ตอนที่แล้วตอนที่ 609 ธุรกิจค้าทองดำ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 611 กุหลาบทอง

ตอนที่ 610 คนรวยซื้อกองทัพ


ไม่มีใครคิดว่าถังเทียนต้องการซื้อกองทัพจริงๆ  พวกเขาไม่เคยได้ยินว่าใครต้องการซื้อกองทัพก่อน

สวีจินที่มักสงบอยู่ได้ทุกสถานการณ์ต้องฝืนยิ้มในที่สุด  “ท่านเหมิ่งทำให้ข้ารู้สึกลำบากใจจริงๆ  ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องกองทัพจะสามารถซื้อกันได้”

ไป๋เยี่ยลูบคางและพึมพำกับตนเอง  “เอ่..เสี่ยวเหมิ่งแม้ว่าความคิดของเจ้าจะไม่สำเร็จได้ง่าย แต่ก็ค่อนข้างสร้างสรรค์  เจ้าจะต้องเอาเหมืองทองไว้กับเจ้า มันก็คงจะไม่ถูกนะถ้าเจ้าไม่มีทหารสักกองพลหนึ่ง”

หน้าที่ยิ้มของสวีจินเฝื่อนลงทันที  “ท่านเหมิ่ง ถ้าท่านต้องการของประเภทอาวุธ  ต่อให้เป็นระดับทอง ข้าก็คิดหาทางได้  แต่สำหรับกองทัพนี่...”

“ข้าซื้อไม่ได้หรือ?”  ถังเทียนผิดหวัง ความคิดสะดุดอยู่กับที่  สิ่งที่เขาขาดแคลนจริงๆไม่ใช่อาวุธหรือเงินคลาวด์  แต่เป็นคน พื้นฐานของกองกำลังรักษาการณ์เมืองเป่ากวงต่ำจนน่ากลัวเกินไป  สือเซินไปรับสมัครกองพลปีศาจทวีปโยวโจว  แต่ก็ได้คนเพียง 500 คน

ถ้าเขาสามารถซื้อกองทัพได้  แม้ว่าพวกเขาอ่อนแอไปบ้างแค่โยนพวกเขาให้ปิงก็จะทำให้เขามีประโยชน์

“ไม่ใช่ว่าเจ้าไม่สามารถซื้อกองทัพได้  เพียงแต่เราจำเป็นต้องคิดหาทาง”  ไป๋เยี่ยถอนหายใจ  “กองทัพทหารมีแต่เจ้าครองทวีปจึงจะมีได้  ถ้าเราค้นดูสักนิด เราจะพบว่าทวีปที่มีสภาพการเงินไม่ดี  สร้างกองทัพจำเป็นต้องอาศัยเงิน  ถ้าพวกเขาขาดแคลนเงินทุน  พวกเขาก็ไม่อาจตั้งกองทหารได้   แต่ทวีปขนาดใหญ่จะไม่เป็นเช่นนั้น  มีแต่ทวีปเล็ก ดังนั้นเราสามารถเริ่มจากตรงนั้นได้ โอว, เรายังชิงพวกเขาเอามาได้  เริ่มตั้งแต่ผู้บัญชาการ  เนื่องจากเจ้ามีเงิน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บัญชาการเหล่านั้นที่ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งสำคัญดึงพวกเขามาทีละคน”

สวีจินตาเป็นประกาย  ไป๋เสี่ยวหลั่งเหงื่อทั่วตัว  ลุงรองเจ้าเล่ห์จริงๆ

“ผู้บัญชาการของทวีปเล็กเหล่านั้นต้องใช้เงินเท่าไหร่?”  ไป๋เยี่ยแค่นเสียง  “20ล้านคลาวด์ก็น่าจะพอ เพราะค่าจ้างนายทหารขั้นต่ำแต่ละคนก็ 5 ล้าน  พวกทหารจะมีมูลค่าน้อย จะให้ดีที่สุดถ้าเจ้าสามารถอพยพครอบครัวพวกเขา  ตราบเท่าที่ครอบครัวพวกเขาเต็มใจย้าย  ก็ต้องใช้ 1ล้านสำหรับเตรียมจัดการให้พวกเขา  เจ้าจะรับคน1000 คนก็ต้องใช้เงินพันสองร้อยล้าน  ตอนนี้เจ้ามีเงินแล้วเจ้าควรเรียนรู้วิธีใช้เงินของเจ้า”

“ถ้าเป็นแบบนั้นก็เป็นไปได้” สวีจินเพียงแค่ไม่เคยทำธุรกิจทำนองนี้มาก่อนเท่านั้น  แต่ทันทีที่ไป๋เยี่ยพูดถึง  เขาก็รู้ตัวได้ไวด้วยการค้ำประกันของสมาคมการค้าสวีจี้ การค้นหากองทัพจากทวีปเล็กน้อยจะเป็นงานง่าย และเจ้าครองทวีปจะไม่มาหาสมาคมการค้าสวีจี้เพื่อแก้ปัญหาได้ยังไง?แค่ใช้เงินไปบ้างก็ปิดตาของพวกเขาได้แล้ว

สวีจินตระหนักได้ดีถึงข้อได้เปรียบการชิงเอากองทัพมา  พวกเขาต้องการเครื่องไม้เครื่องมือและนั่นจะเป็นอีกธุรกิจหนึ่ง

“ผู้บัญชาการจำเป็นต้องแข็งแกร่ง”  ถังเทียนย้ำ

“เสี่ยวเหมิ่งช่างรอบคอบ”  ไป๋เยี่ยชม “คุณสมบัติทั้งหมดของทหารในกองทัพขนาดเล็กกว่าจะไม่อาจเอาไปเทียบกับกองทัพขนาดใหญ่ได้ ดังนั้นเจ้าต้องตรวจสอบความแข็งแกร่งของผู้บัญชาการทหารแน่นอน  ถ้าผู้บัญชาการแข็งแกร่งมีมาตรฐานสูง   อย่างนั้นพลังของกองทัพก็จะไม่แย่เกินไป  และมาตรฐานฝึกฝนมาจะต้องไม่ต่ำทราม  ด้วยการผสานพลังทั่วไป,  ต่อให้ไม่สามารถปฏิบัติการบนเรือรบหลักได้ แต่พวกเขาก็ต้องสามารถปฏิบัติการบนเรือโจมตีเร็วได้โดยไม่มีปัญหา”

ถังเทียนคิดขึ้นมาได้เรื่องที่เสี่ยวไป๋พูดถึงทองดำเหมาะกับการผลิตอาวุธเรือรบ  เขาคิดถึงป้อมไพรกระบี่ซึ่งสร้างขึ้นด้วยทองดำ  มันสามารถเปลี่ยนเป็นอาวุธเรือรบได้หรือ?  อย่างนั้นป้อมไพรกระบี่ก็มีความสามารถสร้างพลังโจมตีได้ไม่ใช่หรือ?

“ข้ายังคงต้องการอาวุธแบบพิเศษ”  ถังเทียนยกมือ

สวีจินสีหน้าเปลี่ยน “ท่านเหมิ่งต้องการมีส่วนร่วมในธุรกิจอาวุธด้วยหรือ?”

“ไม่, ข้าต้องการเปลี่ยนป้อมปราการข้า”  ถังเทียนใช้มืออธิบาย“ข้ามีปราสาทหลังหนึ่งสร้างด้วยทองดำ”

คนที่อยู่รอบๆเงียบทันที ทุกคนจ้องมองถังเทียนปากอ้าค้าง

“ปะ..ปะ ปราสาททำด้วย ทะ ทะ ทอง..ดำ?”  สวีจินตะกุกตะกัก สีหน้าของเขาเหมือนกับเห็นผี

ทองดำที่ราคาคิวบิคละ300 ล้าน ใช้สร้างปราสาท..

สวีจินไม่กล้านึกถึงภาพนั้น

ไป๋เยี่ยตะลึงและมองถังเทียนอย่างว่างเปล่า

“ใช่, แต่ว่าปราสาทเล็กไปหน่อยปัจจุบันนี้เรากำลังขยาย” ถังเทียนลูบหน้าผาก “เนื่องจากทองดำใช้เป็นอาวุธเรือรบได้ อย่างนั้นข้าก็สามารถเปลี่ยนบางส่วนของปราสาทให้เป็นอาวุธของเรือรบได้สินะ?  นั่นจะต้องทรงพลังอย่างแน่นอน!”

ในที่สุดสวีจินก็ฟื้นจากอาการตกใจไร้ชีวิตชีวา  เขาเริ่มกระตุกและพูดไม่หยุด “ทองดำ!นั่นมันทองดำ! เจ้าเอาไปใช้สร้างปราสาทจริงๆ!  เจ้าบ้าไปแล้ว!  เจ้ารวยจนไม่รู้จะเอาเงินไปเผาเล่นที่ไหนแล้วหรือ? ข้าจะให้ส่วนลดเต็มที่! ให้ฟรีเลยเอ้า! อย่าทำเสียของเลย  ขายให้ข้าเถอะ!  ขายมันทั้งหมดให้ข้า!  เจ้าต้องการสร้างป้อมปราการ ข้าจะขนส่งวัสดุก่อสร้างไปให้ป้อมปราการของเจ้า   ขนส่งให้ฟรีๆ เลยคิดว่าดีไหม?”

ไป๋เยี่ยไม่สามารถทนได้อีกต่อไปเขาแค่นเสียง  “ข้าทนไม่ไหวแล้ว!”

ฉินอวี่หรันและไป๋เสี่ยวตะลึงจนตัวชา

ถังเทียนตกใจหนักกับอาการกระตุกของสวีจิน  “วัสดุเหล่านี้ดีกว่าทองดำอีกหรือ?”

สวีจินรู้สึกเหมือนกับว่าร่างจะล้มลงเสียให้ได้  วัสดุแบบไหนยังจะดีกว่าทองดำ?  ทำไม ทำไมเจ้าถึงได้ใช้วัสดุดีดีๆแบบนั้นเพียงแค่สร้างป้อม?

พวกคนรวยมองโลกกันแบบไหน....

เขาเลิกพยายามแล้ว  “ผู้เชี่ยวชาญอาวุธเรือรบเป็นพวกที่หาได้ยาก  แต่พวกที่มีความรู้ความชำนาญและทักษะความแข็งแกร่งยังพอรับสมัครได้ง่าย  เจ้าต้องการเท่าใด?”

“ราคาจ้างพวกเขาแพงไหม?”  ถังเทียนถาม เนื่องจากเขาไม่แน่ใจ

เพราะบางเหตุผลสวีจินถอนหายใจ.. ในที่สุดเจ้าก็รู้ว่าอะไรคือความแพง...

“ก็ไม่ถูก, ค่าใช้จ่ายในการโยกย้ายปักหลักครอบครัวพวกเขาก็ราว 10 ล้าน”

ก็นับว่าราคาไม่ถูกจริงๆ!

ถังเทียนคิดสีหน้าจริงจัง  “ถ้าอย่างนั้นรับมา 100 คน”

สวีจินแทบจะบ้า  “เจ้าต้องการผู้เชี่ยวชาญอาวุธเรือรบมากมายไปทำบ้าอะไร?  ผู้เชี่ยวชาญอาวุธเรือรบ 100 คนเจ้าต้องการไปทำอะไรปานนั้น? สิบ สิบคนก็พอแล้วสำหรับสร้างป้อมอาวุธเรือรบ!”

อย่างนั้นเหรอ,ถังเทียนคิดเล็กน้อย  “อย่างนั้นสิบคนก็ได้เปลี่ยนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอื่น ผู้เชี่ยวชาญเรือรบ, ผู้เชี่ยวชาญวัสดุ,ผู้เชี่ยวชาญอาวุธ ผู้เชี่ยวชาญเกราะ ข้าจะสร้างห้องค้นคว้าวิจัยให้พวกเขา”

สวีจินยอมแพ้และตอบอย่างอ่อนแรง  “ห้องค้นคว้าวิจัยก็คือหลุมที่ไร้ก้น”

ไป๋เยี่ยยังคงแนะนำ  “ใช่แล้ว เสี่ยวเหมิ่งอ่า..ห้องค้นคว้าวิจัยและเป็นตัวกินเงินเกือบทั้งหมด  ตอนนี้ ร้านค้าทั้งหมดเหล่านั้นได้สร้างชื่อไว้และสั่งสมประสบการณ์และภูมิปัญญาไว้มาก”

“มันก็ถูก อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถใช้อะไรได้มาก” ถังเทียนโบกมือ  เขามีความคิดเป็นของตนเอง เขาไม่ต้องการให้พวกเขาสร้างอาวุธพิเศษเฉพาะ แต่จะผสานระบบของสวรรค์วิถีและดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์เข้าด้วยกัน  แต่เขาจำเป็นต้องได้ผู้เชี่ยวชาญ

แม้ว่าเขาจะมีเซรีน  แต่เซรีนจำเป็นต้องได้ผู้ช่วย ถังเทียนต้องการเตรียมพวกเขาให้เป็นผู้ช่วยของเซรีน

“ตราบใดที่เจ้ายินดี”  สวีจินไม่ใส่ใจแนะนำเขาต่อไป  เขาไม่มุ่งสนใจเงินอีกต่อไป  ทำให้เขาทำสิ่งที่เขาต้องการ  “แล้วเรื่องกองทัพล่ะ?  เจ้าต้องการเท่าใด?  อีกอย่างจะดึงทหารมาเจ้าต้องเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือ หาทหารมาไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าเจ้าหาอุปกรณ์เครื่องมือให้พวกเขาได้  พวกเขาก็จะสู้กับเราเอง”

“นั่นต้องใช้เท่าใด?”  ถังเทียนถาม

“ถ้าเจ้าพูดถึงมาตรฐานธรรมดาต่อคนก็ห้าแสนคลาวด์ถึงจะคุ้มค่าอุปกรณ์ ถ้าต้องการดีขึ้นมาอีกสักเล็กน้อย นอกจากราคาต่อคนสามล้านคลาวด์ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ชั้นสูงก็ได้  เนื่องจากคุณภาพของทหารยังไม่สูงมาก  อย่างนั้นอุปกรณ์ของกองทัพจะมีค่าใช้จ่ายสามพันล้านคลาวด์”

ไป๋เยี่ยกระโดดผาง  “นั่นเป็นการจัดสรรกองทัพระดับเงินใช่ไหม?  พวกเขาต้องการอาวุธดีขนาดนั้นจริงๆ หรือ?  สมาคมการค้าสวีจี้ปล้นกลางวันชัดๆ?”

เมื่อเห็นว่าถังเทียนไม่มีปฏิกิริยาใด  ไป๋เยี่ยแบบโห่ร้องในใจ  “คนรวยรุ่นใหม่” แต่ก็ยังทนอธิบายว่า“เสี่ยวเหมิ่ง ไม่คิดว่าเพิ่มไปอีกสี่พันล้านจะเพียงพอจัดตั้งกองทัพหรือ  นั่นเป็นแค่ราคาตั้งต้น  เจ้ายังจำเป็นต้องบำรุงรักษากองทัพ เงินเดือนค่าใช้จ่ายในการฝึกฝน ค่าบำรุงอุปกรณ์อาวุธ จำเป็นต้องใช้เงิน  จากการจัดสรรของเจ้ากองทัพหนึ่งมีค่าใช้จ่ายอย่างน้อยปีละสองพันล้าน เจ้ารู้ไหมนั่นคือมาตรฐานอะไร? นั่นคือการจัดกองทัพระดับเงินอย่างเห็นได้ชัด!”

พวกมือดีทุกคนล้วนต้องใช้เงินหล่อเลี้ยงกันทั้งนั้น  ทุกการฝึกฝนของพวกเขาจำเป็นต้องมีเงินมหาศาลค่าใช้จ่ายในกองทัพชั้นยอด ต้องใช้งบประมาณมหาศาล

ปีละสองพันล้านนั่นเป็นจำนวนที่ทวีปเล็กน้อยไม่สามารถจ่ายได้

“ถ้าเป็นสองพันล้าน งั้นก็ใช้สองพันล้าน  ถ้ามาตรฐานของพวกเขาสูงพอข้ายินดีจ่ายสามพันล้านด้วยซ้ำ” ถังเทียนพูดเด็ดขาดทำให้คนที่เหลือตะลึงทันที

ไป๋เยี่ยไม่รู้จะพูดอะไรสงบจิตใจตนเองลงได้ “ให้ข้าจัดการเรื่องนี้เองก็ได้ ด้วยเงื่อนไขทั้งหลายเหล่านี้ยังจำเป็นต้องแก่งแย่งอีกด้วยหรือ? นี่คือมาตรฐานของกองทัพระดับเงินแล้ว ขนาดผู้ที่ไม่คู่ควรยังต้องเร่งก้าวหน้าเพื่อเข้าร่วมให้ได้!  แต่เสี่ยวเหมิ่งเจ้าต้องรับรองก่อนนะว่าเจ้าสามารถจ่ายได้ถึงสองพันล้านคลาวด์”

สวีจินกังวลทันที  “ผู้อาวุโส,เราบอกแล้วว่านี่คือธุรกิจของสมาคมการค้าสวีจี้ของเรา สมาคมการค้าสวีจี้ของเรามีความสามารถด้านนี้อยู่แล้ว”

มันไม่ใช่แค่ธุรกิจ  ไป๋เยี่ยพูดถูก  เงื่อนไขที่ดึงดูดใจเช่นนั้นบรรดาผู้นำทหารนักวางแผนและมีใจทะเยอทะยานย่อมต้องการความก้าวหน้าแน่นอน

ทั้งสองคนทะเลาะกันอีกครั้ง  เมื่อถังเทียนห้ามพวกเขา  “ท่านทั้งสองหาคนละกองทัพก็ได้  ข้าต้องการเพียงคุณภาพที่ดีที่สุด!”

“ไม่มีปัญหา!  ข้าอยู่ในกองทัพมาหลายปีแล้ว  ข้ารู้วิธีดูมาตรฐานด้วยรูปลักษณ์  บรรดาคนรู้จักเก่าแก่และสหายก็มีคนที่มีบุคลิกเหี้ยมหาญอยู่สองสามคน” ไป๋เยี่ยตบอก

การดูแลเรื่องกองทัพของไป๋เยี่ยยังดีกว่า  เนื่องจากพวกเขาได้อานิสงส์จากความมั่งคั่งของตระกูลไป๋  และเมื่อแม่ทัพทหารผู้ไม่มีภูมิหลัง  ไม่ว่าจะมีสัญญาอย่างไร,ก็ได้แต่อยู่ในกองทัพระดับบรอนซ์ไม่สามารถก้าวหน้าได้

เกี่ยวกับสถานที่ทรัพยากรมีจำกัด

ไป๋เยี่ยรู้เงื่อนไขดังกล่าวสำหรับพวกที่ยังไม่พอใจ จะต้องดึงดูดพอคุ้มพอจะเสี่ยงชีวิต จำนวนทหารระดับบรอนซ์ในดาราจักรเซียนศักดิ์มีมากมายพอๆ กับขนโค  และแน่นอนพวกเขาไม่ขาดคู่แข่ง แต่พวกเขาจะต้องไปขุดเอามาจากทหารระดับบรอนซ์ การไปเอามาจากกองทัพเงินนั่นแสดงว่าไม่มีปัญหาเรื่องเงินอีกต่อไป

“สมาคมการค้าสวีจี้มีเครือข่ายในโลกทหารอย่างกว้างขวาง เราจะช่วยท่านเหมิ่งคัดกรองกองทัพที่ดีที่สุดและโดดเด่นที่สุด”  สวีจินพูด เขาตั้งใจไว้แล้ว จะต้องเลือกและจัดกองทัพให้ดีกว่าไป๋เยี่ย

ถังเทียนมีความสุข

ไป๋เยี่ยและสวีจินรู้สึกว่ามันแพง  แต่ถังเทียนคิดว่ามันถูกมาก  “เรือรบก็ราคาเกินหกหมื่นล้านแล้วกองทัพจะราคาเท่าใด”

เมื่อได้ยินความคิดของถังเทียนไป๋เยี่ยหัวเราะลั่น “เจ้าไม่อาจคิดอย่างนั้นได้  ตอนนี้สิ่งที่เจ้าเสนอก็คือการบำรุงรักษาและเงินเดือนของกองทัพระดับเงินขั้นต้นและไม่ใช่กองทัพเงินที่แท้จริง พวกเขายังเป็นกองทัพบรอนซ์ที่ปรารถนาจะเติบโตเป็นกองทัพระดับเงินซึ่งนั่นไม่ใช่ง่าย  ไม่ใช่ว่ากองทัพบรอนซ์ทั้งหมดจะกลายเป็นกองทัพระดับเงินได้ และไม่มีใครรู้ว่าจะต้องใช้เงินและใช้เวลามากเท่าใด  ห้าปี? หกปี? กองทัพระดับเงินที่แท้จริงไม่ใช่แค่เพียงหกหมื่นล้าน  กองทัพระดับเงินมีค่ามากกว่าเรือรบลำหนึ่ง มีอยู่ครั้งหนึ่งมีคนมาหาตระกูลไป๋และขอทหารระดับเงินไปช่วยสนับสนุนเขา  เจ้ารู้ไหมว่าต้องใช้เงินมากเท่าใด?”

ถังเทียนสงสัย  “เท่าไหร่?”

“ห้าหมื่นล้าน!”  ไป๋เยี่ยพูดด้วยความภูมิใจ  “เมื่อทหารของเขาพบข้า  พวกเขากลัวมากถึงกับปัสสาวะราดกางเกง  ข้ายังไม่ได้ใช้พลังอะไรเลย และข้าก็โค่นไปสองทวีปราวกับเป็นการละเล่นอย่างนั้น  ห้าหมื่นล้านนี้ข้าได้รับมาอย่างสบายๆ  แต่น่าเสียดายธุรกิจแบบนั้นไม่ค่อยได้พบเจอ  แต่เจ้าจะรู้ในอนาคต กองทัพใดๆก็ตามเมื่อพูดถึงผลกำไร  ถ้าเจ้ามีเงินอย่างนั้นเจ้าก็จำเป็นต้องใช้ แต่นี่ใช้ได้กับมหาอำนาจเล็กๆ ถ้าศัตรูของเจ้าเป็นมหาอำนาจใหญ่ อย่างนั้นปัญหาก็จะซับซ้อน ตัวอย่างเช่น ทวีปทรายขาว ไม่ว่าเจ้าจะใช้เงินมากเท่าใดก็คงไม่มีใครรับงานแน่”

ถังเทียนตกตะลึงทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด