ตัวประกอบแรงค์ EX — 0001
1. การอัปเดตครั้งสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติ
* * *
หากเกมใดโด่งดังไปทั่วประเทศ เกมนั้นจะถูกขนานนามให้เป็น ‘เกมแห่งชาติ’
แต่ถ้าเกมไหนล้มเหลว มันจะถูกเรียกว่า ‘เกมกากแห่งชาติ’
แม้ตอนนี้เกาหลีใต้จะไม่มีเกมแห่งชาติ แต่พวกเขาก็มี ‘เกมกาก’ แห่งชาติ
ย้อนกลับไปราวสิบปีก่อน เกมหนึ่งเปิดตัวขึ้น
เกมมือถือแนว RPG ซึ่งมีชื่อว่า ‘เพลเยอร์·เมอิสเตอร์·โกเกียว*’ หรือชื่อย่อว่า ‘เพลเมโก’
(*Player Meister, ส่วน โกเกียว = โรงเรียนมัธยมปลาย)
ธีมเรื่องเกี่ยวกับยุคปัจจุบัน แต่มีความขัดแย้งกับต่างโลก
โรงเรียนมัธยมปลายเมอิสเตอร์คือสถานที่ฝึกฝน ‘เพลเยอร์’ ที่มีพลังพิเศษ
เป็นเกมสวมบทบาทที่เล่นบนโทรศัพท์มือถือ ภูมิหลังเป็นโรงเรียน ผู้เล่นต้องคอยควบคุมตัวละครเพื่อดำเนินเนื้อเรื่องหรือเคลียร์ภารกิจ
‘เพลเมโก’ มีจุดเริ่มต้นที่น่าทึ่ง ตัวเกมโด่งดังก่อนที่จะเปิดตัวเสียอีก
ต้นทุนด้านการพัฒนาและการตลาด นับว่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์วงการเกม
เพลงเปิดตัวได้นักร้องคนดังพรสวรรค์สูง ที่มีเพลงมากมายติดชาร์ตยอดนิยม มาช่วยสร้างสรรค์ความกลมกล่อม
มีการซื้อโฆษณาในช่วงไพรม์ไทม์ทั้งฟรีทีวี เคเบิล และสถานีท้องถิ่น
โปสเตอร์ติดตามข้างรถบัส ป้ายรถเมล์ ผนังสถานีรถไฟใต้ดิน และประตูบานเลื่อน
แบนเนอร์และสปอตโฆษณากระจายอยู่ตามเว็บไซต์ชื่อดัง
ไปเกินจริงไปนักหากจะบอกว่า ประชากรกว่าครึ่งประเทศเคยเห็นโฆษณาของเพลเมโก
‘ในที่สุด… เกมที่จะเล่นไปจนตาย!’
ในฐานะหนึ่งในสามล้านบัญชีที่ลงทะเบียนล่วงหน้า ฉันคิดแบบนั้น
เพลเมโกเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันสุดท้ายของการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
เมื่อสอบเสร็จ ฉันตั้งหน้าตั้งตาเล่นพร้อมกับผู้เล่นอีกกว่าสามล้าน
แต่เมื่อผ่านไปสักพัก เพลเมโกได้กลายเป็น ‘เกมที่เล่นไปจนตาย’ เฉพาะกลุ่มฮาร์ดคอร์เกมเมอร์เท่านั้น
ไม่ว่าจะสมดุลเกม ทักษะ หรือไอเท็ม ทั้งหมดล้วนห่วยแตก
บั๊กเพิ่มขึ้นในทุกวัน แต่กลับไม่ได้รับการแก้ไข
จนชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า บางที ทางผู้พัฒนาเกมอาจจงใจทำให้คนเล่นรู้สึกเหมือนเป็นไอ้โง่
ต้องคอยทำเรื่องเดิมๆ ซ้ำซากแต่ได้ผลตอบแทนน้อย โดยไม่มีระบบอัตโนมัติมาช่วยแบ่งเบา
หากไม่นับระบบ ‘ขอความช่วยเหลือจากผู้เล่นอื่น’ เพลเมโกก็แทบไม่ต่างจากเกมเล่นคนเดียว ขาดสีสันของสังคมโดยสิ้นเชิง
คะแนนดาวในสโตร์ยับเยินไม่เหลือชิ้นดี คอมเมนต์เต็มไปด้วยคำประกาศเลิกเล่นและถ้อยคำด่าทอ
อย่างไรก็ดี กลุ่มแฟนคลับที่ทนทานราวกับคอนกรีตยังคงก้มหน้าเล่นต่อไป
แม้จะมีข้อเสียมากมาย แต่ก็มีจุดดีเช่นกัน
งานศิลป์ที่ทั้งงดงามและมีคุณภาพสูง
ตัวละครและกราฟิกภายในเกมที่ใกล้เคียงกับงานศิลป์
ภูมิหลังของตัวละครทั้งซับซ้อนและมีเสน่ห์
กลุ่มแฟนคลับอันเหนียวแน่นจึงยังคงไม่เลิกเล่นเกมนี้
แต่ก็แค่ไม่นาน
เนื้อเรื่องที่ดำเนินไปอย่างไร้ความหวังและความฝัน ได้เปลี่ยนทัศนคติที่แข็งกล้าดุจดังคอนกรีตเหล่านั้น
[ผู้เล่นเดนตายที่โหลดเกมตั้งแต่วันแรกอย่างฉัน ตอนนี้ขอรีฟันแล้ว!]
[ตัวละครทุกตัวที่อุตส่าห์ฟูมฟัก ครอบครัวของฉัน ครูและเพื่อนฝูงที่เก่งกาจล้วนล้มหายตายจาก… ถ้านายรีฟันสำเร็จ ช่วยแชร์ข้อมูลเพื่อเป็นวิทยาทานด้วย]
[ครูยงถูกจอกโฮฮยองฆ่าตาย! เกมหมา! ถ้าเลิกได้ก็รีบเลิกนะ ฉันเข้าใจความรู้สึกของคนที่ไม่เลิก แต่ไม่อยากให้พวกนายพลาดโอกาสรีฟันในตอนที่ยังทำได้]
[พอคิดว่าจะเลิก กองทัพก็ส่งใบเกณฑ์ทหารมาพอดี ประจวบเหมาะอะไรอย่างนี้!]
[เนื้อเรื่องห่วยแตกชะมัด! หงุดหงิดแทบบ้าเลยโว้ย! เกมหมา!]
[ไม่พูดมาก ฉันเลิกแล้วล่ะ อยากหาซื้อสมองคนที่ไม่เคยเล่นเกมนี้มาใส่หัวจัง]
[แอดมินคาเฟ่ (เว็บบอร์ด) ขอลาออกและกำลังมองหาคนมาทำหน้าที่แทน หากไม่มีใครสมัครภายในสามวัน ระบบจะโอนยศแอดมินแบบสุ่ม]
หลังจากเรื่องราวดำเนินไปถึงจุดที่ตัวละครถูกสังหารหมู่
คาเฟ่ที่คอเกมเพลเมโกใช้แบ่งปันข้อมูลก็ล้มครืน แม้แต่กลุ่มแฟนคลับคอนกรีตก็ทยอยเลิกแล่น
ในภายหลัง เหตุการณ์นี้ถูกขนานนามในวงการเกมว่า ‘การพังทลายของแฟนคลับคอนกรีตแห่งเพลเมโก’
จนถึงกับมีคำหนึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในชุมชนคนเล่นเกม
‘อย่าไปคบค้าสมาคมกับพวกเดนตายที่ยังเล่นเพลเยอร์·เมอิสเตอร์·โกเกียวอยู่’
เพลเมโกกลายเป็นเกมกากแห่งชาติที่จะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของวงการเกม
คนที่ยังเล่นต่อ คงมีแต่ทีมพัฒนาเกมกับพวกจิตวิปริตเท่านั้น ซึ่งไม่ว่าอย่างไหนก็ล้วนเป็นตัวอันตรายต่อสังคม พวกเราไม่ควรเข้าไปข้องแวะ
ส่วนฉันยังคงวนเวียนอยู่กับการเล่นๆ เลิกๆ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคม
ทุกครั้งที่เนื้อหาของเกมมีการอัปเดต บรรดาตัวละครหลักและคนรอบตัวจะเสียชีวิตอย่างน่าเศร้าเสมอ
ถึงจะมีตัวไหนรอดมาได้ สุดท้ายก็จิตใจแตกสลายอยู่ดี
แต่ฉันก็ยังทนเล่น เพราะอยากเห็นเรื่องราวทั้งหมดของมัน
‘ถ้าตายอีกแค่คนเดียว… ฉันจะเลิกเล่นจริงๆ แล้ว!’
ฉันเคยคิดแบบนั้น
แต่ก็ได้แค่คิด อันที่จริง ตัวละครของฉันตายไปหลักสิบแล้ว ตายเพิ่มอีกสักตัวก็แทบไม่รู้สึกอะไร
เมื่อถึงจุดหนึ่ง ฉัน ‘หยุด’ การเล่นๆ เลิกๆ และกลับไปจริงจังมันกับ
ถึงจะถูกเรียกไปเกณฑ์ทหาร แต่ก็ยังเล่นต่อโดยอาศัยช่วงเวลาสามชั่วโมงที่ได้รับอนุญาตให้ใช้มือถือ
“เฮ้ย! น้องเล็ก”
“ครับ! ผมพลทหารโชอึยชิน! มีอะไรหรือครับ?”
“กำลังเล่นเกมอะไรอยู่”
“…เพลเยอร์·เมอิสเตอร์·โกเกียว”
บรรยากาศในหอพักทหารพลันเงียบสงัด
จ่าชเวที่กำลังถือโทรศัพท์ในมือข้างหนึ่ง และรีโมตทีวีอีกข้าง พลันอ้าปากค้าง
จ่าชเวมองฉันด้วยสายตาที่ชวนให้อยากเอาหัวโขกพื้น
“เฮ้อ… น่าสงสารจัง”
ฉันถูกปฏิบัติราวกับคนน่าสมเพชไปจนกระทั่งปลดประจำการ
ในช่วงก่อนที่จ่าชเวจะปลดประจำการ ฉันมีชีวิตที่ค่อนข้างสุขสบายในค่าย เพราะจ่าคอยบอกกับคนอื่นว่า ‘อย่าไปยุ่งกับหมอนั่นเลย ชีวิตมันน่าสงสารพอแล้ว’
แต่หลังจากนั้น ไอ้สิบโทเกย์ เอ้ย สิบโทกเย ยังคงคอยตามหาเรื่องฉันจนกระทั่งปลดประจำการ
ไม่กี่ปีถัดมา ฉันกลายเป็นคนน่าสงสารตัวจริงเสียงจริง
“มะเร็งปอดระยะที่สี่”
หืม… หูไม่ได้ฝาดใช่ไหม?
กับเกมเมอร์ที่ไม่มีปัญญาแม้แต่จะสูบบุหรี่ เพราะหมดเงินไปกับเกมเนี่ยนะ?
“เป็นเคสหายากที่จะไม่แสดงอาการจนกระทั่งลุกลามเป็นระดับสี่ครับ กรณีนี้พบได้ในน้อยคนมาก”
แถมยังเสริมด้วยว่า ‘คนไม่สูบบุหรี่ก็เป็นมะเร็งปอดได้ครับ’
หลังจากนั้น หมอยังพูดอะไรอีกยืดยาว
แต่ราวครึ่งหนึ่งของคำพูดหมอ เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของฉัน
สิ่งที่พอจะทำความเข้าใจได้ก็คือ:
อาจเสียชีวิตเร็วที่สุดภายในหกเดือน
หากได้รับการรักษาและการวินิจฉัยโรคที่ดี ก็อาจอยู่ได้นานถึงสามปี
ถึงจะมีประกันสุขภาพ แต่ถ้าไม่มีงานทำ ก็ไม่มีทางจ่ายค่ารักษาพยาบาลระยะยาวไหว
หลังจากบอกกับหมอว่าขอคิดดูก่อน ฉันก็ไม่เคยไปโรงพยาบาลอีกเลย
พ่อแม่เสียไปตั้งแต่มัธยมต้น จนต้องไปอาศัยอยู่กับญาติจนจบมัธยมปลาย
เพื่อหาค่าครองชีพและค่าเรียน มีหลายครั้งที่ต้องหยุดเรียนเพื่อไปทำงานพิเศษ จนกระทั่งเรียนจบได้ภายในสี่ปี
ใช้เวลาหางานราวหนึ่งปี ระหว่างนั้นอาจารย์ก็พยายามใช้เส้นสายฝากงานให้
จนกระทั่งหนึ่งเดือนก่อน หลังจากก้มหน้าทำงานพิเศษอยู่นาน ในที่สุดฉันก็ได้งานแรก
การสมัครงานจำเป็นต้องผ่านการตรวจสุขภาพ จึงมีโอกาสได้ตรวจอย่างละเอียด และถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้าย
ชีวิตที่ฉันหวงแหนแม้จะผ่านเรื่องแย่ๆ มามาก อีกไม่นานก็จะยุติลง
ฉันกลายเป็นสวะติดเกมเต็มตัว
ก่อนหน้านี้เป็นเกมเมอร์ที่ยังพอดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างเต็มกลืน
แต่ตอนนี้เอาแต่ขังตัวเองอยู่ในโกชีวอน* หยุดทำสิ่งที่มีประโยชน์และกิจกรรมทางสังคมทั้งหมด วันๆ ก้มหน้าจ้องโทรศัพท์มือถือด้วยสายตาว่างเปล่า
(*ห้องเช่ารูหนู สำหรับให้นักศึกษาเช่าอ่านหนังสือเตรียมสอบ)
กลายเป็นสวะติดเกมที่เอาแต่เก็บตัว
‘ที่เราเป็นมะเร็ง… เกมนี้อาจจะมีส่วน’
ระหว่างเล่น ‘เพลเมโก’ ฉันเคยคร่ำครวญอยู่หลายครั้งว่าตัวเองคงได้กลายเป็นมะเร็งแน่
ถึงตอนนี้จะใกล้ตายเพราะมะเร็ง แต่ก็ยังปล่อยมือจากมันไม่ได้
อาการไอแย่ลงมากในช่วงหลัง
เริ่มไอเป็นเลือดวันละสองสามครั้งแล้ว
บางวันก็นอนไม่หลับเพราะปวดไปทั้งตัวเหมือนกำลังจะตาย
ยาแก้ปวดที่ร้านยาก็ไม่ช่วยอะไรเลย
‘ใกล้จะได้ลาโลกแล้วสินะ’
ตอนเล่นเกมก็ไม่ได้คิดอะไร แต่เมื่อเซิร์ฟเวอร์ปิดปรับปรุง สิ่งที่ล่องลอยอยู่ในหัวมีเพียงความตาย
คงต้องเข้าไปตรวจสอบข่าวสารจากเว็บไซต์ใหญ่ๆ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
บทความหลักในหน้าเว็บเปลี่ยนไป
[เกมมือถือ RPG ‘เพลเยอร์·เมอิสเตอร์·โกเกียว’ จะมีแพทช์อัปเดตครั้งสุดท้ายในวันนี้!]
เรื่องความตายเอาไว้ก่อน ฉันเผลอสบถออกมาโดยไม่รู้ตัว
แน่นอน ฉันรีบคลิกเข้าไปอ่านข่าวและพิมพ์คอมเมนต์ทันที
[jo2god111: ทำไมเกมกากแห่งชาติถึงกลายเป็นข่าวหลักของเว็บไปได้? ถ้ามีเงินมากขนาดจ้างบรรณาธิการ ทำไมไม่ทุ่มงบไปกับการปรับสมดุลและแก้บั๊กเล่า?]
ไม่กี่นาทีถัดมา มีคอมเมนต์โผล่ขึ้นใต้คอมเมนต์ของฉัน
[key777ing: เห็นด้วยเลย ไม่อยากเชื่อว่าจะมีคนเล่นเกมนี้อยู่อีก ต้องโง่แค่ไหนกันนะ? ฉันไม่มีวันร่วมโต๊ะอาหารกับคนที่เล่นเกมนี้แน่]
จริงอยู่ เพลเมโกเป็น ‘เกมกากแห่งชาติ’
แต่ฉันกลับโกรธที่มีคนมาด่าทอมัน
เกมห่วยก็จริง แต่คนที่ไม่เล่นเกม มีสิทธิ์ด่าด้วยหรือ?
ฉันสวมวิญญาณอันเน่าเฟะของคนที่ยังเล่นเกมกากแห่งชาติ
คำตอบถูกระบายออกไปด้วยความอัดอั้น
[jo2god111: ก็พูดเกินไป นายเคยเล่นรึไง?]
จากนั้น ใต้คอมเมนต์ของฉันก็เกิดความเคลื่อนไหวอย่างล้นหลาม
[zxYJ0008xz: อะไรของ jo2god111 เขาวะ? ป่วยรึไง?]
[kye777ing: เป็นบ้าอะไร? ย้อนกลับไปอ่านคอมเมนต์ตัวเองดูสิฟะ!]
[dudtn90: อย่าไปสนใจพวกสมองพิการนักเลย]
[rkrehrl12: เอาไม้โปรแทรกเตอร์ยัดก้นตัวเองไป๊! XXX! ไปอยู่ที่ไหนมาวะ!]
ความเห็นที่ฉันเขียนลงไป มองดูดีๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับเชื้อไฟ
เพียงพริบตาเดียว หน้าต่างคอมเมนต์ก็ถูกถมด้วยถ้อยคำด่าทอเกมครึ่งหนึ่ง และด่าฉันอีกครึ่งหนึ่ง
ฉันเถียงพวกเขาไม่ออก จึงตัดสินใจปิดหน้าข่าวสาร
เป็นเวลาเดียวกับที่เซิร์ฟเวอร์ของเพลเมโก กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง
‘…ไม่ว่ายังไงก็ต้องเห็นตอนจบให้ได้’
นอนลงบนเตียงอันคับแคบ ฉันเปิดแอปเพลเมโกเพื่ออัปเดตตัวเกม
ระหว่างดาวน์โหลดไฟล์ ฉันนำหนังสือภูมิหลังเกมกับแฟ้มเอกสารออกมา
เป็นแฟ้มบรรจุกระดาษ A4 ที่ฉันคิดกลยุทธ์และเขียนลงไป
หนังสือภูมิหลังเกมที่ได้รับรีวิวไม่ค่อยดีมีทั้งหมดแปดเล่ม แต่ละเล่มมีมากกว่าห้าร้อยหน้า
ฉันเก็บไว้ใต้เตียงเพื่อให้สะดวกต่อการหยิบออกมาอ่าน
ขณะกำลังอ่านหนังสือพลางจดโน้ตไว้ตามจุดต่างๆ ตัวเกมก็อัปเดตเสร็จ
‘…ครบแล้วสินะ’
หกเดือนที่หมอบอก
ในสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่าจะตายตอนไหน เวลาและเรี่ยวแรงมีค่ายิ่งกว่าทองคำ
ฉันจะใช้พวกมันทั้งหมดไปกับเกม
* * *
การดิ้นรนอันยาวนานกว่าสิบชั่วโมงจบลง
‘จบสักที’
คิดไม่ถึงเหมือนกันว่ามันจะจบลงด้วย ‘แบดเอนดิ้ง’ ที่ไร้ความฝัน ความหวัง หรือความเมตตาใดๆ ทั้งสิ้น
ฉันรักษาอะไรไว้ไม่ได้เลย ไม่มีใครรอดชีวิต
‘แบคโฮกุน’ ที่เป็นตัวละครหลักมาตลอดจนกระทั่งบอสตัวสุดท้าย
เขาต้องเผชิญจุดจบที่เลวร้าย และสูญเสียทุกสิ่งไปเพราะความใจดำของคนเขียนบท
‘ไอ้คนเขียนบทระยำ!’
ฉันเชื่อมาตลอดว่าตัวเองคงไม่สะทกสะท้านกับ ‘แบดเอ็นด์’
ตรงกันข้าม การได้เห็นแฮปปี้เอนดิ้งอาจทำให้ฉันรู้สึกคลื่นไส้
แต่ไม่ใช่เลย
ดูเหมือนว่าลึกๆ แล้ว ในใจฉันกำลังคาดหวังแฮปปี้เอนดิ้ง
การที่เคยเล่นๆ เลิกๆ อยู่หลายครั้ง ไม่ใช่เพราะฉันเป็นไอ้โรคจิตที่เสพติดความเจ็บปวด
ไม่อย่างนั้นคงไม่รู้สึกแย่ขนาดนี้
‘ที่เราปล่อยมือจากเกมนี้ไม่ได้สักที เพราะคาดหวังตอนจบที่มีความสุขอยู่สินะ’
ทั้งที่มีชีวิตจำกัดแท้ๆ แต่ดันใช้เวลาทั้งหมดไปกับการเคลียร์เกมกากนี่
กว่าจะรู้ตัวก็สายเกินไป
เกมจบแล้ว
ตัวละครทั้งหมดที่ฉันเคยควบคุม เสียชีวิตอย่างน่าอนาถ
และฉันก็กำลังจะตายตามไป
ฉันบังคับปิดเกม แล้วโยนโทรศัพท์มือถือไปที่มุมเตียง
ติ๊ง!
ทันใดนั้น ราวกับเป็นการท้าทาย เสียงเตือนดังขึ้นมา
เป็นเสียงจากแอปเกมเพลเมโก
‹ท่านสามารถรับรางวัลการเคลียร์บทสุดท้ายของเกม กรุณาตรวจสอบกล่องของขวัญ›
‘…รางวัลการเคลียร์บทสุดท้าย?’
เพลเมโกที่ทีมพัฒนาถูกตำหนิว่าใช้เท้าสร้างเกม
ฉันไม่ได้อัปเดตตัวเกมสักหน่อย ไม่มีการแจ้งเตือนด้วยซ้ำ แล้วนี่มันอะไร?
‘คงเป็นรางวัลห่วยๆ เหมือนเดิม’
ฉันไม่ได้คาดหวัง แค่อยากรู้
มาถึงขั้นนี้แล้ว จะไม่ดูก็คงกระไรอยู่
ความคิดของฉันไม่ต่างอะไรกับสวะติดเกมที่เต้นรำไปบนฝ่ามือบริษัท
ขณะไตร่ตรอง ฉันเปิดแอปเกมด้วยสายตาเฉยเมย
แต่เมื่อกดเปิดกล่องของขวัญที่กลางหน้าจอ ภาพก็ค้างไปเลย
ไม่ว่าจะรอนานแค่ไหน หน้าจอก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
สั่งบังคับปิดก็ไม่ได้
บังคับปิดโทรศัพท์ก็ไม่ได้
เนื่องจากเป็นแบตฯ ภายใน จึงถอดแบตฯ เพื่อให้เครื่องดับไม่ได้
“วู้ว… บั๊กอีกแล้ว! แค่ก! แค่ก โขล่ก…”
พออ้าปากก็ไอทันที
จุดจบของเกมที่เล่นมายาวนานกว่าสิบปี
ภายในใจมีเพียงความว่างเปล่า
ความเครียดได้รับการปลดปล่อย
เรี่ยวแรงเริ่มหมดไปเพราะเล่นเกมติดต่อกันเป็นเวลานาน แถมยังต้องต่อสู้กับโรคร้าย
ร่างกายของฉันทรุดลงอย่างรวดเร็ว
แค่ก! โขล่ก! โขล่ก!
ไม่เหมือนเสียงไอแล้ว นี่มันเสียงโหยหวน
เสียงโหยหวนสุดท้ายของชีวิต
ฉันใช้มือเช็ดปากเพราะคิดว่าเป็นน้ำลาย แต่มือกลับแดงก่ำ
‹เชื่อมต่อกับ ‘จักรวาลเหนือรูป’ เสร็จสมบูรณ์ กำลังตรวจสอบความเหมาะสมของเพลเยอร์ที่เชื่อมต่อ›
เหนือ… อะไรนะ?
ฉันเริ่มหูแว่ว
แย่แล้ว
สงสัยจะใกล้ตายแล้วจริงๆ
‹การตรวจสอบเสร็จสิ้น เพลเยอร์ ‘โชอึยชิน’ ถูกเลือกให้เป็นร่างที่เหมาะสมสำหรับเปลี่ยนอนาคตมิติ›
“พี่อึยชิน! ผมซองฮอนเองนะ พี่เป็นอะไรไหม?”
ฉันได้ยินเสียงเรียกของชอนซองฮอน—ผู้ดูแลหอพักแห่งนี้ กำลังเคาะประตู
เสียงไอรุนแรงของฉันคงทำให้ผู้เช่ารายอื่นไม่พอใจ
และในเกาหลีคงมีคนป่วยเหมือนกับฉันอยู่ไม่น้อย เพราะต้องรอให้ถึงสัปดาห์หน้า กว่าหอผู้ป่วยถึงจะมีเตียงว่าง
ถ้าวันนี้ฉันยังไม่ตาย เห็นทีต้องคลานไปนอนรอหน้าหอผู้ป่วย
เพราะไม่อย่างนั้นคงรบกวนซองฮอนกับผู้เช่าคนอื่นแย่
‹ดำเนินการแก้ไขข้อมูล ซิงโครไนซ์กับมิติ และถ่ายโอนร่างข้ามมิติของ ‘โชอึยชิน’ … เหลืออีก 10 วินาที›
ชอนซองฮอน—รุ่นน้องที่คณะสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เมื่อก่อนเราสนิทกันมาก
แม้จะเปลี่ยนสถานะมาเป็นเจ้าของหอกับผู้เช่า แต่ซองฮอนก็ไม่เคยเปลี่ยนท่าที
ยังคอยเอาขนมและยาแก้ไอมาให้ฉัน เพื่อตอบแทนที่ฉันเคยเลี้ยงข้าวสมัยเรียน
เป็นรุ่นน้องที่ดีเกินไป สำหรับคนที่กำลังจะตายอย่างฉัน
ย้อนกลับไปก่อนที่จะตัดสินใจตายในหอพัก ฉันเตรียมการไว้หนึ่งเรื่อง
หลังจากงานศพ ฉันได้ทิ้งพินัยกรรมไว้พร้อมกับเงินก้อนหนึ่ง
บนซองเขียนชื่อ ‘ชอนซองฮอน’ เอาไว้
‹8… 7…›
อันดับแรก ฉันต้องรีบตอบกลับไปว่าไม่เป็นไร
แต่พยายามเท่าไรก็พูดไม่ออก
หูได้ยินเสียงแว่ว ปากยังคงไอเป็นเลือดตลอดเวลา
ฉันพยายามปิดปากเพื่อลดเสียงไอ
แต่ยิ่งไอน้อยลง เสียงแว่วก็ยิ่งดังชัดเจนขึ้น
แค่ก! แค่ก! คั่ก! โขล่ก! โขล่ก!
ชอนซองฮอนเริ่มเคาะประตูอีกครั้ง
“พี่! เปิดประตู!”
ดูเหมือนซองฮอนกำลังมองหากุญแจ ฉันได้ยินเสียงโลหะกระทบกันกรุ๊งกริ๊ง ก่อนที่ประตูจะถูกไขพร้อมกับเสียงกริ๊ก
‹2… 1… 0…›
แทบจะพร้อมกับที่ประตูเปิดออก แสงสีขาวโพลนสว่างท่วมท้นการมองเห็นของฉัน
______________________
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์ (1/4)
ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:
https://www.facebook.com/bjknovel/
หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel