ตอนที่แล้วตอนที่ 588 เพลิงสุญญตา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 590 ข้ายังค้นไม่เจอ

ตอนที่ 589 พังทลาย


กล่องพลังต้นกำเนิดคือสิ่งที่ถังเทียนได้ประดิษฐ์ไว้เมื่อตอนที่เขาอยู่ในเมืองหานกู่และเตรียมไว้ใช้ต่อต้านพวกเซียนอื่น แต่เมื่อปิงใช้ป้อมปราการประตูเดี่ยวคลี่คลายสถานการณ์ได้ กล่องพลังต้นกำเนิดจึงมักเก็บเอาไว้ในตู้เก็บอาวุธอควาเรียส  หลังจากนั้น เมื่อถังเทียนกลับไปที่โกดัง  เขาพบกองเศษสมบัติเป็นกองพะเนินเทินทึก  ถังห้าวจะปล่อยให้เป็นของเสียเปล่าได้ยังไง? เขาจัดการเปลี่ยนเศษสมบัติทั้งหมดเป็นกล่องพลังต้นกำเนิดทันที

ในขณะนั้นถังเทียนซึ่งหาวิธีอื่นไม่เจอโยนหีบไม้ที่บรรจุเต็มไปด้วยกล่องพลังต้นกำเนิดออกไปทันที

ถังเทียนในตอนนี้มีกล่องพลังต้นกำเนิดอยู่สามหีบและในทุกหีบจะบรรจุกล่องพลังต้นกำเนิดอยู่ 300 กล่อง

กล่องพลังต้นกำเนิด300 กล่องระเบิดทันที

รังสีเยือกเย็นที่น่าสงสัยไม่ได้ทรงพลังมาก  แต่แสงรังสีของพวกมันเล็กเป็นสายเท่าเส้นด้าย

นายทหารผู้ช่วยทำแข็งใจ  เขาไม่รู้สึกถึงพลังงานใดๆที่ทำให้เขาไม่สบายใจและเขาตะโกน “ลุยหน้าต่อ!!”

เจ้านายของพวกเขาตกอยู่ในอันตรายร้ายแรงอาจพังทลายได้ทุกเมื่อง ทำให้ใจของเขากังวล กองพลที่แปดสร้างขึ้นมาโดยซุนเจี๋ยและทหารส่วนใหญ่จะมีสัมพันธ์โยงใยกับตระกูลซุน

ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับนายท่าน...

หัวใจของนายทหารผู้ช่วยสั่นกองพลที่แปด, ตระกูลซุน.. เขาเองไม่สามารถหลีกหนีกฎวินัยทางทหารได้!

นอกจากนี้บุรุษทั้ง 500 คนที่มากับซุนเจี๋ยเป็นมือดีที่เลือกมาจากกองพลที่แปดทุกคนแข็งแกร่งและผ่านการรบมาเป็นร้อยครั้ง พวกเขาไม่กลัวต่อการเผชิญหน้ารังสีที่เยือกเย็น เนื่องจากมันไม่แข็งแกร่งและคลื่นผันผวนของพลังงานก็ไม่มี

พวกเขาไม่เคยเห็นกล่องบรอนซ์นี้และคิดว่ามันน่าจะเป็นวิชาจักรกลของทวีปทองมากกว่า  พวกเขารู้ว่าจุดสำคัญระหว่างการต่อสู้ก็คือเวลาและกล่องบรอนซ์ก็เป็นวิธีหนึ่งที่คู่ต่อสู้ใช้รบกวนพวกเขา

ตราบใดที่พวกเขากลับไปสมทบกับเจ้านายได้  คู่ต่อสู้จะต้องพ่ายแพ้แน่นอน

แตกต่างจากนายทหารผู้ช่วย  คนอื่นทุกคนไม่กังวลใจเลย ระยะห่างไม่ถึง 1.5กิโลเมตร และย่นระยะทางเพียงกระพริบตาไม่กี่ทีก็ถึงแล้ว

ในแง่ของพลังพวกเขาได้เปรียบอย่างแน่นอน  ตราบใดที่พวกเขาไม่มีความผิดพลาดรุนแรงก็จะมีปัญหาอะไร

พวกเขาไม่ได้ลดความเร็วและยังคงวิ่งออกไปจนแยกออกจากขบวนศึก ทหารกระจายกำลังไปทั้งสองด้านและทหารที่อยู่ด้านหลังกระจายกำลังเตรียมล้อมถังเทียน

ไม่ว่ายังไงพวกเขาจะปล่อยให้เขาหนีไปไม่ได้!

ทหารแถวหน้าปล่อยม่านพลังออกและตะโกนให้ข้างหน้าบุกโจมตี สีหน้าของพวกเขากระตือรือร้นอย่างมากมาย  สำหรับพวกเขาแล้วเจ้านายของพวกเขากำลังสับสนเท่านั้น

ดีล่ะบางครั้งเจ้านายก็ชอบวนเวียนไปมา และเมื่อตกอยู่ในความยุ่งยาก ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่

มีพวกเขาไม่กี่คนที่เมื่อพวกเขากลับไปที่ค่ายทหารของพวกเขาหลังจากสู้ศึกแล้ว  พวกเขาจะมีหัวข้อสนทนาเอาไว้พูดคุย พวกเขาเต็มไปด้วยความคาดหมายว่าเจ้านายเป็นเหมือนเทพเจ้าสำหรับพวกเขา ดังนั้นการพูดคุยอภิปรายของพวกเขาจะต้องเร้าใจรุนแรงแน่นอน...

ระยะระหว่างทั้งสองฝ่ายสั้นลงทุกทีเส้นแสงที่คล้ายเส้นด้ายลอยตามลมแผ่วเบาและเส้นแสงนั้นปะทะกับม่านพลังแนวหน้า

ฉัวะฉัวะ ฉัวะ!

เสียงเหมือนกับดาบตัดกระดาษ

ม่านพลังงานที่หนาแน่นสามารถป้องกันการโจมตีจากกองทัพศัตรูได้กลับไร้ประโยชน์เมื่อเผชิญกับด้ายแสงที่ดูอ่อนแอนั้น

แสงที่ตัดกันเป็นเหมือนดาบที่แทงเข้าที่จุดสำคัญของม่านพลังขณะที่มันผ่านเข้าไปในขบวนศึกอย่างง่ายได้

ไม่มีเลือดกระเซ็นไม่มีเสียงร้องคร่ำครวญ ทั้งหมดที่ปรากฏก็คือความเงียบ ขณะที่ทหารหลายคนตระหนักว่ามีบาดแผลอยู่ร่างกายของเขา

เศษกฎธรรมชาติ!

แสงรังสีทั้งหมดเหล่านี้คือกฎธรรมชาติที่บริสุทธิ์  แม้ว่าจะเป็นแค่ชิ้นส่วนของกฎ  แต่กฎธรรมชาติก็ยังคงเป็นกฎนั่นเอง  พลังของมันยังคงแสดงออกได้เต็มที่ในครั้งนี้

ทหารที่บุกเข้ามาอย่างดุร้ายเฉื่อยชาทันที

ทหารแถวหน้าสูญเสียการควบคุมทันทีและเพราะทหารที่อยู่ด้านหลังตามมากระชั้นเกินไป พวกเขาจึงไม่มีเวลาหลับทันและทุกคนหน้าซีดด้วยความกลัวและชลอความเร็วทันที

จากเดิมที่ก่อตั้งขบวนไว้อย่างมั่นคงกลับกลายเป็นสับสนทันที

“ระวัง!”

“เกิดอะไรขึ้น?”

เสียงตะโกนโกรธเกรี้ยวสามารถได้ยินได้ขบวนทหารตกอยู่ในความยุ่งเหยิงเพราะแถวหน้าทำให้ทหารที่อยู่แถวหลังตะโกนด่า  ทันใดนั้นทุกคนก็หยุดด่า

รอยเลือดฉีดพุ่งออกมาจากกองกำลังด้านหน้าเหมือนกับน้ำวนรอยเลือดฉีดพุ่งผสานกันและเลือดที่ฉีดพุ่งอยู่ในท้องฟ้าก็ถูกลมพัดเป็นฝอยละอองเลือดกระจายอยู่ในกลุ่มคน  เลือดทั้งหมดมาจากทหาร  พวกเขาเสียชีวิตและร่วงตกลงไปเหมือนฝน

ทุกคนตกใจกับภาพที่เห็น แถวหน้าเหลือทหารรอดอยู่เพียงสองสามคนซึ่งโชคดีเพราะไม่ถูกกับกลุ่มพลังต้นกำเนิด  แต่หน้าของทุกคนตกตะลึงไปหมด ริมฝีปากของพวกเขาสั่นและสีหน้าซีดราวกับกระดาษ  พวกเขาสูญเสียความคิดจะสู้ไปอย่างสิ้นเชิง

กล่องพลังต้นกำเนิดทั้ง300 ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บล้มตาย 70 คน อาวุธแปลกประหลาดแบบนั้นระเบิดพลังที่แปลกประหลาดออกมา

ผู้ช่วยนายทหารตะลึงกับฉากภาพที่เห็น  เขาผ่านการรบมาแล้วหลายศึก แต่ไม่เคยพบเห็นภาพที่น่ากลัวแบบนั้นมาก่อน  ทหารที่เสียชีวิตร่วงลงพื้น  แต่ละอองเลือดในอากาศไม่กระจายหายไปและกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งรุนแรง ทำให้สนามรบราวกับถูกยักษ์มารถล่มโจมตี

ทันใดนั้นใครบางคนที่ด้านหลังกรีดร้องตื่นเต้น “ลอบจู่โจม!  มีศัตรูบางส่วนอยู่ด้านหลังเรา!”

นายทหารผู้ช่วยตกใจและหันไปดูทันทีคนกลุ่มเล็กติดอาวุธสำหรับฟันซึ่งเขาไม่รู้จักปรากฏอยู่ด้านหลังพวกเขาในตำแหน่งด้านหลังพวกเขา 300 เมตร

“พวกเขาเป็นคนของเรา!  พวกเขาเป็นคนของเรา!  นั่นคือสือเซิน!  สือเซิน!”

ใครบางคนที่อยู่ข้างซุนเจิ้งตะโกน  แม้ว่าสือเซินจะหายไปสองสามวัน  แต่เกราะของเขาดูเหมือนจะเปลี่ยนไปแต่ซุนเจิ้งและคนที่เหลือยังจำสือเซินได้ ไม่มีใครคิดว่าสือเซินจะแปรพักตร์จริงๆ  สือเซินได้รับแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพกองพลที่ 36แต่เพียงในนามเท่านั้น แม้ไม่มีใครเห็นคุณค่าอะไรของเขา แต่การเป็นแม่ทัพแต่เพียงในนาม แต่ก็ไม่ใช่ว่าใครจะเป็นกันได้ตามต้องการ

สำหรับสือเซินไม่มีเหตุผลจะแปรพักตร์เลย  ดังนั้นเมื่อสือเซินปรากฏตัวซุนเจิ้งและพวกที่เหลือมองเขาว่าเป็นผู้ช่วยชีวิต สือเซินอารมณ์ไม่ดีและมีนิสัยดื้อรั้น แต่เขาก็ยังเป็นขุนพลเฒ่าและมีความน่ากลัวมากในการสู้รบ  และทหารแก่รอบตัวเขาก็เป็นเหมือนกับเขา  ถั่วในฝักเดียวกัน

เมื่อสือเซินปรากฏที่ด้านหลัง  ซุนเจิ้งและพวกที่เหลือตะโกนด้วยความดีใจ

เสียงร่าเริงดีใจของซุนเจิ้งความรู้สึกทหารกองพลที่แปดมึนชา พวกเขาคิดว่ากองทัพผู้พี่จะมาเพื่อสนับสนุนพวกเขาและพวกเขาถอนหายใจโล่งอกทันทีการโจมตีฉับพลันทำให้กำลังใจพวกเขาตกต่ำ และการสนับสนุนที่กำลังมาถึงทำให้กำลังใจเพิ่มขึ้น

ถ้าเป็นแค่วันปกติกองพลที่ 36 ซึ่งเป็นกองทัพชั้นเลวมาสนับสนุนพวกเขา พวกเขาคงจะรู้สึกอารมณ์ไม่ดีดูถูกและไม่เห็นด้วยแน่  แต่ในเวลานี้หลังจากประสบกับการโจมตีที่โหดร้ายอำมหิตนั้น กำลังเสริมแม้เพียงเล็กน้อยก็ทำให้พวกเขารู้สึกดีขึ้น

ดวงตาของนายทหารผู้ช่วยหรี่ตาทันที  กองทัพน้อยของสือเซินตั้งขบวนรบเตรียมโจมตี!

ดูเหมือนพวกเขาไม่มีความตั้งใจจะชะลอความเร็วลง  ระยะห่างระหว่างทั้งสองกองกำลังแค่เพียง 150เมตร ระยะสั้นขนาดนั้นพวกเขาไม่มีเวลาเปลี่ยนทิศทางแน่

ไม่มีเวลาเปลี่ยนทิศทาง...จู่โจม...

ความรู้สึกหนาวยะเยือกจนขนลุกไปตามแผ่นหลังทำให้ผมขนทุกเส้นของตัวเขาลุกชันหน้าของเขาเปลี่ยน  “ศัตรูโจมตี..”

ก่อนที่เขาจะพูดจบกองกำลังของสือเซินก็เงื้อดาบวายุทมิฬพร้อมกัน

“ฆ่า!”

ตาของสือเซินมีแววเย็นชาไม่มีความรู้สึกที่อบอุ่นสักนิด เคราที่สั้นขาวและแห้งของเขาประกอบกับรอยย่นจากความยากลำบากที่เขาได้เผชิญมาแสดงเป็นสีหน้าที่เคร่งขรึมเย็นชาขณะที่ดาบทะเลหิมะยามค่ำฟันลง

“ฆ่า!”

กองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวทั้ง45 คนคำรามพร้อมกัน และฟันดาบพายุทมิฬพร้อมกัน

กลุ่มแสงแพรวพราวคลุมกองกองกำลังกองเล็ก รังสีดาบของพวกเขาลอยมาข้างหน้าเหมือนกระแสน้ำตามจังหวะดาบทะเลหิมะค่ำในมือของสือเซินที่พุ่งออกมาอย่างดุดัน  ทุกรังสีดาบมีขนาดเท่าฝ่ามือ  แต่กระแสนี้ประกอบด้วยรังสีดาบถึง 600 สาย

รังสีดาบ600 สายปะทะรูปขบวนทหารจากด้านหลัง

สายตาของนายทหารผู้ช่วยเบิกกว้างรังสีดาบบดบังสายตาของเขาทำให้เขาสูญเสียการมองและความคิดว่างเปล่า

เป็นการสังหารหมู่ที่ยุ่งเหยิงขณะที่เลือดเนื้อกระเด็นไปทั่วทุกที่

ไม่มีใครในกองพลที่แปดสามารถป้องกันพลังโจมตีได้เลย  พวกเขาทุกคนกลายเป็นเนื้อขึ้นเขียงรอการฆ่าเสียงร้องสบถด่า เสียงกรีดร้องที่ดังออกมาโดยไม่ตั้งใจถูกกระแสดาบกลบหมด

เทียบกับกล่องพลังต้นกำเนิดของถังเทียนแล้วนั่นคล้ายกับมีดของมือสังหารเอาชีวิตอย่างเงียบๆ ส่วนการโจมตีของสือเซินที่โอบล้อมเมือง เต็มไปด้วยพลัง

กระแสรังสีดาบสร้างช่องขนาดใหญ่  สือเซินรู้ว่ากองทัพใกล้จะล่มสลายแล้ว  และตราบใดที่พวกเขาปะทะการโจมตีหนัก  ก็จะล่มสลายไปอย่างสิ้นเชิง

“ปลาดึกดำบรรพ์แปลง!”

เสียงตวาดหนักแน่นท่ามกลางความยุ่งเหยิงทำให้หัวใจทุกคนสั่นสะท้าน

ตำแหน่งของกองร้อยปีศาจทวีปโยวโจวเริ่มเปลี่ยน  แสงรังสีที่ครอบคลุมพวกเขาทั้งหมดเริ่มเปลี่ยนเป็นรูปปลาดึกดำบรรพ์ซึ่งวิ่งเข้าไปในช่องว่างของขบวนทัพ

รูปปลาดึกดำบรรพ์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยนักรบทั้ง46 มีพลังอย่างน่าทึ่ง พลังที่เกิดจากการพุ่งเข้าหาเกิดเสียงดังราวกับฟ้าร้องและทหารทุกคนที่ถูกแสงกวาดออกไปได้รับบาดเจ็บหนักจนกระอักโลหิตออกมาและร้องโหยหวนขณะที่พวกเขาถูกเหวี่ยงออกไป

สือเซินผู้อยู่ที่หัวขบวนมัจฉาศึกกวัดแกว่งดาบทะเลหิมะค่ำเกิดแสดงสว่างบิดเบี้ยวกวาดพื้นที่และปะทะใส่ผู้ช่วยนายทหารซึ่งมัวตะลึงอย่างสิ้นเชิงเขาส่งเสียงครางพร้อมกับกระอักโลหิตและกระเด็นออกไป

ม่านพลังแสงต่อหน้าเขาถูกกวาดหายไปและสือเซินรู้ว่าพวกเขาทำลายรูปขบวนของฝ่ายตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง

ตาของสือเซินเป็นประกายระยิบระยับ  ดาบทะเลหิมะค่ำชูอยู่ในระดับจมูกของเขาเขาคำราม

“ระเบิด!”

ปลาดึกดำบรรพ์ปลดปล่อยรังสีดาบนับไม่ถ้วนที่เต็มไปด้วยพลังสังหารยิงไปทั่วทุกตำแหน่ง

ศีรษะปลายักษ์ทำลายรูปขบวนของอีกฝ่ายจนถึงท้ายกระบวน  และร่างมังกรยังคงอยู่ในรูปขบวนพร้อมกับเกิดแรงระเบิดในตรงกลาง กลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่าขนาดใหญ่

กองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวไม่ได้ช้าลงแม้แต่น้อยและวิ่งทะลวงออกมจากจากรูปขบวน

ทันทีที่เมื่อสือเซินเริ่มโจมตี  ถังเทียนทุ่มความสนใจไปที่ซุนเจี๋ยคนเดียว  ถังเทียนที่เพิ่งบรรลุพลังระดับใหม่เต็มไปด้วยพลังทุกส่วนร่างกาย

ถังเทียนยังคงหายและปรากฏการโจมตีของเขาเหมือนกับพายุบุแคมทำให้จำนวนนางแอ่นรอบตัวซุนเจี๋ยน้อยลงทุกที

ซุนเจี๋ยยิ่งรู้สึกสิ้นหวังมากขึ้น  คู่ต่อสู้ดูเหมือนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยหมัดของเขาหนักขึ้นทุกทีและนั่นเพลิงสีเทาประหลาด ทำให้เขารู้สึกถึงอันตรายร้ายแรง

คนที่มีอุปสรรคการใช้พลังงานจะแข็งแกร่งนักได้ยังไง....

เมื่อกลุ่มของสือเซินทำลายขบวนทัพได้เด็ดขาด  แนวต้านสุดท้ายในใจของซุนเจี๋ยก็ล่มสลาย

เขาร้องอย่างหวาดผวา  “เจ้าเป็นใครกันแน่?”

ปัง!

ร่างของเขาแข็งชะงักและสีหน้าของเขาหม่นหมอง

มีหมัดกระทบเข้าที่หลังของและขณะเดียวกันพลังความเย็นชอนไชเข้าไปในร่างของเขา

ก่อนที่เขาจะสูญสิ้นสติ เขาคิดถึงเพลิงเทาที่พันอยู่รอบหมัดของคู่ต่อสู้  นั่นคืออะไรกันแน่....

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด