนั้นพวกเขาทุกคนจึงจับกลุ่มสามคนบ้าง ห้าคนบ้างหอกของพวกเขามักใช้ด้วยกันเสมอ โจมตีพร้อมกัน ด้วยรูปแบบการต่อสู้ที่เอาเปรียบเช่นนั้น พวกโจรสลัดจึงพ่ายแพ้ และเขาจะถูกกำจัดทีละคนๆ

โจรสลัดทุกคนบนเรือรบเป็นทหารเก่าทั้งนั้น  และหลายๆคนเป็นสมาชิกหลักและเป็นทหารฝีมือดีของทวีปกวงหมิง

ในสถานการณ์เลวร้ายเช่นนั้น  นักสู้ฝีมือดีของทวีปกวงหมิงสามคนมองหน้ากันเองและพวกเขากระโจนเข้าหาหลิงซิ่วทันที อีกสองสามคนหันหน้าและวิ่งเข้าใส่หวีชิงอี้!

พวกเขาสามารถเห็นได้ว่าศิษย์ของตระกูลหวีมีฝีมือการต่อสู้ระดับทั่วๆไป แต่สามารถสร้างความเสียหายได้เนื่องจากหวีชิงอี้  ต้องแยกหวีชิงอี้ออกมาจากกลุ่ม และปล่อยให้มือสมัครเล่นแสดงฝีมือที่ไม่ธรรมดานั้น

ตรึงหลิงซิ่ว  ฆ่าหวีชิงอี้!

ยอดฝีมือของทวีปหมิงกวงทุกคนตัดสินใจใช้กลยุทธในทันทีนั้น  พวกเขาทำการตัดสินใจทันที

เมื่อเห็นนักสู้ฝีมือดีของทวีปกวงหมิงพุ่งเข้าหาเขา  หลิงซิ่วคำราม เขาเขาเคลื่อนไหวหอกอย่างนุ่มนวล ปลายหอกสั่นสะท้านเล็กน้อย และกลายสภาพเป็นทะเลรังสีเงิน

แต่ร่างของเขายังคงเหมือนรูปสลักไม่เคลื่อนไหวเลยสักนิ้วเดียว  มีแต่เพียงปลายหอกที่ถูกควบคุมด้วยความถี่อย่างน่าอัศจรรย์ ดวงดาวสีเงินเรียงรายไปข้างหน้ากลายเป็นแม่น้ำดวงดาว  คนสองสามคนนั้นเข้ามาใกล้ทุกที  แต่หลิงซิ่วไม่สนใจพวกเขา เขายังคงกวัดแกว่งหอกสร้างรังสีเงินอย่างเฉยเมย  ชั้นรัศมีบางๆยังคงครอบงำและไหลต่อเนื่องเหมือนทะเลดวงดาวไม่มีสิ้นสุด

ยอดฝีมือทั้งสามปลดปล่อยรังสีฆ่าฟันที่ชั่วร้ายอยู่บนใบหน้า หนึ่งในนั้นมีมือที่มือเขาปกคลุมไปด้วยเข็มแสง  อีกคนหนึ่งทั่วทั้งตัวคลุมไปด้วยเพลิงขาว  และคนสุดท้ายถือกระบี่แสงที่เหมือนกับหิมะ

ทั้งสามคนรู้สึกดีใจ  พวกเขาเป็นสามคนที่แข็งแกร่งที่สุดในเรือรบ  แม้ว่ารังสีหอกของศัตรูของพวกเขาจะหนาแน่นมาก  แต่สำหรับพวกเขาไม่มีอะไร  ตราบใดที่พวกเขาทำลายผ่านรังสีหอกได้ศัตรูของพวกเขาก็จะพินาศ

ในดวงตาของเขาศัตรูใกล้เข้ามาทุกทีๆ แต่แววตาสีแดงเพลิงของเขายังคงลุกโชน

หลิงซิ่วก้าวมาข้างหน้าทันทีผมสีเงินยาวประบ่ากระพือยุ่งเหยิง ทะเลรังสีเงินรอบตัวเขาพลันสว่างเจิดจ้าทันที

หอกเงินแทงออกไป

ท้องฟ้าเต็มไปด้วยรังสีเงินถูกดึงดูดในเวลาเดียวกันสร้างเป็นสายเส้นแสงแพรวพราวมากมายนับไม่ถ้วนตรงเข้ามาในตัวหลิงซิ่ว

ผมยาวของเขาโบกสะบัดขณะที่เขาถลันตัวไปข้างหน้าเข้าไปในแสงสีขาว

เวลาเหมือนกับจะหยุด

แสงสีเงินขนาดหัวแม่มือยิงออกมาจากปลายหอกทะลวงผ่านหัวใจของยอดฝีมือทั้งสามและทะลุออกด้านหลัง

หอกผดุงธรรม!

นี่คือไม้ตายสังหารแรกที่หลิงซิ่วได้รับมาผ่านการรู้แจ้ง และมีเหตุผลที่จะบอกว่าได้ว่ามันไม่เหมาะกับหลิงซิ่วในปัจจุบันนี้อีกต่อไป  แต่หลิงซิ่วไม่ยินดีจะทิ้ง  ด้วยการระเบิดอารมณ์ของเขา  ยังมีความอ่อนโยนลึกๆอยู่ในตัวเขาที่ผู้คนไม่สามารถเข้าใจได้

วิชานี้ทำให้เขานึกถึงอาจารย์ของเขา

อาจเป็นเพราะความคิดถึงอาจารย์ของเขา  ความคิดถึงที่จะไม่มีวันจางหายไป

เพราะมันคือแก่นของเขา  เพราะมันคือคุณธรรมของเขา

ถึงจะโง่จะอ่อนแอ แต่มันก็ยังเป็นของเขา หลิงซิ่วทุ่มเทอย่างสุดกำลัง ไตร่ตรองถึงมันต่อไป และยังคงรู้แจ้งเพราะมันเพิ่มมากขึ้น  ยิ่งเขาคิดถึงก็ยิ่งรู้มากขึ้นเรื่อยๆ

‘อาจารย์, ข้าคิดถึงท่าน’

หอกผดุงธรรมในมือของหลิงซิ่วปลดปล่อยรังสีอันตรายได้ในที่สุด  และเริ่มก่อให้เกิดพลังที่น่ากลัวอย่างเหลือล้น

เมื่อเขาดึงหอกกลับรังสีทะลุทะลวงก็หายไป และศพทั้งสามก็ร่วงลงจากฟ้า โดยไม่ต้องหันไปดูเขาแทงหอกไปทางตำแหน่งของหวีชิงอี้

ควั่บ,ร่างของเขาหายไปทันที

หอกวิ่ง!

เขาปรากฏตัวที่ด้านหลังหวีชิงอี้เหมือนภูตพรายและแทงหอกเงิน คอของนักสู้จากทวีปกวงหมิงแตกปริ ละอองเลือดฉีดพุ่ง  อีกสองคนหวาดกลัวและหันหลังหนี  แต่หลิงซิ่วไม่เปิดโอกาสให้เขาทำเช่นกัน

ทั้งสองหอกสร้างรูแผลที่หลังของพวกเขา พวกเขาวิ่งไปได้สองสามก้าวก่อนจะล้มลงกับพื้นเสียชีวิต

เมื่อศิษย์ตระกูลหวีเห็นหลิงซิ่วปรากฎตัวจากในอากาศเบาบาง  พวกเขาตื่นเต้น

วิชาหอกตระกูลหวีไม่สิ, วิชาหอกดาวแกะทรงพลังมากจริงๆ น่ากลัวมาก!  หลิงซิ่วถ่ายทอดวิชาหอกดาวแกะให้พวกเขาแล้ว แต่ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นมากไปกว่าได้เห็นประจักษ์ถึงพลังวิชาหอกนี้

ในอนาคตพวกเขาจะสามารถทรงพลังได้มากเท่ากับท่านหลิงซิ่ว!

ความคิดนั้นผุดขึ้นมาในใจของทุกคน  เปลวเพลิงจะเผาผลาญไปได้นานหลายปี

เรือรบและเรือโจมตีเร็วทั้งหมดที่แล่นเข้าไปในป้อมล้วนถูกจมถูกทำลาย หน่วยกะโหลกถือโอกาสวิ่งเข้าไปในกระบวนของศัตรูและสร้างความปั่นป่วน

แต่ในความปั่นป่วนนั้นหน่วยกะโหลกสามารถแสดงฝีมือได้  แม้ว่าอายะจะมีความมั่นใจกับคนของนาง  แต่อายะก็ยังเลือกนำเข้าโจมตี  หน่วยกะโหลกเหมาะกับการสู้รบที่ยุ่งเหยิง

มีทางเลือกขนาดเล็กให้แทรกซึมผ่านเข้าไปและฆ่า  หน่วยกะโหลกเป็นเหมือนมีดบินที่ฟันแทง  ทุกครั้งที่บินไป เป็นต้องฟันได้เลือดเนื้อ

เทียบกับหน่วยกะโหลก กองกำลังนางแอ่นของเซี่ยอวี่อันเคลื่อนไปข้างหน้าช้าๆ กระบวนพยุหะของกองกำลังนางแอ่นหนาแน่นรัดกุมเหมือนกำแพงเคลื่อนที่  พวกเขาค่อยๆก้าวไปข้างหน้าซึ่งเป็นการกระทำอย่างมีจุดมุ่งหมาย

ในสนามรบที่ยุ่งเหยิงแบบนั้นมีคนรวมตัวกันมากกลุ่ม การเข้าไปอย่างมืดบอดจะไม่ทำให้การรบทำได้เร็ว  แต่กลับตรงกันข้าม การตั้งกระบวนไว้หนาแน่นรัดกุมและค่อยๆก้าวไปข้างหน้าจะสร้างแรงกดดันต่อจิตใจของศัตรูอย่างมาก  และศัตรูจะพลังทลายจากภายในได้อย่างรวดเร็ว

อิงเยี่ยนผู้อยู่ภายนอกป้อมกวงจื้อเป่าแตกตื่นตกใจและตะโกนสุดเสียง  ‘ไป!  เข้าไปเดี๋ยวนี้!”

ป้อมกวงจื้อเป่ายังคงระเบิดอย่างต่อเนื่อง  พื้นสั่นสะเทือนกึกก้องและไฟภายในป้อมทำให้คนที่อยู่ข้างนอกห่างออกไปรู้สึกกลัว

ซุ่มโจมตี!

เป็นการซุ่มโจมตีจริงๆ!

อิงเยี่ยนไม่สามารถเข้าใจได้  ‘เป็นไปได้ยังไงที่จะมีการซุ่มโจมตีภายในป้อมกวงจื้อเป่า? หรือว่าแผนโจมตีของข้าถูกเปิดโปง?’

เขาไม่เคยคิดเลยว่าฝ่ายตรงข้ามของเขาจะอดทนเงียบอยู่ได้จริงๆ มากจนทำให้สถานที่นี้ปรากฏเหมือนกับว่างเปล่า  อิงเยี่ยนรู้สึกเสียใจที่ทำผิดพลาดยิ่งใหญ่ป้อมที่สำคัญขนาดนั้น จะไม่มีคนคอยป้องกันได้ยังไง?

‘ข้าช่างเขลาเสียจริง!’

แสงเพลิงที่พวยพุ่งสู่ฟ้าทำให้หัวใจของอิงเยี่ยนเจ็บปวด  เป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ที่สุดของเขาตั้งแต่เขานำกองโจรสลัด  กองกำลังเกือบ 70% ของเขาติดอยู่ภายในป้อม

ในเวลาเช่นนั้นเขาไม่สนใจอะไรอื่นอีกต่อไป เป็นเหมือนกับว่านักพนันที่สูญเสียคะแนนไปด้วยความโกรธและทุ่มเทเกทับบนโต๊ะพนันจนหมดหน้าตัก  ถ้าเขาไม่ช่วยกองทัพของเขาที่อยู่ภายในไว้  งานหนักที่เขาทำมาจะสูญเปล่าแผนการทั้งหมดของเขาก็จะล่มสลายไปหมด

ตาของอิงเยี่ยนแดงด้วยความโกรธโดยไม่ได้สังเกตเลยว่ามีกองทัพหนึ่งที่มาถึงด้านหลังพวกเขาอย่างเงียบงัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด