ตอนที่แล้วตอนที่ 641 ความเคลื่อนไหวของสือเซิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 643 เคียงไหล่ร่วมสู้

ตอนที่ 642 ตอบโต้


ปัง!

อีกร้านหนึ่งถูกทำลายเป็นชิ้นๆ  ทหารทุกคนในที่อยู่ภายในมีประสบการณ์ดีอยู่แล้วดังนั้นก่อนที่ม่านพลังจะแตกสลาย  พวกเขารีบถอยทันทีแต่ก็ยังมีสิบคนที่ไม่สามารถถอยได้ทันถูกฝังอยู่ในนั้นทั้งเป็น

หลายร้านถูกทำลายเป็นชิ้นๆและเหลืออยู่เพียงไม่กี่ร้านที่รอดพ้นจากการระเบิด ทุกร้านที่ยังเหลืออยู่เป็นร้านค้าธุรกิจของตระกูลใหญ่อยู่บนถนนทอง  ตัวอย่างเช่นห้างของสมาคมการค้าสวีจี้ ธุรกิจของพวกเขามักจะเจริญรุ่งเรืองและมีสินค้าดีๆ ราคาแพงอยู่ภายในดังนั้นโครงสร้างของร้านค้าจึงไม่อ่อนแอ

เหออิงยิ้มเยาะอย่างชั่วร้าย,หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความปีติยินดีท่วมท้นยิ่งกว่าความอับอายที่เขาได้รับที่คฤหาสน์จันทราหลังจากที่อีกร้านหนึ่งถูกทำลายเป็นชิ้น ทำให้เขาตื่นเต้นยินดี  ‘เจ้าพวกมดแมลง  ไปตายซะเถอะ  พวกเจ้าทุกคนต้องตาย!’

“บุก!”

“กดดันพวกมัน!”

“ทลายถนนสายนี้ให้กับข้า!”

เสียงของเหออิงดังออกมาในบริเวณใกล้เคียง

เรือรบโจมตีเร็วและพวกทหารพากันตื่นเต้นกระเหี้ยนกระหือจะสู้อย่างสุดกำลัง  จนถึงตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามยังไม่มีโอกาสโจมตีเลยสักครั้ง อาจกล่าวได้ว่าทั้งสองกองทัพข้างล่างที่เพิ่งซื้อมา พวกเขาไม่เคยได้ยินว่ามีกองทัพที่สามารถซื้อได้ ในกองพลที่สองเต็มไปด้วยความรังเกียจและเหยียดหยามศัตรูเช่นนั้น

สถานการณ์การสู้รบเป็นไปตามคาดการณ์ของพวกเขา

‘เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังที่แน่นอน  ศัตรูข้างล่างเป็นแค่ฝูงมดแมลงเท่านั้น’

‘สู้กับมดแมลงทำไมต้องใช้กลยุทธ์ด้วย? ก็แค่ชนกันตรงๆ  ตะลุยเข้าไปก็พอ!’

เมื่อเห็นว่าศัตรูเข้ามาใกล้  และเรือโจมตีเร็วอยู่ในระยะน้อยกว่า 100เมตรจากพวกเขา  เซี่ยอวี่อันก็สามารถเห็นศัตรูอยู่บนเรือโจมตีเร็วกำลังยกนิ้วกลางและหัวเราะเยาะพวกเขา  ขบวนเรือโจมตีเร็วกำลังโอบล้อมพวกเขาไว้หนาแน่น

‘เรารอมาเป็นเวลานานแล้วในที่สุดก็ได้เวลาเสียที...’

‘ในที่สุดก็ได้เวลาที่พวกเจ้าทุกคนจะได้ลิ้มรสพลังของพวกเรา’

เซี่ยอวี่อันใช้พลังในตัวทั้งหมดตวาดลั่น  “โจมตี!”

กองกำลังนางแอ่นเตรียมพร้อมรออยู่นานแล้วระบายความโกรธทั้งหมดทันที ลำแสงนับไม่ถ้วนยิงขึ้นมาในท้องฟ้าเหมือนกับกระสุนปืนฝนกระบี่ที่หนาแน่นยิงออกไปโดยไม่มีการเตือนศัตรูให้รู้แต่อย่างใด

ประจัญบานทันที

ทุกคนรวมทั้งเหออิงคิดว่าศัตรูสูญเสียพลังต้านทานไปแล้ว  และไม่คาดเลยว่าจะถูกซุ่มโจมตีหนักหน่วงขนาดนั้น

ตอนแรกเริ่มพวกเขายังคงระมัดระวังตัวอย่างมาก  เนื่องจากหน่วยกองหน้าทะลวงฟันของพวกเขาถูกทำลายทำให้เหออิงระมัดระวังตัวมาก แต่ด้วยความได้เปรียบมากมายและความโกรธจากความอับอาย  ในที่สุดเขาก็สูญเสียความระมัดระวังตัวต้องการย่ำยีมดแมลงทั้งหมด ทหารของกองพลที่สองเป็นกลุ่มของทหารที่หยิ่งยโส  ทั่วทั้งถนนทองถูกพวกเขาทำลายจนเกือบหมด  และศัตรูยังคงหดหัวอยู่ในกระดอง  ดังนั้นพวกเขาเริ่มดูหมิ่นศัตรู  การสู้รบดูเหมือนเป็นผลงานอย่างหนึ่ง  เป็นผลงานที่งดงามในเมืองทรายขาว

เรือโจมตีเร็วบางลำที่กำจัดม่านพลังป้องกันได้ก็แสดงความกล้าหาญของพวกเขา

และเมื่อการโจมตีที่รุนแรงมาถึงอย่างกะทันหัน  พวกเขาพากันตะลึงกันหมด

ปังปัง ปัง!

เรือโจมตีเร็วที่บินระดับต่ำสองสามลำไฟลุกท่วมทันทีตามมาด้วยการระเบิดที่รุนแรงส่วนต่างๆของเรือปลิวกระเด็นไปทุกแห่งและรังสีกระบี่แสงที่หนาแน่นดังหวีดหวิวเต็มท้องฟ้าภายใต้การโจมตีที่หนาแน่น ยอดฝีมือที่กำลังบินเองถูกกระบี่แทงทะลุทันที เลือดกระเซ็นไปทุกหนแห่ง  เสียงกรีดร้องระงมผสมกับเสียงหวีดหวิวของกระบี่

ทหารกองกำลังนางแอ่นโห่ร้องอย่างบ้าคลั่งทุกคน หูของพวกเขาไม่ได้ยินอะไรอื่นนอกจากเสียงกรีดร้องของพวกเขาพวกเขาไม่ยั้งมือในการปล่อยพลังงานจากร่างพวกเขาใส่อาวุธบนเรือ  อาวุธบนเรือรบทุกอย่างติดตั้งเป็นรูปขบวนและกลายเป็นเครื่องจักรฆ่าที่ทรงอานุภาพ

พวกเขาใช้กองทัพบรอนซ์ในพื้นที่เล็ก  ไม่ว่าการฝึกประจำวันจะเข้มงวดเพียงไหนพวกเขาไม่เคยผ่านสงครามที่แท้จริง  ต่อหน้าทหารระดับเงิน  พวกเขาไม่มีพลังพอต่อสู้ แม้ว่าการโจมตีอย่างหนาแน่นของศัตรูจะทำให้พวกเขาทั้งหมดสำลักด้วยความกลัว

ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่มีทางถอย ถ้าไม่ใช่เพราะการฝึกฝนอย่างเข้มงวดภายใต้การกำกับของถังโฉ่ว ถ้าไม่ใช่เพราะความเคารพที่มีต่อผู้บัญชาการของเขาอย่างลึกซึ้งและความสัมพันธ์ที่สนิทสนม  พวกเขาคงพังทลายไปก่อนนั้นแล้ว

แต่ขณะที่เมื่อเซี่ยอวี่อันออกคำสั่งให้โจมตี  ความกลัวทั้งหมดเปลี่ยนเป็นความบ้าคลั่งในการรบ

‘เจ้าไม่ตาย ก็เป็นข้าสิ้น!’

บึ้ม!

ระเบิดทำให้เกิดไฟลุกไหม้ในขบวนเนื่องจากหนึ่งในอาวุธเรือรบไม่สามารถทนความหนาแน่นของพลังานได้การระเบิดมีผลต่อทหารที่อยู่ภายใน แต่โชคดีที่ระดับการระเบิดไม่รุนแรงเท่าใดนั้นดังนั้นจึงไม่มีทหารบาดเจ็บ  แต่หลังจากสูญเสียอาวุธทหารก็อยู่ในสภาพสูญเสีย  พวกเขายังไม่มีอารมณ์ต้องการสู้

บึ้มบึ้ม บึ้ม!

การระเบิดยังคงต่อเนื่องมาจากวงล้อมจากท้องฟ้า ขณะที่กลุ่มเปลวเพลิงร้อนแรงและแสงรัศมีฉายอยู่ในท้องฟ้า

ถังโฉ่วมองดูเซี่ยอวี่อัน เซี่ยอวี่อันที่มีนิสัยสงบใจเย็นแต่ในขณะนั้นมองดูเหมือนคนบ้า  แต่ถังโฉ่วไม่ล้อเขาแม้แต่น้อยมีแต่ชื่นชมเขามากขึ้น

เซี่ยอวี่อันคือผู้นำทหารที่มีพรสวรรค์โดดเด่น ถังโฉ่วไม่เข้าใจว่าผู้นำที่โดดเด่นจะลงเอยกลายเป็นกองทัพที่ถูกซื้อได้ยังไง  เทียบกันที่มาตรฐานผู้นำแล้ว  เซี่ยอวี่อันมีมากกว่าอายะหลายเท่า

เซี่ยอวี่อันจัดกระบวนทัพได้ดี แม้แต่ถังโฉ่วที่เป็นคนจุกจิกก็ยังหาข้อบกพร่องไม่ได้  แม้จะมีกรอบเวลาที่จำกัดเซี่ยอวี่อันมีการเตรียมตัวจัดกระบวนรบเป็นอย่างดี  เขาไม่ใช้ร้านค้าเป็นหลักใหญ่โดยตรงในการจัดกระบวน  แต่ใช้คลังสินค้าที่อยู่ใต้ร้านและร้านค้าผิวเผินด้านหน้า

คลังสินค้าใต้ดินทั้งหมดนี้มีห้องลับเป็นสถานที่สำคัญที่สุดสำหรับตระกูลที่ทำธุรกิจทุกตระกูล  เนื่องจากพวกเขาใช้เก็บสินค้าที่มีค่า

ร้านค้าด้านบนถูกกระแทกทำลายเป็นชิ้น  แต่ส่วนหลักของกระบวนทัพไม่ได้เสียหายมาก และอาวุธยุทโธปกรณ์จัดอยู่ในตำแหน่งที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้นการวางกำลังหนาแน่นจนน้ำไม่สามารถรั่วซึมเข้าไปได้  นั่นผ่านการวางแผนอย่างพิถีพิถันและแม่นยำลำแสงนั่น กระสุนแสงนั่นและกระบี่แสงในท้องฟ้าสานกันเป็นตาข่ายขนาดใหญ่  ตาข่ายมรณะที่แท้จริง

นอกจากนั้นสิ่งที่ถังโฉ่วชื่นชมที่สุดก็คือความมั่นคงของเซี่ยอวี่อัน

เพื่อให้แน่ใจว่าศัตรูไม่ได้ตระหนักถึงความตั้งใจที่แท้จริงของพวกเขา รูปขบวนปลอมบนพื้นผิวและมีทหารรักษาการณ์อยู่ในนั้น การโจมตีรุนแรงจากกองพลที่สองทำให้ทหารบนภาคพื้นตาย  แต่เซี่ยอวี่อันยังคงรักษาความสงบและรอให้โอกาสดีที่สุดมาถึง

ทหารคนสนิทของเขาเรียกร้องให้เขาดำเนินตามแผนหลายครั้ง  แต่เซี่ยอวี่อันยังคงยืนกรานไม่หวั่นไหว

ผู้บัญชาการทหารที่โดดเด่น

ถังโฉ่วยังคงรักษาความนิ่งเฉยไว้ แต่ละคนในกองกำลังนางแอ่นยังไม่นับว่าแข็งแกร่ง  มีเซียนระดับเงินในหน่วยน้อยเกินไป  ดังนั้นพวกเขาไม่สามารถทนต่อการโจมตีรุนแรงได้นานเกินไป

แต่เซี่ยอวี่อันทำได้ดีมากกว่าที่เขาคาดไว้  และการสู้รบหลังจากนั้นจะตกเป็นของเขา

ตาของถังโฉ่วเป็นประกายเย็นชา หน่วยกะโหลกรวมตัวกันเรียบร้อยและเตรียมโจมตีตอบโต้

ภายใต้การคาดการณ์ของเขาในช่วงเวลาสั้นๆ ห้านาทีพลังโจมตีที่กองกำลังนางแอ่นได้เริ่มไว้จะมีกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว  ทหารของกองกำลังนางแอ่นยังขาดประสบการณ์และไม่รู้วิธียืนสู้ระยะยาวและรูปขบวนการป้องกันชั่วคราวยังไม่อาจเทียบเรือโจมตีเร็วได้

เรือโจมตีเร็วต้องใช้พลังงานดังนั้นพวกทหารจำเป็นต้องคำนวณและวางแผนว่าจะต้องเหลือพลังงานเท่าใดนอกจากใช้รุกสู้ แต่อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่ในกระบวนของกองกำลังได้ใช้พลังงานของพวกเขาไปหมดแล้ว

แต่ในช่วงเวลาห้านาทีก็ได้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง

เรือโจมตีเร็วในอากาศถูกกวาดล้างไปหลายลำ  ขณะที่เรือโจมตีเร็วถูกศัตรูโจมตีพวกเขาถูกกวาดล้างไปมาก เพราะทหารในท้องฟ้าถูกฆ่าตายไปถึงหนึ่งในสาม

เรือโจมตีที่มีพลังทำลายมากก็ต้องใช้ทหารมากเนื่องจากสร้างความเสียหายได้มาก

เหออิงจ้องมองสนามรบอย่างว่างเปล่า เขาไม่เคยคิดเลยว่าสถานการณ์จะกลับกลายเป็นเช่นนั้นกะทันหันนอกจากกองพลที่สองของเขา เขาสูญเสียกำลังพลไปเกือบครึ่ง และความสูญเสียเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

‘เป็นไปไม่ได้....’

เหออิงไม่อยากเชื่อตาตนเอง  ‘ข้าติดกับหรือนี่?’

เขามองดูถนนที่คล้ายกับซากปรักหักพังด้วยใจว่างเปล่า  ใจของเขามึนงง ใจของเขารู้สึกเหมือนถูกมดกัด

เขาไม่ทันสังเกตว่ามีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งวิ่งออกมาทันที

หลังจากได้พักแล้วหน่วยกะโหลกได้ฟื้นคืนความสามารถในการต่อสู้  โดยมีอายะเป็นผู้นำออกมาแถวหน้า  พวกเขาจัดเป็นกลุ่ม 15คนเหมือนกับมีหนามพิษหลายเล่ม เป้าหมายของพวกเขาก็คือทหารกองพลที่สองในท้องฟ้าที่พ่ายแพ้แตกขบวน

หลายร่างเฉียดผ่านสายตาของเขาไปทำให้เหออิงตกใจและฟื้นคืนความรู้สึก

เมื่อเขาเห็นสถานการณ์ชัดเจน  เขาเกิดอาการเลือดขึ้นหน้า

‘เจ้ามดแมลงพวกนี้ บังอาจโจมตีข้า!’

‘พวกมันช่างห่ามจริงๆ’

‘กองทหารรับจ้างบังอาจโจมตีใส่กองทัพเงิน...’

เหออิงไม่เคยรู้สึกอายแบบนั้นมาก่อนในชีวิต  พวกเขาคือกองพลที่สอง  นอกจากซัวปี่ในทวีปทรายขาวแล้วไม่มีใครแข็งแกร่งมากกว่าเขา!

‘กองพลที่สองคือทหารฝีมือสูง!’

‘กองทหารรับจ้างบังอาจชูอาวุธต่อหน้าเราเชียวหรือ?’

เหออิงโกรธจนตัวสั่น  ‘ฆ่าพวกมันให้หมด!”

กองพลที่สองค่อยเรียกความรู้สึกกลับมาได้  ทุกคนบินเข้ามาด้วยความโกรธ  ตาพวกเขากลายเป็นสีแดงและพวกเขาไม่มีความลังเลใจตรงรี่เข้าหาศัตรู พวกเขาต้องการฟันศัตรูให้ขาดเป็นชิ้นๆ

แต่ใครจะรู้กันเล่าเมื่อกองทหารรับจ้างเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดี  พวกเขาก็เริ่มหันหลังหนี

‘หนี?  พวกมันจะหนีไปไหน?’

กองพลที่สองไล่ตามศัตรูของพวกเขาอย่างไม่เลิกรา  ในอกของทุกคนเต็มไปด้วยเพลิงโกรธ  พวกเขาเป็นทหารที่มีประสบการณ์  และรู้ทันทีว่าทหารที่อยู่ในรูปกระบวนศึกไม่มีพลังเหลือแล้ว  ดังนั้นตราบใดที่พวกเขากำจัดเจ้าพวกที่วิ่งหนีได้  พวกเขาจะชนะ

ไม่,เวลานี้ไม่มีใครคิดเรื่องชัยชนะ พวกเขาแค่ต้องการสังหาร ขอเพียงสังหารศัตรูของพวกเขาก็จะทำให้พวกเขาระบายความแค้นในอก

เหออิงก็รู้สึกทำนองเดียวกันเมื่อเห็นทหารของเขาไล่ล่าศัตรูเหมือนกับเสือที่มีความแค้นต่อหมาป่า  เพลิงอำมหิตในใจของเหออิงยิ่งลุกโชน

ในพริบตาเดียวเหออิงตระหนักได้ทันทีว่ารอบๆตัวเขาว่างเปล่า

เขาก้มหน้ามองดูทหารของเขาไล่ตามศัตรูทิ้งระยะห่างออกไป

แย่แล้ว!

หน้าของเหออิงซีดขาว  รอบๆ ตัวเขาเหลือผู้คุ้มกันเพียง 20 คน

“รวม...”

เหออิงตวาดร้องเรียกยังไม่ทันจบเมื่อถนนที่อยู่ด้านใต้เขาเริ่มมีรอยแตกร้าวเหมือนรูปใยแมงมุม

รอยร้าวรูปใยแมงมุมเผยอเปิดออก

ทั่วท้องฟ้าเต็มไปด้วยฝุ่นหินปลิวกระเด็นเหมือนเหมือนฝน เรือรบลำหนึ่งถูกทำลายร่วงกับพื้นทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด