ตอนที่แล้วบทที่ 880 (1) อาคนที่สองกำลังจะจากไป(ตอนฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 882 (3) เพราะเหตุผลนี้เนี่ยนะ?!

บทที่ 881 (2) เตรียมพบกับความท้าทาย(ตอนฟรี)


บทที่ 881 ( 2 ) เตรียมพบกับความท้าทาย

เมื่อได้ยินคำชมจากอารอง จี้เฟิงก็ยิ้มเล็กน้อยและกล่าวเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดาว่า “ทั้งหมดนี้เป็นเพราะได้รับคำสั่งสอนจากอารองนั่นแหละครับ”

“เจ้าเด็กตัวแสบเอ๊ย!” จี้เจิ้นกั๋วอดไม่ได้ที่จะดุด้วยรอยยิ้ม แต่เขาก็รู้สึกโล่งใจมากทีเดียว จากผลงานในช่วงที่ผ่านมาของจี้เฟิง ทำให้เขามั่นใจได้ว่าพี่ใหญ่มีผู้สืบทอดแล้ว!

“เจ้าเด็กคนนี้มันรู้วิธียกยอ! ฮ่าๆๆ~!” จี้ช่าวตงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

“น้องสามเป็นแบบนี้แต่ไหนแต่ไรแล้ว พี่ใหญ่แค่อาจจะยังไม่ชิน” จี้ช่าวเหลยหัวเราะ

ในบรรดาพี่น้อง จี้เฟิงและจี้ช่าวเหลยคือผู้ที่มีการติดต่อกันมากที่สุด ทั้งสองคนได้ทำสิ่งต่างๆมาด้วยกันมากมาย และความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ถือได้ว่าลึกซึ้งมาก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีข้อกังวลใดๆในการพูดแซวหรือล้อเลียน ไม่ต้องห่วงว่าอีกฝ่ายจะเสียหน้า

หลังจากเสียงหัวเราะเงียบลง จี้เจิ้นกั๋วก็พูดอย่างจริงจังอีกครั้ง “เสี่ยวเฟิง สถานการณ์ในโรงงานผลิตยาเป็นยังไงบ้าง ยังโอเคอยู่ใช่มั้ย?”

จี้เฟิงพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “ครับอารอง ไม่มีปัญหาอะไรที่ต้องกังวลเกี่ยวกับที่นี่ ไว้ใจหลานชายคนนี้ได้เลย ผมไม่ทำตัวเหมือนคุณชายเพลย์บอยคนอื่นๆจนเกิดเรื่องยุ่งแน่นอน!”

“ดี ดี!”

จี้เจิ้นกั๋วพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและกล่าวว่า “ไม่จำเป็นต้องมักใหญ่ใฝ่สูงจนทำเรื่องที่ไม่อาจเปิดเผยได้ การทำตัวติดดินนั้นมีข้อดีมากมาย และตราบใดที่เธอทำธุรกิจอย่างตรงไปตรงมา ครอบครัวสามารถช่วยเธอได้ แต่ถ้าช่วยไม่ได้ เธอก็ต้องเรียนรู้ที่จะป้องกันตัวเอง”

“เข้าใจแล้วครับอารอง” จี้เฟิงพยักหน้าเล็กน้อย แต่บางประโยคของอารองทำให้หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะเล็กน้อย มันหมายความว่ายังไงกันที่บอกว่าถ้าช่วยไม่ได้ก็ต้องเรียนรู้ที่จะป้องกันตัวเอง?

หรือว่ามีใครเพ่งเล็งที่จะเล่นงานเขาอยู่อีก?

“เอาล่ะ หยุดพูดเรื่องนี้” จี้เจิ้นกั๋วมองดูเวลาจากนั้นก็โบกมือเบาๆแล้วพูดว่า “ช่าวเหลย ไปบอกให้แม่ของเจ้าทำอาหารเตรียมไว้”

“แต่เดี๋ยวผมมีงานที่ต้องกลับไปเคลียร์ที่บริษัทอีก ผมเลยว่าจะไม่กินข้าวที่บ้าน” จี้ช่าวเหลยพูดด้วยรอยยิ้ม “บังเอิญว่าผมมีเรื่องที่จะคุยกับพี่น้องทั้งสองคนด้วย เลยว่าจะชวนไปหาอะไรกินข้างนอกน่ะครับ”

“ไม่จำเป็นต้องออกไปกินข้าวนอก อาหลี่ของเจ้ากำลังมา รอกินข้าวพร้อมกันที่นี่แหละ” จี้เจิ้นกั๋วพูด

“อาหลี่?”

จี้ช่าวเหลยอดไม่ได้ที่จะตกใจ

“แต่ถ้ารออยู่ที่บ้านแล้วรู้สึกเบื่อ จะออกไปเดินเล่นก็ไปเถอะ แต่กลับมาก่อนเวลากินข้าว!” จี้เจิ้นกั๋วพูดและอดไม่ได้ที่จะเตือน “นอกจากนี้... อย่าสร้างปัญหา!”

จี้ช่าวเหลยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะแห้งๆ “พ่อ.. เห็นผมแย่ขนาดไหนเนี่ย!”

จี้เฟิงและจี้ช่าวตงที่อยู่ข้างๆเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ จี้ช่าวเหลยคือคนที่ซนที่สุดแล้ว!

ในที่สุดทั้งสามคนก็ออกมาจากบ้าน และเดินเล่นไปเรื่อยๆ พวกเขาสามคนไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว โดยเฉพาะพี่ชายคนโตจี้ช่าวตงซึ่งอาศัยอยู่ในจินหลิงเป็นหลัก ดังนั้นจึงยากที่จะเจอกัน

“มาๆ ซักมวน!” หลังจากออกมาจากบ้าน จี้ช่าวเหลยดูกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที เขารีบหยิบบุหรี่ออกมาแจกจ่ายให้จี้เฟิงและจี้ช่าวตง “ตาเฒ่าทำเอาฉันรู้สึกอึดอัดทุกทีเวลาอยู่ที่บ้าน ออกมาข้างนอกแบบนี้โล่งกว่าเยอะ!”

“เจ้าเด็กนี่!” จี้ช่าวตงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะและตวาดเมื่อเห็นบุหรี่ที่รับมา “ว่าแต่ บุหรี่นี่... นายไปขโมยมาจากคุณปู่อีกแล้วเหรอ?”

แน่นอนว่าจี้ช่าวตงรู้จักบุหรี่ชนิดพิเศษนี้ แต่ที่บ้าน พ่อของเขาไม่สูบบุหรี่ ดังนั้นพ่อของเขาจึงมักจะนำไปฝากไว้ที่บ้านของคุณปู่ และในบรรดาพี่น้องมากมาย มีเพียงจี้ช่าวเหลยเท่านั้นที่จะทำอะไรแบบนี้

จี้ช่าวเหลยหัวเราะเบาๆ “นี่ฉันทำความดีนะ ตอนนี้คุณปู่สูบบุหรี่ไม่ได้แล้ว มันไม่ดีต่อสุขภาพของคุณปู่!”

พวกเขาสามคนเจอสถานที่ที่เหมาะแก่การสูบบุหรี่ จึงเดินไปและจุดสูบอย่างมีความสุข

“น้องสาม ถ้ามีปัญหาอะไรเกี่ยวกับโรงงานผลิตยาของนาย ก็รีบจัดการซะ อารองของนายจะออกไปหลังจากวันตรุษจีนนี้แล้ว ถ้ายังมีอะไรค้างคา มาเคลียร์ทีหลังจะลำบาก” จี้ช่าวตงเตือนอีกครั้ง

“ไม่มีปัญหาแน่นอนครับ!” จี้เฟิงพยักหน้าอย่างหนักแน่นและถามว่า “พี่รองครับ ทำไมจู่ๆอารองถึงจะย้ายออกไปล่ะครับ? แถมยังเร็วๆนี้ด้วย!”

“มันเป็นข้อตกลงของเบื้องบน ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่” จี้ช่าวตงส่ายหัวเล็กน้อย แม้ว่าเมื่อนับตามอายุแล้วเขาจะเป็นลูกชายคนโตในรุ่นที่ 3 แต่เขาก็ไม่ได้เข้าสู่วงในของตระกูล เรื่องต่างๆสามารถทำความเข้าใจได้ด้วยตัวเองเท่านั้น และถึงแม้จะถามผู้อาวุโสไปก็จะไม่ได้คำตอบอะไรอยู่ดี

“แล้วใครจะมารับช่วงต่อจากอารอง?” จี้เฟิงถามอีกครั้ง

“จะมีใครได้อีก ก็พวกตระกูลอู๋ที่เล็งตำแหน่งนี้มานานแล้วน่ะสิ!” จี้ช่าวเหลยอดไม่ได้ที่จะเบะปาก

จี้เฟิงขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ แน่นอนว่าเขาเคยได้ยินเกี่ยวกับตระกูลอู๋มาบ้าง ตระกูลอู๋เป็นหนึ่งในตระกูลชั้นนำในหยานจิง ผู้อาวุโสอู๋เป็นหนึ่งในผู้อาวุโสระดับสูงไม่กี่คนที่ยังเหลืออยู่เช่นเดียวกับปู่ของเขา ทายาทรุ่นที่ 2 ก็ล้วนเป็นบุคคลที่มีอำนาจเช่นกัน เมื่อเทียบกับตระกูลเหอและตระกูลเซียงแล้วพวกเขานับว่าไม่เลวเลย

ที่สำคัญกว่านั้น กล่าวกันว่าตระกูลอู๋นั้นมีแนวคิดคนละทางกับตระกูลจี้

“ดังนั้น ถ้าตอนนี้นายมีปัญหาอะไรก็รีบจัดการให้เร็วที่สุด หรือว่าต้องการอะไรก็รีบๆทำ มาคิดได้ทีหลังอาจจะทำอะไรลำบากกว่าเดิม” จี้ช่าวเหลยกล่าว

เมื่อได้ยินแบบนี้มันทำให้คิดได้ว่าตระกูลอู๋คงไม่ใจดีกับพวกเขามากนัก

จี้เฟิงพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม “อย่างที่บอก ตอนนี้ผมไม่ได้มีปัญหาอะไร การดำเนินการของโรงงานเป็นไปตามขั้นตอนอย่างเป็นทางการ”

“น้องรอง อย่าเพิ่งพูดถึงน้องสามเลย นายเองก็เหมือนกัน นึกดูดีๆว่ายังมีอะไรที่ไม่ได้เคลียร์หรือเปล่า รีบจัดการซะ!” จี้ช่าวตงกล่าว “ตระกูลอู๋อาจยังไม่รู้จักตัวตนของน้องสาม ดังนั้นในระยะเวลาอันนั้นพวกเขาจะยังไม่มายุ่งกับน้องสามแน่นอน ทีนี้ก็เหลือแต่นายนั่นแหละ!”

“ผมโอเค ใครจะกล้าพูดอะไรได้ ต่อให้ตอนกินจะสกปรก แต่ตอนถ่ายสะอาดเอี่ยมอ่องหายห่วงได้เลย! ที่สำคัญ เงินที่ใช้เป็นเงินที่ได้มาอย่างถูกต้อง ตรวจสอบได้และจะไม่มีอะไรยุ่งยากในภายหลังแน่นอน!” จี้ช่าวเหลยยิ้มเหยียด “คนจากตระกูลอู๋ไม่กล้าสร้างปัญหาให้ฉันหรอก!”

“พี่ใหญ่ การที่ตระกูลอู๋ย้ายมาที่นี่ พวกเขาต้องการจะสร้างปัญหาให้เราเหรอ?” จี้เฟิงถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

“ไม่หรอก! ฮ่าๆๆ~!” จี้ช่าวตงหัวเราะ “พวกเขาน่าจะกำลังเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งใหม่ในอีกสองปี ดังนั้นเราที่ยังอยู่ที่นี่ก็แค่ต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นหน่อย ใส่ใจกับขั้นตอนการดำเนินการที่ใสสะอาด ไม่ให้มีรอยด่างพร้อย มันจะช่วยให้ผู้อาวุโสของตระกูลเราสามารถทำงานได้อย่างอิสระและไม่ต้องคอยห่วงหน้าพะวงหลัง และจะได้ไม่ถูกขัดขวางในภายหลัง!”

“อ๋อ ฉันเข้าใจแล้ว ตระกูลอู๋คงอยากจะทำให้เจียงโจวเป็นเหมือนสวนหลังบ้านสินะ!” จี้ช่าวเหลยแค่นเสียงอย่างดูถูก “เพราะลูกหลานแต่ละคนดีๆทั้งนั้นนี่!”

“ฉันว่าไม่น่าใช่แบบนั้น!” จี้ช่าวตงโบกมือและพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ “ฉันเชื่อว่าผู้อาวุโสตระกูลอู๋คงไม่เลอะเลือนจนปล่อยให้ลูกหลานในตระกูลมาทำแบบอะไรนั้นแน่!”

จี้เฟิงแอบเห็นด้วยกับคำพูดของพี่ชายคนโต เจียงโจวเป็นเมืองใหญ่และมีความสำคัญมาก ที่สำคัญกว่านั้น เจียงโจวยังคงมีหน่วยงานสำคัญๆอีกหลายหน่วย พวกเขาคงไม่ยืนดูอยู่เฉยๆแน่ ดังนั้นมันคงเป็นเรื่องที่บ้ามากหากมีใครกล้าพอที่จะมาทำให้เจียงโจวเป็นเหมือนสนามหลังบ้านของตัวเอง!

ขนาดระดับอารอง ยังตึงมือ มีผู้คนระดับสูงมากมายให้คอยรับมือหลากหลายรูปแบบ แล้วตระกูลอู๋จะเอาความกล้าที่ไหนมา? แต่ถ้าพวกเขากล้าทำอย่างนั้นจริงๆ มันก็กลายเป็นว่าพวกเขาส่งตัวเองเข้าไปในกองไฟ กลายเป็นเป้าวิจารณ์ของสาธารณชน!

“ที่พี่ใหญ่พูดก็ถูก!” จี้ช่าวเหลยพยักหน้า

“ที่จริงมันไม่ได้มีอะไรให้ต้องกังวลมากนักหรอก ผู้อาวุโสอู๋ไม่ยอมให้คนในตระกูลสร้างเรื่องยุ่งหรอก ฉันแค่เตือนพวกนายเอาไว้เท่านั้น!” จี้ช่าวตงหัวเราะ “นอกจากนี้ นี่เป็นการจัดการของเบื้องบน หากตระกูลอู๋ล้ำเส้น พวกเขาก็คงโดนดีเองนั่นแหละ!”

“อย่างนี้นี่เอง...” จี้เฟิงพยักหน้าและถามอีกครั้งว่า “แล้วอารองได้เตรียมคนสำรองไว้บ้างหรือเปล่า?”

“โดยปกติแล้วก็ควรจะเป็นอย่างนั้น” จี้ช่าวตงพยักหน้า

จากทั้งหมดนี้ทำให้จี้เฟิงตระหนักได้ว่าสถานการณ์ในเจียงโจวกำลังจะเปลี่ยนไป เพียงแค่ว่าพี่ชายคนโตยังไม่รู้รายละเอียดอะไรมาก ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าตอบแบบฟันธง และตัวจี้เฟิงก็ทำได้แค่เพียงคอยเฝ้าสังเกตอย่างช้าๆ

ทั้งสามคนพูดคุยกันอยู่พักหนึ่ง จนใกล้ถึงเวลาทานอาหารก็พากันกลับบ้าน

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่จี้เฟิงเข้าไปในบ้าน เขาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย “ผมอายุ 22 ครับฮูหยิน”

“เด็กคนนี้! ฮูหยินอะไรกัน เรียกฉันว่าป้าสะใภ้เถอะ!” เสียงของอาสะใภ้รองดังขึ้นหลังจากนั้น

เมื่อจี้เฟิงเดินเข้าไปดูเขาก็ต้องตกตะลึง

มีชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่งกำลังพูดคุยกับอาสะใภ้รอง และที่ข้างๆเขามีหญิงวัยกลางคนนั่งอยู่ด้วย แต่คนที่จี้เฟิงรู้สึกคุ้นเคยดีคือหญิงสาวคนนั้น ‘หลี่ลู่หนาน!’

ในเวลานี้หลี่ลู่หนานก็สังเกตเห็นจี้เฟิงแล้ว ดวงตาที่สวยงามของเธอก็สว่างขึ้นทันที

“เสี่ยวเฟิง มานี่สิ! ฉันจะแนะนำให้รู้จัก!” อาสะใภ้รองพูดขึ้น “นี่คือภรรยาของนายกเทศมนตรีเป่าหยวน ชื่อว่าป้าซู ส่วนสองคนนี้เป็นลูกของพวกเขาชื่อหลี่เว่ยปิงและหลี่ลู่หนาน!”

นายกเทศมนตรีเป่าหยวน?

จี้เฟิงเกือบจะลืมไปแล้วว่าหลี่ลู่หนานมีพ่อเป็นนายกเทศมนตรี

แล้วทำไมพวกเขาถึงมาที่บ้านอารอง?

นี่เป็นปฏิกิริยาแรกของจี้เฟิง เพราะถ้าพูดกันตามหลักแล้ว การกล่าวอำลาตำแหน่งอย่างเป็นทางการหรือจัดงานเลี้ยงอำลาควรจะจัดที่โรงแรมหรือไม่ก็สำนักงาน แต่หลี่เป่าหยวนกลับพาภรรยาและลูกสองคนมาที่บ้านของอารองในฐานะแขก มันควรจะมีอะไรมากกว่านี้?

อะไรบางอย่างทำให้จี้เฟิงนึกถึงบทสนทนาก่อนหน้านี้ระหว่างเขากับพี่ชายคนโตขึ้นมา พวกเขาคุยกันว่าก่อนอารองจะจากไป เขาน่าจะมีการเตรียมการเอาไว้!

ทันใดนั้นจี้เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมอารองของเขาอยู่ในใจ

‘อารองสุดยอดไปเลย!’

เพราะถ้าหากการคาดเดาของเขาถูกต้อง นายกเทศมนตรีหลี่ผู้นี้คือบุคคลที่อารองเตรียมการไว้!

‘เหนือมาก! ... มันจะต้องไม่ใช่การเตรียมการอย่างกะทันหันแน่!’

จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะชื่นชม คนอื่นๆคิดว่าอารองและหลี่เป่าหยวนไม่ลงรอยกันและถึงขั้นมีความขัดแย้งกันครั้งใหญ่ ดังนั้นแน่นอนว่าคงไม่มีใครคิดว่าอารองและนายกเทศมนตรีหลี่จะมีความสัมพันธ์เช่นนี้!

‘ไม่ธรรมดา... สมกับเป็นฝีมือของอารองจริงๆ!’

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาเป็นหนึ่งในบุคคลผู้ทรงอิทธิพลจากหลายคนในตระกูลจี้ เพียงแค่พ่อกับอารองสองคนก็สามารถยืนหยัดเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของตระกูลได้แล้ว อารองสุดยอดไปเลย!

ในความเป็นจริง หากลองคิดดูให้ดี อารองได้ใช้ความพยายามอย่างมากในเจียงโจว ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจในเจียงโจวพัฒนาและเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้ว เขาไม่อาจปล่อยให้คนอื่นมาทำลายสิ่งนี้ได้ตามใจ และย่อมต้องมีการเตรียมการมานานแล้ว

หลังจากที่จี้เฟิงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เขาก็เอ่ยทักทายบ้านตระกูลหลี่อย่างกระตือรือร้น

หลี่เว่ยปิงผู้นี้ ถึงแม้จะยังหนุ่ม แต่เขาดูมั่นคง และมีลักษณะใบหน้าที่คล้ายกับพี่ชาย(หลี่เว่ยตง)ของเขามาก

เห็นได้ชัดว่าเขาน่าจะอยู่ในแวดวงราชการด้วยเช่นกัน

ส่วนหลี่ลู่หนานในเวลานี้ยังคงจ้องมองไปที่ร่างกายของจี้เฟิง แววตาของเธอเจือไปด้วยรอยยิ้มจางๆ แต่ในโอกาสนี้เธอไม่ได้พูดคุยกับจี้เฟิงมากนัก อย่างไรก็ตาม ดวงตาที่เหมือนจะหรี่เล็กลงเรื่อยๆเวลาที่จ้องมองเขามันทำให้จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตลก

ต่อมาในมื้อกลางวัน จี้เฟิงได้พบกับหลี่เป่าหยวน ผู้ที่เขาเคยได้ยินแค่ชื่อเสียงมานาน และก็เป็นการยืนยันการคาดเดาของเขาในเวลาเดียวกัน

หลี่เป่าหยวนเป็นชายวัยกลางคนในวัย 50 ปี แต่เขายังคงดูแข็งแรงเต็มไปด้วยพละกำลัง และในขณะที่เขาพูดคุยกับจี้เจิ้นกั๋ว พวกเขาใช้คำพูดที่ค่อนข้างเป็นกันเอง เห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองนั้นแน่นแฟ้นมาก

จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขบขัน คนนอกคิดว่านายกเทศมนตรีหลี่และอารองของเขานั้นไม่ลงรอยกัน แต่ถ้าพวกเขาเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะแสดงสีหน้าออกมาอย่างไร

อย่างไรก็ตาม จี้เฟิงมีลางสังหรณ์บางอย่างว่าการลาออกจากตำแหน่งของอารองในครั้งนี้ อาจทำให้อะไรบางอย่างยากขึ้น ก่อนหน้านี้เขาเคยได้รับการสนับสนุนจากอารองอยู่บ่อยครั้ง แต่หนทางต่อไปเขาจะต้องลุยไปด้วยตัวเอง!

....จบบทที่ 881 ~

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด