ตอนที่แล้วตอนที่ 626 บันทึกประจำวัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 628 กองกำลังเผด็จการทวีปชิง

ตอนที่ 627 เหตุเปลี่ยนแปลง


“เมื่อคืนวานนี้ธุรกิจของตระกูลสวีสะดุดกับพวกโจรสลัด  พวกเขาอยู่ห่างทวีปทรายขาวออกไปครึ่งวันเท่านั้นและมีคนหนีรอดชีวิตได้เพียงหกคน  กองพลที่หนึ่งของท่านซัวปี่ได้เคลื่อนกำลังพลออกไปเมื่อคืนนี้  แต่ก่อนที่จะจากไปท่านซัวปี่หวังให้ท่านช่วยคุ้มครองคุณชายใหญ่ในช่วงเวลานี้”

หลิงเซี่ยพูดด้วยความเคารพ ปัจจุบันนี้นางเป็นตัวแทนของท่านซัวปี่จึงไม่ทำตัวเหมือนกับช่วงที่ผ่านมาตามปกติ  คุณชายใหญ่ที่อยู่ใกล้คำนับถังเทียนทันที

“ข้าน่ะหรือ?” ถังเทียนตะลึง และชี้ไปที่คุณชายใหญ่ “ปกป้องเขาน่ะหรือ?”

“ใช่แล้ว” จากนั้นหลิงเซี่ยอธิบายต่อ “ข้าเพิ่งจะได้รับมอบกองพลที่ห้าไม่นาน และข้าต้องการเวลาจึงจะสามารถควบคุมพวกเขาได้อย่างสิ้นเชิง  แต่คุณชาย ท่านมีกองทัพถึงสองกองทัพและเซี่ยอวี่อันก็เป็นผู้บัญชาการที่โดดเด่น ท่านซัวปี่ก็เชื่อถือท่าน ท่านนั่นแหละมีความสามารถจะปกป้องคุณชายใหญ่”

ถังเทียนถูกต้อนจนอยู่ในจุดที่เขาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี  ได้แต่พูดอ้างส่งเดช  “แต่ข้ากำลังยุ่งมาก  ข้าจะเอาเวลาที่ไหนไปดูแลเขา?”

“นั่นไม่เป็นปัญหา ท่านเหมิ่งไม่ว่าท่านไปไหน  ข้าจะตามท่านไปด้วย”  คุณชายใหญ่เสนอทันที

ถังเทียนจ้องมองทั้งสองคนอยู่ครึ่งค่อนวัน และหลังจากคิดว่าทั้งสองคนไม่ได้ล้อเขาเล่น  เขาตบต้นขา “ก็ได้!”

คุณชายใหญ่และหลิงเซี่ยดีใจทันที

แต่พวกเขาไม่เคยคาดว่าถังเทียนจะเปลี่ยนหัวข้อ  “อย่างนั้นเรามาคุยเรื่องผลตอบแทนกัน”

เมื่อเห็นสีหน้าตกใจของพวกเขา  สีหน้าถังเทียนไม่พอใจ  “อย่าบอกนะว่าจะให้ข้าช่วยฟรีๆ?”

คุณชายใหญ่รู้สึกตัวโดยเร็วและรีบตอบ  “ท่านเหมิ่ง ถ้าท่านมีข้อเสนออะไร บอกเราได้”

ถังเทียนพอใจกับคำรับรองของคุณชายใหญ่ทันทีและกระแอมเบาๆ  “คุณชายใหญ่ยังเป็นคนที่สำคัญจะปกป้องท่านราคาย่อมไม่ต่ำแน่นอน เราที่อยู่ตรงนี้ทุกคนล้วนเป็นสหายกัน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องปิดบังกัน  คนที่กล้าลงมือกับท่านเป็นไปได้ที่สุดก็คือเหออิงและท่านหญิงโหรว  เพราะเพื่อท่านข้าจึงต้องเป็นศัตรูกับพวกเขาไปด้วย  ฉะนั้นช่วยบอกข้าทีข้าเสียสละครั้งใหญ่หรือไม่?”

หลิงเซี่ยอดคัดค้านไม่ได้  “เจ้าก็เป็นศัตรูกับพวกเขาอยู่แล้ว!”

ถังเทียนดุ  “หลิงเซี่ยน้อย เราต่างก็คุ้นเคยกันดี  แต่กับคุณชายใหญ่ มันเป็นเรื่องธุรกิจ  ดังนั้นเมื่อเป็นธุรกิจเราก็ควรว่ากันตามกฎธุรกิจ  เจ้าบอกว่าเหออิงและพวกไม่ชอบข้า  ข้ายอมรับเรื่องนั้น  แต่ถ้าข้ายินยอมออกไปจากทวีปทรายขาวตอนนี้เหออิงและพวกจะไม่ตามหาข้าเพื่อก่อความยุ่งยากให้ข้าแน่นอน  และบางทีพวกเขาอาจให้อะไรดีๆ กับข้าก็ได้”

หลิงเซี่ยมีสีหน้าบิดเบี้ยว

แต่ตรงกันข้าม  คุณชายใหญ่มีสีหน้าชื่นชม  “ข้าชอบความคิดของท่านเหมิ่งหนาน!  มิตรภาพส่วนมิตรภาพ,แต่ธุรกิจก็ส่วนธุรกิจ  นั่นก็ถูกแล้ว! แต่ท่านเหมิ่งก็ควรจะรู้สถานะของข้าดีเช่นกัน  ค่าใช้จ่ายประจำวันของข้าไม่นับว่าถูกและถึงระดับร้อยล้าน  เทียบกับท่านเหมิ่งข้ากลายเป็นคนยากจนไปเลย นอกจากสถานะทายาทแล้ว ข้าไม่มีของมีค่าอะไรอื่น”

ความซื่อและความเจียมตัวของคุณชายใหญ่ทำให้ผู้คนปลาบปลื้มใจอย่างแท้จริง

ถังเทียนเห็นด้วย คุณชายใหญ่เป็นเพียงผู้อยู่ในฐานะทายาทสืบทอดตำแหน่ง  แต่เพราะที่ผ่านมาในช่วงสองสามปีเขาถูกเหออิงและท่านหญิงโหรวข่มอยู่ ดังนั้นเขาจึงเป็นอยู่อย่างน่าสมเพช ไม่มีเงินไม่มีผู้สนับสนุน  ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลหลิงและซัวปี่คอยค้ำจุนเขาคงตายไปนานแล้ว

ถังเทียนสะดุด  เป็นเรื่องยากที่จะบีบเค้นเอาอะไรจากคนจนได้

“เนื่องจากส่วนที่มีค่ามากที่สุดของท่านก็คือทายาทสืบทอดตำแหน่ง  เราก็ว่ากันเฉพาะตรงจุดนี้” ทันใดนั้นถังเทียนรู้สึกได้ว่าทวีปทรายขาวเป็นพันธมิตรที่ดี  ตั้งอยู่ไม่ห่างจากทวีปซางโจวมากและพวกเขามีธุรกิจการค้าเจริญรุ่งเรืองและยิ่งไปกว่านั้น ที่ตั้งของทวีปทรายขาวจะทำให้ได้เปรียบในการป้องกัน  ต่างจากทวีปฝานซิงโจวซึ่งเปิดโล่งทุกด้าน

ในทวีปทรายขาวไม่ว่าจะหาซื้อหรือขายอะไรก็สะดวกสบายทุกอย่าง  สำหรับทวีปซางโจวแล้ว จะช่วยเหลือได้มาก  สมาคมการค้าสวีจี้ขายแต่เพียงอาวุธและเขาจำเป็นต้องมีช่องทางอื่นสำหรับหาซื้อสิ่งของอื่น  ทวีปทรายขาวมีอิทธิพลและตำแหน่งสำคัญในภูมิภาคใต้  เมื่อเทียบกับทวีปฝานซิงโจว  อิทธิพลของทวีปทรายขาวนั้นเข้มแข็งกว่า

คู่ต่อสู้ของเขาก็คือทวีปเกียรติยศชาวยุทธที่แข็งแกร่งทรงอำนาจ  เขาต้องการตัวช่วยสองสามอย่าง

ถังเทียนไม่เคยไว้ใจเหออิงและท่านหญิงโหรวในสายตาเขาเลย  พวกเขาไม่สำคัญสำหรับเขา  คำพูดของเขาก่อนหน้านั้นแค่พูดส่งเดช  หนุ่มชาวฟ้าจะก้มหัวให้เหออิงได้ยังไง?

นั่นแย่ยิ่งกว่าฆ่าถังเทียน

ถังเทียนคิดอยู่ชั่วขณะแล้วจากนั้นก็พูดอย่างเป็นงานเป็นการ “ถ้าคุณชายใหญ่กลายเป็นเจ้าครองทวีปคนใหม่ ข้าหวังว่าจะได้รับสัมพันธไมตรีกับทวีปทรายขาว”

รอยยิ้มที่หน้าของคุณชายใหญ่หายไปทันที  เขาพูดอย่างจริงจัง “แต่ต้องไม่ใช่เงื่อนไขที่ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของทวีปทรายขาว  ไม่ว่าในอนาคต ข้าจะได้เจ้าครองทวีปทรายขาวหรือเป็นศพก็ตาม  ข้าไม่เคยคิดทำร้ายผลประโยชน์ของทวีปทรายขาว”

ถังเทียนจ้องมองคุณชายใหญ่ที่ไม่มีขลาดเขลาแต่จ้องมองถังเทียนตอบ

แววชื่นชมปรากฏในดวงตาของถังเทียน  ความจริงเมื่อเขาเห็นคุณชายใหญ่  เขาไม่เคยคิดอะไรกับเขา  แต่ขณะนั้นเขาอดไม่ได้ที่จะประเมินคุณชายใหญ่ผู้ที่ดูเหมือนไม่มีตัวตนนี้ใหม่

สายตาของคุณชายใหญ่กระจ่างปรากฏเหมือนกับผ่านการอบรมมาอย่างดีเหมือนกับครูมากกว่าจะเป็นผู้สืบทอดปกครองทวีป ถังเทียนลูบคาง  ‘ถ้าคนผู้นี้ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมสะสมอยู่ในตัวเต็มที่เหมือนกับอาเฮ่อหรือปิง  เขาคงจะแพ้เหออิงและท่านหญิงโหรวแน่นอน’

“พันธมิตร เป็นพันธมิตรในภูมิภาคใต้ นั่นง่ายมาก” ถังเทียนคิดชั่วขณะ “บางทีข้าจะขายของสองสามอย่างให้ท่าน หรือบางทีข้าก็อาจซื้อของสองสามอย่างจากท่าน”

คุณชายใหญ่ถอนหายใจโล่งอกเขากังวลว่าเหมิ่งหนานจะฉวยโอกาสตั้งเงื่อนไขที่เขาไม่อาจยอมรับได้  ท่านซัวปี่คุยกับเขาไว้ก่อนแล้วและที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือท่านซัวปี่เชื่อมั่นในเหมิ่งหนาน

พันธมิตรและช่วยหาช่องทางทำธุรกิจของทวีปทรายขาว  เงื่อนไขนั้นไม่นับว่าสูงยังถือว่าต่ำมากด้วยซ้ำ

“เพียงเท่านั้นเองหรือ?”  คุณชายใหญ่ไม่อยากจะเชื่อหูตนเอง

ถังเทียนชำเลืองมองดูเขา  “ท่านยังไม่มีพลังอำนาจท่านก็ยังไม่สามารถเติมเต็มสิทธิ์เหล่านี้ในตอนนี้”

คุณชายใหญ่รู้สึกละอายใจทันที

หลิงเซี่ยถอนหายใจโล่งอก  นางมองเหมิ่งหนานไม่ออกอีกต่อไป  ทุกอย่างที่เขาทำล้วนแปลกประหลาด  และการขอร้องแปลกๆ มักทำให้นางประหลาดใจได้เสมอ

‘เขาแปลกคนจริงๆ’

ทันใดนั้นมีเสียงดังออกมาจากด้านนอก  “ใครกัน?ออกมาเดี๋ยวนี้!”

หลังจากนั้นเป็นเสียงต่อสู้ที่รุนแรงดังออกมาจากลานบ้าน  ทุกคนสีหน้าเปลี่ยน พวกเขามองหน้ากันเอง  ถังเทียนยืนขึ้นและตะโกน  “ไปดูกัน!”

เมื่อถังเทียนมาถึง  การต่อสู้จบลงเรียบร้อย  มีศพสองสามศพนอนอยู่บนพื่น มีเลือดนองพื้น

ถังเทียนฟังรายงานจากบริวาร  สีหน้าของเขาไร้ความรู้สึก

มีคนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน   และโดยไม่ส่งสัญญาณอะไรพวกเขาเริ่มต่อสู้กับกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจว แต่โชคดีที่คนที่อยู่ใกล้ๆ เคลื่อนห่างออกไปและกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวก็ระมัดระวังอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อคนกลุ่มนี้มาถึงพวกเขาก็รู้ตัวแล้ว

“อาการบาดเจ็บพวกท่านเป็นยังไงบ้าง?  พวกเขาแข็งแกร่งขนาดไหน?”  ถังเทียนถาม

“เรามีคนบาดเจ็บสองคน  ถ้าเป็นการสู้กันตัวต่อตัวก็อาจจะเสมอกัน”  คนที่ตอบคืออาเหล่ง  เขารับหน้าที่ดูแลชั่วคราว  และสีหน้าของเขาไม่ค่อยดี  “ข้าคิดว่าพวกเขารับจ้างมา และเป็นทหารผ่านศึก”

เขารู้สึกยินดีในใจเนื่องจากความรอบคอบของเขา  การป้องกันลานบ้านตระกูลหลิงมีความหนาแน่นมากอำนวยตามมาตรฐานของค่ายป้องกันในสมรภูมิอย่างสมบูรณ์ การจัดตำแหน่งอย่างพิถีพิถันถูกนำมาใช้อย่างเต็มที่ ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่จำกัดอยู่ที่มีเพียงผู้บาดเจ็บสองคน

เสียงระเบิดดังมาจากที่ใกล้และควันดำเริ่มลอยคลุ้ง เมืองทรายขาวตกอยู่ในความวุ่นวาย คุณชายใหญ่สีหน้าเขียวคล้ำทันที  “พวกเขาพยายามจะทำอะไร?หรือว่าจะปิดบัญชีกันแล้ว?”

ถังเทียนมองดูคุณชายใหญ่ด้วยความเห็นใจ  ‘สิ่งที่พวกเขาพยายามจะทำน่ะหรือ,  พวกเขาพยายามจะฆ่าท่าน’

แต่ในขณะนั้น  เขาไม่กระตุ้นตอแยเขา และสั่งทันที  “เราจะออกนอกเมืองและไปที่ค่ายทหาร!”

ทุกคนสามารถบอกได้ว่ากลายเป็นเรื่องอันตรายแล้ว  พวกเขาทุกคนมีสีหน้าจริงจัง พวกเขาคิดว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย  แต่ไม่มีใครคาดเลยว่าเหออิงจะกล้าบ้าบิ่นจริงๆ

คฤหาสน์จันทราคือที่ปลอดภัยของฉินอวี่หรันและตอนนี้กลายเป็นสถานที่มีชื่อเสียงของทวีปทรายขาว เนื่องจากสตรีสาวชั้นสูงนับไม่ถ้วนจะมาเยี่ยมชมฉินอวี่หรัน หญิงสาวทุกคนจะมีเบื้องหลังที่แข็งแกร่งก็ยังยอมพักอยู่ในห้องพักอาคันตุกะก็ยอม

โชคดีที่คฤหาสน์จันทราคือคฤหาสน์ที่แพงที่สุดและใหญ่ที่สุดของเมืองทรายขาวจึงมีห้องรับรองอาคันตุกะอย่างเพียงพอ เป็นพื้นที่ต้องห้ามสำหรับบุรุษ

ผู้คนชอบล้อเล่นกันว่าใครก็ตามที่ยึดครองคฤหาสน์จันทราได้ย่อมจะโค่นล้มทวีปทรายขาวได้โดยไม่เสียเลือดเนื้อ

ฉินอวี่หรันที่ปัจจุบันนี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์ผู้นำสตรีสังเกตได้ถึงเสียงแตกตื่นภายนอก  นางวิ่งออกมาจากห้องโถงใหญ่มาถึงที่ลานคฤหาสน์เห็นว่าบ้านไม้นับไม่ถ้วนที่ลอยอยู่ในอากาศตกอยู่ในเปลวเพลิงมีควันลอยคลุ้ง

สตรีชั้นสูงถึงกับแตกตื่นหัวใจของฉินอวี่หรันเต้นแรง นางล้วงเครื่องมือสื่อสารออกมาใช้ทันที  แต่ไม่สามารถใช้งานได้แม้แต่น้อย

นางรู้สึกว่าต้องมีการก่อนกบฏ

นางเรียกหาองครักษ์ที่เชื่อใจได้และกระซิบเบาๆ  “เจ้าต้องไปลานบ้านตระกูลหลิงเดี๋ยวนี้  ขอความช่วยเหลือจากท่านเหมิ่งหนาน”

เมื่อเห็นองครักษ์ประจำตัวออกไปแล้วฉินอวี่หรันประหลาดใจตัวเอง นางไม่เคยคิดเลยว่าช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด  คนแรกที่นางคิดถึงกลับเป็นพี่เหมิ่ง

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”  ป้าชิวถาม

สตรีอ่อนแอรอบๆนางพากันร้องไห้แตกตื่นโดยไม่มีสติ

ฉินอวี่หรันหายใจลึกและตะโกน  “ทุกคนไปอยู่ในห้องโถงใหญ่!  ทุกคนเข้าไปในห้องโถงใหญ่!”

เหมือนกับว่าสตรีเหล่านั้นพบที่พึ่งพวกนางเป็นเหมือนกับไก่ที่ตื่นกลัววิ่งเข้าไปในห้องโถงใหญ่

ฉินอวี่หรันเรียกกลุ่มหัวหน้าชุดรักษาความปลอดภัยและกล่าว “จากนี้ไป เจ้าจะต้องนำบ่าวรับใช้และกลุ่มคนคุ้มกันเข้ามาในที่นี้  ไม่ต้องคำนึงถึงครอบครัวพวกเขาเจ้าจะต้องจัดการ เจ้ามีงานอย่างเดียว ป้องกันด้านนอกและต้องแน่ใจว่าจะไม่มีใครเข้ามาได้!  ฆ่าทุกคนที่พยายามเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต”

หัวหน้าผู้นั้นสีหน้าเปลี่ยน  “ขอรับ”

น้ำเสียงของฉินอวี่หรันเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต  “ทุกอย่างในตอนนี้ เป็นลางไม่ดี  แต่, เจ้าต้องบอกทุกคนใครก็ตามที่เสียชีวิตในการรบ ข้าจะดูแลครอบครัวพวกเขาเอง”

หัวหน้าผู้คุ้มกันติดตามฉินอวี่หรันมาหลายปี  และรู้ว่าแม้ว่าคุณหนูจะเป็นสตรี  แต่คำพูดของนางมีน้ำหนักและเชื่อถือได้  ทุกคนเคยได้รับความเมตตาจากนางมาก่อน  เขาเองก็เคยบาดเจ็บในสงครามและเดินไปตามถนน แต่ได้นางช่วยเหลือไว้ ฉินอวี่หรันมีตาซึ่งมีพรสวรรค์ ดังนั้นจึงให้เขานำกลุ่มหน่วยคุ้มกันภัย

“ถ้าพวกมันต้องการเข้ามา  พวกมันต้องข้ามศพผู้น้อยไปก่อน”

หัวหน้าหน่วยคุ้มกันพูดกับฉินอวี่หรันอย่างเคร่งขรึม  จากนั้นหันหน้าและเดินออกไปข้างนอก และเริ่มนำกองกำลังออกไปต่อต้าน

ฉินอวี่หรันขบริมฝีปากแน่น  นางรู้ว่าเป็นการก่อกบฏ อย่างนั้นแผนการก็คงจะไม่ยอมปล่อยคฤหาสน์จันทราไว้แน่ ใช้สตรีที่เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลใหญ่ในทวีปทรายขาวเป็นไพ่ต่อรองที่ดีที่สุด

สำหรับนาง  ทวีปทรายขาวคือถิ่นอื่นสำหรับนาง  นางไม่รู้ว่าจะเชื่อใคร

นางเพียงแต่ฝากความหวังไว้กับพี่เหมิ่ง

พี่เหมิ่ง,ท่านต้องมาที่นี่เร็วๆ!

ฉินอวี่หรันกระวนกระวายใจมากขึ้นทุกที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด