ตอนที่แล้วตอนที่ 17-60 เหตุการณ์ใหญ่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 17-62 หนามยอกอก

ตอนที่ 17-61 ตะลุมบอน


สมาชิกนับไม่ถ้วนของเผ่ามังกรฟ้าผู้อาศัยอยู่ในเทือกเขาสกายไรท์ทุกคนได้ยินคำสบประมาทเยาะเย้ย ชาวเผ่าหลายคนโกรธ แววดุร้ายปรากฏอยู่ในดวงตาพวกเขา และพวกเขาไม่อาจทนได้อีกต่อไป พวกเขาตะโกนและบินออกไปจากเทือกเขาสกายไรท์

“ฆ่า!”

“ฆ่าเจ้าพวกระยำนั่น!”

สมาชิกจำนวนมากบินออกมาจากภายในเทือกเขาสกายไรท์ พวกเขาเคลื่อนไหวไวราวกับสายฟ้าตรงไปทางทิศใต้ พวกเขาหลายคนเป็นนักรบลาดตระเวน หลายคนโกรธจัดจนดวงตาแดงก่ำ และและมีนักรบหลายคนที่ตรงไปทางทิศตะวันออกเช่นกัน

พวกเขาบ้าไปแล้ว!

ชาวเผ่าสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์โกรธจนแทบเป็นบ้า! การถูกฆ่าไม่มีอะไรมากไปกว่าถูกตัดศีรษะตกลงพื้น แต่คำสบประมาทจากฝ่ายอื่นล่อลวงให้ชาวเผ่าเหล่านี้เป็นบ้า ความภาคภูมิใจนับปีไม่ถ้วนทำให้ชาวเผ่าตระกูลเหล่านี้ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป

“บัดซบ!” ผู้อาวุโสการ์วีย์ ยืนอยู่ข้างลินลี่ย์ถลึงตามองด้วยความโกรธ ดวงตาของเขาแดงเช่นกัน

พวกเขาเลือกจะถอนถอยออกมา เพราะพวกเขาตระหนักว่าสถานการณ์ของเผ่าตระกูลไม่มีหวัง แต่ตอนนี้ ศัตรูมาอยู่ต่อหน้าพวกเขา ชี้นิ้วด่าทอถึงจมูกชาวเผ่าตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ ทุกคนพบว่ายากจะทนเรื่องนี้ได้ ผู้อาวุโสทุกคนโกรธจัด แม้แต่ลินลี่ย์เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเยาะเย้ย ก็รู้สึกโกรธขึ้นมาในใจ “แปดตระกูลใหญ่เหล่านี้กำลังบังคับให้เราออกไปสู้รบกับพวกเขา!”

“กลับมา! พวกเจ้าทุกคน จงกลับมา!” กัซลีสันคำรามลั่น

เสียงตะโกนลั่นกึกก้องไปทั้งภูเขาสกายไรท์ แต่ชาวเผ่าตระกูลธรรมดาหลายคนไม่เคยพบประมุขเผ่า ในท่ามกลางความโกรธของพวกเขา พวกเขาจะจำเสียงของประมุขเผ่าของพวกเขาได้อย่างไร? พวกเขาไม่สนใจว่าใครจะสั่งให้พวกเขาหยุด พวกเขายังคงพุ่งไปทางทิศใต้ ทุกคนต้องการดื่มเลือดของศัตรูและกินเนื้อของศัตรู!

“ครืน...”

ชาวเผ่ามากกว่าหมื่นคนเต็มท้องฟ้า พวกเขาพุ่งออกไปด้านนอกแนวเขา แม้ว่าพวกเขาจะยังอยู่ในระยะห่างมาก พวกเขาก็ยังโจมตีอย่างบ้าคลั่ง ทำให้พลังโจมตีวัตถุและพลังโจมตีวิญญาณเต็มอยู่ในท้องฟ้าทันที

“ฆ่ามัน!” ชาวเผ่าในเทือกเขาสกายไรท์ที่กำลังโกรธยังโจมตีอย่างดุร้ายเช่นกัน

“ครืนนนน..”

ท้องฟ้าสว่างโพลนไปด้วยแสงหลากหลายชนิดซึ่งพุ่งเป็นคลื่นตรงไปยังทิศใต้

“ครืนนน...”

คนของแปดตระกูลใหญ่ปล่อยพลังโจมตีที่น่ากลัวของพวกเขาเช่นกัน สีสันของท้องฟ้าเปลี่ยนแปลง พลังโจมตีนับไม่ถ้วนปะทะกันและตัดกันในกลางอากาศเกิดเสียงดังกึกก้องแสบแก้วหู อย่างไรก็ตามพลังโจมตีผ่านไปจนถึงอีกฝ่ายหนึ่ง

“ปัง!” “บึ้ม!”

ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ แปดตระกูลใหญ่ ร่างของชาวเผ่าตระกูลระเบิดในกลางอากาศ หรือไม่ร่วงลงกับพื้น

“ฆ่ามัน!”

ชาวเผ่าตระกูลที่เลือดลมพลุกพล่านนี้โจมตีโดยไม่สนใจอะไรทั้งหมด อย่างไรก็ตามเพราะชาวเผ่าหลายคนชะงักหลังจากได้รับคำสั่งให้หยุด จึงมีเพียงคนราวๆ หมื่นที่บุกเข้าไปสู้ ชาวเผ่าตระกูลเหล่านั้นเปลี่ยนเป็นร่างมังกรทันที พวกเขาต่างฆ่าศัตรูของพวกเขา หรือไม่ก็ยอมตาย!

โลกสั่นสะเทือนด้วยระลอกพลังนับไม่ถ้วน

และชาวเผ่าที่อยู่รอบๆ เดิมทีเลือกจะรั้งอยู่ภายในเทือกเขาสกายไรท์รู้สึกว่าความโกรธของพวกเขาเองเพิ่มขึ้นเช่นกัน พวกเขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป แม้แต่ลินลี่ย์ก็ยังรู้สึกว่าเพลิงอำมหิตคุกรุ่นอยู่ภายในใจเขา

“เร็วเข้า, พวกเจ้าทุกคน, ไปห้ามชาวเผ่าตระกูลของเราไว้ เร็วเข้า!” กัซลีสันตวาดใส่ลินลี่ย์และคนอื่นๆ ด้วยความโมโห “พวกเขามีแต่จะเอาชีวิตไปทิ้ง!”

“ขอรับ, ท่านประมุข!”

ลินลี่ย์และกลุ่มของผู้อาวุโสโกรธ แต่ทุกคนไม่มีทางเลือก ได้แต่กล้ำกลืนความโกรธ พวกเขากระจายไปยังทุกที่ทั่วเทือกเขาสกายไรท์ ตะโกนเสียงดัง “หยุด หยุดนะทุกคน!”

“หยุด, หยุด!”

ที่สำคัญเป็นประมุขเผ่าตระกูลและผู้อาวุโสของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ตัดสินใจห้ามมิให้ต่อสู้กับแปดตระกูลใหญ่ สมาชิกระดับสูงของเผ่าตระกูลรู้ แต่ชาวเผ่าตระกูลธรรมดาไม่รู้ ชาวเผ่าตระกูลธรรมดามีความหยิ่งภูมิใจมาเป็นหมื่นปีแล้ว พวกเขาไม่สามารถทนรับความอับอายนี้ได้

ต้องขอบคุณเสียงตะโกนและคำรามของเหล่าผู้อาวุโส พร้อมทั้งเสียงตะโกนของนักรบลาดตระเวนที่ทำตามคำสั่งของผู้อาวุโส ความบ้าคลั่งจึงค่อยๆ จางหายไป

ในช่วงเวลาขณะนั้น...

ชาวเผ่าตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์หลายหมื่นคนต้องตายไป แต่แน่นอนว่าความสูญเสียของแปดตระกูลใหญ่ก็ไม่เบากว่าเช่นกัน

“พวกเจ้าทุกคนกลับให้หมด!” ลินลี่ย์ตวาดใส่ชาวเผ่าตระกูลคนแล้วคนเล่า

ชาวเผ่าตระกูลหลายคนแสดงความไม่ยินยอมออกทางสายตาซึ่งเต็มไปด้วยความโกรธ พวกเขาทุกคนจ้องมองไปทางทิศใต้ หลังจากผ่านไปหลายปี สมาชิกหลายคนของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์รู้จักลินลี่ย์ ศักดิ์ศรีและอำนาจของผู้อาวุโสมีผลมาก พวกเขาทุกคนหยุดความตั้งใจจะบุกออกไป

“ผู้อาวุโสลินลี่ย์! เราจะเอาแต่ทนโดยไม่ตอบโต้กลับหรือ?” เด็กหนุ่มคนหนึ่งมองดูลินลี่ย์อย่างโมโห หน้าของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธ

ลินลี่ย์ตะลึง

“ปล่อยให้เขาข่มเหงเรา ปล่อยให้พวกเขาสบประมาทพวกเราแบบนี้หรือ?” ร่างของเด็กหนุ่มสั่น “ข้ายอมตายและเอาพวกมันสองสามคนไปกับข้า ดีกว่ายอมทนอับอายอย่างนี้!” “ผู้อาวุโสลินลี่ย์... เราจะไม่ตอบโต้กลับจริงๆ หรือ?” ชาวเผ่าตระกูลหลายคนมองดูลินลี่ย์ นัยน์ตาของพวกเขาเต็มไปด้วยแววสิ้นหวัง

ถูกคนอื่นสบประมาทด่าทอ แต่ไม่สามารถตอบโต้กลับได้? นี่เป็นเรื่องสร้างความทนทุกข์ทรมานให้กับชาวเผ่าตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าฆ่าพวกเขาเสียอีก

“เราจะต้องล้างแค้นของเราแน่!” ลินลี่ย์คำราม “อย่ากังวลไป เราจะต้องล้างแค้นแน่!”

ถึงตอนนี้ชาวเผ่าค่อยรู้สึกดีขึ้นบ้างเล็กน้อย พวกเขาทุกคนฟังลินลี่ย์และเริ่มกลับกัน แต่ขณะที่จ้องมองดูพื้นที่รอบๆ... เขาเห็นว่าชาวเผ่าที่กำลังโกรธต่างก็หยุดเพราะเสียงตะโกนของเขา

เมื่อลินลี่ย์มาถึงเผ่าตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ เขายังไม่มีความรู้สึกว่าเป็นคนของเผ่ามากนัก

นี่เป็นเพราะลึกๆ ในใจของลินลี่ย์ เขามักคิดว่าตัวเองก็คือลินลี่ย์ บาลุค! เขามีความรู้สึกแรงกล้าต่อความเป็นคนของสาขายูลาน แต่นั่นไม่ใช่ต่อชาวเผ่ามังกรฟ้าทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม...

เมื่อเวลาผ่านไปนาน เขาอยู่ที่นี่กับชาวเผ่าตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์มาแปดเก้าร้อยปี เวลาผ่านไปเกินแปดเก้าร้อยปี ลินลี่ย์พบว่าชาวเผ่าตระกูลของเขามากมาย ทุกคนสามารถแปลงร่างเป็นมังกร และที่ทักทายเขาว่า ‘ผู้อาวุโสลินลี่ย์’ เมื่อพบเห็นเขา โดยไม่ทันรู้ตัว ไม่แม้แต่จะตระหนักถึง ในแดนนรกนี้ลินลี่ย์เติบใหญ่จนนับได้ว่าเป็นสมาชิกของเผ่าตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ไปโดยปริยาย

“แปดตระกูลใหญ่!” ลินลี่ย์จ้องมองไปทางทิศใต้ ตาของเขาหรี่แคบ

และจากนั้น ลินลี่ย์บินกลับไปยังที่พักของประมุขกัซลีสัน แต่ขณะนั้นเองมีคลื่นเสียงเยาะเย้ยสบประมาทดังขึ้นมา

“ฮ่าฮ่า อะไรกัน? ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์มีความกล้าเพียงเท่านี้เองหรือ?”

“จงซ่อนตัวต่อไป ข้ากล้าพูดได้เลยว่าแม้ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์จะมีคนมาเยาะเย้ยสบประมาทถึงหน้าประตูบ้าน พวกมันก็ไม่กล้าตอบโต้ ข่าวนี้ไม่มีอะไรต้องสงสัย จะต้องแพร่กระจายไปในแดนนรกในอีกไม่กี่ร้อยปีนี้ และแม้แต่พิภพชั้นสูงด้วย ฮ่าฮ่า.. เราจะต้องแน่ใจว่าคนของพิภพต่างๆ จะได้รู้ว่า คนของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ขี้ขลาดปวกเปียกเพียงไหน!”

เสียงนั้นยังดังก้องไปทั้งท้องฟ้า

เหล่าผู้อาวุโสกลับมาอยู่ข้างประมุขกัซลีสัน ทุกคนล้วนโกรธจัด

“ข้าไม่คาดเลยว่าแปดตระกูลใหญ่จะน่ารังเกียจถึงเพียงนี้!” ผู้อาวุโสสองโกรธจัดจนเคราสั่น “เมื่อพวกเขาแพร่ข่าวนี้ไปยังพิภพอื่น ตระกูลอื่นจะดูถูกดูแคลนพวกเขาเช่นกัน”

“ดูถูกดูแคลนพวกเขา?” ประมุขกัซลีสันหัวเราะเยือกเย็น “เจ้าผิดแล้ว แปดตระกูลใหญ่เมื่อแพร่ข่าวออกไปจะต้องแต่งเติมสีสัน พวกเขาจะพูดกันว่าเป็นเพราะท่านเจ้าแคว้นอินดิโกห้ามไม่ให้พวกเขาโจมตีเทือกเขาสกายไรท์ ซึ่งเป็นเหตุผลบังคับพวกเขาให้ต้องอยู่นอกแนวเขา ข่าวนี้บางทีอาจจะสร้างชื่อให้กับท่านเจ้าแคว้นอินดิโก แต่ไม่ส่งผลดีต่อแปดตระกูลใหญ่มากนัก แต่ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ของเรา...”

ลินลี่ย์เข้าใจเช่นกัน เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไป ชื่อเสียงของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์จะต้องมัวหมองตลอดไป คนอื่นจะพูดกันว่าพวกเขาทุกคนสามารถแอบอยู่ข้างหลังภายใต้การปกป้องคุ้มครองของเจ้าแคว้นอินดิโก และทั้งที่เมื่อฝ่ายอื่นมาเยาะเย้ยถึงหน้าประตูบ้านพวกเขา พวกเขาก็ยังไม่กล้าสู้ตอบโต้!

“ประมุขกัซลีสันแห่งเผ่ามังกรฟ้า เจ้าเป็นประมุขเผ่าและเป็นลูกชายของมหาเทพ แต่ยังขี้ขลาดอ่อนแอ เจ้าทำให้บิดาของเจ้าต้องอับอายขายหน้า ทำไมเจ้าไม่ฆ่าตัวตายซะ ฮ่าฮ่า...”

“แก..กัซลีสัน ไม่รู้จักละอายต่อมหาเทพบ้างหรือ ฮ่าฮ่าฮ่า...”

เสียงหัวเราะดังอย่างต่อเนื่อง

แม้ว่าหลังจากสี่มหาเทพตาย คนเหล่านี้ก็ยังไม่กล้าป้ายสีมหาเทพเลย ที่สำคัญแม้มหาเทพตนหนึ่งตายไป ก็ยังจะเป็นมหาเทพอยู่ดี ศักดิ์ศรีของมหาเทพจะละเมิดไม่ได้.. และหากมีการละเมิด ถ้ามหาเทพอื่นได้ยินคำพูดของพวกเขาแล้วรู้สึกขุ่นเคือง อาจตัดสินใจลงโทษพวกเขา พวกเขาอาจถึงจุดจบได้

สายตาของกัซลีสันเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง

“ท่านประมุข” พวกผู้อาวุโสที่อยู่ใกล้อดมองดูเขาไม่ได้

“เจ้าบัดซบเหล่านี้” ผู้อาวุโสการ์วีย์แค่นเสียง และเขากลายเป็นแสงรังสีบินไปทางทิศเหนือ

“กลับมานี่” กัซลีสันหน้าเปลี่ยน เขาบินไล่ตามออกไปทันที และลินลี่ย์กับผู้อาวุโสอื่นไล่ตามเขาออกไป

แม้ว่ากัซลีสันจะบินไวกว่าผู้อาวุโสการ์วีย์มากนัก แต่เทือกเขาสกายไรท์กว้างขวางมาก พอถึงเวลาที่พวกเขาไล่ตามทัน กัซลีสันและคนอื่นก็มาถึงเชิงเขาสกายไรท์

“การ์วีย์ เจ้าจะทำอะไร?” กัซลีสันคว้าตัวการ์วีย์ไว้

“ท่านประมุข” การ์วีย์จ้องมองกัซลีสัน

“โอว ในที่สุดเจ้าก็กล้าที่จะออกมาใช่ไหม?” ร่างสิบร่างลอยตัวอยู่ในกลางอากาศ และพวกเขามองเข้ามา พวกวเขาสังเกตเห็นกัซลีสันและคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด “กัซลีสัน เจ้าจะทำยังไง? ไม่เพียงแต่เจ้าไม่ยอมตอบโต้ เจ้ายังไม่ยอมให้คนอื่นตอบโต้ด้วยหรือ ฮ่าฮ่า”

กัซลีสันหันไปมองพวกเขา

“และเจ้าคิดว่าเจ้าเป็นตัวอะไร?” สายตาของกัซลีสันเย็นยะเยือก “ให้พวกอสรพิษอเวจี, ตระกูลอีดริคและคนอื่นๆ มาเลย!”

ประมุขเป็นคนตัวใหญ่สูงมากกว่าสามเมตร เขาพูดเสียงขึ้นจมูก “กัซลีสัน เมื่อร้อยปีที่แล้ว ข้าอาจขอให้ประมุขตระกูลมาฟังคำพูดของเจ้า แต่น่าเสียดาย..เจ้าไม่มีอะไรมากกว่าคนขี้ขลาดที่ไม่กล้าสู้ตอบโต้ เจ้ามีสิทธิ์อะไรที่เชิญประมุขตระกูลข้า? ข้ารู้สึกละอายที่จะพูดกับเจ้าด้วยซ้ำ!”

“อวดดีนัก” หน้าของกัซลีสันดูเหมือนมีชั้นน้ำแข็งปกคลุม

“บัดซบ!” การ์วีย์โกรธ กัดฟันเตรียมบุกไปข้างหน้าอีกครั้ง

“รอก่อน” กัซลีสันคว้าการ์วีย์และตวาดใส่เขา

“ท่านประมุข!” การ์วีย์หันไปมองกัซลีสันที่ตะโกนด้วยความโกรธ

“เฮ้, เด็กน้อย” คนร่างล่ำสันคนหนึ่งมองการ์วีย์อย่างเหยียดหยาม “จากเท่าที่ดู ระดับของเจ้าในเผ่ามังกรฟ้าน่าจะค่อนข้างสูง แต่หลายปีมานี้ ในการสู้รบระหว่างแปดตระกูลใหญ่กับเผ่าของเจ้า ข้าไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อน”

การ์วีย์ตัวสั่นเทิ้ม

ความจริง มีอยู่หลายครั้งแล้ว เพราะการ์วีย์เป็นผู้อาวุโสที่อ่อนแอกว่าผู้อาวุโสอื่น เขาไม่เคยเข้าหุบเขาอ่างโลหิต ไม่เคยสู้เพื่อเผ่าตระกูล เขาได้แต่มองดูขณะที่ผู้อาวุโสคนอื่นเสียสละตนเองเพื่อตระกูล และขณะที่เขาทำเช่นนั้น เขามักจะมีความรู้สึกผิดในใจ

“ท่านประมุข ข้า..การ์วีย์เป็นผู้อาวุโสคนหนึ่ง แต่ในช่วงหลายปีมานี้ ข้าไม่เคยมีโอกาสออกศึกเลย” ตาของการ์วีย์แดง และเขาจ้องมองประมุขเผ่าอย่างขึงขัง “ข้าคาดว่าในอนาคต ข้าจะไม่มีโอกาสสู้กับแปดตระกูลใหญ่ วันนี้ขอให้ข้าทำตามความต้องการด้วยเถอะ”

กัซลีสันตะลึง

“ผู้อาวุโสการ์วีย์...” ลินลี่ย์รีบพูดเช่นกัน

“การ์วีย์ อย่า...” กัซลีสันยังพูดไม่ทันจบก่อนที่ผู้อาวุโสการ์วีย์จะหัวเราะเบาๆ

“ปัง!” ทันใดนั้นรัศมีสีฟ้าที่น่ากลัวกระจายออกจากร่างของผู้อาวุโสการ์วีย์ และเขาหลุดจากการจับของกัซลีสันขณะที่ร่างเขาแยกออกเป็นสองร่าง ร่างหลักที่เป็นสายธาตุดินยังคงรั้งอยู่ ขณะที่ร่างซึ่งเปล่งรัศมีสีฟ้าดูเหมือนกลายเป็นเงาร่างมังกรและคำรามขณะที่พุ่งตรงไปทางทิศใต้

พลังมหาเทพ!

“ถอย!” สีหน้าของนักรบร่างกำยำเปลี่ยนไปทันที

คนสิบกว่าคนที่อยู่ด้านข้างมีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน พวกเขารีบกระจายไปในตำแหน่งต่างๆ ขณะที่ผู้อาวุโสคำรามเบาๆ ร่างของเขามีรัศมีสีฟ้าคลุมเช่นกัน คนผู้นี้เป็นยอดฝีมือตระกูลบาร์บารี่ ชำนาญในการใช้พลังน้ำ

“การ์วีย์...” ลินลี่ย์ตะลึงมองดู

การ์วีย์อ้าปาก ทันใดนั้นภาพเงาร่างมังกรฟ้าที่ยาวสิบกิโลเมตรปรากฏขึ้น และพลังมังกรคำรามยิงออกไปทันที คลุมคนสิบกว่าคนที่ต้องการหนี ร่างของพวกเขาแข็งทื่อ และพวกเขากลายเป็นอัมพาต

ทักษะเทพโดยธรรมชาติ - มังกรคำราม!

“ควั่บ!”

ผู้อาวุโสการ์วีย์พุ่งเข้าไปโจมตีพวกที่ได้รับผลกระทบจากพลังมังกรคำรามอย่างรวดเร็ว “ปัง!” “ปัง!” การ์วีย์มีโอกาสฆ่าเพียงสองคนก่อนที่บุรุษที่ใช้พลังมหาเทพจะเข้ามาขวางเขา

ยอดฝีมือทั้งสองเริ่มประมือกันอย่างดุเดือดต่างใช้พลังโจมตีที่รุนแรงหลายครา ต้นขาของการ์วีย์ฉีกโลหิตฉีดพุ่งไปทั่ว ในแง่พลัง ผู้อาวุโสการ์วีย์ยังอ่อนกว่าคนร่างกำยำของตระกูลบาร์บารีเล็กน้อย

“ท่านประมุข รีบช่วยเขา!” ลินลี่ย์คำรามเบาๆ และเขาพุ่งออกไปด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกัน

“บึ้ม!”

แสงสีเหลืองธาตุดินแผ่กระจายจากร่างของเขา เป็นหยดพลังมหาเทพธาตุดิน

แต่ขณะนั้นเอง...

“ควั่บ!” “ควั่บ!” “ควั่บ!” “ควั่บ!”

อีกหกร่างออกมาจากกองกำลังของแปดตระกูลใหญ่ ร่างของพวกเขาเปล่งรัศมีที่น่ากลัว เป็นรัศมีพลังมหาเทพ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการผนึกกำลังโจมตีเพื่อฆ่าลินลี่ย์ เป็นไปได้ยังไงที่ลินลี่ย์จะเอาชนะศัตรูทั้งหกด้วยพลังตัวเองได้?

กัซลีสันสีหน้าเปลี่ยนไป เขาตะโกนลั่น “ถอย, เร็วเข้า!” ขณะเดียวกันรัศมีพลังสีฟ้าเปล่งออกจากร่างของเขา และเขาเปลี่ยนเป็นแสงสีฟ้าพุ่งผ่านท้องฟ้า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด