ตอนที่แล้วตอนที่ 622 ข้าชื่อเซี่ยอวี่อัน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 624 กะโหลกชมพู

ตอนที่ 623 ถังโฉ่วผู้วิปลาส


ถังโฉ่วยังคงนิ่งเงียบไร้ความรู้สึก  สายตาของเขาไม่แสดงอารมณ์ใดๆ

ในพื้นที่ซึ่งไม่รู้จักเซี่ยอวี่อันรู้สึกกระวนกระวาย เหมือนกับว่าเขาย้อนกลับไปอยู่ที่สถาบันศึกษา  เกี่ยวกับการดำเนินการทดสอบใหญ่  ด้านหลังของเขา กองพลนางแอ่นยังคงเงียบ

ถังโฉ่วไม่สนใจว่าเซี่ยอวี่อันจะคิดยังไง เขาต้องการกวาดทหารสำหรับเช่าออกไปจากประตู  ฮึ่ม..อนาคตของนายท่านจะต้องอยู่ที่กองทัพพญาหมีซึ่งนำโดยแม่ทัพถังโฉ่วผู้ลือชื่อแน่นอน!

ไม่ว่าเขาจะไม่เต็มใจหรือโกรธเพียงใดก็ตาม  สำหรับถังโฉ่วคำสั่งของถังเทียนคือคำบัญชาสูงสุดและเขาขัดขืนไม่ได้

อารมณ์ส่วนอารมณ์  งานก็คืองาน

ถังโฉ่วจริงจังกับงานของเขาทั้งหมด  ดังนั้นเขาจึงเตรียมพร้อม

วิธีการที่เป็นเอกลักษณ์ของกองทัพดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ได้ถูกปิงรวบรวมรายงานไว้ก่อนหน้านี้แล้ว  เป้าหมายก็คือการจัดสร้างกองทัพพญาหมีในฐานะเป็นแหล่งอ้างอิง ถังโฉ่วผู้ชื่นชมและยึดถือท่านปิงเป็นแบบอย่างไม่เคยปล่อยผ่านรายงาน  เขาพลิกดูรายงานครั้งแล้วครั้งเล่าจนถึงขนาดจดจำได้แทบทุกคำและทำการวิเคราะห์ประเมินนับครั้งไม่ถ้วนจนเกิดความชำนาญ

ความเข้าใจของเขาที่มีต่อกองทัพดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์อยู่ในระดับที่ลึกซึ้ง

เพื่อเป็นผู้นำทหารที่มีประสบการณ์และรอบรู้เนื่องจากมีเวลาพอเขาจะสร้างความเข้าใจของตัวเองต่อวิธีการต่อสู้รูปแบบใหม่และนั่นคือความเข้มแข็งของแม่ทัพผู้มีชื่อเสียง

ถังโฉ่วเปิดสมุดเล่มเล็กที่แขวนอยู่ที่เอวอย่างเฉยเมย

“การทดสอบแรกจะเป็นเรื่องการผสานพลัง”

เซี่ยอวี่อันถอนหายใจ  เนื่องจากคนที่มาจากสถาบันที่แท้จริงจะต้องรู้เป็นธรรมดาว่าการผสานพลังคือชีวิตของกองทัพและในการฝึกฝนประจำวันของเขา เขามองว่าการผสานพลังเป็นการฝึกที่สำคัญที่สุด

แต่คำพูดต่อมาของถังโฉ่วทำให้เขามีสีหน้าเปลี่ยน

“การทดสอบนี้จะดำเนินการในเงื่อนไขโหดหินที่สุด สภาพแวดล้อมสำหรับการทดสอบก็คือสภาพพลังงานผันผวนระดับเจ็ด”

ถังโฉ่วประกาศการทดสอบสภาพแวดล้อมด้วยสีหน้าเฉยเมย  แต่กองกำลังนางแอ่นฮือฮาทันที

นายทหารผู้ช่วยของเซี่ยอวี่อันทนไม่ไหวถึงกับแค่นเสียง  “เจ้าจงใจทำเรื่องนี้ให้ยุ่งยากหรือเปล่า?  พลังงานผันผวนระดับเจ็ด  เจ้าเข้าใจไหมว่ามันยากเย็นขนาดไหน?”

สีหน้าของเซี่ยอวี่อันบิดเบี้ยวไม่แพ้กัน  ความผันผวนของพลังงานระดับเจ็ดเกิดขึ้นหลังจากเกิดการระเบิดขนาดใหญ่ความผันผวนของพลังงานจะปั่นป่วนรุนแรงมากและในสถานการณ์เช่นนั้น  ต้องการจะผสานพลังงานให้ถี่ขึ้นเป็นเรื่องที่ยากสุดๆ

ไป๋เยี่ยอ้าปากต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง  แต่แล้วเขาได้ยินเสียงเย็นชาไร้ความรู้สึกของถังโฉ่ว  “ตามรายงานที่ข้าได้รับ  ถ้าข้าเข้าใจไม่ผิด  เรากำลังซื้อกองทัพฝีมือดีใช่หรือไม่?”

ไป๋เยี่ยได้แต่เงียบ

คำพูดของถังโฉ่วไม่ผิดตามที่ระบุในกระดาษ ไป๋เยี่ยเองก็ตบอกรับรองกับเหมิ่งหนานด้วยความมั่นใจว่าเขาจะเอากองทัพที่แข็งแกร่งมาให้เขา  หลังจากใช้เงินมากมายซื้ออุปกรณ์ให้พวกเขา พวกเขาจะมีมาตรฐานเทียบเท่ากองทัพระดับเงิน  และนอกจากนี้พวกเขาได้รับการคัดเลือกภายใต้กฎเกณฑ์ที่เข้มงวดที่สุด  เขาพูดทุกอย่างที่เขาต้องพูด

แต่นั่น...

ไป๋เยี่ยอดมองไปทางถังเทียนไม่ได้‘เบื้องหลังของเสี่ยวเหมิ่งไม่ง่ายอย่างที่ข้าคิดจริงๆ’ ใครก็ตามก็สามารถบอกได้เมื่อผู้เชี่ยวชาญรับงาน  การแสดงผลงานด้วยมาตรฐานน้อยสุดของถังโฉ่วไม่ใช่มาตรฐานของผู้นำธรรมดาเลย

เซี่ยอวี่อันห้ามผู้ช่วยแม่ทัพของเขา  และพูดอย่างใจเย็น  “ก็ได้!”

คนที่ต้องการซื้อกองทัพที่แท้จริงมักจะจุกจิกเสมอ เซี่ยอวี่อันเริ่มกังวลถึงคำมั่นสัญญาที่ผู้ซื้อบอกเขาไว้ แต่หลังจากเห็นความต้องการกองทัพที่แท้จริง  เขาเชื่อมั่นอย่างเต็มที่กับความศรัทธาที่ดีของเขา  และถังโฉ่วก็พูดถูก  ถ้าพวกเขาไม่ใช่ทหารมือดี  เขาจะมีคุณสมบัติรักษาสัญญาได้ยังไง?

วิธีการของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ได้จัดทำมาเป็นเวลานานแล้ว และพวกเขาก็ได้ผ่านการทดสอบทุกประเภทในอดีตมาแล้วดังนั้นถังโฉ่วจึงเตรียมอุปกรณ์เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่มีความผันผวนของพลังงานระดับเจ็ด

เสาพลังงานทั้งสี่ถูกฝังลงในพื้นลึก30 เมตร และกองทัพจะอยู่ในพื้นที่กึ่งกลางสี่เสาซึ่งจะยิงลำแสงสี่สายเชื่อมเป็นม่านพลังแสง ผนึกม่านพลังสี่เหลี่ยมกักกองทัพไว้ภายใน

ภายในม่านพลังแสงพลังงานเริ่มผันผวน แม้แต่อากาศเริ่มจะไม่เสถียรอย่างเห็นได้ชัด ความผันผวนอยู่ในระดับสูงเหมือนกับว่ามีพายุเกิดขึ้นภายใน

“เริ่มได้!”

ถังโฉ่วประกาศเริ่มต้นทดสอบอย่างเฉยเมย

เซี่ยอวี่อันเริ่มมีส่วนร่วมกับการผสานความถี่พลังงานของกองกำลัง ทหารกองพลนางแอ่นไม่สามารถผสานพลังเองได้ภายในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง พวกเขารู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขาเริ่มถูกผลักบ้าง ถูกฉุดบ้างหลายคนไม่สามารถยืนหยัดได้มั่นคงอย่างเห็นได้ชัด

ถังโฉ่วเริ่มจดข้อความลงในสมุดบันทึกอย่างเฉยเมย

สีหน้าของไป๋เยี่ยบิดเบี้ยว  การดำเนินการของเซี่ยอวี่อันย่ำแย่มากการผสานพลังของพวกเขาทำได้เพียง 30%แต่เมื่อคิดดูแล้ว ถ้าเป็นเขาเองอยู่ภายในนั้น เผชิญกับการทดสอบทันทีผลของเขาไม่มีทางดีกว่า

เขาได้แต่พูดว่าถังโฉ่วผิดธรรมดาเกินไปอย่างแท้จริง!

ความคงทนของการผสานพลัง30% เป็นภาพที่น่าอนาถอย่างแท้จริง ก็หมายความว่าในเรื่องของการสู้รบพลังความสามารถที่สูงสุดของของกองกำลังนางแอ่นอาจมีแค่ 30%  ท่านต้องรู้ นี่คือค่าที่สูงสุดในทางทฤษฎี  แต่ในการรบจริง ความสามารถในการรบที่แท้จริงจะต่ำกว่าค่าในทฤษฎีเสมอ

ขณะนั้นเองคนกลุ่มหนึ่งก็เดินเข้ามาถึงและไป๋เยี่ยเห็นสวีจินมีท่าทางอย่างเดียวกัน

ด้านหลังสวีจินเป็นกลุ่มคนที่น่าเกลียด  ไป๋เยี่ยรู้ว่านั่นเป็นทหารที่สมาคมการค้าสวีจี้พามา แต่เป็นกลุ่มที่ไร้ระเบียบมากทำให้ไป๋เยี่ยมองพวกเขาอย่างดูแคลน  ‘สวีจินปกติเป็นคนเชื่อถือได้  เขาพากลุ่มคนที่ไม่เหมาะสมนี้มาได้ยังไง’

สายตาของไป๋เยี่ยมองดูผู้นำเป็นหญิงสาวผมแดง  นางมีผมแดงเพลิงรูปร่างเพรียวระหง ถือดาบยักษ์ (ดาบเคลย์มอร์)  นางดูอ่อนหวานแต่ก็ห้าวหาญ ทันใดนั้นมีชื่อหนึ่งผุดขึ้นมาในความคิดของไป๋เยี่ย  ตาของเขาเป็นประกายและสีหน้าของเขาเปลี่ยนไป

‘หรือว่าจะเป็น…’

สวีจินทักทายถังเทียนอย่างกระตือรือร้น  ขณะที่สตรีผมแดงและกลุ่มของนางมองดูการทดสอบและมองดูหน้าของพวกเขาแล้วไม่ค่อยสบายใจ

คนตาสามเหลี่ยมกลืนน้ำลายและกล่าว  “หัวหน้าการทดสอบดูเหมือนจะเขี้ยวลากดินทีเดียว!”

คนอื่นพยักหน้า

สตรีผมแดงแค่นเสียง“ไม่ได้เรื่อง!”

แต่ตัวนางเองก็มีลางไม่ดี

ถังโฉ่วไม่สนใจแม้แต่คนที่มาถึง  เขาเพ่งอยู่กับกองกำลังนางแอ่น  ผลที่น่ากลัวไม่ทำให้เขาประหลาดใจ  แต่เขาไม่หยุดพวกเขา  เขาเตรียมบททดสอบที่โหด  แต่ยังไม่เห็นพลังของกองกำลังนางแอ่น  เขาใช้อีกครั้งหนึ่งและใช้ดูความอดทนและความสามารถในการประเมินและผสานกันของพวกเขา

สำหรับคนฝีมือดีทุกคน  คนหลังๆ สำคัญที่สุด

เมื่อเห็นเซี่ยอวี่อันและพวกที่เหลือฝืนทนได้  ถังโฉ่วไม่ได้รู้สึกสงสารแต่เขากลับปิดสมุดบันทึกเล่มเล็กในมือและเดินไปข้างหน้า  และพูดอย่างเย็นชา  “ความถี่ของการผสานพลัง 30% ผลที่ย่ำแย่ขนาดนั้น  พวกเจ้ายังเรียกตัวเองว่าฝีมือดีได้อีกหรือ? อย่าทำให้เสียชื่อทหารฝีมือดี  นี่แค่เป็นการทดสอบแรก อีกแปดการทดสอบที่ตามมาโหดและเข้มงวดกว่าครั้งก่อน  ถ้าพวกเจ้าคิดว่าทำไม่ได้  อย่างนั้นก็ยอมแพ้ซะ  ไม่มีอะไรน่าอายรู้พลังความเข้มแข็งของตัวเองมีความสำคัญในสงครามเพื่อให้สามารถรักษาชีวิตตัวพวกเจ้าเองให้รอด”

พวกบุรุษกำยำที่อยู่ข้างสตรีผมแดงหน้าซีดกันหมด  มันเรื่องบ้าอะไรกันวะนี่  ทะ...ทดสอบโหดนี่แค่ข้อแรกหรือนี่?  และยังมีการทดสอบโหดอีกแปดอย่างที่โหดกว่ารออยู่?  มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเจ้าคนผิดปกตินี่ร้ายกาจผิดธรรมดานัก?

คำตำหนิของถังโฉ่วทำให้เซี่ยอวี่อันตาแดง  เขามีอารมณ์ที่อ่อนโยน  แต่ก็มีความภูมิใจอยู่ภายใน  และเต็มไปด้วยความมั่นใจกับทหารของตนเอง

‘นี่ยังไม่พอใจทำให้เจ้านั่งดูข้างๆอย่างสบายใจอีกหรือ?  คราวนี้เจ้ามาที่นี่เพื่อเอาเกลือทาเรา  เจ้ายังทำไม่พอใช่ไหม?  จะให้ยอมแพ้เงียบๆ  ล้มเหลวเงียบๆ ไม่มีใครรู้ไม่มีใครคิดสิ่งที่เราคิด เราทุกคนมีชีวิตจนวันสุดท้ายแล้วเจ้าคิดจะให้เราเลิกหรือ?’

ความคิดและจิตใจของเซี่ยอวี่อันเหมือนมีเพลิงลุกโชน

“อย่าต้านพลังงานผันผวน!”

“ผ่อนคลายร่างกายของพวกเจ้าเชื่อใจคู่หูของพวกเจ้า!”

“ให้เพ่งถึงจังหวะการประสาน  จังหวะ!”

“ทำเหมือนที่เราทำตามปกติ  หนึ่ง สอง สาม อย่างนั้นนั่นแหละ!”

“ทำได้ดีมาก!”

……

ไป๋เยี่ยมองดูร่างแปลกประหลาดในม่านพลังแสง  เสียงคำรามของเซี่ยอวี่อันผมที่เรียบร้อยกลายเป็นยุ่งเหยิง ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยดินโคลน เขาทุ่มเทพลังกวัดแกว่งแขน พลังงานที่ผันผวนทำให้ร่างของเขาโอนเอนอยู่ในความยุ่งเหยิง

ปัง,กระแสอากาศทำให้เซี่ยอวี่อันกระแทกกับโคลนอย่างแรง

เซี่ยอวี่อันไม่ได้คร่ำครวญ  เขาดิ้นรนลุกขึ้นยืนและยังคงโบกแขนคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวและนำทหารต่อไป

ไป๋เยี่ยตื่นตัวอย่างมาก  เขาไม่เคยเห็นเซี่ยอวี่อันเป็นอย่างนั้น  ในใจของเขาเซี่ยอวี่อันสง่างามเป็นกันเองและนุ่มนวลเสมอ

ไป๋เยี่ยมองดูถังโฉ่วที่ยังเมินเฉยไม่มีร่องรอยอารมณ์แม้แต่น้อย

“40%ระดับยังน่าเป็นห่วง! หลังจากผ่านไปอีกสามสิบนาทีเจ้าเพิ่มได้เพียง 10%?พวกเจ้ารู้ไหมว่าในเวลาสงครามจะเกิดอะไรขึ้น? มันพอจะให้พวกเจ้าตายได้ถึง 300 ครั้ง!  และหลังจากตาย 300 ครั้งเจ้ายังยกระดับความถี่การผสานพลังได้ 10%  นั่นคือการเสียสละที่แย่  55%คือขั้นต่ำ  นั่นคือค่าที่พวกเจ้ายังอยู่ห่างไกลและขอย้ำเตือนด้วยว่า ขั้นต่ำของทหารชั้นยอดคือ 70%  พวกเจ้าเริ่มรู้สึกสิ้นหวังบ้างหรือยัง?”

เสียงที่เย็นชาและเฉยเมยของเขาทำให้ไป๋เยี่ยเกิดแรงกระตุ้น  เขาอยากจะต่อยหน้าเจ้าหมอนั่น

ผิดผู้ผิดคนเกินไปแล้ว!

เซี่ยอวี่อันไม่สนใจคำของเขาและยังคงคำรามและนำทหารของเขา

การฝึกฝนอย่างต่อเนื่องของเซี่ยอวี่อันเริ่มส่งผล  ความถี่ของการผสานพลังเริ่มสูงขึ้น ทหารเริ่มคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมพลังผันผวนรุนแรง  เซี่ยวอวี่อันค่อยค้นพบเคล็ดลับ  แต่เพราะเขาตะโกนอย่างต่อเนื่องคอของเขาเริ่มแหบแห้ง

ใครๆที่อยู่ในกองกำลังนางแอ่นเคยเห็นเขาทุ่มเทอย่างนี้บ้างเล่า? ตาของทุกคนเปลี่ยนเป็นสีแดงและพวกเขาไม่สนใจอะไรอื่น

พลังงานที่ผันผวนรุนแรงกระแสอากาศที่ปั่นป่วนทำให้พื้นดินภายในม่านพลังแสงอ่อนลงมากและม่านพลังเริ่มปกคลุมไปด้วยสิ่งสกปรกและโคลนสั่นสะเทือน เสียงกระแทก และเสียงคราง

ฉากภาพรุนแรง  และทุกคนที่มองก็ตะลึง

หน้าของสวีจินกลายเป็นซีดขาว เมื่อคิดว่ากองทัพของเขาเองจะต้องผ่านการทดสอบอย่างเดียวกัน  หนังของเขาถึงกับชา

หลังจากผ่านไปสองชั่วโมง  ความถี่ในการผสานพลังของพวกเขาถึง 56%

ตาของถังโฉ่วกระพริบเป็นตัวเลขและเขาเขียนลงในสมุดของเขา

พั่บเขาปิดสมุด

“การทดสอบจบแล้ว  ข้าเสียใจด้วย ในอนาคตโปรดอย่าทำให้เสียชื่อทหารมือดี” เสียงของถังโฉ่วยังคงเยือกเย็น “ก็ยังโชคดีที่พวกเจ้าสอบผ่าน เนื่องจากพวกเจ้ามีคุณสมบัติสำหรับทดสอบรอบต่อไป”

ม่านแสงหมองลงพลังผันผวนที่รุนแรงหายไป และโคลน สิ่งสกปรกทั้งหมดร่วงลงพื้น

ภายในฝนโคลน กองกำลังนางแอ่นทุกคนชุดฉีกขาดกะรุ่งกะริ่งขณะที่พวกเขานอนกับพื้นไม่มีใครยืนอยู่ได้เลย พวกเขาหอบหายใจ  ทุกคนสกปรกไปหมดเหงื่อผสมโคลน แต่ไม่มีใครสนใจพวกเขาดิ้นรนอยู่ในคลื่นพายุพลังงานที่ผันผวนสองชั่วโมง และเรี่ยวแรงของพวกเขาหายเรียบไม่มีเหลือเลยสักนิด

แม้แต่เซี่ยอวี่อันก็ยังนอนแช่โคลนเหงื่อหลั่งจากร่างของเขาผสมลงในโคลน

ตรงกันข้ามสตรีผมแดงยืนหน้าซีดอยู่กับที่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด