ตอนที่แล้วตอนที่ 642 ตอบโต้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 643 เคียงไหล่ร่วมสู้

ตอนที่ 643 เคียงไหล่ร่วมสู้


การปรากฏของเรือรบสร้างความตกตะลึงให้กับทุกคน ไม่มีใครเคยคิดเลยว่าจะมีเรือรบมาซ่อนอยู่ใต้ดิน

หน้าของเหออิงเปลี่ยนไปทันที

กองพลที่สองก็มีเรือรบ แต่เรือพวกนั้นเป็นเรืองขนาดกลางหรือสูงกว่านั้นและเรือลำใหญ่ไม่สามารถสู้ในเมืองได้  ดังนั้นเขาเลือกใช้เรือโจมตีเร็ว  นอกจากนี้เรือรบขนาดเล็กมีราคาแพงมาก และประโยชน์ใช้สอยในการรบสู้เรือรบขนาดใหญ่หรือขนาดกลางไม่ได้  และถ้าพวกเขาต้องสู้กันในเมืองเรือโจมตีเร็วที่คุณภาพดีแต่ราคาถูกเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

“เรือรบธนูดำ!”

“แย่แล้ว!”

เจ้าได้รับสิ่งที่เจ้าได้จ่ายเงินซื้อมาน่ะหรือ  เรือรบธนูดำเป็นแค่เรือรบขนาดเล็กแต่ราคาเท่ากับเรือโจมตีเร็วถึงสิบลำและกองพลที่สองจะไม่รู้ความแข็งแกร่งของมันได้ยังไง?  เรือรบอย่างเรือธนูดำมีราคาแพงหูฉี่และแม้แต่กองพลที่สองก็ยังไม่มีปัญญาซื้อ เรือรบธนูดำส่วนใหญ่จะซื้อโดยคนร่ำรวยที่ทรงอิทธิพลที่เสริมไปด้วยองครักษ์ส่วนตัว

เดี๋ยวก่อน...คนร่ำรวยที่ทรงอิทธิพล...

ทหารของกองพลที่สองนึกได้ทันทีว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับคนรวยที่ทรงอิทธิพลอยู่จริงๆ เขาเป็นคนรวยที่ทรงอิทธิพลที่ใช้เงินกวาดถนนทองได้ในคืนเดียว! คนร่ำรวยที่ทรงอิทธิพลนี้หว่านเงินซื้อกองทัพได้สองกอง!

ทุกคนค่อยรู้สึกตัวทันที

ไม่ใช่เรื่องธรรมดาสำหรับคนรวยผู้มีอิทธิพลซื้อเรือธนูดำ  แต่คงแปลกแน่ถ้าไม่ใช่

และเมื่อพวกเขาเห็นตำแหน่งของเรือรบมังกรดำ ทหารทุกคนของกองพลที่สองเริ่มหลั่งเหงื่อเยียบเย็น

“ปกป้องเจ้านาย!”

“หยุดมันไว้!  รีบหยุดมัน!”

เสียงตะโกนดังกังวลและแตกตื่นเต็มอยู่ทั่วท้องฟ้า

หลังจากโจมตีสายฟ้าแล่บจากกองกำลังนางแอ่นเรือโจมตีเร็วเกือบทั้งหมดของกองพลที่สองถูกทำลาย เมื่อกองพลที่สองตระหนักว่าเรือของฝ่ายตรงข้ามคุกคามความปลอดภัยของเหออิง  พวกเขาตระหนักได้ว่าพวกเขาไม่มีเรือรบเสริมกำลังมากนัก

สัญชาตญาณแรกของพวกเขาก็คือหันกลับไปคุ้มกันเหออิง

แต่คนที่พวกเขาเจอกลับเป็นถังโฉ่ว  ทันทีที่เมื่อเรือรบปรากฏ  ปฏิกิริยาถังโฉ่วแตกต่างจากคนที่เหลือ  เขาลอบถอนหายใจโล่งอก

‘ในที่สุดนายท่านก็ปรากฏตัว’

เขาตระหนักรู้ถึงการต่อสู้ที่เกิดขึ้นที่ใต้ดิน  แต่ตั้งแต่เริ่มต้น  เขาไม่ได้พยายามถ่วงเวลาตั้งแต่แรก  เพราะเขามั่นใจถังเทียนอย่างแน่นอนในการต่อสู้ของเขาทั้งหมด ถังเทียนเจอศัตรูที่แทบเอาชนะไม่ได้  แต่ชัยชนะมักจะตกอยู่กับเขาเสมอ  ไม่ว่าสถานการณ์จะอันตรายเพียงไหน  เขาจะต้องเลือกว่าถังเทียนจะเป็นผู้ชนะเสมอ!

นี่เป็นทางเดียวที่จะได้รับชัยชนะ

เขาพนันได้ถูก

ถังโฉ่วถอนหายใจโล่งอกและสนองตอบเป็นคนแรก  ความอดกลั้นของถังโฉ่วในฐานะของขุนพลที่มีความโชกโชนเต็มที่  ไม่ว่าการต่อสู้จะรุนแรงเพียงไหน  จะใช้เวลาเพียงวินาทีเดียวกำหนดผู้ชนะ

“ทุกคน, โจมตี!”

โดยไม่คาดฝันถังโฉ่วเลือกโอกาสที่ดูเหมือนไม่น่าเชื่อออกคำสั่ง  ถ้าเป็นผู้บัญชาการที่โดดเด่นอย่างเซี่ยอวี่อันในเวลาแบบนั้นมักจะมีความลังเลใจเสมอ เพราะว่ามักจะมีการตัดสินใจของตัวเองในสถานการณ์เช่นนั้น  คำสั่งของถังโฉ่วดูเหมือนจะเกินกว่าเหตุผลปกติทำให้พวกเขาทุกคนฉวยโอกาสสู้

แต่หน่วยกะโหลกนำโดยอายะจะไม่ยอมปล่อยโอกาสบางครั้งเป็นพวกอ่อนแอก็มีประโยชน์เหมือนกัน อายะและหน่วยของนางไม่ทันเรียกคืนความรู้สึกหรือแม้แต่จะทำการตัดสินใจในสถานการณ์ พวกเขาไม่เข้าใจสถานการณ์อะไรทั้งนั้น ดังนั้นเมื่อพวกเขาได้ยินคำสั่งถังโฉ่วให้โจมตี  พวกเขาเคลื่อนไหวทันทีโดยไม่คิดอะไร

ทหารของกองพลที่สองซึ่งเตรียมตัวกลับไม่เคยคาดเลยว่าหน่วยกะโหลกจะหันกลับมาโจมตี ตกอยู่ในความแตกตื่นทุกคนงุ่มง่ามทำอะไรไม่ถูก

เนื่องจากความคิดของพวกเขาไม่สอดคล้องกันบางคนก็ยืนอยู่กับที่  บางคนก็กังวลบางคนก็กลับมามีอารมณ์ปกติ และเพราะสภาพใจที่แตกต่างกัน  การผสานงานของพวกเขากลายเป็นสับสนยิ่งขึ้น  สิ่งที่แย่ก็คือหน่วยกะโหลกตะลุยวิ่งเข้าหาพวกเขาโดยไม่มีความคิดอะไร  และทหารทุกคนที่กำลังหันกลับไปสนับสนุนเหออิงไม่สามารถตั้งตัวได้ทัน  จึงนำไปสู่การสูญเสียชีวิตมากมาย

หน่วยกะโหลกซึ่งไม่ได้มีพลังที่เหนือกว่าความจริงไม่ได้เสียเปรียบเลย

ถังโฉ่วดีใจ  ต่อให้กองพลที่ถูกตัดขาดครึ่งหนึ่งแต่ในเรื่องการปะทะ หน่วยกะโหลกก็ยังไม่ใช่ศัตรูของพวกเขา  กองพลนางแอ่นก็สามารถทำการรบได้  เพราะศัตรูประมาทพวกเขา  และอาศัยรูปขบวนศึกและอาวุธยุทโธปกรณ์บนเรือรบ

ถังโฉ่วรู้ว่าพลังโจมตีเต็มที่ของหน่วยกะโหลกไม่สามารถคงอยู่ได้นาน

แต่ถังโฉ่วไม่สนใจ  เมื่อเรือรบธนูดำปรากฏขึ้น เขารู้ว่าผู้ตัดสินผลของการรบไม่ใช่หน่วยกะโหลก  แต่เป็นถังเทียน

โดยไม่มีความลังเลใจ  เขาฝากความหวังชัยชนะให้กับถังเทียน

ตราบใดที่ถังเทียนสามารถฆ่าเหออิงก่อนหน่วยกะโหลกจะพ่ายแพ้  อย่างนั้นพวกเขาก็จะชนะ  ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเขาก็จะแพ้

สมาธิของถังโฉ่วทั้งหมดทุ่มอยู่ที่เรือรบธนูดำ

นายท่าน....

ถังเทียนนั่งเลือดท่วมตัวอยู่บนที่นั่งป้อมปืนใหญ่กระบี่รังผึ้ง  เขายินดีอยู่ในหัวใจ โชคดีที่เขาเลือกทหารสิบคนจากหน่วยกะโหลกมาช่วยควบคุมเรือรบ  ถ้าไม่อย่างนั้นเรือรบคงไม่มีทางแล่นได้  เรือรบธนูดำคือเรือรบขนาดเล็กและไม่จำเป็นต้องมีทหารควบคุมมาก

การสู้รบระหว่างถังเทียนและเซี่ยเฟยสร้างความตกตะลึงให้พวกเขา  พวกเขาไม่กล้าออกไปจากเรือ  ถ้ามีใครโชคร้าย  พวกเขาอาจถูกรังสีดรรชนีของเซี่ยเฟยฆ่าตาย

การสู้รบระหว่างยอดฝีมือทั้งสองไวเกินกว่าพวกเขาจะมองได้ทัน  นอกนี้ยังต้องพยายามหลบ

เมื่อถังเทียนเอาชนะเซี่ยเฟยได้  พวกเขาดีใจแทบบ้ากันทุกคน

แต่เมื่อเห็นถังเทียนเลือดท่วมเต็มตัวเวลาเดินก็ทิ้งรอยเท้าพร้อมกับรอยเลือด ก้าวเดินทีละก้าวขึ้นเรือรบพวกเขาเห็นเขายิ้มกว้าง ‘นายท่านต้องการนำเรือออกรบทั้งที่บาดเจ็บหนักขนาดนั้นหรือ?’

“เจ้าบุ่มบ่ามจริงๆ  ทำอย่างนี้ไปก็ไม่มีความหมาย”  เสี่ยวเอ้อพูดอย่างเย็นชา

ถังเทียนนั่งลงประจำที่ปืนใหญ่กระบี่รังผึ้ง มือที่เปื้อนเลือดของเขาจับที่ด้ามและพูดอย่างไม่พอใจ  “ข้ารู้สึกว่านี่แหละถึงจะมีความหมาย  แค่นั้นก็พอแล้ว”

เมื่อเห็นสายตาดื้อรั้นยืนกรานของเขา  เสี่ยวเอ้อจนใจ  “ข้าจะสู้ให้เจ้าเอง”

ปัง,ถังเทียนเอนตัวลงนั่น เขาเค้นรอยยิ้ม หน้าของเขาที่มีเลือดเต็มน่าเกลียดยิ่งกว่าร้องไห้เสียอีก  เสี่ยวเอ้อคิดว่าเขาได้รับความเชื่อใจจากถังเทียน  แต่ใครจะรู้กันว่าถังเทียนหัวเราะเสียงประหลาด“หึ หึ หึ หึ หึ มาร่วมสู้ด้วยกันเถอะ!”

เพียงแค่นั้นเขาหันหน้า ใบหน้าของเขาดูน่ากลัวทันที เขาโก่งคอตะโกน  “เดินหน้าฆ่าพวกมัน!”

พวกทหารแตกตื่นจากอาการตะลึง  และเข้าสู่สถานการณ์ร้อนแรงทันที  ไม่มีอะไรที่ทำให้พวกเขาตื่นเต้นเท่ากับผู้นำพาพวกเขาออกรบ

เหมือนกับว่าพวกเขากินยาโด๊บมาอย่างหนัก ทุกคนให้ความสนใจกับการควบคุมเรือธนูดำซึ่งแล่นออกจากพื้นอย่างรวดเร็ว

“หนุ่มชาวฟ้า, ลุย ลุย ลุย!”

เสียงคำรามลั่นของเขาดังก้องไปทั้งลำเรือ

เสี่ยวเอ้อสังเกตว่าถังเทียนอยู่ในอารมณ์โกรธ เจ้าเด็กงี่เง่านี่ดูเหมือนจะไม่รู้สึกว่าเสียเลือดไปมาก  กล้ามเนื้อก็แดงเหมือนกับเหล็กร้อนปลดปล่อยไอประหลาดออกมามากมาย ตัวเขากำลังเผาไหม้ร้อนแรงทำให้เรือทั้งลำมีกลิ่นเลือด

‘บ้าระห่ำขนานแท้!’

‘สู้เคียงข้างกัน…’

เสี่ยวเอ้อส่ายหัว  เขาเก็บกระบี่เซียนปราบสมุทรไว้และลอยตัวมาที่ป้อมปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งและนั่งลง ขนาดที่น่ารักของเสี่ยวเอ้อพอนั่งบนเก้าอี้ใหญ่กลับดูน่าขบขันและน่ารักอย่างบอกไม่ถูก

เสี่ยวเอ้อไม่สนใจ แต่สัมผัสปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งด้วยความสงสัย  หน้าน้อยๆ เหมือนตุ๊กตาของเขาดูน่ารัก

ครืนนครืนน  ครืนน!

เรือรบกระแทกก้อนหินข้างหน้าพวกเขา

การแสดงความห้าวในสนามรบทำให้ถังเทียนตื่นเต้นทันทีและเขาเริ่มตะโกน  “ไป ไป ไป!”

‘งี่เง่าเอ๊ย!’

เสี่ยวเอ้อไม่สามารถเหลือกตาได้‘ตราบใดเจ้างี่เง่านี่ปรากฏตัว อย่าหวังเลยว่าสันติภาพกับความสงบจะเกิดขึ้นได้’

แต่,ปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งนี้ ค่อนข้างน่าสนใจ...

หินก้อนใหญ่ถูกถูกเรือธนูดำชนแตก เรือทั้งลำสั่นอย่างรุนแรงทำให้ถังเทียนตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น

สิ่งแรกที่ถังเทียนเห็นทันทีที่ลอยตัวขึ้นจากพื้นก็คือเหออิง

ถ้าเราจะบอกว่าถังโฉ่วมีสายตาตัดสินใจได้อย่างประหลาด  อย่างนั้นถังเทียนมีสัญชาตญาณที่น่ากลัวเท่าเทียมกับสัตว์ป่า  เขาเริ่มโจมตีใส่เหออิงโดยไม่ต้องคิดอะไร

เหออิงไม่สามารถตั้งตัวได้ทันจากเหตุการณ์ที่พลิกผันไปกะทันหัน  และเป็นโอกาสที่หาได้ยากมาก

‘โอกาส!’

กระบี่ด้านหลังเก้าอี้ของถังเทียนสว่างทันที

ฟิ้ววว!

รังสีกระบี่สายหนึ่งยิงออกไป  แต่ถังเทียนได้รับพลังสะท้อนกลับจนกระอักโลหิตและสูญเสียการควบคุมรังสีกระบี่ที่บินออกไปทันที

ถังเทียนสีหน้าเปลี่ยน  ยุ่งแล้ว!

แม้ว่าเรือรบธนูดำจะเป็นเรือรบขนาดเล็ก  แต่ก็เป็นเรือรบระดับเงินขนานแท้  พลังของเรือรบระดับเงินติดตั้งอาวุธระดับเงินทั้งหมด คำขอของถังเทียนของให้เปลี่ยนอาวุธเรือรบเป็นของระดับเงินทั้งหมด

พลังของอาวุธเรือรบระดับเงินรุนแรง แต่เกณฑ์ในการใช้ก็แน่นมาก ตัวอย่างเช่น ‘ดาบล้างสวรรค์’ เมื่อถูกกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งใช้ ก็ต้องให้คนฝีมือดียี่สิบคนดวงดาบ ด้วยการผสานพลังที่มีความถี่ถึง 75%  ก็สามารถแสดงพลังที่แท้จริงได้และถ้าความถี่ในการผสานพลังตกลง 70% มันจะใช้งานไม่ได้

และเพราะมันถูกใช้โดยคนคนเดียว  จึงต้องใช้เซียนระดับเงิน

ใช่แล้วเซียนระดับเงิน

แย่จริง!

ปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งมีคุณภาพที่สูงกว่าปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งบนเรือรบของฉินอวี่หรันนั่นหมายความว่าแรงสะท้อนย่อมต้องรุนแรงกว่า ถังเทียนบาดเจ็บสาหัสจึงไม่สามารถป้องกันได้  ดังนั้นจึงได้ผลที่น่าตกใจ

สิ่งที่ถังเทียนรู้สึกไม่สบายใจไม่ใช่เพราะเขากระอักเลือด  แต่เป็นเพราะเขาไม่อาจคว้าโอกาสไว้ได้

รังสีกระบี่พลาดเป้าเหออิงไปทำให้เขาถึงกับเหงื่อตก

“เฉียดใกล้ข้าจริงๆ!”

เหออิงคำรามองครักษ์ฝีมือดี 20 คนรอบตัวเขาเหาะเข้ามาใกล้ๆ เขา ในเวลาอันรวดเร็วรังสีก็ผสานรวมกันเป็นหนึ่ง  ความถี่ในการประสานของพวกเขาสูงมาก

สีหน้าของเซี่ยอวี่อันถึงกับไม่ดีความถี่ของพลังงานที่ผสานกับระหว่างคนทั้ง 21 คนสูงอย่างน่าประหลาด  92%!

เหออิงใช้โอกาสนี้อวดพลังกองทัพระดับเงินให้เซี่ยอวี่อันดู

ความถี่ในการประสานพลังงานสูงอย่างน่าประหลาดแฝงด้วยรังสีที่ทรงพลังมีคนแค่ 21 คนแต่พลังที่ปล่อยออกมาจากพวกเขาให้ความรู้สึกเหมือนกองทหารเล็ก

‘ทรงพลังมาก...’

เซี่ยอวี่อันกัดฟันแน่น  ตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวลใจน่าเสียดายที่กองกำลังนางแอ่นทุกคนอยู่บนพื้นและเขาไม่สามารถตอบโต้ได้

รังสีดาบเพลิงสีแดงยิงออกมาจากขบวนคน21 คนและฟันใส่เรือรบธนูดำอย่างดุดัน

ปัง!

แสงรังสีแตกกระจาย  ท้องฟ้ายามราตรีสว่างวาบม่านพลังงานของเรือรบธนูดำสั่นสะเทือนรุนแรง เสียงจากการปะทะทั้งสองฝ่ายได้ยินทั่วทั้งเมือง

ถังเทียนจับด้ามปืนใหญ่แน่นหน้าของเขากระตุกเล็กน้อย เรือรบโคลงเคลงอย่างรุนแรงทำให้แผลของเขาเปิดอีกครั้ง  เป็นเหตุให้เลือดไหล

สีหน้าของถังเทียนยิ่งเพิ่มความน่ากลัวและดุร้าย  ‘เผชิญหน้ากับเจ้าในตอนนี้แล้ว  มีแต่ผู้กล้าถึงจะชนะ  ขณะนี้ไม่เป็นเจ้าก็ข้า

พลังงานทะลักเข้าไปในปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งอย่างเมามัน  กระบี่ที่ลอยอยู่รอบตัวเขาสว่างเจิดจ้า

วืดดด  วืดดดด วืดดดดด

ร้อยกระบี่พร้อมกัน!

“ฆ่า!”

รังสีกระบี่นับร้อยระดมยิงเหมือนสายฝน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด