ตอนที่แล้วตอนที่ 17-58 จำใจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 17-60 เหตุการณ์ใหญ่

ตอนที่ 17-59 ความคลางแคลงใจ


แม้ว่าชีวิตในหุบเขาจะเต็มไปด้วยความสงบ แต่หัวใจของลินลี่ย์ไม่สงบ เขายังให้ความสนใจผู้อาวุโสบลูและคนอื่นๆ ผู้อาวุโสเหล่านี้ทุกคนเลือกเสียสละร่างแยกที่ทรงพลังที่สุดของพวกเขาเพื่อลงมือต่อสู้ครั้งสุดท้าย หลังจากได้ยินความสำเร็จในการสู้รบของพวกเขาแล้ว ลินลี่ย์อดเลือดลมพลุกพล่านไม่ได้ ขณะเดียวกันเขารู้สึกค่อนข้างเศร้า

“พลัง ปัญหาในที่สุดก็คือพลังของเรายังด้อยกว่าของพวกเขา!” ลินลี่ย์ยืนข้างหน้าห้องของเขาเหม่อมองท้องฟ้าลอบถอนหายใจ

จากทวีปยูลานจนถึงแดนนรก ลินลี่ย์ประสบพบเจอเหตุการณ์มากมาย เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาเข้าใจว่าเกียรติยศศักดิ์ศรีและความเจริญรุ่งเรืองไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นจะเอามามอบให้ท่านได้ นั่นเป็นสิ่งที่ท่านต้องต่อสู้และรับมาด้วยตนเองโดยการพึ่งพาอาศัยพลังของตนเอง! ยามนี้ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์อ่อนแอกว่าแต่ก่อนมาก แต่พวกเขายังต้องการให้มีความเจริญรุ่งเรืองเหมือนในอดีตหรือ? นี่ไม่มีอะไรนอกจากฝัน!

เมื่อท่านมีพลังอำนาจ คนอื่นย่อมนับถือท่านเป็นธรรมดา

ตัวอย่างเช่นเบรุต ลำพังเขาคนเดียวก็เพียงพอจะสร้างความหวาดกลัวขึ้นในใจของตระกูลใหญ่ทั้งแปด แค่คำสั่งเดียวจากเบรุตส่งผลให้แปดตระกูลใหญ่ไม่กล้าบุกโจมตีเทือกเขาสกายไรท์แม้แต่ครั้งเดียว!

ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์อยู่ในห้วงวิกฤติ ในใจของลินลี่ย์เขาต้องการช่วยเผ่าตระกูลของเขา แต่ระดับพลังในปัจจุบันของเขายังอ่อนแอกว่าประมุขกัซลีสัน แล้วเขาจะช่วยสนับสนุนเผ่าตระกูลได้อย่างไร? ข้อสรุปสุดท้ายหลังจากเขาไตร่ตรองแล้วก็คือ..ลินลี่ย์ยังแข็งแกร่งไม่พอ

“ข้าจะต้องใช้เวลานานอีกเท่าใดจึงจะฝึกได้ถึงระดับลอร์ดเบรุต?” หัวใจของลินลี่ย์เต็มไปด้วยความปรารถนา.. แต่จากนั้นเขาสะบัดศีรษะและหัวเราะ

เบรุตและดันนิงตันทั้งสองคนถูกกล่าวยกย่องว่าเป็นผู้มีพลังเทพชั้นสูงขั้นสุดยอด จะไปให้ถึงระดับเดียวกับเบรุตนั้นเป็นเรื่องที่ยากเช่นกัน

“เมื่อข้าฝึกเป็นระดับเทพชั้นสูงได้ พลังของข้าน่าจะเริ่มเข้าใกล้ระดับของท่านประมุข” ลินลี่ย์ค่อนข้างกระตือรือร้น เมื่อเขากลายเป็นเทพชั้นสูง แม้ว่าร่างกายของเขาจะยังมีพลังอ่อนกว่าประมุข แต่ลินลี่ย์ยังมีคุกศิลาดำ

ถ้าลินลี่ย์เป็นเทพชั้นสูงแล้วใช้คุกศิลาดำ พลังของวิชานี้จะใกล้เคียงกับระดับวิชาที่แม่ทัพนรกรีสเจมใช้ออกมา ถึงตอนนั้นพลังที่แท้จริงของคุกศิลาดำจะถูกใช้ออก!

ลินลี่ย์หันไปมองพื้นที่ใกล้ๆ บีบีกำลังนอนอยู่บนพื้นหญ้า

“บีบี, เจ้ากำลังทำอะไร?” ลินลี่ย์หัวเราะ

“มองท้องฟ้า” บีบีนอนนิ่งอยู่กับที่ ไม่ขยับแม้แต่น้อย สายตาของเขาจับนิ่งอยู่ในท้องฟ้า เมื่อมองผ่านทะลุหมอก เขาสามารถเห็นถนนมังกรได้

บีบีนอนนิ่งเฉยๆ อยู่บ่อยครั้งและเหม่อมองที่แห่งเดียวหรือหมวกฟางของเขาเหมือนคนโง่งม บางครั้งเขาจะออกไปเล่นสนุกกับคนอื่น แต่เนื่องจากลินลี่ย์รู้จักบีบีดี เขาเข้าใจว่าบีบีมีความรู้สึกที่แท้จริงเป็นอย่างไร เมื่อเวลาผ่านไป..

บีบีต้องการพบนีซมากขึ้น

“บีบี” ลินลี่ย์เดินเข้ามาหา และนั่งลงกับพื้นหญ้าด้วยเช่นกัน เขาหัวเราะขณะมองบีบี “เจ้าคิดถึงนินนี่หรือ?”

บีบีสะดุ้งเล็กน้อย แต่เขาก็ยังพยักหน้าเล็กน้อย “ใช่แล้ว, ข้า.. ฝืนใจตัวเองไม่ให้คิดนางไม่ได้ เมื่อใดก็ตามที่ข้าไม่ได้จดจ่อกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ข้าจะเริ่มคิดเรื่อยเปื่อยเหมือนคนโง่ ซึ่งก็ทำให้คิดถึงนางบ่อยๆ อย่างไรก็ตาม คิดไปจะมีประโยชน์อะไร? นินนี่คิดว่าข้าตายแล้ว”

“บีบี, คอยอีกนิด, เมื่อเจ้ากลายเป็นเทพชั้นสูง หรือบางทีข้ากลายเป็นเทพชั้นสูง...เราจะเดินทางไปทวีปเจดโฟลทกัน” ลินลี่ย์กล่าว

“ว้าว!” บีบีลุกขึ้นนั่ง หันไปมองลินลี่ย์อย่างตกใจ

“ว่าไง, เจ้าไม่ต้องการไปหรือ?” ลินลี่ย์หัวเราะ

บีบีค่อนข้างมีสีหน้าอึดอัด “พี่ใหญ่, นี่มันค่อนข้างซับซ้อน, ข้า..เอ่อ ทำอะไรก็ได้เพื่อต้องการพบนาง แต่พอคิดถึงเรื่องที่ซาโลมอนพี่ชายนางทำกับท่าน ทำกับเรา ถ้าฟูโซ่ไม่เอื้อเฟื้อพวกเรา เป็นไปได้ว่าท่านกับเดเลียอาจจะตายไปแล้ว”

ลินลี่ย์กับเดเลียเกือบจะตายจริงๆ ในตอนนั้น

ถ้าพวกเขาตายจริงๆ ซาโลมอนซึ่งบ้าคลั่งเกินเหตุ ก็คือตัวต้นเหตุให้พวกเขาตาย

“เมื่อใดก็ตามที่ข้าคิดถึงซาโลมอน ข้าจะโมโหหงุดหงิดทุกครั้ง” แววดุร้ายปรากฏในดวงตาของบีบี แต่จากนั้นเขาถอนหายใจ “บอกข้าที ถ้าข้าไปพบนินนี่ ถ้าข้าเจอซาโลมอน จะให้ข้าทำยังไง?”

ลินลี่ย์อดหัวเราะไม่ได้ ดังนั้นเขา อย่างนั้นนี่คือสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจบีบีสินะ?

“ไม่ว่ายังไงก็ตาม บีบี! ในที่สุดเดเลียกับข้าก็ยังมีชีวิตรอดอยู่ได้ นอกจากนี้คนที่เจ้าชอบก็คือนีซ ไม่ใช่พี่ชายนาง ก็แค่ไม่ต้องสนใจพี่ชายนาง” ลินลี่ย์กระตุ้นเตือน

“ไม่ต้องสนใจ? ท่านคิดว่าข้าจะละเว้นเขาได้ แค่เพราะท่านพูดอย่างนั้นหรือ?” บีบีเม้มปากถอนหายใจ

ทันใดนั้นลินลี่ย์หันไปมองดูท้องฟ้า มีนักรบลาดตระเวนคนหนึ่งกำลังบินมาทางเขา และขณะที่เขาเห็นลินลี่ย์อยู่บนพื้น เขาลงมายืนที่พื้นใกล้ลินลี่ย์ทันที เขาคำนับและกล่าว “ผู้อาวุโสลินลี่ย์ มีสตรีคนหนึ่งรออยู่ที่เชิงเขา นางบอกว่านางเป็นสหายของท่าน นางชื่อนีซ และนางต้องการพบท่าน!”

ลินลี่ย์ตะลึง

“นีซ?” บีบีลูกขึ้นยืนทันที ตาของเขาเบิกโพลง เขารีบกล่าว “เจ้าบอกว่าสตรีนั้นชื่อนีซใช่ไหม?” “ใช่แล้ว” นักรบลาดตระเวนค่อนข้างรำคาญ

“บอกข้าที นางมีลักษณะยังไง? มีอะไรให้สังเกตเป็นพิเศษ?” บีบีกล่าว

นักรบลาดตระเวนชะงักเล็กน้อย ให้อธิบายลักษณะผู้หญิงน่ะหรือ? นี่มันค่อนข้างยาก แต่จากนั้นนักรบลาดตระเวนสังเกตเห็นหมวกฟางที่บีบีถืออยู่ ตาของเขาเป็นประกาย และรีบกล่าว “ใช่แล้ว สตรีนางนั้นสวมหมวกที่ลักษณะคล้ายกับของเจ้า”

บีบีตื่นเต้นมาก หน้าของเขาแดง

ลินลี่ย์ทั้งรู้สึกตกใจและดีใจพร้อมกัน นีซมาถึงที่นี่ได้ยังไง?

“พี่ใหญ่!” บีบีรีบหันไปมองลินลี่ย์ “เร็ว, ช่วยตบหน้าข้าสองที ดูว่าข้าฝันไปหรือเปล่า!” ตอนนี้ความคิดของบีบีมึนชาไปหมดและเขารู้สึกเหมือนกับว่าร่างเบาลอยละล่อง เหมือนกับว่าเขาไม่ได้อยู่กับความเป็นจริง

ลินลี่ย์ทำตามแต่โดยดี “ผัวะ!” มือของลินลี่ย์ฟาดใส่ไหล่ของบีบีทำเอาเขาทรุดลงไปนอนวัดพื้น

“ฮ่าฮ่า.. ไม่ได้ฝันไป ข้าไม่ได้ฝัน” บีบีตะเกียกตะกายลุกขึ้นทันที

ลินลี่ย์เมื่อเห็นว่าบีบีตื่นเต้นมากจนตัวเริ่มสั่น เขาถึงกับลอบถอนหายใจ บีบีไม่เคยตื่นเต้นแทบบ้าขนาดนี้มานานหลายปีแล้ว

เสียงเอะอะข้างนอกดึงดูดความสนใจจนเดเลียออกมาจากห้อง นางถามขณะที่เดินใกล้เข้ามา “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?”

“นีซมาถึงแล้ว บีบีกับข้าจะออกไปรับนาง” ลินลี่ย์หัวเราะ จากนั้นคว้าบีบีเหาะขึ้นไปในอากาศทันที

“นีซมาถึงแล้วหรือ?”

เดเลียตกใจเล็กน้อย แต่ต่อมานางก็รู้สึกตัว “นินนี่เดินทางมาจากทวีปเจดโฟลทจริงๆ หรือนี่?”

ที่เชิงเขาสกายไรท์ นีซจ้องมองเข้าไปในส่วนลึกของเทือกเขาตลอด หัวใจของนางเต็มไปด้วยความกังวล “จะเป็นยังไงถ้าบีบีไม่ต้องการพบข้า? บีบีกับลินลี่ย์ยังจะโกรธเรื่องที่เกิดขึ้นในแนวภูเขาไฟครั้งนั้นหรือไม่?”

ทั้งกังวล ทั้งตื่นกลัว

นีซรู้ว่าพี่ชายของนางเข้าใจลินลี่ย์ผิด และต้องการทำให้ลินลี่ย์และคนอื่นตาย

“ฮ่าฮ่า, นีซ!” เสียงที่ชัดดังขึ้น

นีซอดหันหน้าไปมองไม่ได้ ขณะที่นางมอง นางเห็นร่างที่คุ้นเคยสองร่างกำลังบินเคียงไหล่กันเข้ามาหานาง บีบีก็เหมือนกับนาง สวมหมวกฟางไว้ที่ศีรษะ เมื่อบีบีเห็นนีซ ตาของเขาเป็นประกายทันที และเขาตื่นเต้นเร่งความเร็วทันที

“ฟุ่บ!”

“บีบี!” นีซบินเข้าหาอย่างตื่นเต้นเช่นกัน

แต่ขณะที่เขาเข้ามาใกล้นาง ร่างของบีบีสั่นและความเร็วของเขาลดลง แต่นีซไม่สนใจทุกอย่าง วิ่งตรงเข้าหาบีบีเข้าไปกอดเขาไว้แน่น “ฮือออ.. ฮืออ.. ข้าคิดว่าเจ้าไม่ต้องการพบข้าแล้ว..ฮือออ..” ขณะที่นางพูด นางเริ่มร้องไห้จริงๆ

บีบีอ้าปากอยู่สองสามครั้ง ในที่สุดคำแรกที่เขาถามก็คือ “พี่ชายของเจ้าอยู่ไหน?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลินลี่ย์ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี บีบีถามคำถามที่น่าอึดอัดหรือเปล่า?

ร่างของนีซสั่น และคลายกอดบีบี นางจ้องมองตาบีบี เหมือนกับว่านางต้องการรู้บางอย่างจากในดวงตานั้น “พี่ชายข้ายังอยู่ในทวีปเจดโฟลท” บีบีดูเหมือนตระหนักอะไรบางอย่างได้ และลดเสียงถาม “ครั้งนี้... เจ้าเดินทางมาที่นี่เองหรือ? จากทวีปเจดโฟลทน่ะหรือ?”

“ถูกแล้ว!” นีซพยักเล็กน้อย

“เข้าเกือบ..ข้าเกือบ.. เกือบจะไม่ได้พบเจ้าอีกแล้ว” ขณะที่นางกล่าว น้ำตานางเริ่มไหล

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลินลี่ย์อดสูดหายใจหนาวเหน็บมิได้ นีซเป็นแค่เทพแท้ จากแคว้นโคลด์คาล์มทวีปเจดโฟลท มาแคว้นอินดิโกทวีปบลัดริจจะต้องผ่านทะเลสตาร์มิสต์ ใครจะคาดคิดกันได้ว่าความยากลำบากในการเดินทางครั้งนี้เป็นยังไง แต่นีซเดินทางด้วยตัวนางเองได้จริงๆ

“เจ้า...” บีบีตะลึงสิ้นเชิง

เขาคิดว่าซาโลมอนจะคุ้มครองนีซมาที่นี่ ความรู้สึกไม่สบายใจที่มีอยู่ในใจของบีบีสูญสลายไปทันใด

“เจ้า..อยากตายนักหรือ?!” บีบีโอบกอดนีซทันที

นีซร้องไห้หนักจนตาแดง แต่วงหน้านางยังมีรอยยิ้มดีใจที่งดงาม ลินลี่ย์ยืนนิ่งอยู่ด้านข้าง ยิ้มขณะมองดู เขารู้สึกมีความสุขยินดีต่อคนทั้งสอง ที่พวกเขาสามารถมาพบเจอกันได้อีกในลักษณะนี้

“ฮ่าฮ่า, พวกเจ้าทั้งคู่กอดกันมาพักหนึ่งแล้ว นี่ยังจะให้นักรบลาดตระเวนมองดูฉากชีวิตซาบซึ้งนี่ต่ออีกหรือ?” ขณะต่อมาในที่สุดลินลี่ย์ก็พูดพลางยิ้ม “มาเถอะ กลับกันก่อน”

ถึงตอนนี้นีซและบีบีค่อยรู้สึกตัว

การกลับมาพบกันของพวกเขาหลังจากพลัดพรากพันปี...พวกเขาทั้งสองคนตื่นเต้นจนไม่สนใจเวลาที่ผ่านไป

เวลาผ่านไป นีซและบีบีกลับมาพบเจอกันย่อมไม่อยากแยกกันอีกเป็นธรรมดา บีบีเปลี่ยนไป กลับเป็นคนสนุกและร่าเริงอยู่เสมอ และใช้ชีวิตเปี่ยมด้วยรอยยิ้มทุกวัน เขามีความสุขแทบตาย

แต่แม้ว่าการใช้ชีวิตสำหรับลินลี่ย์และบีบีจะสะดวกสบาย แปดตระกูลใหญ่กลับผิดหวัง

ภายในหอตระกูลใหญ่ตระกูลโบลีน

สี่ประมุขตระกูลและโกเลมมัจจุราชที่เป็นตัวแทนของประมุขอีกสี่ตระกูลประชุมด้วยกัน การประชุมของแปดประมุขตระกูลนี้เพิ่งจะเริ่มขึ้น

“ในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ทำตัวเป็นเต่าหดหัวในกระดองจริงๆ ไม่ยอมออกมาเลย ไม่ว่ากองกำลังของตระกูลเราจะท้าท้ายยั่วโทสะพวกเขาอย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ยอมตอบสนองแม้แต่น้อย เกิดอะไรขึ้น? หรือว่าตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์จะยอมรับความพ่ายแพ้?” เสียงทุ้มดังขึ้น

“เป็นไปไม่ได้” เสียงแหบแห้งเสียงหนึ่งดังขึ้น “ทุกคนคงจะจำได้ว่าชาวเผ่าสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์นั้นโหดร้ายบ้าคลั่งเพียงไหน ช่วงเวลาสามสิบปีมานี้ ไม่ง่ายนักที่จะทำให้เขาเป็นเต่าหดหัวในกระดอง”

“ท่านประมุขโบลีน ไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้นเสมอไป” เสียงชั่วร้ายหนึ่งดังขึ้น

“อสรพิษอเวจี ในอดีตนานนับปีไม่ถ้วน ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เคยยอมรับความพ่ายแพ้หรือ? อย่าคิดตื้นๆ แบบนั้น” เสียงแหบแห้งของประมุขตระกูลโบลีนดังขึ้นอีกครั้ง

ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์มักจะหยิ่งลำพองอยู่เสมอ และไม่ยอมก้มหัวให้ใคร พวกเขาไม่เคยรับความพ่ายแพ้ นี่คือเรื่องน่าสรรเสริญของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่แสดงให้คนอื่นเห็นมาตลอดนานนับปีไม่ถ้วน เพราะความหยิ่งผยองของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ฝังลึกในใจของพวกเขาทุกคน ในช่วงเวลาสั้นๆ มีสมาชิกของแปดตระกูลมากมายไม่เชื่อว่าตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์จะยอมก้มหน้ายอมรับชะตากรรม

“เท่าที่ข้าเห็น ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ต้องมีแผนแน่” เสียงแข็งที่ทรงอำนาจสดังขึ้น “การกระทำเมื่อเร็วๆ นี้ของพวกเขาประหลาดเกินไป ทุกคนระวังตัวไว้เป็นดีที่สุด”

“แผนการ พวกเขามีแผนการแบบไหน?” มีเสียงแหลมเสียงหนึ่งดังขึ้น

“พอเถอะทุกคน” เสียงอ่อนโยนดังขึ้น “สำหรับตอนนี้ ไม่สำคัญว่าตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ยอมแพ้หรือว่ากำลังมีแผนการอะไรหรือไม่ เราคอยดูกันต่อไป หลังจากผ่านไปร้อยปีเราจะรู้แน่นอนว่า...พวกเขายอมแพ้หรือว่ามีแผนการบางอย่างกันแน่”

“ใช่แล้ว ข้าเห็นด้วย” ประมุขตระกูลโบลีนพูดเช่นกัน

“ข้าก็เห็นด้วย”

การซ่อนตัวของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เป็นระยะเวลาสั้นๆ ทำให้แปดตระกูลใหญ่รู้สึกสงสัย อย่างไรก็ตาม เมื่อตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ยังคงซ่อนตัวต่อไปเป็นเวลาที่นานขึ้น แปดตระกูลใหญ่ก็ยิ่งมั่นใจอย่างแน่นอนว่าสถานการณ์จะเป็นยังไง เมื่อถึงจุดหนึ่งพวกเขาจะมีทางเลือกอื่นอยู่ในมือ

เทือกเขาสกายไรท์ ภายในหุบเขา

วันนี้หุบเขาเต็มไปด้วยเสียงอื้ออึงของงานเลี้ยงฉลองรื่นเริง ผู้อาวุโสที่รอดชีวิตอยู่ของตระกูล รวมทั้งประมุขสี่เผ่าตระกูล และอดีตผู้อาวุโสซึ่งสูญเสียร่างแยกที่ทรงพลังที่สุดของพวกเขา มารวมตัวกันในวันนี้

เพราะวันนี้...

เป็นวันที่บีบีและนีซแต่งงานกัน แม้แต่เบรุต คาโรไลนาและฟูโซ่ก็รีบมาสมทบ วันนี้บีบีอยู่ในชุดสูทมาตรฐานเป็นทางการ และครั้งนี้เขาอ่อนน้อมถ่อมตนคอยทักทายแขกเหรื่อที่เข้ามาทุกคนอย่างสุภาพ

“งานแต่งงานนี่ เหนื่อยจริงๆ” บีบีแอบบ่นกับลินลี่ย์ที่อยู่ใกล้ๆ

ลินลี่ย์อดหัวเราะไม่ได้ ทันใดนั้นเขาสังเกตว่าเบรุตกำลังเดินเข้ามาหา “ปู่เจ้ากำลังมา”

“ฮ่าฮ่า..” เบรุตประเมินบีบีด้วยสายตา และพยักหน้าด้วยความพอใจ “เจ้าดูเรียบร้อยดีในวันนี้ ว่าแต่ลินลี่ย์ เจ้ากับบีบีก็เหลือเกินจริงๆ บีบีกับนีซอยู่ด้วยกันมาเป็นสิบปีแล้ว แต่พวกเจ้าไม่ยอมบอกข้า มาแจ้งให้ข้าทราบเอาตอนที่จัดงานแต่งงานขึ้นแล้ว”

ลินลี่ย์ได้แต่หัวเราะเบาๆ

ความจริงนีซอยู่ในหุบเขามาหลายสิบปี เดิมทีนีซกับบีบีไม่ได้วางแผนแต่งงานกัน แต่...เมื่อไม่กี่เดือนก่อน จู่ๆ นีซพบว่านางตั้งครรภ์!

บีบีกับนีซตะลึงทั้งคู่ มีลูกขณะยังไม่แต่งงาน? พวกเขารีบปรึกษาเรื่องนี้กัน จากนั้นจึงตัดสินใจ..พวกเขาต้องแต่งงานกันทันที!

ทั้งสองคนต้องการแจ้งให้ทุกคนทราบทันที อย่างไรก็ตามเบรุตอยู่ไกลเกินไปซึ่งเหตุให้พวกเขาตัดสินใจแต่งงานในอีกหกเดือน!

วันนี้เป็นวันแต่งงาน แต่นีซตั้งครรภ์มาหลายเดือนแล้ว และท้องของนางโต เมื่อเวลาผ่านไปลินลี่ย์คิดถึงเรื่องนี้ก็อดขำไม่ได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด