ตอนที่แล้วตอนที่ 18-7 แบ่งโลก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 18-9 ต่อสู้!

ตอนที่ 18-8 สมบัติยิ่งใหญ่


“พี่สาม!  ใจเย็นๆ!”  เรย์โนลด์ตะโกนทันที

“ท่านพ่อ!”  ซาชาและเทย์เลอร์ร้องเรียกอย่างหวาดหวั่น

พวกเขากลัวว่าหลังจากลินลี่ย์รู้เรื่องนี้  เขาจะไม่สามารถเก็บความโกรธไว้และบุกโจมตีโอดิน  วอร์ตัน เรย์โนลด์และคนอื่นๆรู้ว่าสุดยอดฝีมือเทพชั้นสูงนั้นหมายความว่าไง นี่เป็นเหตุผลที่แม้เยลจะผิดหวังโกรธจนตาย แต่ก่อนตายเขาสั่งไว้ว่าลินลี่ย์และเรย์โนลด์ไม่ต้องล้างแค้นให้เขา!

ไม่ใช่ว่าเขา,เยลไม่ต้องการแก้แค้น เป็นแต่ว่าเขากลัวว่าลินลี่ย์และเรย์โนลด์จะต้องมาตายเพราะเขาด้วยเช่นกัน!

“พี่ใหญ่ เราไปฆ่าเขากันเถอะ”  บีบีพุ่งออกไป

ทันใดนั้นลินลี่ย์เหยียดมือขวาคว้าบีบีไว้  ลินลี่ย์จ้องมองเขาและกล่าว “บีบี! ไม่ต้องรีบร้อน!”

“ใช่แล้ว, อย่าเพิ่งใจร้อน”  วอร์ตันลนลานพูดเช่นกัน  “บีบี, เจ้ากับพี่ข้าต้องใจเย็นก่อน  ถ้าล้างแค้นเป็นเรื่องที่เป็นไปได้  เราจะไม่เก็บไว้นานแน่  แต่ถ้าเราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ผลสุดท้ายชีวิตของเราก็จบสิ้นเช่นกัน  มันไม่คุ้มกัน เราต้องอดทน ต้องทนไว้!”

“ทนบ้าอะไรกัน!”บีบีคำรามด้วยความโกรธ “แล้วไงเล่าถ้าเขาเป็นอสูรเจ็ดดาว? หลายร้อยปีก่อนที่พี่ใหญ่จะบรรลุพลังระดับใหม่  เขาฆ่าอสูรเจ็ดดาวด้วยมือตนเองถึงห้าคน แล้วเดี๋ยวนี้เล่า! อย่าว่าแต่อสูรเจ็ดดาวเลย...ต่อให้โอดินเป็นเทพอสูรในแดนนรกพี่ใหญ่กับข้าก็ไม่กลัว!”

เมื่อลินลี่ย์ก้าวหน้าจากเทพแท้เป็นเทพชั้นสูงพลังของเขาเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า

ตอนนี้เขาไม่เพียงแต่มีอาวุธประกายเทพเท่านั้น เขายังมีพลังมหาเทพสามารถใช้ในช่วงเหตุการณ์อันตรายได้!  และนอกจากลินลี่ย์เองแล้ว! ทักษะเทพธรรมชาติกินเทพของบีบีเป็นไม้ตายที่ทรงพลังมากอยู่แล้ว แม้ว่าบีบีจะไม่แข็งแกร่งในเรื่องพลังโจมตีธรรมดา  แต่เมื่อใช้สุดยอดทักษะเทพธรรมชาติของเขาแล้ว  พลังของเขาจะเทียบได้กับเบรุต!

ถ้าลินลี่ย์และบีบีผนึกกำลังกัน...จะมีสักกี่คนที่จะหยุดสองคนนี้ได้?

“อะไรนะ... เจ้าพูดว่าไง?”  วอร์ตันตะลึง

“ก่อนบรรลุพลังระดับใหม่?  ฆ่าอสูรเจ็ดดาวไปห้าคน?”  เรย์โนลด์และทุกคนตะลึง

แม้ว่าพวกเขาไม่รู้เรื่องสถานะพลังของอสูรเจ็ดดาวมากนัก  แต่เรื่องที่เบรุตพูดถึงนั้น พวกเขาทุกคนเข้าใจว่าอสูรเจ็ดดาวควรจะเป็นสุดยอดฝีมือที่มีพลังอำนาจในหมู่เทพชั้นสูง

“ไม่ต้องห่วง ข้ามั่นใจว่าสามารถฆ่าโอดินได้” ลินลี่ย์พูดด้วยเสียงเบา  “ถ้าบีบีกับข้าร่วมมือกันยังไม่สามารถฆ่าโอดินได้...บางทีลอร์ดเบรุตคงเตือนข้าเรื่องเกี่ยวกับเขาเมื่อตอนเรายังอยู่ในแดนนรกแล้ว” เบรุตรู้เรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ในทวีปยูลาน  แต่เบรุตไม่พูดถึงแต่อย่างใด

ลินลี่ย์ไม่ตำหนิเบรุตเพราะเรื่องที่โอดินทรมานเยล ที่สำคัญคือคงเป็นไปไม่ได้ที่เบรุตจะส่งสำนึกเทพออกไปทุกขณะทุกวันเพื่อให้ความสนใจทุกอย่าง

ลินลี่ย์ไม่ตำหนิเบรุตเพราะไม่ฆ่าโอดินล้างแค้น!

“เหตุผลที่เขาไม่ฆ่าโอดินก็เพื่อให้ข้าลงมือด้วยตัวเอง”  รังสีอำมหิตปรากฏอยู่ในดวงตาของลินลี่ย์

“พี่สาม,ท่านมั่นใจว่าสามารถฆ่าโอดินได้หรือ?” เรย์โนลด์มองลินลี่ย์ด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ

“พี่ใหญ่” วอร์ตันตะลึงเช่นกัน และมองดูลินลี่ย์ด้วยความรู้สึกอัศจรรย์

“มั่นใจเต็มที่”  เสียงของลินลี่ย์เหมือนกับน้ำแข็ง  จากนั้นเขาหันไปมองบีบี  “บีบี, โอดินผู้นี้มีฉายาว่าราชันย์โฉด  เขาทรมานพี่ใหญ่เยลจนเป็นบ้าจนชีวิตย่ำแย่ยิ่งกว่าตาย ข้าจะปล่อยให้โอดินผู้นี้ตายง่ายๆ ได้ยังไง?”  เพียงแต่เมื่อคนมีชีวิต เขายังจะมีความหวาดหวั่นพรั่นพรึงและสิ้นหวัง

เมื่อคนผู้หนึ่งตายคนผู้นั้นไม่มีความรู้สึกถึงอะไรอีกต่อไป

แต่ความกลัวเล็กน้อยจะเพียงพอทำให้ความโกรธแค้นในใจของลินลี่ย์ลดลงได้ยังไง? เป็นไปได้ยังไงที่จะทำให้วิญญาณที่ทรมานของเยลสงบสุขได้?

“พี่สาม!”  เรย์โนลด์เรียกเสียงดังทันที

ลินลี่ย์หันไปมอง  หน้าของเรย์โนลด์นองด้วยน้ำตาและในดวงตาของเขามีอารมณ์ซับซ้อนทั้งแค้นทั้งดีใจ “พี่สาม, ท่านต้องแก้แค้นให้พี่ใหญ่, พี่รอง!  ท่านต้องทำให้ได้! อย่าปล่อยให้วิญญาณของพวกเขาหลงอยู่ในยมโลก  หาความสงบสุขให้พวกเขา!”  เรย์โนลด์ต้องการล้างแค้นมาตลอดหลายปี  แต่เขาไม่มีความสามารถพอทำเช่นนั้น

เขาไม่ยินดีจะยอมก้มหน้ารับเรื่องเช่นนี้!

แต่ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คือเกลียดตัวเองที่ไร้ความสามารถ!

เขาจะทำอะไรได้?  ด้วยพลังน้อยนิดที่เขามี..บางทีเขาอาจตายก่อนไปถึงตัวโอดิน

“ล้างแค้น!”  เรย์โนลด์จ้องมองลินลี่ย์ฝากความหวังของเขาไว้บนบ่าของลินลี่ย์

“ไม่ต้องห่วง” ลินลี่ย์หันไปมองวอร์ตันทันที “วอร์ตัน, ไปจัดการเรื่องบางอย่างซะ รายงานข่าวกรองโอดินที่ถูกส่งมาทั้งหมดรวมทั้งผู้เกี่ยวข้องและบริวารของเขา ทุกอย่างส่งมาให้หมด”

“ได้เลย” วอร์ตันรีบไปเตรียมการ

ลินลี่ย์หันหน้ามองเดเลียที่อยู่ข้างๆใบหน้าของนางยังเต็มไปด้วยน้ำตา เขาพูดเสียงเบา “เดเลีย, ไม่ต้องกังวลไป,โอดินนั่นจะต้องตายแน่นอน และความตายของเขาจะต้องถูกจดจำ ข้าสาบาน!”

จักรวรรดิบาลุคก่อตั้งมากว่าสองพันปีที่แล้วดังนั้นหน่วยข่าวกรองของในตอนนี้จึงแพร่กระจายไปทั่วทวีปยูลาน พวกเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในวังหลวงจักรวรรดิของโอดิน ในอดีตจักรวรรดิบาลุคมีการรวบรวมข่าวกรองรายงานเกี่ยวกับจักรวรรดิโอดิน  ตอนนี้ลินลี่ย์ออกคำสั่ง..

รายงานข่าวกรองหลายอย่างถูกรวบรวมจากนั้นส่งไปที่โต๊ะลินลี่ย์

แต่แค่เพียงคืนเดียวลินลี่ย์ก็เตรียมแผนการแก้แค้น

จักรวรรดิโอดินเขตเมืองหลวงของมณฑล  บนที่ดินหรูหรา

ภายในสวนดอกไม้เด็กหนุ่มสูงศักดิ์สวมชุดยาวหรูพักผ่อนอย่างสบายบนโซฟาหรูหรา  แม้ว่าจะดูเหมือนโซฟา แต่น่าจะเรียกว่าเตียงมากกว่า  สาวรับใช้หน้าตางดงามขดตัวอยู่บนเตียงเสื้อผ้าของนางถูกถอดไปครึ่งหนึ่ง เผยให้เห็นผิวขาวปานเย้ยหิมะ  ขณะที่เด็กหนุ่มสูงศักดิ์หนุนศีรษะอยู่ที่อกสาวใช้

“ช้ามาก” ชายหนุ่มชั้นสูงแค่นเสียงไม่พอใจ

ขณะนี้เองสุภาพสตรีงามคนหนึ่งเข้ามาในสวนทีละคนพร้อมกับบุรุษวัยกลางคนที่ดูเหมือนพ่อบ้านตะคอกใส่ “เร็วเข้า  ตรงนั้นพวกเจ้าทั้งห้าคนเข้าแถวเรียงเดี่ยว ยืนตรง”  สตรีทั้งยี่สิบห้าคนมีร่างกายงดงามมีเสน่ห์

สตรียี่สิบห้าคนเหล่านี้ยืนเข้าแถวนิ่งกับที่ด้วยความรู้สึกค่อนข้างกังวล

“ฝ่าบาท พวกนางคือบรรณาการทั้งหมด”  พ่อบ้านเดินเข้ามาหาและพูดด้วยน้ำเสียงนอบน้อม

“ดีแล้ว” บุรุษหนุ่มสูงศักดิ์ตอบ แต่สายตาของเขาจับนิ่งที่สตรีทั้งยี่สิบห้าคน

รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏบนใบหน้าของเขา  “พวกนางยังอายุน้อยจริงๆ  ต่างจากสาวใช้แก่ของพิภพจองจำที่ไม่มีความเป็นกุลสตรีอยู่เลย”  แค่เพียงเขาโบกมือ ลูกดอกก็ลอยออกมาขณะที่เขาหัวเราะดังลั่น  “สาวงามทั้งหลายของข้า  วันนี้ข้าจะเล่นเกมกับพวกเจ้า  ข้าจะหลับตาและปาลูกดอกนี้ออกไป  ใครก็ตามที่ถูกลูกดอกนี้ปา  คนนั้นจะต้องถอดเสื้อผ้า  เข้าใจไหม?”

ร่างของสตรีทั้งยี่สิบห้าคนสั่นเทิ้ม  แต่ไม่มีใครกล้าต่อต้าน

“ลูกดอกจะไม่ฆ่าพวกเจ้า”  ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ

เขาปาลูกดอกออกไป..

“ควั่บ!”  ลูกดอกพุ่งออกไปหากลุ่มสตรีทั้งยี่สิบห้าคนเหมือนสายฟ้า แต่ในพริบตานั้นมันกลับมาอยู่ในมือของชายหนุ่มชนชั้นสูง

“อ๊า” เสียงร้องตกใจดังขึ้นเบาๆ  รอยเลือดปรากฏบนอกของหนึ่งในหญิงสาว

“เลือดสดดี” ชายหนุ่มแลบลิ้นเลียเลือดจากลูกดอก จากนั้นหัวเราะเบาๆ  “แก้ผ้า”  เขามั่นใจฝีมือของเขาเอง  ลูกดอกแทบจะไม่กรีดผิวของสตรีเหล่านี้  แม้ว่าจะเจ็บแต่เกือบทั้งหมดมีแค่รอยเลือด แต่ไม่มีใครตาย

ร่างของหญิงสาวกำลังสั่น  แต่นางยังยอมถอดเสื้อผ้าออก

“ต่อไป” ชายหนุ่มซัดลูกอกอีกครั้ง

เกมส์นี้ดำเนินต่อไปไม่หยุด  แต่ในช่วงเวลาสั้นๆสตรีทั้งยี่สิบคนก็ถูกถอดชุดหมด  ทุกคนยืนนิ่งกับที่ตัวสั่นและร่างเปลือยอยู่ในอุทยานดอกไม้  พ่อบ้านออกไปเงียบๆ นานแล้ว  เขารู้ว่า..ในวังของฝ่าบาทเขาจะเกลียดบุรุษอื่นที่มองการเล่นเกมสตรีของเขา  ฝ่าบาทสามารถเล่นกับพวกนาง แต่ถ้าคนอื่นมองดู... พวกเขาจะต้องตาย

สตรีทั้งยี่สิบห้าคนยืนนิ่งกับที่เปลือยกายสั่นเทิ้ม  มีสายโลหิตบางๆ ไหลออกจากร่าง

สิ่งที่แปลกก็คือสายเลือดที่ไหลออกนั้นกลายเป็นคำพูด

“แพศยา” “รัก” “ร่าน”

อักษรโลหิตปรากฏบนตัวสตรีทุกคน

ฉากภาพที่แปลกประหลาดนี้ทำให้สตรีเหล่านี้ตื่นกลัวมากขึ้นและไม่สามารถต่อต้านได้

“โอว!”เมื่อเห็นเช่นนี้ ชายหนุ่มสูงศักดิ์ก็ยิ่งตื่นเต้นมากจนทั่วร่างของเขาเริ่มสั่น  “ยอดเยี่ยมจริงๆ  นี่คืองานศิลปะ ฮ่าฮ่า ใช่แล้ว ‘แพศยา’ เจ้ามานี่ นั่นแหละเจ้าที่มีอักษรว่า ‘แพศยา’ บนตัวนั่นแหละ”  ชายหนุ่มสูงศักดิ์เล่นกับลูกดอกปาเป้าซึ่งมันเต้นอยู่ในกลางอากาศราวกับว่ามีชีวิต

สตรีร่างเปลือยเดินอย่างหวาดหวั่นออกมาก้าวหนึ่ง

ขณะนั้นเอง...

“วูบบบ!”ทันใดนั้นสายลมพัดวูบหนึ่ง และเสื้อผ้าบนพื้นปลิวขึ้นมาพันรอบตัวสตรีทั้งยี่สิบห้าคนทันที ขณะเดียวกันสตรีทั้งยี่สิบห้าคนรวมทั้งสาวใช้ที่อยู่ข้างตัวชายหนุ่มสูงศักดิ์อยู่ในสภาพมึนงงเหมือนฝันพากันหมดสติกันทุกคน

“เอ๊ะ?” ชายหนุ่มสูงศักดิ์มองดู สายตาของเขาแหลมคมดุจมีด

บุรุษหนุ่มผมสีน้ำตาลคนหนึ่งปรากฏตัวทันทีเขาอยู่ในชุดสูทสีขาว ผมของเขามัดริบบินสีขาวก้าวเดินเข้ามาในก้าวเดียว

“เจ้าเป็นใคร?” บุรุษหนุ่มผู้สูงศักดิ์สีหน้าเปลี่ยน

“โอดินเป็นบิดาของเจ้าใช่ไหม?”  ลินลี่ย์พูดอย่างใจเย็น

“ถ้าเจ้ารู้เรื่องนี้แล้วเจ้ายังทำผยองอยู่ได้ยังไง?” บุรุษหนุ่มสูงศักดิ์กล่าว แต่ร่างของเขาเคลื่อนไหวทันที

“ครืน...” ระลอกพลังวิญญาณที่แปลกประหลาดแผ่ขยาย ตาของบุรุษหนุ่มสูงศักดิ์มัวหมองไร้ประกายชีวิตอยู่ในสภาวะมึนงงทันที  นี่เป็นสุดยอดวิชาหนุนเสริม ‘ปั่นป่วนวิญญาณ’ ที่เป็นส่วนหนึ่งของสนามพลังศิลาดำของลินลี่ย์  เมื่อลินลี่ย์เป็นเทพแท้เขาก็ทำให้เทพชั้นสูงธรรมดาตกอยู่ในอาการมึนงงได้แล้ว

และบัดนี้เล่า?

“เด็กน้อยที่อาศัยการหลอมรวมกับประกายเทพกลายเป็นเทพชั้นสูงนึกว่าจะหนีพ้นเงื้อมมือข้าได้หรือ?” ลินลี่ย์ชำเลืองมองเขาอย่างเยือกเย็น

ลินลี่ย์เหยียดมือมีเสียงดัง ‘ฉัวะ’เขาแทงมือเข้าไปในกะโหลกของชายหนุ่มและแผ่พลังเทพธาตุดินจนกะโหลกของชายหนุ่มเละ

“ถึงเวลาของรายต่อไป”  ลินลี่ย์เก็บศพของบุรุษหนุ่มสูงศักดิ์  เพียงพลิกมือศพของเขาก็หายไป

ไม่นานหลังจากลินลี่ย์ออกไป  พวกสตรีเหล่านั้นจึงค่อยรู้สึกตัว  แต่พวกนางไม่รู้อะไรและมึนงงไปหมด พ่อบ้านนั้นก็ไม่กังวลมากนัก  เขารู้ว่าองค์ชายของเขาเป็นเทพชั้นสูงและทั่วทั้งทวีปยูลาน ไม่มีคนที่คุกคามเขาได้เท่าใดนัก  เขาคิดว่าองค์ชายของเขาไปดูแลงานธุระบางเรื่อง

วังหลวงจักรวรรดิโอดิน นี่คือเมืองที่สร้างขึ้นใหม่บนซากหักพังของเมืองหลวงเก่าของจักรวรรดิยูลาน  วังหลวงดูเด่นสง่างามและมีทหารดูแลแน่นหนา  วันนี้วังหลวงของจักรวรรดิโอดินมีความครึกครื้นอย่างยิ่ง...เพราะตัวแทนทูตจากจักรวรรดิบาลุคจะมาเคารพจักรพรรดิโอดิน ตั้งแต่ก่อตั้งจักรวรรดิโอดินมาเกินกว่าพันปี  สัมพันธ์ระหว่างสองจักรวรรดิตึงเครียดอย่างมาก

แต่บัดนี้มีการส่งทูตมาแสดงความเคารพจักรพรรดิโอดิน  นี้เป็นโอกาสที่หาได้ยากมาก

ท้องพระโรงวังหลวง จักรวรรดิโอดิน

มหาเสนาบดีของจักรวรรดิยืนอยู่ข้างล่างของราชบัลลังก์มีรอยยิ้มเต็มหน้า  ขณะที่พวกเขาดูเพราะจักรวรรดิบาลุคส่งราชทูตมาแสดงการจำนน นี่ทำให้พวกเขารู้สึกว่ามีอำนาจเหนือจักรวรรดิบาลุค

“ฝ่าบาท! ราชทูตมาถึงนอกวังหลวงแล้วพระเจ้าค่ะ”  มหาดเล็กเรียนด้วยความเคารพ

“ฮ่าฮ่า...ให้พวกเขาเข้ามา”  โอดินนั่งอยู่บนบัลลังก์หัวเราะลั่นพลางกล่าว โอดินเป็นคนที่คำนึงถึงหน้าตาและต้องการความสมบูรณ์แบบอย่างลึกซึ้ง   เขาชอบอยู่เหนือทุกคนและชอบทำให้คนนับไม่ถ้วนแหงนหน้ามองเขา เขาชอบความรู้สึกที่ได้กำชะตาชีวิตทุกคนไว้ในมือ..และชอบเล่นกับชีวิตคนราวกับเป็นของเล่น

สามารถควบคุมความดีใจความโกรธแค้นและความเศร้าของคนอื่น... นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เขายินดีและมีความสุขมาก

“จักรพรรดิโอดินผู้ทรงพลานุภาพ เรามาที่นี่ในฐานะตัวแทนจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิบาลุคและถ่ายทอดคำทักทายอย่างจริงใจเป็นที่สุด”  เอกอัครราชทูตของจักรวรรดิบาลุคโค้งคำนับเล็กน้อยจากนั้นพูดต่อ “ในการมาเยี่ยมครั้งนี้ จักรวรรดิบาลุคเราเตรียมสมบัติล้ำค่าสองชิ้นมาเสนอท่าน จักรพรรดิโอดิน!”

รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าของโอดิน  “นำมาให้ข้าดู”

ทันใดนั้น...

ราชทูตนำหีบใหญ่สองใบจากข้างนอกเข้ามาในท้องพระโรงและวางไว้บนพื้นของท้องพระโรง

“เปิดหีบทั้งสอง”  โอดินหัวเราะอย่างใจเย็น

“จักรพรรดิโอดิน โปรดชมดู”  ราชทูตเปิดหีบใหญ่ใบหนึ่ง  และขณะที่เขาเปิดมีเสียงอุทานตกใจได้ยินทั่วท้องพระโรง ขณะที่จักรพรรดิโอดินนั่งบนบัลลังก์ เมื่อเขาเห็นสมบัติในหีบ  สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที “นีโมลเลอร์!  ไม่!”  นีโมลเลอร์เป็นน้องชายคนเดียวของโอดิน

“นี่..นี่...”เสนาบดีในท้องพระโรงตกใจกันหมดทุกคน ไม่รู้จะพูดยังไง

ราชทูตแค่หัวเราะอย่างใจเย็นขณะที่เขาเปิดอีกหีบหนึ่ง

“แคล้ง!”  ฝาหีบถูกกระแทกออกแล้วกระแทกลงกับพื้น

โอดินรู้สึกหัวใจบีบรัดรุนแรง  และจ้องมองศพภายในหีบเขม็ง  “ลูก!  ลูกพ่อ!”  โอดินไม่อยากเชื่อ  เขาส่ายศีรษะซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ความเป็นอยู่ในพิภพจองจำเกบาโดสอันตรายมาก  เมื่อโอดินเข้าไป เขายังอ่อนแอเช่นกัน  แม้ว่าเขาจะป่าเถื่อนแม้ว่าเขาจะชอบเล่นกับชีวิตคนอื่น  แม้ว่าเขาจะชอบเข่นฆ่า...แต่เขาไม่ต้องการให้คนที่เขารักตาย ผ่านมานานหลายปีที่เขาใช้ชีวิตในพิภพจองจำเขามักจะปกป้องลูกชายและน้องชายของเขาอยู่เสมอ!

ครั้งนี้พวกเขาผ่านอันตรายจากจุดอ่อนผนังมิติและกลับมายังทวีปยูลานได้

การผ่านจุดอ่อนแอในผนังกำแพงมิติเป็นเรื่องที่ต้องทำด้วยพลังที่มีอย่างมหาศาล ความแข็งแรงของพันธนาการมิติมีการเปลี่ยนแปลง  และยิ่งนักสู้มีพลังมาก พันธนาการมิติก็ยิ่งแข็งแรงกว่าและยากจะทำลายผ่านไปได้    พันธนาการมิติไม่ใช่สิ่งที่ต้องทำด้วยความรู้แจ้งในกฎเคล็ดลึกลับ  ที่สำคัญการรู้แจ้งไม่ใช่สาระสำคัญ

พลังของพันธนาการเผชิญกับเทพชั้นสูงธรรมดาและอสูรเจ็ดดาวก็เป็นเหมือนกันเมื่อพวกเขาพยายามผ่านมิติที่อ่อนแอ

เขาเพียงแต่ใช้เทพชั้นสูงสองคนกับเขา

คนหนึ่งคือลูกชายของเขา  อีกคนหนึ่งคือน้องชายของเขา  เขาเสี่ยงชีวิตพาสองคนมากับเขา  และพวกเขาก็หนีออกมาจากพิภพจองจำได้  ขณะที่บริวารอื่นที่เขานำมาด้วย  พวกเขาเป็นเพียงเทพแท้และเทียมเทพ  เพราะเขายินดีเสี่ยงชีวิตตนเองนำพาคนสองคนนี้ไปกับเขา  เห็นได้ชัดว่าเขาใส่ใจสองคนนี้มากเพียงไหน  แต่วันนี้...

ทั้งน้องชายและลูกชายของเขาตายทั้งคู่!

ตอนนี้ศพของพวกเขาอยู่ข้างหน้าเขา

เขาอยู่อย่างระมัดระวังมากในพิภพจองจำ  แต่ในทวีปยูลาน นอกจากกองกำลังของเขาแล้วมีเทพชั้นสูงอยู่คนเดียวก็คือเบรุต ไม่มีเทพชั้นสูงอื่น  เขาไม่เชื่อว่าน้องชายของเขาและลูกชายจะตกอยู่ในอันตรายใดๆได้  แต่วันนี้... ศพของพวกเขาอยู่ในหีบข้างหน้าเขา

“ไม่...ไม่....” โอดินตะโกนก้องด้วยความโกรธ

“จับมัน!”  โอดินจ้องมองราชทูตอย่างดุร้าย

ทันใดนั้นทหารหลายคนกรูกันเข้ามารายล้อมพวกทูตไว้

เพียงพริบตาร่างของโอดินมาปรากฏข้างหีบทั้งสองใบ  เขาจ้องมองดูศพในหีบขวา  จากนั้นเป็นศพในหีบซ้าย  หน้าของเขากระด้างเหมือนเหล็ก  “นีโมลเลอร์!  เชสเตอร์! เจ้า..เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง” เขาสั่นเทิ้มไปทั้งตัวและไม่มีสีเลือดให้เห็นบนใบหน้าของเขา

“น้องพี่, ลูกพ่อ! ไม่ต้องห่วง  ข้าจะต้องล้างแค้นให้พวกเจ้าแน่นอน!!!  ข้าจะทำให้พวกมันเสียใจ  ข้าจะทำให้พวกมันมีชีวิตแย่ยิ่งกว่าตกตาย!!!”

โอดินหันไปจ้องมองราชทูตทันที

“บอกข้ามา ใครฆ่าพวกเขา”  โอดินตะโกน เขารู้ดีว่ามีแต่เทพชั้นสูงเท่านั้นสามารถฆ่าลูกชายและน้องชายของเขา

“เฮอะ!”  ราชทูตแค่นเสียงเย็นชาครั้งหนึ่ง

“ข้าเอง!”  เสียงเย็นชาดังขึ้นในท้องพระโรง

ทันใดนั้นทุกคนในท้องพระโรงรวมทั้งโอดินหันไปมอง

จู่ๆมีร่างหนึ่งปรากฏตัวที่ข้างนอกท้องพระโรง คนผู้นี้ก้าวเข้ามาในท้องพระโรงทันทีในก้าวเดียว   พวกทหารที่อยู่ข้างตัวเขาไม่สามารถขัดขวางเขาได้ทัน  เขาสวมสูทชุดขาวมัดผมด้วยริบบินและเป็นชุดขาวไว้ทุกข์อย่างเป็นทางการเมื่อเห็นอย่างนี้เหล่าเสนาบดีที่อยู่ท้องพระโรงตะลึงกันหมด..  เห็นได้ชัดว่าชุดไว้ทุกข์สีขาวหมายความว่ามีการไว้ทุกข์ให้สมาชิกครอบครัวอย่างเป็นทางการ

โอดินจ้องมองลินลี่ย์  ดวงตาของเขาแทบมีไฟพวยพุ่ง

“เจ้าเป็นใคร?” โอดินคำราม

“ถ้าเจ้ายังพอมีความทรงจำอยู่บ้าง เจ้าควรจะจำได้ว่าครั้งหนึ่งเจ้าฆ่าคนไปสองคน  คนหนึ่งคือพี่รองของข้า  ขณะที่อีกคนหนึ่งคือพี่ใหญ่ของข้า!”  ลินลี่ย์พูดเสียงอ่อนโยน

เขาไม่ได้ปรากฏตัวมาเกือบสองพันปีแล้ว  วันนี้ไม่มีใครรู้จักเขา

โอดินขมวดคิ้ว  ไม่สามารถบอกได้เลยว่าคนผู้นี้เป็นใคร

“ดูเหมือนเจ้าฆ่าคนมามากมายจริงๆ”

ลินลี่ย์จ้องมองเขาอย่างเย็นชา  “ฟังให้ชัดๆ ข้า..คือ..ลินลี่ย์...บาลุค!”

เหล่าอำมาตย์เสนาบดีในท้องพระโรงตกตะลึงกันหมด  พวกเขาจ้องมองลินลี่ย์อย่างเหลือเชื่อ ชายหนุ่มในชุดไว้ทุกข์นี้คือผู้ก่อตั้งจักรวรรดิบาลุค  บุคคลตำนานในประวัติศาสตร์ของทวีปยูลาน...ลินลี่ย์!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด