ตอนที่แล้วตอนที่ 639 กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 641 ความเคลื่อนไหวของสือเซิน

ตอนที่ 640 ต้องสู้เท่านั้น


เข็มแสงแหลมคมกระทบเข้าหน้าผากของถังเทียน

ถังเทียนหัวเราะทันที  การหัวเราะครั้งนี้สำหรับเซี่ยเฟยนับว่าประหลาดมาก เซี่ยเฟยสะท้านใจ นางเบิกตากว้างมองเหมิ่งหนานทันที   เขาต้องเป็นคนเหี้ยมหาญดุร้ายอย่างเหลือเชื่อ ถ้าไม่อย่างนั้นจะสามารถหัวเราะแปลกประหลาดขนาดนั้นได้ยังไง?

แสงเรียวเล็กพุ่งไปที่หน้าผากถังเทียน

หัวใจของเซี่ยเฟยตกวูบ  แต่นางไม่รู้สึกดีใจสักนิด  นางไม่รู้สึกอะไรจากแสงรังสีน้อยของนาง  นี่ทำให้นางรู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก  แสงล้างผลาญไม่เคยพลาดเป้า หรือว่านางคิดไปเอง

ในทวีปกวงหมิงแสงล้างผลาญเป็นวิชาวิญญาณที่ทรงพลังมากที่สุด เป็นวิชาจิตวิญญาณของสวรรค์วิถี แต่ก็ทรงพลังมาก

เดี๋ยวก่อน!

จากหางตานางเซี่ยเฟยสามารถเห็นบางอย่างกระพริบผ่าน ร่างของนางชะงักค้าง  นั่นคือ...

ร่างของถังเทียนปรากฏอยู่ด้านขวาของนางทันที

“เคลื่อนย้ายพริบตา!”

‘เคลื่อนย้ายพริบตา, เหมิ่งหนานคือ...

เซี่ยเฟยตื่นตระหนก  เคลื่อนย้ายพริบตาคือวิชาจิตวิญญาณ และมีเพียงที่เดียวในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่มีวิชานี้ก็คือทวีปกวงหมิง  ‘เหมิ่งหนานไม่ได้มาจากทวีปกวงหมิง  นั่นก็หมายความว่าเขามาจากสวรรค์วิถี!  เพราะวิชาเคลื่อนย้ายพริบตาของทวีปกวงหมิงก็มาจากที่นั่น!’

เหมิ่งหนานมาจากสวรรค์วิถี  นั่นทำให้นางแตกตื่น

‘แต่เหมิ่งหนานไม่มีคลื่นพลังงานอยู่ในตัวแม้แต่น้อยเขาใช้วิชาจิตวิญญาณได้ยังไง?’

จากนั้นนางสังเกตว่าบนไหล่ของเหมิ่งหนานมีคู่หูวิญญาณร่างเหมือนเด็กมาปรากฏเมื่อใดไม่รู้ มันสวมชุดสีน้ำเงิน และสีหน้าไร้ความรู้สึกคล้ายเหมิ่งหนานมันดูน่ารักมาก  แต่มันน่ารักจนทำให้คนอยากต่อยตียิ่งนักมันมีสีหน้าเฉยเมย

‘ข้าไม่เคยคิดว่าเมื่อตื่นขึ้นมาจะกลายเป็นแบบนี้...’

‘เจ้าเด็กงี่เง่านี่ รู้จักแต่ก่อเรื่องยุ่งจริงๆ...’

‘น่ารังเกียจเป็นบ้า!’

เสี่ยวเอ้อจ้องมองสตรีที่อยู่ต่อหน้าเขา  นางปลดปล่อยปราณที่น่าขยะแขยง

‘ความมืดปกติจะไม่ถูกกับแสง…’

‘กลิ่นคาวเลือดล่องลอยมาจากในอากาศ มาจากเจ้าเด็กงี่เง่านี่ ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเซี่ยเฟยจะสามารถบีบบังคับถังเทียนอยู่ในสภาพเช่นนี้’  เสี่ยวเอ้อลอบประหลาดใจ  แต่หลังจากประหลาดใจเขาเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟันหนาแน่น

‘ถ้าเจ้าเด็กงี่เง่านี่ตาย อย่างนั้นข้าก็จะตายไปด้วย’

เขายังคงนิ่งทำท่าผนึกมือจากนั้นวาดมือโค้งในท้องฟ้า

รัศมีนับไม่ถ้วนรอบตัวเขาตัดไขว้กันไปมาเป็นรูปกระดานหมากรุก โดยมีเสี่ยวเอ้ออยู่ตรงกลาง เขาเริ่มผายมือออก

กระบี่ศุภลักษณ์!

เซี่ยเฟยรู้สึกถึงอันตรายและบอลแสงในมือนางยิงรัศมีใส่เสี่ยวเอ้อ

ร่างของเสี่ยวเอ้อกระพริบและเขาหายไปทำให้รังสียิงผิดพลาด เสี่ยวเอ้อมาปรากฏตัวที่มุมกระดานหมากรุกแสง โดยไม่มีเค้าลางอะไรมือขวาของเขาคว้าอากาศ ซี่ ซี่ ซี่ ประกายแสงถูกกระตุ้นและกระบี่เซียนปราบสมุทรถูกชักออกมาจากมิติว่าง เพลิงดำมิติว่างกระพริบลามเลียออกมา เสี่ยวเอ้อพลิกมือแทงกระบี่ใส่กระดานหมากรุก

เมื่อกระบี่แทงใส่ข่ายกระดานหมากรุก  แสงรังสีสั่นสะท้าน

ควับ!

เพลิงดำมิติว่างลามเลียเหมือนกับงูดำบิดตัวไล่ไปตามแนวเส้นตารางหมากรุก  ถ้ามีใครมองดูดีๆก็จะตระหนักได้ว่าตามขอบข้างของเพลิงดำมิติว่างจะมีเพลิงใสที่ครอบคลุมเพลิงดำมิติว่าง  เพลิงนั้นก็คือเพลิงกลืนวิญญาณนั่นเอง

รัศมีแสงบนของตารางหมากรุกเกิดเป็นตาข่ายขนาดใหญ่

ในที่สุดเซี่ยเฟยก็เปลี่ยนสีหน้า  ความรู้สึกถึงอันตรายไหลหลากเข้ามาในใจนาง  เป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกเช่นนั้นนางหมุนตัวหนีโดยไม่ลังเล

นางขว้างบอลแสงใส่เสี่ยวเอ้อและหนีไป

เสี่ยวเอ้อก็สีหน้าเปลี่ยนเช่นกัน  บอลแสงบรรจุพลังงานในปริมาณที่น่ากลัว  เขาล้วงลูกปัดออกมาถือในมือ เป็นลูกปัดข่มพลัง!

มือสีขาวบริสุทธิ์ของเขาถือลูกปัดข่มพลังเขามองดูเหมือนกับจะเล่นหมากรุก เขาโยนมันออกไป

ทันทีที่ลูกปัดข่มพลังสัมผัสข่ายตารางหมากรุก  เพลิงที่อยู่ทั่วข่ายตารางหมากรุกดูเหมือนจะหยุดลง  แต่ในเวลาต่อมาเพลิงก็รุกโหม ดูเหมือนกับว่ากระดานหมากรุกจะกลับมีชีวิตและมีชั้นพลังงานที่น่าอัศจรรย์

วูบบบ!

ตารางหมากรุกลุกโชนในตำแหน่งแนวขวางเหมือนกับตาข่ายเพลิง มันพุ่งเข้าหาบอลแสง

ตาข่ายเพลิงรวดเร็วมาก เมื่อสัมผัสกับบอลแสงก็เริ่มห่อหุ้มไว้อย่างหนาแน่น

เซี่ยเฟยหันหลังวิ่งและวิ่งออกไปอย่างรู้สึกยินดีเมื่อนางเห็นดังนั้นและตวาด “ระเบิด!”

แสงในตาข่ายเพลิงกระจายทันที  แต่แสงจากตาข่ายเพลิงแข็งแกร่งมากและจับแสงของบอลแสงไว้กับที่

เซี่ยเฟยตกใจ ความสุขสุดท้ายหายวับไปทันที  นางไม่สนใจศัตรูที่เบื้องหลังอีกต่อไปเร่งฝีเท้าหนีเต็มที่

ทันใดนั้นร่างโชกเลือดปรากฏอยู่ต่อหน้านาง

ถังเทียนแค่นเสียงแสยะยิ้มเห็นฟันสีขาว  “ข้ากำลังรอเจ้าอยู่!”

หมัดเดียว

เป็นหมัดทื่อธรรมดาไม่มีความเคลื่อนไหวซับซ้อนเพียงหมัดเดียว วิชาหมัดพื้นฐาน

เซี่ยเฟยหวาดหวั่นพลังงานทั้งหมดในอากาศสั่นสะท้านจากหมัดเพียงหมัดเดียว

‘กฎธรรมชาติ!’

‘หมัดนี้แฝงด้วยพลังแห่งกฎธรรมชาติ....’

หมัดของถังเทียนเปล่งรัศมีเลือนรางเป็นรัศมีที่แตกต่างจากการระเบิดของพลังงานทุกส่วนสั่นกระพือและพลังงานรอบตัวพวกเขาในอากาศก็สั่นสะเทือนเช่นกัน

รังสีหมัดที่พร่าเลือนยิงออกมาโดยไม่มีร่องรอยใดๆในอากาศ แต่กลับมาปรากฏอยู่ต่อหน้าของเซี่ยเฟยทันทีและเข้าไปในร่างนาง

เซี่ยเฟยที่เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วรวดเร็วเหมือนกับต้องมนต์ดำและสะท้านอยู่กับที่

ดวงตานางเบิกกว้างนางไม่สามารถขยับหรือทำอะไรได้

เสี่ยวเอ้อเหม่อมองจ้องดูถังเทียน  เขาไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง  เมื่อถังเทียนปล่อยหมัดออกมาลูกปัดข่มพลังเปล่งแสงทันที  กฎธรรมชาติหมัดของถังเทียนบรรจุไว้ด้วยพลังของกฎธรรมชาติ!

สิ่งที่ทำให้เสี่ยวเอ้อตกใจหนักยิ่งขึ้นก็คือเขาไม่สามารถอธิบายว่าเป็นกฎธรรมชาติแบบใด!

ลูกปัดข่มพลังมีทะเลแห่งกฎธรรมชาติ และเสี่ยวเอ้อก็หมกมุ่นอยู่ในนั้นทั้งวันทั้งคืน และพัฒนาความรู้ความเข้าใจกฎทุกรูปแบบอย่างลึกซึ้ง  แต่เขาไม่สามารถอธิบายได้ว่ากฎแบบไหนที่บรรจุอยู่ในหมัดของถังเทียน

‘วิชาหมัดมวยพื้นฐานสามารถเข้าใจและรู้แจ้งจนถึงกฎธรรมชาติด้วยหรือ...’

เสี่ยวเอ้อรู้สึกว่าความรู้และประสบการณ์ของเขาถล่มพังทลายลงต่อหน้า  ปากของเขาฝืนยิ้ม ‘เจ้างี่เง่านี่เป็นตัวประหลาดแบบไหนกันแน่ ถึงกับรู้แจ้งกฎธรรมชาติได้ทั้งที่ใช้วิชาวิทยายุทธพื้นฐานแท้ๆ’

‘ข้ายังคงดูแคลนเขาอยู่ดี....’

ใจของเสี่ยวเอ้อสับสน ทั้งสองคนอยู่ในร่างเดียวกันและแยกจากกันไม่ได้  แต่เสี่ยวเอ้อไม่เคยมองถังเทียนในแง่ดี  แม้ว่าบางครั้งเขาจะชื่นชมความกล้าหาญและความพากเพียรของเขา  แต่ในเรื่องพรสวรรค์เสี่ยวเอ้อยังคิดว่าเขาแข็งแกร่งกว่า

แต่....

‘เจ้าเด็กงี่เง่านี่แปลกประหลาดขนาดรู้แจ้งกฎธรรมชาติโดยผ่านวิทยายุทธพื้นฐานและยังเป็นกฎธรรมชาติที่ข้าไม่รู้จัก!’

และแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ  แต่เสี่ยวเอ้อรู้ว่ากฎธรรมชาติที่ไม่รู้จักนี้ไม่ใช่กฎระดับพื้นฐานแน่!

ร่างถังเทียนสั่นและเขาเริ่มโงนเงนราวกับว่าจะทรุดตัวลง

ตัวของเขาชุ่มโชกได้ด้วยเลือดมองดูน่ากลัว

เสี่ยวเอ้อหักห้ามตัวเองจากอาการตกใจและขมวดคิ้ว  “เจ้าจะทำอะไร?”

“สู้ต่อ”  ถังเทียนโซซัดโซเซไปที่เรือรบ

เสี่ยวเอ้อคำราม  “เจ้าได้รับบาดเจ็บหนักขนาดนี้ยังต้องการสู้ต่อไปอีกหรือ?”

ถังเทียนไม่หันกลับมา  “ข้ายังมีเรี่ยวแรงอยู่”

เสี่ยวเอ้อโบกมือและบอลพลังงานที่ถูกตาข่ายเพลิงหุ้มไว้ก็ลอยเข้ามาในมือของเขา  เซี่ยเฟยสูญเสียการควบคุมพลังแล้ว ดังนั้นจึงเปลี่ยนเป็นขนาดกำปั้นใสเหมือนลูกแก้ว

“อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อน”  เสี่ยวเอ้อกล่าวแฉอย่างเย็นชา  “สิ่งที่เจ้าต้องทำตอนนี้ก็คือพักฟื้น”

“ข้ายังมีเรี่ยวแรง”  ถังเทียนหันหน้ามาและถลึงตามองเสี่ยวเอ้ออย่างดุดัน

เพียงแค่นั้นเขาหันหลังและมุ่งหน้าไปที่เรือรบทิ้งรอยเท้าเลือดไปเป็นทาง  เขากำหมัดแน่นปล่อยให้เลือดไหล เพลิงในอกของเขากำลังลุกโชน มันร้องเรียกหาเขา

‘ทางแยกข้างหน้าระหว่างความตายและล้มเหลวนั่นคือความรู้สึกของการพ่ายแพ้ นั่นคือความรู้สึกสิ้นหวังเป็นประวัติการณ์…’

‘ไม่’

‘ไม่มีทาง!’

‘อาการบาดเจ็บจะมากมายแค่ไหน? ความเหน็ดเหนื่อยจะมากมายเพียงใด? ความเจ็บปวดจะมีเพียงไหน?’

ในขณะนั้น เขาเกิดอาการรู้แจ้งที่เยี่ยมยอด

‘ในขณะเผชิญหน้ากับความสิ้นหวังแท้จริงถึงขนาดที่ท่านไม่มีโอกาสสู้ได้ในเมื่อท่านต้องการสู้เมื่อท่านไม่มีโอกาสเสี่ยงชีวิต ในเมื่อท่านต้องการ!’

‘ท่านได้รับบาดเจ็บและเหนื่อยล้า เจ็บจนท่านไม่ต้องการมีชีวิต  แต่ท่านก็ยังมีชีวิต ยังหายใจ ยังคิดได้ยังร้องเรียกได้  ท่านถือสิ่งที่มีค่ามากที่คนตายทุกคนและคนที่กำลังจะตายทุกคนต้องการโอกาส, โอกาสต่อสู้!’

‘ไม่สำคัญว่าเจ้าจะเหน็ดเหนื่อยเพียงไหน อย่างน้อยที่สุด เจ้ายังสามารถสู้ได้’

‘บางทีท่านอาจตายพรุ่งนี้และฝันและเป้าหมายทุกอย่างของท่านก็จะตายตามไปด้วยในกองเพลิง

‘เพื่อเหตุผลอะไรท่านถึงไม่ยอมสู้? เพราะข้ออ้างทั้งหมดมันเล็กน้อย ความสำนึกทั้งหมดเล็กน้อย?

‘ไม่ เจ้ายังหนุ่มต้องการสู้ รู้แต่วิธีสู้และจะสู้จนลมหายใจสุดท้าย’

‘ลมหายใจสุดท้ายของเจ้าต้องมีรสชาติของควัน รสชาติของความฝันรสชาติของความยิ่งใหญ่!’

ถังเทียนไม่งอตัว ร่างตรงเดินไปที่เรือรบ

‘เฮ้,หนุ่มชาวฟ้า ไป ไป ไป!’

เสียงคำรามของเหออิงดูเหมือนดังก้องทั้งท้องฟ้าและหมู่เมฆ

“ฆ่าพวกมัน!”

“อย่าปล่อยให้ใครรอดชีวิต!!”

“ข้าต้องการเผาให้กระดูกพวกมันเป็นเถ้าถ่าน!”

“ข้าต้องการให้พวกมันตายโดยไม่มีที่ฝังศพ! ฮ่าฮ่าฮ่า!”

ท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงเรือโจมตีเร็วส่งเสียงกระหึ่มทั่วเมืองเหมือนนกร้อง  ถนนทองเต็มไปด้วยม่านพลังที่ยังไม่เสถียร  แม้ว่าพวกมันจะถูกสร้างขึ้นมาจากความมั่งคั่งขนาดใหญ่  แต่สิ่งก่อสร้างของพวกเขาไม่ได้สร้างมาเพื่อสงคราม

บึ้ม, ม่านพลังของหนึ่งในร้านค้าถูกทำลายไปในที่สุดแสงระเบิดขนาดเล็กที่ยิงเข้าไปเหมือนกับดาวตกพลังระเบิดรุนแรงจนบ้านทั้งหลังพังทลาย

นี่ทำให้กองพลที่สองส่งเสียงโห่ร้องเพิ่มพูนกำลังใจอีกมากมาย  พวกเขากระตุ้นพลังกันอย่างแข็งขันมุ่งเน้นโจมตีบนพื้นที่ซึ่งเจริญมาแต่เก่าก่อน

“นายท่านถ้าเราไม่โจมตีให้เร็ว...” รองผู้บัญชาการตื่นเต้นอย่างมาก

“รออีกนิด!”  เซี่ยอวี่อันพูดเคร่งขรึม

“นายท่าน...”  รองแม่ทัพกำลังจะร้องไห้  ทหารที่อยู่ในร้านถูกฝังทั้งเป็น  เขาจะนำกองกำลังนางแอ่นทั้งหมดออกไป  เขารับผิดชอบชีวิตประจำวันของพวกเขา  ดังนั้นจึงมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพวกเขา  เมื่อภาพน่าอนาถเช่นนั้นทำให้เขาตาแทบถลน

“รออีกนิด!” น้ำเสียงของเซี่ยอวี่อันกระด้างเหมือนเหล็กกล้า

รองแม่ทัพตะลึง

“บอกทุกคนรอคำสั่งของข้า  และเมื่อพวกเขาโจมตี  อย่าเพิ่งตอบโต้!”

เซี่ยอวี่อันพูดเบาๆ  เนื่องจากคอของเขาเริ่มแห้ง

รองแม่ทัพกัดฟัน “ได้!”

เขารีบหมุนตัวและบินออกไป

เขาไม่ทันสังเกตว่าหมัดของเซี่ยอวี่อันกำแน่นจนซีดขาว

สายตาของเขาไม่เคยละจากเงาดำในท้องฟ้า  เขาจ้องมองศัตรู คำนวณระยะ ถังโฉ่วยืนอยู่ข้างเขาโดยไม่พูดอะไรสักคำเหมือนกับเป็นหุ่น

การโจมตีสะท้านฟ้าสะเทือนดินเริ่มต้นโดยศัตรูดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุดเนื่องจากมีแสงสว่างทั่วท้องฟ้ายามราตรีในเมืองทรายขาว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด