ตอนที่แล้วตอนที่ 659 มีใครบอกบ้างไหมว่าเจ้าโง่?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 661 เป้าหมายการฝึกฝน

ตอนที่ 660 ประกาศสงคราม


“อะไรกัน เจ้ากล้าว่าร้ายข้าได้ยังไง?”  เมื่อจิงอวี้เห็นบุรุษหนุ่มคนหนึ่งรูปร่างสง่างามเดินออกมาจากด้านนอกหอโถงใหญ่  เขาโกรธทันที แม้แต่บุรุษหนุ่มคนหนึ่งแค่พลังปราณก่อกำเนิดต้นๆยังกล้าล้อเลียนยอดฝีมือปราณก่อกำเนิดระดับหกเชียวหรือ? ถ้าเป็นคุณชายสามตระกูลเย่ว์ผู้สามารถฆ่านักสู้ปราณฟ้าได้  อย่างนั้นเขาจะยอมพูดด้วยสักสองสามคำ  แต่เจ้าเด็กนี่น่ะหรือ?  ไม่มีทาง!

“ไสหัวไป, ข้าไม่ต้องการคุยกับสวะอย่างเจ้า”บุรุษหนุ่มประคองมือคารวะจวินอู๋โหย่วข้างหน้าเขา “ฝ่าบาท ข้าได้รับคนแคระคืนขณะกลับ หลังจากสื่อสารกันไม่กี่วัน ข้ารู้สึกว่าให้พระองค์ออกคำสั่งจะดีกว่า”

“ก็ได้”  จวินอู๋โหย่วพยักหน้า

“ฝ่าบาท,ข้ามีธุระต้องทำ โปรดอภัยที่ข้าต้องกลับก่อน” บุรุษหนุ่มคำนับเล็กน้อย

“หยุดนะ!” จิงอวี้ไม่ต้องการหาเรื่องยุ่งยาก แต่เมื่อเขาเห็นทัศนคติของบุรุษหนุ่มนี้ เขาได้แต่โกรธอย่างช่วยไม่ได้ มีคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์ในทวีปเพียงคนเดียว ใช่แล้ว เขาทรงพลังมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้เยาว์ทุกคนจะทำเมินกับคนอื่นได้เหมือนอย่างคุณชายสามตระกูลเย่ว์ได้

ในหอทงเทียนพลังและอำนาจต้องมาก่อน  เด็กที่ไม่ได้รับการศึกษาจากโรงเรียนบางทีอาจถือเอาอย่างคุณชายสามตระกูลเย่ว์ ทำตัวหยิ่งยโสอย่างนั้นได้หรือ?

เขาคือนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหกกลับถูกคนอื่นดูหมิ่น

จากไปโดยไม่ขอโทษสักคำหรือ?

ถ้าเขาไม่อยู่ในวังหลวงของอาณาจักรต้าเซี่ย  แต่เป็นทวีปกวงหมิง  จิงอวี้รู้สึกว่าเขาคงต้องใช้วิธีการไร้ปราณีที่สุดลงโทษเจ้าผู้นี้แน่

มิฉะนึ้นเขาคงไม่ยอมยกโทษให้เขา

ก่อนที่เขาจะโกรธจิงอวี้ก็คิดอยู่ก่อนแล้ว ไม่ได้โกรธแบบไม่ลืมหูลืมตา

ถ้าบุรุษหนุ่มนี้ที่อยู่ต่อหน้าเขาคือคุณชายสามตระกูลเย่ว์   เขาคงถูกตัดสินตายแน่  ถ้าเขาเป็นสหายของคุณชายสามตระกูลเย่ว์ก็อาจยากจะป้องกัน อย่างไรก็ตามจิงอวี้มั่นใจว่า บุรุษผู้นี้ไม่ใช่คุณชายสามตระกูลเย่ว์  เพราะนอกจากลักษณะของคุณชายสามตระกูลเย่ว์แล้วเขาไม่ใช่ระดับนักสู้ปราณก่อกำเนิด  คุณชายสามตระกูลเย่ว์เป็นยอดนักรบที่แข็งแกร่งมากสามารถฆ่าได้กระทั่งนักสู้ปราณฟ้านอกจากนี้เขายังมีศักดิ์ฐานะที่ปกครองโลกได้ บุรุษหนุ่มผู้นี้ไม่มีศักดิ์ศรีเช่นนั้น ร่างของเขาเปล่งรัศมีระดับเตรียมนักสู้ปราณก่อกำเนิด  ยังด้อยกว่าเด็กฝีมือดีของทวีปกวงหมิงเสียอีก

ราศีพลังแบบนี้อาจแข็งแกร่งมากสำหรับมนุษย์

อย่างไรก็ตามสำหรับนักรบเผ่าวิหคของทวีปกวงหมิงถือว่าเป็นระดับพบเห็นได้ทั่วไป นักรบหนุ่มที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ยังแข็งแกร่งมากกว่าเด็กหนุ่มผู้นี้!

นอกจากคุณชายสามตระกูลเย่ว์แล้ว  บุรุษหนุ่มนี้ไม่ใช่สมาชิกในกลุ่มของเขา  เขาไม่น่าจะใช่เจ้าอ้วนไห่ ไม่ใช่เย่คงไม่ใช่เสวี่ยทันหลาง ไม่ใช่พี่น้องน้องตระกูลหลี่ ไม่ใช่องค์ชายเทียนหลัว ไม่ใช่หนึ่งในสมาชิกฝีมือดี  บางทีอาจเป็นนักเรียนจากสถาบันฉางจิงหรือสถาบันฉางชุนเถิง อาจมาจากตระกูลฟงหรือราชตระกูลก็ได้

จิงอวี้คิดถึงจุดนี้แล้วไม่มีทางที่บุรุษหนุ่มผู้นี้จะเข้ามาในโถงใหญ่ได้โดยไม่มีผู้หนุนหลัง

การฆ่าเขาเป็นไปไม่ได้!

อย่างไรก็ตาม เขาต้องหาทางทำให้เขาอับอายช่วยเหลือตัวเองไม่ได้  นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการทำ

“ต้องการต่อยตีข้างั้นหรือ?”  บุรุษโน้มตัวเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าที่น่ากลัวในลักษณะเชิญชวนให้ต่อยหน้า ว่ากันตามตรงแล้วจิงอวี้ไม่กล้าทำจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณชายสามตระกูลเย่ว์กระโดดออกมาแล้วฆ่าเขาในไม่กี่วินาที!

“ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น  ก็แค่เพียงทวีปกวงหมิงตั้งใจจะสถาปนาสัมพันธ์ทางการทูตที่ดีกับจักรวรรดิต้าเซี่ย  จำเป็นต้องมีทูตคนหนึ่งเพื่อให้เป็นพยานการลงนามในจดหมายต่างแดนต่อสภาสูง  อย่าบอกข้านะ บุรุษหนุ่มว่าเจ้าเป็นแค่คนขี้ขลาดคนหนึ่ง สักแต่ว่ามีชีวิตอย่างโง่เขลา  เจ้ากล้ามาทวีปกวงหมิงไหมเล่า? เอาเถอะ  ข้าไม่สามารถบังคับเจ้าได้ ทูตที่สร้างสัมพันธ์ทางการทูตกับเราก็คาดไม่ถึงว่าจะมีคนขี้ขลาดถูกขู่ขวัญจนปัสสาวะราดหรอกนะ”  จิงอวี้ล้อเลียนและเยาะเย้ยบุรุษหนุ่มพลางหลอกล่อ

“ข้ายังกล้าขึ้นไปแดนสวรรค์เลย!  ประสาอะไรกับทวีปกวงหมิงไม่มีอะไรสำหรับข้า” บุรุษหนุ่มนั้นค่อนข้างใจร้อนและหงุดหงิด

“อย่าหุนหันพลันแล่น...”  จวินอู๋โหย่วลังเล

“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เจ้าผู้นี้ส่งสาส์นท้าทายขู่ขวัญข้าเลย ต่อให้เขาไม่ตั้งใจเช่นนั้นข้าก็ไม่ถอยเหมือนกัน  ถ้าท่านไม่อนุญาต, อย่างนั้นข้าจะฆ่าตัวตาย”  ในสายตาของจิงอวี้บุรุษหนุ่มผู้นี้เป็นคนที่บุ่มบ่ามเจ้าอารมณ์ และไม่สนใจอะไรเลย

“เอาอย่างนั้นก็ได้”  จวินอู๋โหย่วได้แต่ตอบรับคำ

“มาลองดูกันซิว่าเจ้าจะขู่ขวัญจนข้าปัสสาวะราดกางเกงได้หรือไม่” การกระทำของบุรุษหนุ่มทำให้จิงอวี้พอใจมาก จวินอู๋โหย่วไม่ใช่จะรับมือง่ายๆ แต่สำหรับเด็กหนุ่มผู้นี้ เขาสามารถหลอกล่อได้อย่างง่ายดาย

เขากลับทวีปกวงหมิงพร้อมกับบุรุษหนุ่มนี้ผู้มีชื่อว่าอิรัค

จิงอี้ไม่ได้ทำร้ายเขาจิงอวี้ใช้วิธีการกระทบกระเทียบฝ่ายตรงข้ามเขา

การละเลยและการเย็นชาการคุกคามทั้งโดยคำพูดและการกระทำนำมาใช้เพื่อให้บุรุษหนุ่มโกรธ จิงอวี้รู้สึกสบายใจและคอยสังเกตปฏิกิริยาของเขา  เขาค่อยๆ มั่นใจว่าบุรุษหนุ่มนี้จะโกรธ  เขายังคงยืนกรานไม่ยอมสูญเสียความศักดิ์สิทธิ์ของอาณาจักรของเขาและทำตามคำแนะนำของจวินอู๋โหย่ว จิงอวี้นึกว่าเขาจะฉีกสาส์นทูตทิ้งด้วยความโกรธ  อย่างไรก็ตาม เขาคาดไม่ถึงว่าบุรุษหนุ่มไม่เคยทำเช่นกัน

ไม่ว่าเด็กหนุ่มจะโกรธเพียงไหน  เขาไม่แสดงความอัปยศออกมา

จิงอวี้บอกให้บ่าวทาสนำอาหารหมูมาให้บุรุษหนุ่มเป็นการต้อนรับ  แม้ว่าบุรุษจะโกรธ แต่เขาไม่หนีออกจากทวีป

รายงานทุกอย่างได้ข้อสรุปหลังจากสภาอาวุโสวิเคราะห์

จักรพรรดิต้าเซี่ยไม่ต้องการสู้กับทวีปกวงหมิง  ดังนั้นเขาจึงต้องอดทน

เนื่องจากเขารู้ไม้ตายของฝ่ายตรงข้ามจิงอวี้จึงทำตัวไม่สุภาพมากยิ่งขึ้น เขาปล่อยให้ชายหนุ่มหิวโหยอยู่ครึ่งค่อนวันและจากนั้นเมื่ออีกฝ่ายรออยู่นอกสภาอาวุโส เขาเรียกฝนน้ำแข็งด้วยเจตนาร้าย น้ำเปียกทั่วตัวบุรุษหนุ่ม ถึงอย่างนั้นบุรุษหนุ่มก็ยังไม่จากไป ผู้อาวุโสของสภาสูงก็ยิ่งมั่นใจว่าจักรวรรดิต้าเซี่ยมีกำลังไม่พอจะท้าทายทวีปกวงหมิง

พวกเขาได้สร้างเงื่อนไขว่าจักรวรรดิต้าเซี่ยต้องการสร้างสัมพันธ์ทางการทูตกับทวีปศักดิ์สิทธิ์ฉะนั้นพวกเขาต้องตกลงรับสามเงื่อนไขใหญ่ของทวีปกวงหมิงและเป็นข้อตกลงระหว่างพวกเขา

เมื่อบุรุษหนุ่มตัวเปียกปอนเดินออกมาจากทางเข้าสภาสูงพร้อมกับจดหมายที่น่าอัปยศนี้ทหารคนหนึ่งยังลอบทำร้ายเขาส่งผลให้คทาทูตในมือของเด็กหนุ่มกระเด็นหลุดจากมือ

บุรุษหนุ่มก้มตัวและหยิบคทาทูต  เขาจ้องมองพวกเขาด้วยความเกลียดและโกรธและกล่าว “ข้าจะกลับมาอีก เราจะให้พวกเจ้าชดใช้คืนเป็นสิบล้านเท่า” คำพูดเหล่านี้ทำให้พวกทหารหัวเราะกันลั่น เฉพาะจิงอวี้เขารู้ว่าจักรพรรรดิต้าเซี่ยจวินอู๋โหย่วมีไพ่อะไรอยู่ในมือบ้างและเขาไม่สนใจคำพูดรุนแรงของทูตคนหนึ่ง

ทูตที่น่าอับอายจะมีความสำคัญอะไร?

ในวังต้าเซี่ยจวินอู๋โหย่วยังไม่กล้าตอบโต้ใดๆ เมื่อเขาไม่แสดงความเคารพจักรพรรดิพวกเขา

จะมีความเป็นไปได้อะไรที่จักรพรรดิมนุษย์ผู้อาศัยอยู่ในหอทงเทียนชั้นล่างจะกล้าท้าทายมหาอำนาจแห่งชั้นสิบ? ไม่มีใครในทวีปมังกรทะยานนอกจากคุณชายสามตระกูลเย่ว์

อย่างไรก็ตามผ่านไปได้ครึ่งวันผู้เฒ่าหนานกงจากพันธมิตรปราณก่อกำเนิดก็มาถึงทันที

เขานำการประกาศสงครามมาส่ง  ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจักรวรรดิต้าเซี่ยขอประกาศสงครามกับสภาสูงแห่งทวีปกวงหมิงและกองทัพทั้งหมดภายใต้บังคับของเขา เว้นแต่พวกกวงหมิงจะยอมตัวเป็นทาส  และจะไม่หยุดจนกว่าจะตายกันข้างหนึ่งในการประกาศสงครามครั้งนี้ยังมีการร่วมประกาศสงครามด้วยเช่นกัน    จักรวรรดิเทียนหลัวแห่งทวีปมังกรทะยาน,ทวีปมืดแห่งเผ่าพันธุ์ใต้พิภพ, เผ่าภูตบูรพา, แดนปีศาจ, เผ่าทะเล,กองกำลังอีกนับสิบแม้แต่ป้อมสายฟ้าและหอการค้าไตตันแห่งหอทงเทียนชั้นที่หกก็ร่วมประกาศสงครามกับกวงหมิงอย่างต่อเนื่อง การประกาศสงครามนี้ทำให้ผู้อาวุโสสภาสูงถึงกับหนังศีรษะชาด้านแม้แต่จิงอวี้ก็ตะลึงอึ้งทำอะไรไม่ถูก

“ท่านหนานกง!  การประกาศสงครามคราวนี้มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า?  เราเพิ่งสถาปนาสัมพันธไมตรีกับจักรวรรดิต้าเซี่ยวันนี้เอง!”  จิงอวี้ถามอย่างกระวนกระวายใจ

“เรื่องสำคัญแบบนี้จะผิดไปได้ยังไงกัน!  นี่คือลายมือชื่อของคุณชายสามตระกูลเย่ว์  และลายมือชื่อของหัวหน้าตระกูลต่างๆ!” ผู้เฒ่าหนานกงพูดว่าการประกาศสงครามคราวนี้จริงแท้แน่นอน

“อย่างนั้น มีเหตุผลอะไร?”  จิงอวี้แทบเป็นลม  แต่ทวีปกวงหมิงทำอะไรผิด?  เพราะเขาไม่แสดงความเคารพจักรพรรดิต้าเซี่ยหรือ?

“อย่างนั้นให้เราผู้เฒ่าบอกก็ได้ว่าการกระทำของเจ้าเป็นเหตุให้โลกต้องชำเลืองมอง  ดังนั้นพันธมิตรปราณก่อกำเนิดขอปฏิเสธการไกล่เกลี่ยให้พวกเจ้า  ผลที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเพราะการกระทำของพวกเจ้า”ก่อนจะจากไปผู้เฒ่าหนานกงกล่าว “เหตุผลที่จักรวรรดิต้าเซี่ยและเผ่าชาติพันธุ์อี่นประกาศสงครามเป็นเพราะพวกเจ้าดูถูกเหยียดหยามคุณชายสามตระกูลเย่ว์อย่างมาก  ทูตผู้มาเจรจากับพวกเจ้าและควรจะได้รับเกียรติยศและศักดิ์ศรีที่เขาควรจะได้  พวกเจ้ากลับปฏิเสธความปรารถนาดีของคุณชายสามตระกูลเย่ว์  โปรดจำบทเรียนนี้ไว้ในประวัติศาสตร์ให้ดีอย่าทำตัวให้อับอายในฐานะทูตอีก เพราะเขาคือตัวแทนศักดิ์ศรีของประเทศ”

“เขาคือคุณชายสามตระกูลเย่ว์หรือ?”  จิงอวี้แทบจะเป็นลม  เจ้าเด็กนั่นชื่ออิรัคไม่ใช่เหรอ?  คุณชายสามตระกูลเย่ว์ดูเหมือนจะโกหกได้ทุกที่ทุกทางทำตัวเองให้ยากลำบาก  ทวีปกวงหมิงจบสิ้นแล้ว...

ตอนนี้ในวังต้าเซี่ยจวินอู๋โหย่วและอาจารย์จิ้งจอกเฒ่ากำลังหัวเราะลั่น

ราชทูตจากทวีปมืดโยวกุ่ยและผู้เฒ่าซิงผานแห่งเผ่าทะเลยิ้มให้กันเอง

ความจริงพวกเขาแกล้งทำเป็นว่าพวกเขาไม่รู้จักเย่ว์หยางทันทีที่เย่ว์หยางเข้ามาในห้องโถงใหญ่  เขาคาดไม่ถึงเลยว่าด้วยความหยิ่งจองหองของจิงอวี้กลับเข้าใจว่าเย่ว์หยางเป็นเด็กนักเรียน

ตอนแรกการปรากฏตัวของเย่ว์หยางเป็นเรื่องบังเอิญ  แต่เขาไม่คาดว่าจะประกาศสงครามกับเขา  ในที่สุดเขาไล่ต้อนจิงอวี้หาเหตุให้ทุกคนได้ต่อสู้ ถ้าทูตอื่นถูกล้อเลียน อย่างมากพวกเขาจะขอโทษ แต่คุณชายสามตระกูลเย่ว์ถูกเย้ยหยันในลักษณะเช่นนั้น  นี่เป็นการดูถูกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกต่อให้คนทวีปกวงหมิงต้องการพูดอธิบาย แต่พวกเขาพูดไม่ออก

คนอื่นๆจะคิดอย่างไรถ้าคนทั่วไปรู้ว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์ได้รับการปรนเปรอด้วยอาหารหมู?

เขาจะสามารถยอมรับคำขอโทษอีกฝ่ายได้หรือไม่  ถ้าเขาถูกกระทำโดยตรง

แน่นอนว่าไม่

“ข้าเสียใจข้าไม่คาดว่าคนเหล่านั้นจะไร้เหตุผลมากมายจริงๆ” อาจารย์จิ้งจอกเฒ่ากอดไหล่เย่ว์หยางแสดงความยินดี

“บ้าจริงๆ ข้ายังไม่ได้กินเลย ความอับอายยังมีอยู่จริงๆ  แต่ก็แค่เพราะคำพูดนั้น  ถ้าพวกเขากล้าโจมตีข้าด้วยความโกรธก็ตรงตามต้องการอยู่แล้ว” ความจริงเย่ว์หยางต้องการให้จิงอวี้โจมตีเขาก่อน ตราบใดที่จิงอวี้ควงหมัดก็มีเหตุผลในการทำสงครามอย่างเพียงพอ แน่นอนถ้าท่านคิดบัญชีอย่างระมัดระวังน้ำฝนน้ำแข็งที่เทใส่ร่างของเขาก็อาจมองว่าเป็นการโจมตีได้บัญชีครั้งนี้นับว่าน่ากลัวมาก มิน่าเล่าถึงไม่มีใครจากพันธมิตรปราณก่อกำเนิดยืนยันเพื่อช่วยกวงหมิงรวมทั้งซุ่นเทียนและองค์ชายดำทั้งสองได้แต่สบถด่าทวีปกวงหมิงอย่างเงียบๆ

“ยังไม่ต้องจัดการตอนนี้ก็ได้ เจ้าควรไปที่โลกวารีกวาดเจ้าหย่งฮุยผู้นั้นก่อน” แน่นอนว่าอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าไม่ยอมให้เย่ว์หยางจากไปก่อน  ถ้าเขาไปทวีปกวงหมิงก็จะไม่มีใครจัดการเรื่องนี้

“ก็ได้” เย่ว์หยางต้องการไปโลกวารีจริงๆ ไม่ใช่เพื่อทุบตีเขา แต่เพื่อค้นหาสัตว์ประหลาดน้อยที่ฉลาด และภูตแสง

หลังจากนั้นเย่ว์หยางเตรียมเข้าผนึกหลุมดำเพื่อไปถามข้อสงสัยกับนางพญาเฟ่ยเหวินหลีเกี่ยวกับแง่มุมต่างๆในแดนสวรรค์

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด