ตอนที่แล้วตอนที่ 656 ตัวร้าย, ข้ารักเจ้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 658 ทานตะวันอมฤต

ตอนที่ 657 ยกระดับตะวันฉายทานตะวัน


เมื่ออี้หนานตื่นขึ้นก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงวัน

ทันใดนั้นนางจำได้ทันทีถึงสิ่งที่ผู้หลักผู้ใหญ่บอกนางไว้ว่าเจ้าสาวควรจะปรุงอาหารให้สามีเป็นการแสดงถึงความรักและการให้เกียรติ  นางเร่งรีบ แต่เมื่อนางขยับขา ร่างที่อ่อนนุ่มของนางรู้สึกเจ็บอีกครั้งนางอดร้องออกมาไม่ได้ เจ้าเมืองโล่วฮัวกำลังนั่งอยู่หน้าเตียงรีบยื่นมือประคองอี้หนาน “นอนลงและอยู่นิ่งๆไว้”

“เสื้อผ้าข้าอยู่ไหน?” ถึงตอนนี้อี้หนานจึงรู้ว่านางยังเปลือยกายอยู่ นางรีบซ่อนตัวกลับเข้าไปในผ้าห่มนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน  นางกลัวและไม่กล้าสบตาเจ้าเมืองโล่วฮัว

“ไม่ต้องอายหรอก, เจ็บไม่ใช่หรือ?”  เจ้าเมืองโล่วฮัวยิ้มปลอบใจนาง จากนั้นถาม

“ไม่, ข้าไม่นะ” อี้หนานรีบส่ายศีรษะ เพื่อแสดงว่านางสบายดี  คิดว่านางยังไม่ฟื้นฟูเรี่ยวแรงทั้งหมด

“นี่ยังแค่เริ่มต้น ถ้าเจ้าเริ่มฟื้นฟูก็ดีแล้ว ร่างกายเจ้ายังไม่อาจแข็งแรงเทียบกับมารกฎฟ้าได้ไม่อาจเทียบกับไห่หลานได้ อย่าเพิ่งรีบเร่งนักในช่วงวันสองวันนี้ เจ้ายังมีโอกาสต่อมาอีกมาก ตัวร้ายนั่นตะกรุมตะกราม  เขาไม่อิ่มพอใจง่ายๆหรอกไม่ว่าเจ้าจะให้เขากี่ครั้งก็ตาม ดังนั้นอย่าเพิ่งให้ความสนใจเขา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตัวเจ้าเอง ข้าจะดูแลให้เองและไม่ต้องใส่ใจเขา ถ้าเขากล้ารังแกเจ้า  ข้าจะดุเขาเอง!”  เจ้าเมืองโล่วฮัวยื่นมือนางออกมาจัดผมที่ติดแก้มให้อี้หนานและสอนประสบการณ์ให้นาง

“ไม่นะ, เขาสุภาพนุ่มนวล” อี้หนานกลัวว่าเจ้าเมืองโล่วฮัวจะต่อว่าเย่ว์หยางจึงรีบพูดถึงเขาในแง่ดี

“เมื่อวานนี้ก้าวหน้าใช่ไหม?”  เจ้าเมืองโล่วฮัวถาม

“ใช่” อี้หนานพยักหน้าอย่างเอียงอายและดีใจ  หลังจากฝึกผสานกายขั้นสุดท้ายระดับพลังของนางเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า และนางไม่คาดเลยว่านางจะก้าวหน้าขนาดนั้นหลังจากฝึกผสานกายจริงๆ

“เจ้าฝึกต่อไป เจ้าก็จะยิ่งเพิ่มพลังได้อีก  เจ้าฝึกนานกว่าข้าดังนั้นความก้าวหน้าของเจ้าเมื่อคืนก็ยังจะก้าวหน้ามากกว่าข้า  มิน่าเล่าเชี่ยนเชี่ยนกับอู๋เสียจึงยังฝึกอยู่  ข้าเป็นของเขาเร็วเกินไปหน่อย”  แน่นอนว่าเจ้าเมืองโล่วฮัวแค่กำลังหยอกล้อ  นี่เป็นวิธีทำให้อี้หนานผ่อนคลาย ความจริงเจ้าเมืองโล่วฮัวรู้ว่าถ้าไม่ใช่เป็นเพราะจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีต้องการให้เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรักษาความบริสุทธิ์ไว้ องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนคงไม่พ้นมือเย่ว์หยางแล้ว  นางรู้ว่าแม่เสือสาวดุต่อหน้าคนอื่นเท่านั้น  พออยู่กับเย่ว์หยางตามลำพังนางคงยอมรับแน่

“ไม่สำคัญว่าข้าจะยกระดับได้หรือไม่  ตราบเท่าที่สามารถช่วยเขาได้” อี้หนานคิดถึงแต่เย่ว์หยางไม่ได้คิดถึงตัวนางเอง

เมื่อเจ้าเมืองโล่วได้ยินเช่นกัน  นางยิ้มอ่อนโยน

พวกนางทุกคนคิดเหมือนกัน แต่พูดไม่เหมือนกัน

หลังจากพูดคุยสนทนาการอยู่นานเจ้าเมืองโล่วฮัวลอบถ่ายทอดเคล็ดลับให้อี้หนาน นางบอกว่านางสามารถทำได้หลังจากผสานร่างกับเย่ว์หยางแล้ว  เคล็ดลับนี้ไม่คล้ายกับสนามพลังจิต  แต่มีความลึกซึ้งมาก และทำได้หลังจากผสานกายกับเย่ว์หยางแล้วจะให้ผลที่ชัดเจน

ตามคำที่เจ้าเมืองโล่วฮัวกล่าวแม้แต่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเสวี่ยอู๋เสียก็ไม่รู้เคล็ดลับนี้ มีแต่อู๋เหินมารกฎฟ้าและไห่หลานเท่านั้นที่รู้

ดังนั้นอี้หนานได้แต่ถามอย่างสงสัย  ใครเป็นคนสอนเคล็ดลับนี้

เจ้าเมืองโล่วฮัวส่ายหน้าเป็นนัย

เมื่อนางออกมาแล้ว อี้หนานรีบลุกขึ้นทนฝืนเจ็บสวมเสื้อผ้า

ไม่นานหลังจากนั้นเย่ว์ปิงก็เข้ามาถือถ้วยแกงเข้ามาอย่างระมัดระวัง  “พี่อี้หนาน นี่พี่สามทำเป็นพิเศษให้ท่านนางหยุดเล็กน้อยจากนั้นพูดต่อ ”ข้ากับซวงเอ๋อแอบชิมไปก่อนแล้ว เราไม่รู้ว่าเตรียมไว้ให้ท่าน”

“อะไรกันนี่? ให้ข้าล้างหน้าตาก่อน”  อี้หนานรู้สึกดีขึ้น

นางไม่ถือสาว่าเย่ว์ปิงและเย่ว์ซวงจะชิมไปก่อนเมื่อคิดว่าพวกนางเข้าใจผิดเชื่อว่าพี่ชายนางปรุงให้พวกเขานางโดยเฉพาะ

อย่างไรก็ตาม ตราบเท่าที่เย่ว์หยางทำด้วยตนเอง  อย่างนั้นก็พอแล้ว

สิ่งนี้จะต้องทำมาจากใจของเขา

สำหรับรสชาติจะเป็นยังไงไม่สำคัญ

หลังจากดื่มน้ำซุปแล้วอี้หนานรู้สึกว่านางเต็มไปด้วยความสุขและความหวานชื่นใจ  นางรู้สึกมีเรี่ยวแรง ใบหน้าเปล่งปลั่งเย่ว์ปิงประหลาดใจเล็กน้อย  “พี่อี้หนานเอ่อ.. ต้องเป็นพี่สะใภ้สินะ หน้าของท่านดูเหมือนจะมีเสน่ห์มากนะในวันนี้  ระดับความก้าวหน้าของท่านรวดเร็วอีกแล้ว”  เย่ว์ปิงไม่คิดว่าเป็นผลมาจากอี้หนานกับเย่ว์หยางผสานกายกัน นางคิดว่าเป็นเพราะอี้หนานฝึกฝนจนพลังฝึกปรือเพิ่มขึ้น

อี้หนานตระหนักว่านางเข้าใจผิด  นางอดรู้สึกสุขใจไม่ได้  “พี่ชายเจ้าอยู่ไหนแล้ว?”

เย่ว์ปิงชี้ไปที่ข้างนอก “เขาอยู่ข้างนอกกำลังช่วยให้เหล่าอสูรรบเลื่อนระดับชั้นโดยใช้เพลิงบัวสวรรค์ปรับแต่งตะวันฉายทานตะวัน ไปดูกันเถอะ!”

เพื่อกลบเกลื่อนความขัดเขินระหว่างเดินอี้หนานฉุดดึงแขนเย่ว์ปิงและเดินออกไป ในท้องฟ้าระยะไกล  ตะวันฉายทานตะวันกำลังเปล่งแสงเจิดจ้า  ยังสว่างกว่าดวงอาทิตย์เสียอีก  ในระยะไกลออกไป เย่คง เจ้าอ้วนไห่เสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัวพากันมองดูทุกคนพวกเขามองดูว่าเย่ว์หยางจะยกระดับตะวันฉายทานตะวันได้ยังไง และเพื่อซึมซับประสบการณ์เพิ่มระดับอสูรรบ

เย่ว์หยางมีความสามารถทางพลังหยางเปลี่ยนท้องฟ้าให้เป็นโลกของบัวเพลิงฟ้า

บัวเพลิงฟ้าสีแดงนับพันลอยอยู่ในอากาศ

หลังจากฝึกปรือร่วมกับอี้หนานเมื่อคืนก่อนเขาได้รับผลพลอยได้ถึงสองอย่างทั้งพลังฝึกปรือและพลังงาน ความก้าวหน้าของเขามากกว่าอี้หนานอย่างเห็นได้ชัด  เขารุดหน้าไปเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับเก้า จากเดิมระดับแปด การเลื่อนระดับพลังครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเลื่อนระดับพลังง่ายๆ  รู้กันอยู่แล้วว่าพลังปราณก่อกำเนิดระดับแปดนี้ของเขา  เทียบเท่ากับคนที่มีพลังปราณฟ้าระดับสาม การยกระดับของเขาจึงเท่ากับยกระดับพลังปราณฟ้าระดับสามไปเป็นระดับสี่และที่ก้าวหน้ามากที่สุดก็คือทุกครั้งที่เย่ว์หยางเพิ่มพลัง  ทักษะแฝงเร้นธรรมชาติและอสูรรบของเขา  ก็เพิ่มพลังในระดับที่ต่างๆ กันไป

ด้วยผลของการผสานกายกับอี้หนานและผลของการเปิดผนึกความรู้ที่ได้รับตกทอดจากมารดาของสหายผู้น่าสงสาร

แม้แต่เจ้าเมืองโล่วฮัวและอู๋เหินก็มีเหมือนกัน

อย่างไรก็ตามกลับได้ผลการฝึกปรือที่ดีที่สุดเมื่อฝึกผสานร่างกับอี้หนาน

ถ้าไม่ใช่เพราะสาวน้อยอี้หนานยังเยาว์วัยเกินไปและยังไม่สามารถทนได้ เย่ว์หยางต้องการฝึกต่อให้นานขึ้นและเปิดผนึกความรู้ให้มากขึ้น

เย่ว์หยางผู้มีพลังเพิ่มขึ้นมั่นใจว่าเขาสามารถปรับแต่งตะวันฉายทานตะวันได้  เจ้าเมืองโล่วฮัวเป็นคนโจมตีหลัก  พลังของนางเพิ่มขึ้นมาก ดังนั้นเย่ว์หยางตัดสินใจยกระดับตะวันฉายทานตะวันที่นางได้รับก่อน

“ดูเหมือนยังจะเช้าอยู่ กลับไปงีบต่อสักหน่อยเถอะ!”  นางเซียนหงส์ฟ้าหาวและกลับไปพักตามที่ตั้งใจ

“เอาเลยพี่เขย!” มารเคราะห์ฟ้าได้รับโซ่เทพเจ้าสายฟ้าและยืนเชียร์เย่ว์หยางด้วยความตื่นเต้น

สิบนาทีต่อมาหลังจากเย่ว์หยางปรับแต่งด้วยบัวเพลิงสวรรค์ กลับกลายเป็นว่าตะวันฉายทานตะวันยกระดับจากอสูรปราณฟ้าระดับหนึ่งขึ้นเป็นอสูรปราณฟ้าระดับสอง

เทียบกับตะวันฉายทานตะวันที่ไม่มีพลังโจมตีอะไรเลยพลังใหม่ของทานตะวันมีเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างหนึ่งคือ “ตาพร่า”

พลังรุกโจมตีนี้แทบจะทำร้ายใครไม่ได้ แค่ทำให้การมองเห็นของอีกฝ่ายหายไประยะเวลาสั้นๆ

ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์

ความจริงทักษะตาพร่านี้เป็นกุญแจในการพลิกสถานการณ์การต่อสู้ทั้งหมดเมื่อใช้อย่างชาญฉลาด

ถ้ายอดฝีมือคนหนึ่งต่อสู้ อาจจะสร้างความผิดพลาดได้ทันที และเขาอาจถูกตัดสินชะตาได้

“แข็งแกร่ง!” เย่คงและเจ้าอ้วนไห่ที่ยืดคงแหงนมองดูที่ดอกไม้  ทุกคนได้แต่ชูนิ้วโป้งชื่นชมเย่ว์หยาง ส่วนหลิวเย่และเป่าเอ๋อเทิดทูนบูชาเย่ว์หยางอยู่แล้ว  พวกนางปรบมือร่าเริง  เย่ว์ซวงกำลังกินแตงโมแช่เย็นในมือพยักหน้าหงึกหงัก  เธอทำท่าน่ารักแต่พูดไม่ออก

อย่างไรก็ตาม เย่ว์หยางยังไม่พอใจกับผลที่ออกมา

เขารวมบัวเพลิงสวรรค์เข้ากลุ่มเป็นแสงเพลิงสนธยาและดึงเอาเพลิงน้ำเงินบริสุทธิ์ออกมา  เขาตั้งใจจะผสานกับตะวันฉายทานตะวัน

เขายังคงเพิ่มพลังต่อไป เขาต้องการเปลี่ยนตะวันฉายทานตะวันเป็นสายพันธุ์แปลกประหลาด  เจ้าอ้วนไห่และเย่คงตะลึง  ถ้าไม่ใช่เป็นเย่ว์หยางและเปลี่ยนเป็นคนอื่น  พวกเขาคงคิดว่าเขาบ้าไปแล้ว

การเปลี่ยนแปลงของอสูรรบเป็นแค่เปลี่ยนแปลงพัฒนาทีละก้าวนี่จะเปลี่ยนแปลงให้มากเกินกว่านี้อีกหรือ? ไม่! ที่เป็นไปไม่ได้มากกว่าก็คือเพลิงสนธยามีพลังตรงกันข้ามกับบัวเพลิงสวรรค์

หนึ่งชั่วโมงผ่านไปและเย่ว์หยางรู้สึกว่าเขาเหนื่อยมากกว่าสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเสียอีก  ทำให้เขาใช้ความพยายามครั้งสุดท้าย

ถ้าเขาทำไม่สำเร็จ อย่างนั้นก็ต้องเลิกทำ

เป็นไปได้ไหมว่าตะวันฉายทานตะวันมาอยู่ในสภาวะสูงสุดของมันแล้ว?  หรือว่าวันนี้ดวงอาทิตย์แดดจะไม่พอ?

“ข้ามั่นใจว่าเจ้าจะทำได้สำเร็จ!” เจ้าเมืองโล่วฮัวไม่รออยู่บนพื้นและคล้องแขนประคองเย่ว์หยางช่วยเสริมพลังของเขาด้วยพลังนาง

ไม่ทราบเป็นเพราะเจ้าเมืองโล่วฮัวหรือว่าแรงบันดาลใจที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันของเย่ว์หยางหรือเป็นเพราะตะวันฉายทานตะวันถึงจุดเปลี่ยนสำคัญในวิวัฒนาการสามนาทีต่อมาท้องฟ้าค่อยๆ สลัวและเพราะแสงสลัวลงทุกคนจึงสามรถเห็นทานตะวันฉายแสงได้ เหมือนกับดวงอาทิตย์แต่ไม่มีแสงเจิดจ้า เป็นแต่เหมือนกับพระจันทร์สีทอง สีสันดูนุ่มนวลตา

ในที่สุดแสงก็สลัวลง

แม้รัศมีทรงพลังครอบคลุมไปทั่วภาคพื้น

เหมือนกับว่ามีแต่ทานตะวันเท่านั้นที่เหลืออยู่ต้นเดียวในโลก  ทุกที่ภายใต้แสงของมัน

เมื่อเย่คงและเจ้าอ้วนไห่เห็นว่าทานตะวันเปลี่ยนแปลงไปได้สำเร็จ  โลกก็มืด เมื่อตะวันฉายทานตะวันกลับกลายเป็นดอกไม้ที่มีแสงเหมือนยามสนธยาแม้แต่ฟ่านหลุนเถี่ยที่ห้าวหาญที่สุดก็ยังมีความรู้สึกว่าเขามองเห็นได้ทั้งโลก เขาไม่สามารถยกจิตวิญญาณนักสู้ของเขาได้โดยสิ้นเชิง

“โอวสวรรค์, ทักษะนี้คือพลังโจมตีจิตวิญญาณ!” เย่คงรู้สึกตัวและร้องเตือน เจ้าอ้วนไห่ ผู้มีการป้องกันพลังจิตได้ยังรู้สึกตัวว่าของเขาด้อยกว่าเล็กน้อยแต่ก็ยังนั่งลงกับพื้นดูเหมือนคนแก่ เพียงแต่เมื่อนกนางนวลสายลมปลุกเขา เขาจึงรู้สึกว่าได้รับผลจากแสงสนธยา

“เจ้าให้ดอกสนธยาข้าสักดอกได้ไหม?  ในฐานะพี่ใหญ่ พอไม่มีดอกทานตะวันรู้สึกไม่ดีเลย”  เจ้าอ้วนไห่ขอหน้าด้านๆ

“จ่ายมาสองเหรียญทองแดนสวรรค์ข้าจะซื้อให้เจ้าต้นหนึ่ง”  นี่คือคำตอบของเย่ว์หยาง

“งั้นก็ไม่เป็นไร” เจ้าอ้วนไห่รู้ว่าเขา คงไม่สามารถขายอะไรได้ยี่สิบล้านแน่  ต่อให้ชำแหละร่างอ้วนๆ ของเขาขายก็ตาม  ดังนั้นเขายกเลิกความคิดนี้ออกไป

“อะไรน่ะ?” นางเซียนหงส์ฟ้าที่หลับงีบหนึ่งและพบว่าเย่ว์หยางได้เปลี่ยนตะวันฉายทานตะวันเป็นทานตะวันแผดเผา  และเปลี่ยนไปเป็นดอกสนธยาแค่นั้นยังไม่พอ เมื่อวานนี้เขารู้สึกว่าเขาตื่นเต้นไปบ้างแสงตะวันจากระดับหนึ่งเพิ่มไปเป็นปราณฟ้าระดับสาม ทานตะวันฟ้า และเขายังต้องการทำต่ออีกหรือ?”  นางถามเย่ว์หวี่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด