ตอนที่แล้วตอนที่ 649 โครงกระดูก อีกาและสตรี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 651 รวมพลังอสูรสู้ประชิด

ตอนที่ 650 อสูรที่ทรงพลัง


หลังจากผ่านไปนานสตรีที่ล่องหนนั้นเอ่ยปากทันทีและเริ่มเยาะหยันเขา  “เจ้าเด็กนี่เจ้าเล่ห์  การทดสอบนี้เป็นเรื่องเท็จ  เขาแค่ต้องการทดสอบพลังของเรา”

นางเยาะเย้ยเขา

แต่เพราะเสียงของนางเพราะและน่ารักจึงเหมือนกับเป็นการหยอกล้อ

เย่ว์หยางผู้สง่างามยังคงสงบและรักษาท่าที เหมือนกับว่าคำพูดของสตรีเป็นแค่หยอกทดลองความซื่อสัตย์ของเขา  มนุษย์กระดูกประเมินเย่ว์หยางด้วยสายตาหลังจากผ่านไปนานเขาจึงถามขึ้น  “ข้าอยากรู้ อะไรทำให้เจ้าคิดว่าเจ้าอาจเอาชนะเราได้?  ไม่ว่าเจ้าจะพูดยังไงเราก็มีชีวิตมาหลายหมื่นปีแล้ว!”

“ข้าไม่คิดว่าข้าสามารถเอาชนะได้ ข้าแค่ต้องการให้พวกท่านเหล่าผู้อาวุโสให้คำแนะนำข้าสักสองสามอย่าง”  เย่ว์หยางจงใจถ่อมตัว แต่ยังมีความหยิ่งภูมิใจแฝงอยู่ในความอ่อนน้อมของเขา

อย่างไรก็ตาม มีแต่เสวี่ยอู๋เสียที่รู้จักเขา

เย่ว์หยางไม่ใช่ง่ายๆ อย่างที่เห็น

ยิ่งเขานอบน้อมถ่อมตนก็ยิ่งแสดงว่าเขาโกหก นอกจากนี้ก่อนที่เย่ว์หยางจะพูดเช่นนี้เสวี่ยอู๋เสียได้แสดงความนอบน้อมตามมารยาทของผู้เยาว์แล้วนางเข้าใจความเฉลียวฉลาดของเย่ว์หยาง

ความจริงเสวี่ยอู๋เสียและเย่ว์หยางมีหัวใจที่เชื่อมโยงกันและกันถึงไม่ต้องพูดคุยกันเพราะพวกเขาไม่สามารถแน่ใจว่าอีกฝ่ายจะมีความสามารถหรือขัดขวางการสื่อสารทางใจหรือไม่  ไม่ว่าจะเป็นเสวี่ยอู๋เสียไม่ว่าจะเป็นเย่ว์หยางจะไม่ยอมเปิดเผยความสามารถพิเศษของพวกเขา  เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อาวุโสทั้งสามนี้ ผู้มีพลังน้อยกว่าพวกเขาจะปลอดภัยมากขึ้น ยิ่งพวกเขาปกปิดมากก็ยิ่งดี ผู้อาวุโสทั้งสามยังไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งที่สุด  และจักรพรรดิจิ๋วซื่อเป็นปีศาจจากแดนนรก  เขานับเป็นคนอันตราย

ไม่มีใครรู้ว่าจักรพรรดิจิ๋วซื่อกำลังสอดแนมจากเงามืด

จักษุญาณทิพย์ของเย่ว์หยางก็ค้นหาจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อไม่เจอ

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่อยู่ที่นี่

“เจ้าต้องการสู้จริงๆหรือ?”  มนุษย์กระดูกไม่แน่ใจทัศนคติของเย่ว์หยางและมองดูเขาอีกครั้ง  ดูเหมือนเขาสงสัยเย่ว์หยางมากและเขาไม่ค่อยเข้าใจ

“ขอสามรอบ”  เย่ว์หยางยิ้มและชูสามนิ้ว

เมื่อเย่ว์หยางพูดอย่างนี้อีกฝ่ายหนึ่งได้แต่เงียบ

หลังจากผ่านไปนานอีกาก็ระบายลมหายใจและกล่าว  “ข้าต้องบอกว่า เจ้าเป็นเด็กที่กล้าที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นมาในรอบสองสามพันปี  อย่างไรก็ตาม เจ้าจะไม่มีทางชนะเรา เจ้าไม่ได้เป็นสุดยอดปราณก่อกำเนิดและไม่สำคัญว่าเจ้าจะมีอสูรพิทักษ์อยู่กี่ตัวก็ตาม  พวกมันไม่มีประโยชน์  เด็กน้อย เจ้าเป็นเด็กดีจริงๆ  ดีกว่าคนอื่นๆ แต่เจ้ายังเด็กเกินไป ถ้าเจ้าฝึกมาอีกสักร้อยปี เราคงปวดหัวเป็นแน่  ข้าให้เวลาเจ้าสิบปี  เจ้ากลับไปฝึกมาก่อน  เมื่อเจ้าเชี่ยวชาญอย่างนั้นเจ้าค่อยมาสู้กับเรา เจ้าคิดว่ายังไง?”

เจ้าเมืองโล่วฮัวรู้สึกประหลาดใจที่ผู้อาวุโสทั้งสามยินดีจะปล่อยพวกเขาไปจริงหรือ?

จะมีการกลับคำหรือไม่?

เย่ว์หยางและสามสาวมองหน้ากันเองและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพยักหน้าเล็กน้อยแสดงให้เห็นว่าพวกเขาควรจะอยู่ที่นี่และต่อสู้กับพวกเขาเพื่อเป้าหมายค้นหาข้อมูลศัตรู แต่เจ้าเมืองโล่วฮัวนั้นมีความคิดแตกต่าง นางคิดว่าพวกเขาควรจะจากไปโดยไม่มีการเสี่ยงชีวิต  เพราะอาจเป็นอันตรายได้ถ้าพวกเขาทำให้ศัตรูโกรธ

เสวี่ยอู๋เสียคิดว่าความคิดขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเป็นบวกมาก

ถ้าพวกเขาไม่ได้สู้กัน  อย่างนั้นข้อมูลที่พวกเขาได้รับจะน้อยเกินไปจนพวกเขาไม่สามารถจัดการกับจักรพรรดิจิ๋วซื่อได้  แม้ว่าพวกเขาจะมีเวลาสิบปีจักรพรรดิจิ๋วซื่อมีแนวโน้มว่าอาจะตื่นขึ้นภายในสิบปีด้วยความช่วยเหลือของจ้าวปีศาจโบราณ  ช่วงเวลาสิบปีนี้อาจเป็นอุบายถ่วงเวลาก็ได้  ถ้าพวกเขาจากไปตอนนี้  พวกเขาจะหลงกล

ไม่มีเหตุผลที่เจ้าเมืองโล่วฮัวจะต้องกังวลเรื่องนี้

เย่ว์หยางยังอยู่ในช่วงการเติบโตก้าวหน้าและความลับของเขาไม่ควรถูกเปิดเผย

ถ้าตัวประหลาดเฒ่าทั้งสาม มนุษย์กระดูกอีกาและสตรีล่องหนพบความลับในการต่อสู้ของเย่ว์หยางอาจเป็นไปได้ว่าจะทำให้เจตนาฆ่าของพวกเขาเพิ่มขึ้นมากก็ได้  แม้ว่าจะไม่เป็นอย่างนั้นแต่ผู้เฒ่าเหล่านี้ถูกผนึกมาหลายหมื่นปีสามารถใช้ความลับของเขาเพื่อแลกเปลี่ยนกับจ้าวปีศาจโบราณก็ได้

จ้าวปีศาจโบราณจะต้องพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้ทราบความลับของเย่ว์หยาง

การปล่อยให้ความลับพวกเขารั่วไหลออกไปไม่ใช่เรื่องดีสำหรับพวกเขา

ดังนั้นจะทำยังไงดี?

เสวี่ยอู๋เสียเงยหน้ามองเย่ว์หยาง  นางพยักหน้าให้เขาเป็นการแสดงว่านางยอมยกเลิกและให้เย่ว์หยางตัดสินใจ

ไม่ว่าถูกหรือผิด ตราบใดที่เขาตัดสินใจนางจะเชื่อฟังเขา...องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเจ้าเมืองโล่วฮัวยังคงมองดูเย่ว์หยาง  ทุกนางรอการตัดสินใจของเขา

“อย่างนั้นก็ได้  ข้าจะตั้งใจ  จากไปเป็นหนทางที่ดีที่สุดแต่เราจะไม่จากไปเวลานี้” เย่ว์หยางกางแขนโอบคนรักทั้งสามไว้ ด้วยการสนับสนุนของพวกนาง เย่ว์หยางไม่กลัวความยากลำบากและอันตรายในโลกนี้ทั้งหมด  และเขายังไม่ลังเลใจแม้แต่จะไปแดนสวรรค์เพื่อการท้าทายตนเองเพื่อการรู้แจ้งหัวใจสุดยอดปราณก่อกำเนิดและเพื่อความก้าวหน้าได้รวดเร็ว เย่ว์หยางตัดสินใจ เขาหันไปพยักหน้าให้กับมนุษย์โครงกระดูกและอีกา  “คำตอบของเราก็คือ สู้!”

“แปะๆๆๆๆๆ!” มนุษย์กระดูกปรบมือ (กระดูก) ชื่นชม

“.....”อีกายังคงคิด และยังหาความตั้งใจที่แท้จริงของเย่ว์หยางไม่พบ

“ยังต้องการจะสู้อีกหรือ?  ข้าไม่ได้ลงมือมาหลายปีแล้วและสังขารข้าดูเหมือนไม่ค่อยเชื่อฟังเลยในวันนี้ เจ้าทั้งสองคนรับมือเรื่องนี้ก็แล้วกัน!”  สตรีเสียงไพเราะบ่งบอกชัดว่านางขอผ่าน

“เด็กน้อย,ข้าควรจะสู้กับเจ้า แต่ฝีมือของข้าและอสูรของข้าค่อนข้างจะแปลกประหลาดทั้งหมด  พลังของมันยากจะควบคุมได้  ดังนั้นจึงยากจะรอดได้เมื่อข้าโจมตี”  มนุษย์โครงกระดูกจับด้านบนของหมวกเป็นการชี้ให้เห็นว่าเขาจะไม่ยอมรับการท้าทายลูกบอลนี้เขี่ยต่อให้อีกา ทำให้อีกาตาเป็นประกายขึ้นเล็กน้อย  “พวกเจ้าทั้งสองแกล้งทำเป็นตายปล่อยให้ข้าขึ้นเขียง  และข้าจะไม่รับลงมือในฐานะหัวหน้าองครักษ์คนหนึ่งมีงานล้นมืออยู่แล้ว เงินเดือนก็ไม่ได้ ข้าขอประท้วง ถ้าข้าต้องสู้พวกเจ้าทุกคนก็ต้องแสดงฝีมือคนละนิด”

“เจ้ากระดูกดูเหมือนจะมีอัญมณีดีๆ”  สตรีล่องหนเตือนอีกา

“ข้ามีอัญมณีเพียงแปดเม็ดเอง  ตอนนี้หกเม็ดไปอยู่ในกระเป๋าของเจ้าแล้ว  เจ้ายังจะเอาที่เหลืออีกสองเม็ดอีกหรือ?”  มนุษย์กระดูกโอดครวญ

“มันก็ยุติธรรมแล้วพวกเจ้าจะได้มีกันคนละหนึ่ง มีอัญมณีมากมายทั้งหมดอยู่ในแดนสวรรค์ เมื่อเจ้าออกไป เจ้าสามารถไปเก็บได้ตามต้องการ อย่าว่าแต่แปดเม็ดเลย แปดกระสอบก็ยังไหว” สตรีล่องหนหัวเราะ

“อา,นี่คือผลึกสวรรค์คืนชีวิตระดับแปด ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์หลัก  ถ้ามีได้สักสองกระสอบในแดนสวรรค์  อย่างนั้นก็เหมือนกับขึ้นสวรรค์แล้ว”  มนุษย์กระดูกใช้นิ้วเคาะกะโหลกและไตร่ตรองด้วยความหงุดหงิด  “ข้าตั้งใจจะใช้ผลึกสวรรค์คืนชีวิตทั้งสองชิ้นนี้ดูซิว่าข้าจะสามารถฟื้นฟูร่างกายเก่าได้หรือไม่ ตอนนี้ร่างของข้ายังไม่อาจกลับคืนมาได้”

“ถ้าเจ้าคิดว่าผลึกสวรรค์คืนชีวิตทำให้คนตายกลายเป็นคนเป็นได้  อย่างนั้นเจ้าก็ไร้เดียงสาเกินไป”  สตรีล่องหนแค่นเสียง “ผลึกสวรรค์คืนชีพเพียงแต่ใช้กับชีวิตที่เพิ่งตายและวิญญาณของเขาไม่ได้รับความเสียหายร้ายแรง  ถ้าเขาตายนานกว่าหนึ่งวัน  ต่อให้วิญญาณเขาไม่เป็นอะไรก็ไม่มีประโยชน์”

“เจ้าเคยลองแล้วหรือ?”  มนุษย์โครงกระดูกและอีการีบถาม

“...ไม่แต่จักรพรรดิพูดไว้อย่างนั้น” สตรีล่องหนไตร่ตรองเล็กน้อยก่อนจะตอบ

เย่ว์หยางและเสวี่ยอู๋เสียสามารถบอกได้เลยว่าสตรีล่องหนต้องใช้ผลึกสวรรค์คืนชีพมาแล้วและล้มเหลว ดังนั้นนางจึงแน่ใจมาก

แน่นอนว่าเพื่อจะปกปิดความล้มเหลวของนางนางอ้างชื่อจักรพรรดิมาเป็นเครื่องพิสูจน์ นั่นเป็นการพิสูจน์ว่านางได้รับการยืนยันจากจักรพรรดิจิ๋วซื่อ  และคำตอบก็คือแม้นางจะมีผลึกสวรรค์คืนชีพ  นางก็ไม่สามารถฟื้นชีวิตได้ง่ายๆ

มนุษย์กระดูกถอนหายใจ “ดูเหมือนว่าข้ามีแต่ต้องได้รับโลหิตเทพเพื่อฟื้นคืนร่างกายข้า”

เย่ว์หยางและเสวี่ยอู๋เสียมองกันและกันและตื่นเต้นกับข้อมูลที่พวกเขาได้รับโดยไม่ได้ตั้งใจ

แม้ว่าผลึกสวรรค์คืนชีพจะเป็นของดี  แต่ก็ยังด้อยกว่าเลือดเทพมากนัก

แดนล่มสลายแห่งทวยเทพ

ต้องมีเลือดเทพมากมายรวมอยู่ในสมบัติเหล่านั้น นี่คือสมบัติหายากที่ตัวประหลาดเฒ่าไล่ตามหาเพื่อให้ได้ร่างกายอมตะและบรรลุขึ้นในดินแดนระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นราชาเฮยอวี้ จักรพรรดิชื่อตี้ จ้าวปีศาจโบราณหรือภูตผีทั้งสามที่อยู่ต่อหน้าเขาแม้แต่จักรพรรดิจิ๋วซื่อก็ยังกระตือรือร้นหาเลือดเทพ

ความคิดประหลาดอย่างหนึ่งผุดขึ้นในใจของเย่ว์หยาง

มารดาของสหายผู้น่าสงสารเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่เข้าแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ  อย่างนั้นนางคงได้รับเลือดเทพมากมาย  และไม่ว่านางจะยกระดับขึ้นไปถึงขั้นเทพหรือไม่เนื่องจากเป็นหนทางสู่แดนสวรรค์หรือดินแดนที่สูงกว่า

เสวี่ยอู๋เสียมีความคิดที่ฉลาดนางหันมาสบตาเขา

“ข้าไม่สามารถจากไปตอนนี้ได้และไม่ได้ลงมือมานานแล้ว ทั้งยังรู้สึกคันไม้คันมือ งั้นเรามาสู้กัน” อีกาลืมตาและตาที่เร่าร้อนแปลกประหลาดมองได้ตลอดทั้งโลกด้วยรัศมีไร้ต่อต้านที่ทำให้ทุกอย่างในโลกต้องก้มให้  เขาไม่ได้เพิ่มพลังของเขา  แต่เขาสามารถดูแคลนทุกสิ่งทุกอย่างในโลก ความรู้สึกของสุดยอดปราณก่อกำเนิดที่เย่ว์หยางรู้สึกได้ทันทีมาจากคนผู้เดียว ผู้นั้นคือจื้อจุน

แม้แต่เหยียนจุนเหยียนจงหรือหัวหน้าก๊กโจรตัวตลกก็ยังไม่ทำให้เขารู้สึกเช่นนั้น

สำหรับราชาใจสิงห์เขาอาจจะทรงพลังและกำลังของเขาก็แข็งแกร่งพอด้วย

อย่างไรก็ตาม เทียบกับอีกานี้ราชาใจสิงห์ดูเหมือนจะด้อยกว่าเล็กน้อย

อย่างน้อยที่สุดเขาไม่ได้สร้างภาพลวงตาที่มิอาจเอาชนะได้เลยกับเย่ว์หยาง  ระดับของมังกรปีศาจไม่มีความจำเป็นต้องสงสัยเลย  แต่เขาชอบซ่อนเอาไว้มากกว่าชอบอวด  ส่วนนางพญาเฟ่ยเหวินหลีนางถึงระดับที่เย่ว์หยางไม่อาจรู้สึกได้

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเจ้าเมืองโล่วฮัวและเสวี่ยอู๋เสียผงะถอยหลังไปหนึ่งก้าวทุกคน

ถ้าอีกาตัวนี้ไม่เปล่งรัศมีที่ทรงพลังขนาดนั้นพวกนางก็ยังต้องการสู้เพื่อเย่ว์หยาง แต่ตอนนี้พวกนางเข้าใจแล้วว่าด้วยพลังปัจจุบันของพวกนาง  พวกนางไม่สามารถเอาชนะอีกาได้  ทั้งหมดที่พวกนางทำได้ก็คือดูการต่อสู้และค้นหาจุดอ่อนของศัตรูให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้  ไม่เพียงแต่นางเท่านั้นเย่ว์หยางเรียกนางมารกฎฟ้า, มารเคราะห์ฟ้า, เย่ว์หวี่ เย่ว์ปิงและนางฟ้าสงครามอิกกะออกมาด้วย

เขาเชื่อว่าไม่ว่าเขาจะมีโอกาสได้รับชัยชนะขนาดไหนก็จะทำให้ให้การฝึกฝนของเขามีความก้าวหน้า

คู่ต่อสู้แบบนี้หาได้ยาก  ดังนั้นเย่ว์หยางจึงอยากท้าทาย

“ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมีสาวๆมากมายหลายคน และทุกคนมีความงดงามกันทั้งนั้น ต่อให้เป็นจักรพรรดิตามธรรมดาก็คงไม่โชคดีอย่างนั้นแน่”  สตรีล่องหนหัวเราะ

“คารวะท่านผู้อาวุโสทั้งสาม!” สาวน้อยเย่ว์ปิงมีมารยาทมากและนางคำนับพร้อมกับเย่ว์หวี่

“ข้าแค่มาดูที่นี่อย่าเข้าใจผิด  เขาเป็นพี่เขยข้า!” มารเคราะห์ฟ้าจับแขนนางเซียนหงส์ฟ้าและประกาศว่านางเป็นหนึ่งในสตรีของเย่ว์หยาง

“ปีศาจหน้าเห็ด”  อีกาไม่สนใจพวกสตรีเสียงดังเหล่านี้ มันหลับตาและสะบัดปีกและเรียกเห็ดประหลาดต้นหนึ่งมีลำตัวสีขาวและหน้าสีน้ำเงินมันมีมือและขา แต่สั้นอย่างเหลือเชื่อ  มันมีหน้าและปากดูเหมือนมนุษย์แต่ประหลาดมาก แน่นอนแม้ว่าปีศาจหน้าเห็ดนี้จะมีลักษณะไม่เหมือนใคร  แต่พลังของมันไม่ใช่น้อย  มันมีพลังนักสู้ปราณฟ้าระดับสาม

ทันทีที่ปีศาจหน้าเห็ดปรากฏออกมามันยิ้มให้นางพญากระหายเลือด

ยิ้มของมันน่าเกลียดกว่าการร้องไห้

นางพญากระหายเลือดตะลึงอยู่ไม่กี่วินาทีและจากนั้นดูเหมือนนางจะตกใจกับใบหน้าอ่อนของเด็ก หน้าของนางซีดขาว น้ำตานางไหล นางร้องไห้และร่างสั่นสะท้าน

“ไป!” อาหมันเห็นนางพญากระหายเลือดถูกโจมตี นางควงหมัดและฟันใส่ปีศาจหน้าเห็ดที่ดูเหมือนจะถูกทุบได้ง่าย

“กลัว!” ปีศาจหน้าเห็นวิ่งไปหลบซ่อนจากอีกฝ่าย

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า....”  ในที่สุด อาหมันก็หยุดโจมตีด้วยความโกรธ  นางหยุดและชี้ไปที่ปีศาจหน้าเห็ด  นางหัวเราะลั่น และน้ำตานางไหลออก นางไม่ได้ยินเสียงตะโกนของเจ้าเมืองโล่วฮัวและคนอื่น  ตอนนี้แม้แต่คนตาบอดก็สามารถบอกได้ว่าปีศาจหน้าเห็ดนี้ใช้พลังจิตโจมตีปณิธานของนางพญากระหายเลือดและอาหมันทำให้คนหนึ่งร้องไห้อีกคนหนึ่งหัวเราะ

ปณิธานของนางพญากระหายเลือดและอาหมันจะทนได้เท่าใดกัน

แต่พ่ายปีศาจหน้าเห็ดได้อย่างง่ายดายเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริงๆ

เย่ว์หยางโบกมือ และนางฟ้าสงครามยืนขึ้น  นางไม่เหมือนอาหง ทั้งไม่เหมือนอาหมัน  นางเป็นนางฟ้าสงครามและปณิธานของนางขึ้นอยู่กับเย่ว์หยาง  ตราบใดที่ปณิธานของเย่ว์หยางไม่พ่ายแพ้  นางจะไม่ได้รับผลอะไร

อีกาดูเหมือนจะรู้ว่าปีศาจหน้าเห็ดไม่ส่งผลต่อนางฟ้าสงคราม  และมันเรียกแมลงปอสีแดงแปลกประหลาดออกมา

แมลงปอแดงตัวยาวสิบเมตรและปีกของมันเวลากางออกจะยาวเกินสิบเมตร

เมื่อนางฟ้าสงครามบุกจู่โจมไปข้างหน้าปืนใหญ่สีดำของนางกางออก แมลงปอแดงบินมาหานางและคว้านางฟ้าสงครามไว้ก่อนที่ปืนใหญ่ของนางจะทำงาน ในวินาทีนั้นนางฟ้าสงครามหวี่ยงมือและฟันดาบนางฟ้าออกไป แมงปอแดงเหวี่ยงอิกกะไปจากตัวมันห่างไปหลายร้อยเมตร

เมื่ออิกกะลงกับพื้น

มันบินกลับมาหานางอีกครั้ง

อิกกะยกชูแขนปืนใหญ่ของนางและยิงออกไปร้อยครั้งในสามวินาที  อย่างไรก็ตามแมลงปอแดงหลบได้และบินผ่านข่ายแสงที่ยิงออกมานางฟ้าสงครามอิกกะและดาบนางฟ้าของนางสะบัดควงเหมือนสายลม  แต่นางไม่สามารถฟันถูกมันได้ พวกเขาต่างใช้ความเร็วสู้กันจนมองด้วยสายตาไม่ทัน

แมลงปอแดงเป็นอสูรปราณฟ้าระดับสามจับอิกกะได้เป็นครั้งคราวและเหวี่ยงออกไปไกล

แต่มันยังคงไม่เป็นอันตรายจากพลังโจมตีของอิกกะ

“....”พวกสาวๆ สูดหายใจลึก มันน่ากลัวเกินไป ด้วยความเร็วของนาง อิกกะยังไม่อาจแตะกระทั่งเส้นขนของคู่ต่อสู้  นี่เหลือเชื่อเกินไป

“พี่สาม,ให้ข้าช่วยด้วย” เย่ว์ปิงไม่อาจยอมรับความจริงได้ว่าพี่ชายของนางถูกไล่ต้อน  นางเรียกพญาไม้ไตตันออกมาด้วยความตื่นเต้น

“ต้นพุ่มไฟ”  อีกาสะบัดปีกพุ่มไม้เพลิงนับไม่ถ้วนปรากฏอยู่บนพื้น พุ่มไม้เพลิงเป็นอสูรปราณฟ้าระดับสี่มันจับพญาไม้ไตตันได้อย่างง่ายดายและตรึงไว้กับพื้น  เย่ว์ปิงแทบเป็นลมจากภาพที่เห็น นางไม่เคยคาดฝันเลยว่าพญาไม้ไตตันของนางจะถูกตรึงอย่างหนักจนไม่อาจเคลื่อนไหวได้  นี่คือกลยุทธปกติของนางนางจะให้พญาไม้ไตตันจับตรึงศัตรู

“อย่างนั้นตาข้าบ้าง!”  นางเซียนหงส์ฟ้าตัดสินใจโจมตี

“รอเดี๋ยว!  โปรดเชื่อใจข้า  ข้ามีแผน” เย่ว์หยางคว้ามืองดงามของนางเซียนหงส์ฟ้าไว้และพยักหน้า จากนั้นเดินออกไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด