ตอนที่แล้วChapter 41 จบละอ่อ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 43

Chapter 42


**ขออณุญาตเปลี่ยนสรรพนามคำเรียกค่ะ**

ในขณะเดียวกันเฉินไห่,เซี่ยอี้ซวนและผู้อาวุโสที่มีอำนาจอีกสองสามคนก็มารวมตัวกัน ผู้อาวุโสที่ห้าอดไม่ได้ที่จะถามว่า “เราจะอยู่แบบนี้ได้จริงๆหรือ?”

หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็มองไปที่สำนักไท่ฉิงอย่างเป็นกังวล “เกิดอะไรขึ้นกับสำนัก?”

“อะไรจะเกิดขึ้น? ข้าถามผู้อาวุโสคนที่หกก่อนหน้านี้ และเขาบอกว่าแนวป้องกันภูเขาอันยิ่งใหญ่สามารถยืนหยัดอยู่ได้ระยะหนึ่ง อย่างมากที่สุด พวกเขาจะได้รับบาดเจ็บ แต่จะไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น”

“หากเราย้อนกลับไปในช่วงเวลาวิกฤตและช่วยทุกคนจากวิกฤต ศิษย์เหล่านั้นจะต้องรู้สึกขอบคุณเราอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น พวกเขาจะรู้ว่าใครควรค่าแก่การติดตามอย่างแท้จริง”

ภูมิหลังตระกูลของเซี่ยอี้ซวนนั้นไม่ธรรมดา เขาได้รับข่าวมานานแล้วว่าสำนักวิญญานโลหิตอาจดำเนินการกับสำนักไท่ฉิงเขาต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อพัฒนาบารมีของเขาในสำนัก

กลายเป็นว่าเหตุที่ผู้อาวุโสที่มีอำนาจเหล่านั้นไม่ได้อยู่ที่สำนักในตอนนี้ เนื่องจากพวกเขาได้ประสานงานกันไว้ล่วงหน้า

เซี่ยอี้ซวนตะคอก “ถ้าเรายังคงนั่งรออยู่ที่นี่ ข้าเกรงว่าทั้งสำนักไท่ชิงจะเคารพเย่ซวน! เมื่อถึงเวลานั้นจะไม่มีที่สำหรับเรา”

ผู้อาวุโสหลายคนเห็นด้วยกับคำพูดเหล่านั้น เดิมทีพวกเขาไม่ได้สนใจเย่ซวนซึ่งอยู่ในระดับต่ำเท่าไร แล้วถ้าเจ้าสำนักเลือกผู้นำผู้อาวุโสล่ะ? ผู้ฝึกตนระดับ 2 ของขอบเขตมนุษย์จะได้รับเลือกได้อย่างไร?

ใครจะคิดว่าเย่ซวนเก่งมากในการซื้อใจผู้คนด้วยไข่มุกเรืองแสงยามค่ำคืน, คริสตรัลโมราน้ำแข็ง, ยันต์น้ำและไฟและอื่นๆ?

ตั้งแต่เจ้าสำนักไปจนถึงศิษย์ ไม่มีใครที่เขาไม่สามารถติดสินบนได้ เขายังซื้อผู้อาวุโสสองสามคนด้วยซ้ำ นั่นเป็นสาเหตุที่ผู้อาวุโสทุกคนไม่ได้มีส่วนร่วมในแผน

“ข้าคิดว่าหลังจากเหตุการณ์นี้ พวกเขาควรเข้าใจว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงสมบัติทางโลก แล้วถ้าพวกเขามีหินวิญญาณหรือความมั่งคั่งมากมายล่ะ? เมื่อเผชิญกับความแข็งแกร่งที่ยิ่งใหญ่ ทุกสิ่งก็เป็นเพียงเมฆที่หายวับไป”

ถ้าเย่ซวนยืนอยู่ต่อหน้าพวกเขา เขาจะบอกพวกเขาอย่างแน่นอนว่าพวกเขาคิดมากเกินไป

“ผู้อาวุโสเซี่ยพูดถูก ข้าแน่ใจว่าเจ้าสำนักจะเข้าใจว่าสารเลวนั้นไม่มีประโยชน์ เมื่อถึงเวลาเราจะร่วมกันขับไล่เขา!”

แผนของเซี่ยอี้ซวนนั้นดี แต่พวกเขาประเมินเย่ซวนต่ำไป

เฉินไห่ลุกขึ้นช้าๆ “เอาล่ะ ถึงเวลาแล้วที่เราจะกลับไปเป็นผู้กอบกู้”

ในความคิดของผู้อาวุโส พวกเขาสามารถเห็นเหล่าศิษย์กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจและโห่ร้องใส่พวกเขา

อย่างไรก็ตาม เขาตระหนักว่าทางเข้าของสำนักไท่ฉิงนั้นเงียบสนิท ไม่มีแม้แต่สำนักวิญญานโลหิตแม้แต่คนเดียว

สถานการณ์แตกต่างจากที่พวกเขาจินตนาการไว้เล็กน้อย ผู้อาวุโสคนที่สองจ้องมองเซี่ยอี้ซวน“ผู้อาวุโสเซี่ยเจ้าไม่ได้บอกว่าสำนักวิญญานโลหิตจะมาโจมตีหรอ? ดูนี่สิ. มันดูไม่เหมือนมีการโจมตีเกิดขึ้นเลย”

“เป็นไปไม่ได้”เซี่ยอี้ซวนพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว “ข้าได้รับข่าวที่ถูกต้องว่าสำนักวิญญานโลหิตจะเคลื่อนไหวในวันนี้…”

เป็นไปได้ไหมว่าพวกมันบุกเข้ามาแล้ว?

แต่ถึงอย่างนั้นก็น่าจะมีความขัดแย้งและพิพาทกัน พูดตามเหตุผลก็ไม่ควรเงียบ

“เป็นไปได้ไหมว่าข้อมูลของเจ้าผิด หรือสำนักวิญญานโลหิตยอมแพ้กะทันหัน?”

ฝูงชนเดินเข้าไปอย่างลังเลและพบศิษย์ของสำนักไท่ฉิงและสำนักชางหยุนในจัตุรัสซึ่งทั้งคู่กำลังคิดเกี่ยวกับชีวิต

ในขณะเดียวกันสำนักวิญญานโลหิตและอื่น ๆ ถูกมัดไว้บนพื้น

เซี่ยอี้ซวน,เฉินไห่และคนอื่น ๆ มองหน้ากันและเห็นความตกใจบนใบหน้าของกันและกัน ฉากนี้แตกต่างจากที่พวกเขาจินตนาการไว้อย่างสิ้นเชิง

ด้วยเหตุผล พวกเขาคิดว่าหากไม่มีเจ้าสำนักและผู้อาวุโสที่มีอำนาจเพียงไม่กี่คนคอยยึดป้อมปราการ คนที่อยู่ก่อนหน้าพวกเขาก็ไม่มีพลังที่จะต่อสู้กับการมาถึงของสำนักวิญญานโลหิต

ผู้อาวุโสคนที่สามลดเสียงลง “สถานการณ์ดูเหมือนจะไม่ถูกต้อง”

ใบหน้าของเซี่ยอี้ซวนซีดลง "ข้ารู้ เจ้าไม่จำเป็นต้องบอกข้าหรอก "

เฉินไห่เป็นคนแรกที่ถาม "เกิดอะไรขึ้น"

ศิษย์ของสำนักไท่ฉิงบอกเฉินไห่,เซี่ยอี้ซวนและคนอื่น ๆ ว่าพวกเขาพูดอะไรกับสำนักชางหยุน

ผู้อาวุโสดูไม่เชื่อ “เจ้ากำลังบอกว่าเย่ซวนไปสร้างปัญหาให้กับสำนักวิญญานโลหิต?” พวกเขาหายใจเข้าลึกๆ “พวกเจ้าทุกคนกำลังมองหาความตายอยู่รึไง”

เนื่องจากไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้ว่าเย่ซวนสามารถทำลายการโจมตีของสำนักวิญญานโลหิตได้อย่างง่ายดาย

“เย่ซวนบ้าไปแล้ว ทำไมเจ้าไม่หยุดเขา ค่ายของสำนักวิญญานโลหิตไม่ใช่ที่ที่เจ้าสามารถบุกเข้าไปได้ตามต้องการ!”

“ไอ้เลวพวกนี้ส่งมาเพื่อเป็นหัวหอกในการโจมตีเท่านั้น ต้องมีผู้เชี่ยวชาญหลายคนในสำนักวิญญานโลหิตเจ้าจะโชคดีที่ได้ขีดข่วนพวกเขา แต่เจ้ายังยั่วยุพวกเขาอยู่เหรอ?”

ศิษย์ของสำนักวิญญานโลหิตและผู้อาวุโสบนพื้นดินล้วนได้รับบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นเซี่ยอี้ซวนจึงไม่ทราบว่าระดับการฝึกตนของพวกเขาเป็นอย่างไร ถ้าเขารู้ เขาคงไม่พูดแบบนี้

“แต่-” ศิษย์ของสำนักไท่ฉิงต้องการอธิบาย แต่ถูกขัดจังหวะโดยเฉินไห่และคนอื่นๆ “แต่อะไรนะ? รีบตามเขากลับมา ข้าคิดว่าพวกเจ้าบ้าไปแล้วภายใต้การนำของเย่ซวน”

“เย่ซวนคิดว่าเขาสามารถชำระทุกอย่างด้วยหินวิญญาณเพราะความมั่งคั่งของเขา ในสายตาของสำนักวิญญานโลหิตเขาเป็นเพียงแกะอ้วนโง่ที่สมัครใจเคาะประตูบ้านและเสียสละตัวเอง เขาโง่มากจริงๆ”

“ไม่เป็นไรถ้าเขาจะตายคนเดียว แต่เขาลากสำนักไท่ฉิงทั้งหมดของเราเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เขาไม่รู้ผลของการกระทำของเขา!”

ขณะที่เซี่ยอี้ซวนและคนอื่น ๆ กำลังสาปแช่งและคิดว่าเย่ซวนทำให้เกิดความยุ่งเหยิงครั้งใหญ่ เสียงผู้ชายทุ้มลึกก็ดังขึ้น

“เจ้าเรียกใครว่าแกะอ้วน”

เซี่ยอี้ซวนตอบโดยไม่ต้องคิดว่า “แน่นอน มัน-”

หลังจากที่เห็นว่าเป็นใคร ทุกคนก็ตะลึง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด