ตอนที่แล้วตอนที่ 605 ไล่ตามข้าทำไม?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 607 หมัดหลอมเหล็ก

ตอนที่ 606 ไม่ต่อยตีไม่รู้จักกัน


“ทำไมเจ้าไล่ตามข้า?”

เสียงเข้มดังขึ้นแต่มีวี่แววของความเย็นชา

หลิงเซี่ยถูกคว้าที่คอและสำลักอากาศผมซอยสั้นยุ่งเหยิงและหน้าซีดขาว ดวงตานางมีแววหวาดกลัว และกลายเป็นความอ่อนแอจนนางดูน่าสงสาร

ทุกคนที่กำลังดูอย่างตื่นเต้นต่างตะลึงโดยสิ้นเชิง ไม่มีใครคิดว่าสถานการณ์จะกลับกลายเป็นเช่นนั้น

คนที่อยู่ห่างออกไปไม่สามารถแยกแยะคำถามถังเทียนได้  แต่พวกเขาส่งข้อความไปให้ตระกูลหลิงแล้ว  ตระกูลหลิงมีชื่อเสียงที่ดี และหลายๆคนได้รับพระคุณจากตระกูลหลิง ดังนั้นพวกเขาจึงผูกพันแนบแน่น

และพวกเขาอยู่ในเมืองทรายขาว

มีเสียงตวาดด้วยความโกรธ  “ปล่อยคุณหนูหลิงเซี่ย!”

ถังเทียนไม่ต้องหันหลังก็รู้สึกได้ว่ามีกลุ่มคนมาถึง และพวกเขาแยกย้ายกันล้อมไว้ ถังเทียนฝึกกับสือเซินมานานแล้วก็เข้าใจเจตนาของพวกเขา

พวกเขากำลังล้อมเขา!

ถังเทียนรู้แล้ว่ากำลังเผชิญกับกองทหารหรือไม่ก็หน่วยนักสู้  สิ่งสุดท้ายที่พวกเขาต้องการทำก็คือล้อม  เมื่อถูกล้อมเขาจะสูญเสียพื้นที่และนั่นเป็นเรื่องอันตราย

ถังเทียนไม่หันไปดูก็พาหลิงเซี่ยวิ่งไปข้างหน้า

“จับเขา!”

บุรุษที่อยู่ด้านหลังถังเทียนและทหารที่กำลังเตรียมดักจับเหาะเข้าหาถังเทียนเต็มกำลัง

ด้านหน้าของเขาเป็นกลุ่มคนที่วิ่งเข้ามาเพื่อสกัดจับถังเทียน  นัยน์ตาถังเทียนเย็นชา  ทำไมพวกเจ้าทุกคนจู่ๆ ก็มาไล่ตามข้าทำไมพวกเจ้าทุกคนจู่ๆ มาหาเรื่องสู้กับข้า และตอนนี้พวกเจ้าทุกคนยังพยายามจับข้า

คิดว่าหนุ่มชาวฟ้านี้จะถูกรังแกได้ง่ายๆหรือ?

ถังเทียนหรี่ตา  เขาไม่มีเจตนาหลบเลี่ยงวิ่งตรงเข้าหากลุ่มคนทันที

ฝ่ายตรงข้ามเปล่งรัศมีสร้างกำแพงแสงขวางถังเทียนไว้  ถังเทียนคำรามเขายกหลิงเซี่ยขึ้นเตรียมใช้ร่างนางฟาดกำแพงแสง

น่ารังเกียจ!

ใบหน้าของทุกคนที่ตั้งกำแพงแสงถึงกับเปลี่ยนทันที  บุรุษคนหนึ่งพุ่งเข้าใส่และตะโกนอย่างตื่นเต้นทันที  “ทุกคนกระจายตัว!”

กำแพงแสงสลายตัวและทุกคนแยกย้ายเปิดทางให้ถังเทียน

ถังเทียนเหมือนลมหอบหนึ่งและพุ่งผ่านพวกเขา  หลังจากพุ่งวับไปแล้วเขายืมบ้านไม้เป็นที่กำบัง ถังเทียนพาหลิงเซี่ยหายไป

สีหน้าของถังเทียนตั้งสมาธิเต็มที่ เขาระมัดระวังรอบคอบและตรวจสภาพรอบตัวของเขา  แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจ แต่เด็กสาวที่ตกอยู่ในมือของเขาดูเหมือนจะเป็นคนสำคัญ

ที่นี่ไม่ใช่กลุ่มดาวหมีใหญ่

“ปล่อยข้านะ!”

ในที่สุดหลิงเซี่ยก็เรียกความรู้สึกกลับมาได้  และนางกรีดร้อง

“ทำไมเจ้าถึงไล่ตามข้า?”  ถังเทียนมองไปรอบๆ  ขาของเขาไม่หยุดวิ่ง

หลิงเซี่ยตะลึง  ทำไมข้าถึงไล่ตามเขา?  หลังจากคิดเล็กน้อย นางรู้สึกว่ายากจะพูดออกมาได้  อยากรู้อยากเห็น?  โกรธที่ข้าถูกทำให้อาย?ดูเหมือนไม่ว่ามองยังไงข้าก็ยังไร้เหตุผล

“สงสัย”

ถังเทียนประหลาดใจอยู่นาน  แต่ไม่สามารถคิดหาเหตุผลใดๆ ได้  จึงถาม “สงสัยเรื่องอะไร?”

หลิงเซี่ยกล่าว  “วิธีบินของเจ้า”

“โอ๊ะ โอ๊ะ โอว!”  ถังเทียนมองเห็นแสงรำไร เขาปล่อยหลิงเซี่ยทันทีและพูดด้วยความภูมิใจ  “เจ้าคิดว่าเป็นยังไงบ้าง?  มันทรงพลังมากไหม?  ข้าสร้างมันขึ้นมาเอง และเรียกวิชาปรับสภาพพลังตกใจล่ะสิ คุณผู้หญิง?”

หลิงเซี่ยไม่เคยคาดคิดเลยว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะปล่อยนางอย่างนั้นและยิ่งไม่คาดเลยว่า ถังเทียนจะดีใจมากมายขนาดนั้น ทำเอานางอึ้งอยู่ชั่วขณะ

“สามารถเห็นวิชาปรับสภาพพลังงานได้ นี่คุณผู้หญิง เจ้านับว่ามีสายตาที่ดี!”

ถังเทียนแสดงสีหน้าเหมือนอย่างผู้พูดคำที่มีความหมายและพูดจริง

หลิงเซี่ยเหม่อมองดูถังเทียนอยู่ครู่หนึ่ง  ความจริงนางไม่รู้จะพูดอะไร

หลิงเซี่ยรู้สึกตัวและตะโกนบอกทุกคน “เป็นความเข้าใจผิด!  เข้าใจผิด!”

สีหน้าของทุกคนผ่อนคลายในที่สุด  เนื่องจากลูกพี่หญิงบอกว่าเป็นการเข้าใจผิดอย่างนั้นทุกอย่างก็ไม่เป็นไร ถังเทียนแสดงพลังจนพวกเขากลัวกันหมด ถ้าพวกเขาต้องร่วมสู้กับเขา พวกเขาอาจจะมีคนตายหรือบาดเจ็บสาหัสแน่

เทียบกับพวกเขาแล้วพวกแก๊งกางเกงไหมที่เจ็บตัวเพราะถังเทียนพากันรายล้อมมาทั้งหมด พวกเขาเป็นพวกชอบสนุกสนานและบุคลิกค่อนข้างไร้เดียงสา  พวกเขาอาจไม่มองคนส่วนใหญ่  แต่พวกเขาก็ยกย่องให้เกียรติคนที่แข็งแกร่งมากกว่าเขา

ลูกพี่หญิงถูกกำราบนั่นหมายความว่าบุรุษผู้นี้เต็มไปด้วยพลังชีวิต ต้องเป็นอันดับหนึ่งแน่

“พี่ชาย เจ้าช่างเต็มไปด้วยพลังชีวิตจริงๆ”

“พลังเตะของเจ้าไวเป็นบ้า! แม้แต่ตอนนี้ข้ายังรู้สึกแน่นหน้าอกอยู่เลย”

“พี่น้อง, เราจะไปตื่มกันต่อดีไหม?”

พวกเขาล้อมรอบถังเทียน  แต่ละคนล้วนแต่ตื่นเต้นทั้งนั้น

“แน่นอน ลูกผู้ชายควรเต็มไปด้วยพลังชีวิตชีวา”

“วิชาปรับสภาพพลัง  เป็นวิชาปรับสภาพพลัง มันทรงพลังมาก  ข้าสร้างขึ้นมาเอง!”

“จากนี้ไป ทุกคนเป็นพี่น้องกัน!”

……

หลิงเซี่ยมองดูอย่างมึนงงขณะที่ถังเทียนเข้ากับทุกคนได้เป็นอย่างดีถึงกับประกาศเป็นพี่น้องกัน

พวกแก๊งกางเกงไหมรู้สึกว่าถังเทียนไม่เพียงแต่น่ารักและแข็งแกร่งที่พวกเขาสามารถให้เกียรติได้  แต่บุคลิกของเขาก็ดีเช่นกัน และยากจะพบหา พวกเขาเกลียดคนที่แกล้งถ่อมตัวและไม่จริงจัง   ถังเทียนยินดี  ดูเหมือนว่าทุกคนจะตรงไปตรงมาและจริงใจ

ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นคนดีกันทุกคนสมควรคบหาได้

“ว่าไงนะ? พี่เหมิ่งมาที่นี่เพื่อทำธุรกิจเหรอ? ทำไมไม่บอกข้าเล่า! ครอบครัวข้ามีร้านอยู่หลายร้านช่วยเจ้าได้ นั่นเรื่องเล็ก”

“มันเป็นเรื่องเล็กน้อย  พี่เหมิ่ง, ถ้าท่านขอบคุณเราก็แสดงว่าท่านเยาะเย้ยเรา”

“พี่เหมิ่ง, ธุรกิจของท่าน  ก็คือธุรกิจของเราเช่นกัน!  ในทวีปทรายขาวนี้  เราก็มีชื่อเสียงของเราเองอยู่

……

ทุกคนลืมไปแล้วว่าหลิงเซี่ยยังอยู่สามารถเป็นสหายกับยอดฝีมือได้ และเพราะทุกคนแบ่งปันนิสัยที่คล้ายกัน ไม่  พรสวรรค์ของอีกฝ่ายเหมือนกัน นั่นคือชะตา

เมื่อเห็นว่าพวกเขายิ่งคุยก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นหลิงเซี่ยต้องเข้าไปในกลุ่มอย่างช่วยไม่ได้ และนางพูดอย่างจริงจัง  “พี่เหมิ่ง นี่เป็นความผิดของผู้น้อง วันนี้ผู้น้องตั้งใจจะเลี้ยงขอขมาพี่เหมิ่ง  ข้าหวังว่าพี่เหมิ่งจะยอมรับ!”

ทุกคนเงียบ  ลูกพี่หญิงเคยขอโทษใครตั้งแต่เมื่อใด?

ก็ดีเหมือนกัน ถังเทียนหิวแล้วเขาพยักหน้าเห็นด้วย  “ดีเลย!  งั้นเราไปด้วยกันเถอะ!”

“ต้องเป็นอย่างนั้น!”

“ลูกพี่หญิง วันนี้ผู้น้องทำหน้าที่จับกังอย่างยากลำบากเหมือนกัน!”

……

หลิงเซี่ยวพยักหน้าของนาง  “ทุกคนจะไปด้วยกัน  พวกเจ้าทุกคนรอข้าสักเดี๋ยว”

จากนั้นนางลอยตัวขึ้นไปหาคนที่ลงมาช่วยนางและขอบคุณทุกคน หลังจากเสร็จแล้ว นางบินกลับลงมาหาถังเทียนและพวก

ควั่บ ทั้งกลุ่มลากถังเทียนไปที่ร้านอาหาร

ในฐานะแก๊งกางเกงไหมใครไม่เชี่ยวชาญในเรื่องกินดื่มเที่ยว ไม่มีทางอยู่ในวงการได้

ร้านอาหารทรายขาว  ร้านทรายขาวดีที่สุด

คนกลุ่มนั้นวิ่งเข้ามาในร้านอาหาร  พวกเขาทุกคนเป็นลูกค้าปกติ  ผู้ดูแลร้านวิ่งมาต้อนรับพวกเขา หลิงเซี่ยคือผู้ที่มีความเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นผู้บัญชาการกองพลที่ห้าของทวีปทรายขาวและบุคลิกดังกล่าวต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ทวีปทรายขาวไล่ตามหากองทัพฝีมือดี ขณะที่เทียบกับ 36 กองพลของทวีปฝานซิงโจวแล้วมีเพียงห้ากองพล ดูเหมือนจะอ่อนแอกว่ามาก

แต่ห้ากองพลเป็นทหารมือดีทั้งหมดและถูกเลือกมาอย่างระมัดระวังจากคนนับหมื่น  ผู้บัญชาการของทวีปทรายขาวเทียบกับผู้บัญชาการของทวีปฝานซิงโจวแล้วแข็งแกร่งและมีพลังมากกว่าผู้บัญชาการทั้งห้ามีอิทธิพลและอำนาจที่แท้จริงอาจนับได้ว่าเป็นผู้บัญชาการที่มีอิทธิพลในภูมิภาคของพวกเขา

สำหรับคนผู้หนึ่งมีศักยภาพกลายเป็นขุนพลที่ทรงอิทธิพลไม่ใช่เรื่องที่ดูถูกกันได้

ถังเทียนมองดูรอบๆ ด้วยความสงสัย  โถงภัตตาคารเต็มไปหมด  และกลิ่มหอมของอาหารก็ทำให้เขาหิวยิ่งขึ้น

แต่พวกเขาก็ต้องสะดุด

“คุณหนูหลิงไม่ใช่หรือ? ข้าไม่เคยคิดเลยว่าข้าจะได้เข้ามาในที่เดียวกับคุณหนูหลิงนับเป็นวาสนาแท้ๆ”  บุรุษคนหนึ่งหัวเราะพลางพูดพลาง  เขามีอายุราว 27-28 ปีร่างกายล่ำสัน  เขาดูมีพรสวรรค์และใบหน้าของเขามีรอยยิ้มที่อ่อนโยนและอบอุ่น เขาถือแก้วเหล้าขณะพูดกับหลิงเซี่ย

ถังเทียนขมวดคิ้ว  เขาไม่ชอบความรู้สึกที่คนผู้นี้แสดงออกมา

หลิงเซี่ยตอบอย่างเฉื่อยชา “ข้าไม่เคยคิดว่าคุณชายจะมากินเลี้ยงที่นี่ด้วย  นับเป็นวาสนาที่พบกัน  หลิงเซี่ยมีเรื่องอยู่กับตัว ไม่อาจไปสมทบคุณชายได้  คุณชายเชิญสนุกต่อไปเถอะ”

น้ำเสียงของนางไม่มีวี่แววว่านางมีความสุขแม้แต่น้อย

แต่เหออิงไม่เปิดทาง เขาก้มศีรษะและหมุนแก้วเหล้าในมือและพูดเล่น  “คำเชิญตรงๆ ไม่อาจเทียบได้กับพบโดยบังเอิญเป็นเรื่องยากที่จะได้พบคุณหนูหลิง ทำไมเราไม่มาดื่มกันสักแก้วสองแก้วเล่า?  คู่ต่อสู้ของคุณหนูหลิงก็ไม่อ่อนแอทำไมทุกคนไม่มาร่วมดื่มกันและแบ่งปันเรื่องราวกันด้วยเล่า”

หน้าของหลิงเซี่ยวเขียวคล้ำทันที  คำพูดของเหออิงคุกคามอย่างเห็นได้ชัด

“เจ้านี่เป็นใคร?”  ถังเทียนสะกิดแก๊งกางเกงไหมที่อยู่ข้างเขา

คุณชายเหอได้ยินเสียงเขาและหัวเราะ  “ข้าชื่อเหออิง เจ้าต้องเป็นยอดฝีมือที่ซ้อมมือกับคุณหนูหลิงแน่  เจ้านี่กล้าหาญเป็นผู้กล้าน้อยจริงๆ! ข้าได้ยินว่ามียอดฝีมือลึกลับคนหนึ่งในวันนี้  นั่นสั่นสะเทือนไปทั้งเมืองทรายขาว”

คำพูดระคายหูของเหออิงทำให้ถังเทียนหงุดหงิดเขาไม่สนใจอะไร  “เฮ้, ข้าหิวแล้ว,ขอทางหน่อย!”

เขายื่นมือเตรียมผลักเหออิงให้พ้นทาง

“บังอาจนักเจ้า!” บุรุษเตี้ยท่าทางดุร้ายขึ้นมายืนอยู่ข้างหน้าเหออิงและหรี่ตามองพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้าบังอาจเสียมารยาทกับเจ้านาย คงเบื่อหน่ายชีวิตเป็นแน่!”

“แล้วไอ้นี่เป็นใครอีกเล่า?”  ถังเทียนหันหน้าไปถามหลิงเซี่ย

“เป็นองครักษ์ของเขาชื่อเหิงซัน  เป็นยอดฝีมือจาก....”ก่อนที่หลิงเซี่ยจะแนะนำจบ ฉากข้างหน้าทำให้นางงุนงง

ถังเทียนใช้เท้ายันไปที่หน้าของเหิงซัน

ปัง

เหิงซันตาค้าง จากแรงยันเขารู้สึกเหมือนกับว่าแรงที่สามารถเคลื่อนย้ายภูเขาถมทะเลกำลังถล่มมาข้างหน้าเขา  เขาปลิวไปข้างหลังราวกับลูกบอล

ร่างของเขากระแทกกับโต๊ะอย่างเจ็บปวด  โต๊ะพังกระจายเป็นชิ้นๆและเครื่องดื่มกระเด็นไปทั่ว เหิงซันตกลงไปในกองอาหาร ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดและเขาไม่เคลื่อนไหว

ไม่มีใครคาดเลยว่าถังเทียนจะลงมือโจมตีทันทีโดยไม่มีการเตือน

หน้าของเหออิงเขียวคล้ำ  ในฐานะผู้บัญชาการกองพลที่สองตั้งแต่เมื่อใดกันที่มีคนกล้าเสียมารยาทต่อหน้าเขา?

ไม่จำเป็นต้องออกคำสั่ง  องครักษ์รอบตัวเหออิงทุกคนวิ่งเข้าหาถังเทียน

หน้าของหลิงเซี่ยเปลี่ยน องครักษ์รอบตัวเหออิงทุกคนเป็นยอดฝีมือแข็งแกร่งกันทุกคน การลงมือกะทันหันของถังเทียนเกินกว่าที่นางคาดไว้  ในพริบตาสถานการณ์กลับกลายเป็นน่ากลัว

ความจริงนางไม่ต้องการจะล่วงเกินเหออิง  ที่สำคัญเขาเป็นผู้บัญชาการกองพลที่สอง  ต่อให้นางเป็นผู้บัญชาการกองพลที่ห้า  ตำแหน่งของนางก็ยังเป็นรองเขา

แต่ถังเทียนลงมือไปแล้ว  ไม่มีทางหลีกหนีได้  นางกัดฟันแน่น พร้อมจะลงมือ

การกระทำของถังเทียนไวกว่านาง

ในใจของเขาไม่เคยมีคำว่า“ล้าหลังผู้ใด” เขาเชื่ออย่างนี้เสมอมา

ลุยก่อนย่อมได้เปรียบ!

นอกจากนี้บังอาจขวางทางคนกำลังจะกิน แสดงว่าพวกเจ้าเบื่อหน่ายชีวิตจริงๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด