ตอนที่แล้วตอนที่ 579 ทางเลือกที่โง่เขลา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 581 มือกระบี่ คลื่นกระบี่ล่องหนและหนุ่มสวย

ตอนที่ 580 หอกวิ่งและพลังต้นกำเนิด


ถังเทียนไปเร็วมากจนอาเฮ่อต้องฉุดจิงหาวซึ่งมีความเร็วไม่พอมาพร้อมกันอาเฮ่อมีปีกมารอยู่ด้วยทำให้ตอนนี้เขาเร็วที่สุด

ที่อยู่ข้างถังเทียนก็คือเสี่ยวเอ้อ เสี่ยวเอ้อฉุดถังเทียนกับหวังจุนเทียนและหยาหยามาด้วยและอาจกล่าวได้ว่าเป็นผู้รับผิดชอบในการออกแรงทั้งหมด  ที่น่าแปลกใจที่สุดก็คือหลิงซิ่ว  ไม่ใช่ความเร็วเท่านั้น  แต่เป็นความก้าวหน้าของเขา

แม้ว่าเสี่ยวไป๋จะเป็นละมั่งเขาดาบตัวหนึ่ง(พาหนะน้ำแข็งเงิน)  และมันยังไม่กระตุ้นสายเลือดนักรบของมันถ้าต้องการให้มันถึงระดับเดียวกับบรรพบุรุษของมันจำเป็นต้องผ่านหลายศึกเพื่อหล่อเลี้ยงและสร้างประสบการณ์ให้กับมัน

หลิงซิ่วไม่มีความคิดอะไรมากเกี่ยวกับละมั่งเขาดาบก็เช่นเดียวกับที่เขาไม่มีความรู้เรื่องพาหนะน้ำแข็งเงิน  เขาปฏิบัติตามเส้นทางของเขาเอง  แต่ในเนื้อแท้เขารู้สึกรังเกียจต่อประเพณีของพาหนะน้ำแข็งเงิน

โลกเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา  พวกที่สูญหาย ก็สูญหายไปแล้วพวกที่ถูกทำลายก็ถูกทำลายไปแล้ว ความเจริญรุ่งเรืองที่เป็นของคนอื่นมีอะไรที่เกี่ยวกับเขาด้วย?

ตำแหน่งของหอกจุดของเขามุ่งตรงไปที่แกนกลางต้นกำเนิดของเขาเอง

เขาวางแผนขอให้เซรีนช่วยสร้างพาหนะให้เขา แต่เซรีนวุ่นอยู่กับงานวิจัยค้นคว้าและไม่มีเวลาสร้างความพอใจให้เขา หลิงซิ่วเองเมื่อไม่ได้ดังใจก็ทิ้งเรื่องทั้งหมดไว้เบื้องหลัง

เร็วมากหลิงซิ่วพบวิธีทำให้พวกที่เหลือตกใจ

ควั่บ หอกเงินเป็นประกายวาบเหมือนสายฟ้า  ร่างของเขาพุ่งไปตามหอกทำให้ร่างของเขาปรากฏห่างออกไป 60 เมตร หลังจากนั้นเขาแทงหอกอีกครั้ง ควั่บรังสีเงินอีกสายหนึ่งฉาย เขายังคงปล่อยหอกของเขา แสงเงินกระพริบอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วเหมือนสายฟ้า

วิธีการไปข้างหน้าอย่างประหลาดนี้ให้ชื่อว่าหอกวิ่ง!

คนอื่นๆ คิดว่ามันต้องใช้แรงมาก  แต่หลิงซิ่วที่มากระแวงกลับชอบหอกวิ่ง  เขาสามารถไปข้างหน้าและฝึกฝีมือไปพร้อมกันยังมีอะไรที่ดีกว่านี้อีก?

เขาคำนวณแล้ว หนึ่งหอกไปได้ 60 เมตร600 เมตรคงจำเป็นต้องใช้ 10 หอก 6 กิโลเมตรจะต้องใช้ 100 หอก...

เหนื่อยไหม?

ถ้ากลัวเหนื่อยจะฝึกทำไม?มันสามารถฝึกความอดทนของเขาได้ นั่นคือแนวที่หลิงซิ่วเห็น

ถังเทียนมองดูหอกวิ่งของหลิงซิ่วขณะที่น้ำลายหก  เด็กหนุ่มจอมห้าวรู้สึกอายมันคือวิธีที่ก้าวหน้าสะดุดตา เมื่อคิดว่าข้าไม่มีวิธีแบบนั้น ข้ายังจะสู้หน้าเสี่ยวซิ่วซิ่วได้อีกหรือ? ไม่ ไม่ข้าจะต้องมีอะไรอย่างนั้นบ้างให้ได้ หนุ่มชาวฟ้าต้องแข็งแกร่งรอบด้าน!

ถังห้าวเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจและเขาไตร่ตรองระหว่างทาง

ความจริงแม้แต่จิ่งหาวก็รู้สึกอิจฉาเล็กน้อย จิ่งหาวบินได้ แต่เขาไปไม่ไว วิชากระบี่ปัจจุบันของเขาไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับความเร็วของเขา  อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ใช้เวลามากกับวิทยายุทธ แต่ความเข้าใจเรื่องกฎของเขาลึกซึ้งที่สุดในบรรดาทุกคน เขารู้ว่าเขายังแทบไม่สะกิดผิวเพื่อทักษะของตัวเอง และเมื่อกระบี่ของเขาเพิ่มกฎในระดับที่สูงขึ้น  ปัญหาเกี่ยวกับความไวจะคลี่คลายได้ง่ายมาก

แทนที่จะเสียเวลาไปกับพื้นที่อื่น  ข้าจะเพ่งกับการฝึกกระบี่แทนดีกว่า

บรรดาพวกเขาทุกคน อาเฮ่อเก็ยังผ่อนคลายการไปของเขาคล่องแคล่วสง่างาม เมื่อเพิ่มปีกมารขึ้นมาแล้ว  เขากลายเป็นเสือติดปีกแม้วแต่เสี่ยวเอ้อก็ไล่ตามเขาไม่ทัน

“มีศัตรูอยู่ข้างหน้า”  ถังเทียนกระแอมคอและโกน  เขาม้วนแขนเสื้อเตรียมตัวรบใบหน้าของเขาตื่นเต้น เขากระตือรือร้นต่อสู้มานานแล้ว

หยาหยาที่อยู่บนไหล่ของถังเทียนร้องเสียงดังลั่น  กำปั้นน้อยๆ ของเขาทุบใส่ที่หน้าอกเสียงดัง  เสี่ยวเอ้อเหล่ตาดูที่ด้านข้าง  จังหวะที่หยาหยาทุบอกตัวเองนั้นคุ้นเคยมาก  เจ้าคิดว่าตัวเจ้าเป็นกลองหรือ เจ้าโง่!

หลิงซิ่วผู้มีนิสัยชอบสู้ก็ตื่นเต้นพอกัน  เขาโห่ร้อง “ข้าจะแทงพวกมันให้ตาย! ให้ข้าลุยก่อน!”

ควั่บ แสงเงินระเบิดออกทันทีก็เหมือนกับแสงกระพริบ  เขาพุ่งขึ้นไปอยู่หน้ากลุ่ม

จุดไม่กี่จุดย่นระยะอย่างรวดเร็วและสิ่งที่รับพวกเขาอยู่ก็คือรอยยิ้มที่ดูเหมือนสัตว์ร้ายน่ากลัวของหลิงเซิ่ว

ทั้งสองฝ่ายไม่มีความคิดจะช้าลงอยู่แล้ว  พวกเขาพุ่งตรงเข้าหากัน

ชุดยาวขาวและผมสีขาวดุจหิมะของเขาเต้นสะบัดอยู่ในอากาศ  หน้าของเขาแสดงถึงความบ้าระห่ำ  ดวงตาสีส้มหยีลุกโชน  ขณะที่หอกเงินในมือของเขายังคงเหมือนกับเหล็กหลอมที่ลอยได้ในมือคู่สีเงิน  ความชัดเจนของการเผาไหม้และความเยือกเย็นผสมผสานเข้าด้วยกันกลายเป็นฉากที่ตึงเครียดมาก

ความรู้สึกถึงพลังที่พลุกพล่านอยู่ในร่างของเขา เขาโน้มตัวและพุ่งไปข้างหน้าเหมือนสัตว์ร้าย  หลังจากฝึกฝนขัดเกลาตนเองผ่านมาสองสามวัน  ทำให้พลังร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นมาก  สนามพลังวิญญาณของเขาแข็งแกร่งที่สุดในพวก  ยังแข็งแกร่งมากกว่าจิ่งหาว  เพราะเขาเปลี่ยนแปลงเป็นเงิน  ในการต่อสู้ที่สิ้นหวังในเจ็ดดาวเหนือ  ศักยภาพของเขาทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเหตุให้การเปลี่ยนสภาพเป็นเงินของเขาเกิดขึ้นถี่ ทำให้สนามพลังวิญญาณของเขากลับกลายเป็นแข็งแกร่งมากขึ้น

เส้นทางของเขาแตกต่างมาตั้งแต่แรกเริ่ม

ร่างพลังกายเป็นศูนย์ทำให้เขาสูญเสียพลังงานทั้งหมดในร่างกาย เนื่องจากมันถูกบังคับให้เก็บกักอยู่ในสนามพลังวิญญาณของเขาดังนั้นจึงเป็นการสร้างมรรคาวิชาใหม่ จากเท่าที่เห็น พลังงานที่เก็บไว้ในสนามพลังวิญญาณมีเพียงพลังงานครึ่งเดียวที่เก็บไว้ในตันเถียนของเขา มันดูเหมือนกับว่าอ่อนแอลง  แต่หลิงซิ่วรู้ เป็นเพราะความกว้างใหญ่ของมัน

พื้นที่ในตันเถียนไม่สามารถขยายได้และสนามพลังวิญญาณสามารถแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นได้ไม่มีหยุด

เส้นทางสายใหม่นี้หมายความว่าเขาจะไม่สามารถปฏิบัติตามมรดกของเขาได้เลย  แต่เขาไม่สนใจเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย  พลังของเขาไม่ได้มาจากมรดกแม้แต่น้อยทุกเส้นประสาทของเขามาจากเหงื่อที่เปียกโชกของเขา

เหงื่อที่ไม่เคยโกหก

มาเลย!

กลุ่มที่อยู่ข้างหน้ากำลังพุ่งมาด้วยความเร็วสูง  และเปลี่ยนตำแหน่งอย่างรวดเร็ว ทั้งสิบคนถอยกลับอย่างรวดเร็วและตั้งกระบวนรูปกระสวย  ควั่บ ทั้งหมดเปล่งแสงออกมารวมเป็นเนื้อเดียวกันกลายเป็นแสงรูปกระสวยขนาดใหญ่

หัวหน้ากลุ่มที่อยู่ข้างหน้าตะโกน  “ฆ่า!”

หัวหน้ากลุ่มผู้นี้สังเกตหลิงซิ่วได้แต่แรก รังสีฆ่าฟันที่เปล่งออกมาจากเขาทำให้หัวใจเขารู้สึกยะเยือก  และเมื่อเขาโจมตี  เขาก็ไม่ถอยแม้แต่น้อย

รังสีกระบี่รูปนกนางแอ่นนับไม่ถ้วนยิงออกมาจากกระสวยแสงทันที และโปรยลงใส่ราวกับสายฝนขณะที่พวกเขาพุ่งเข้าหาหลิงซิ่ว

แสงรังสีกระบี่นางแอ่นทำให้หน้าของหลิงซิ่วเป็นประกาย ขณะที่ดวงตาที่เรียวและสีส้มของเขาเปล่งประกาย  เปลวไฟเริ่มลุกขึ้นเหมือนชั้นหินบางทะลุผ่านปากปล่องภูเขาไฟ  มันไหลมาคลุมทัศนวิสัยของเขา

หลิงซิ่วปัจจุบันนี้เหมือนกับลูกตุ้มหนามที่มีเพลิงลุกร้อนแรง

“ตาย!”

เขาโห่ร้องห้าวหาญนิ้วของเขาปั่นหมุนหอกเงิน กระแสพลังและพลังงานระเบิดออกมาจากหอกเงินของเขาในช่วงเวลาเดียวกัน

พายุรังสีหอกปะทะใส่กลุ่มรังสีกระบี่รูปนกนางแอ่น

รังสีแตกกระจัดกระจายอยู่ในอากาศล่องลอยอยู่ในอากาศเหมือนหิมะ

หัวหน้ากลุ่มในรังสีรูปกระสวยไม่อยากเชื่อสายตาของเขาเอง  เป็นไปได้ยังไง?

แทบจะทันใดนั้นรังสีกระบี่ลดลงไปกว่าครึ่งคู่ต่อสู้ของเขามีแค่เพียงคนเดียวปลดปล่อยพลังหอกได้มากมายขนาดนั้นเหนือกว่าพวกเขารวมกัน  เป็นไปได้ยังไง....

ในช่วงเวลาสั้นๆ นั้น ระยะระหว่างพวกเขาสั้นลงเหลือเพียง18 เมตร เบื้องหลังพายุเงินเป็นใบหน้าที่ห้าวหาญบ้าคลั่งอย่างเห็นได้ชัด

หัวหน้ากลุ่มผู้มีประสบการณ์การรบมากมายตัดสินใจเปลี่ยนกลยุทธระหว่างที่ยังตกใจ  เขากวัดแกว่งมีดสั้นนางแอ่นในมือเพื่อดึงดูดอากาศ  สมาชิกอีกเก้าคนด้านหลังเขาชักมีสั้นนางแอ่นออกมาเช่นกัน

“นางแอ่นโจมตี!”

หัวหน้ากลุ่มรวบรวมความแข็งแรงของเขาทั้งหมดกรอกตาจ้อง พวกเขาแทงมีดสั้นนางแอ่นของพวกเขาออกไป

มีดสั้นทั้งสิบเล่มแทงออกมาพร้อมกัน!

กระสวยแสงหมองลงร่างนกนางแอ่นขนาดใหญ่ส่งเสียงร้องหวีดหวิวบินออกจากกระสวยแสงด้วยความเร็วแสงตรงเข้าหาหลิงซิ่ว

ดวงตาเปลวเพลิงของหลิงซิ่วเป็นประกายวูบวาบมากยิ่งขึ้น  สีหน้าของเขายิ่งดูเหมือนคลั่งมากยิ่งขึ้น  ถ้าเป็นครั้งแรกที่เขาเผชิญกับการโจมตีอย่างนั้นเขาคงสับสนและงุ่มง่าม  แต่หลังจากถูกสือเซินเคี่ยวเข็ญอยู่หลายวันเขาจะไม่มีความก้าวหน้าได้ยังไง?

และพวกเจ้า...เมื่อเทียบกับสือเซินแล้ว  พวกเจ้ายังอ่อนกว่า...

รังสีเงินครอบคลุมเต็มท้องฟ้ากลายเป็นเรื่องง่ายขณะที่พวกเขาเดินหน้าเข้าหากลุ่มรังสีเยือกเย็น  รังสีเยือกเย็นนี้ไม่มีท้ายตามหลังเนื่องจากมันลายพลิ้วเหมือนฝนเงิน แต่มันเป็นกลายเป็นบอลกลมมีแสงสว่างในตัวหมุนปั่นคล้ายกับดาวฤกษ์

รังสีหอกของข้าหลอมรวมเป็นดาวดวงหนึ่ง

ต้นกำเนิดพลังของข้าจะทำลายสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติทั้งหมด

ต้นกำเนิดพลังแทงซึ่งเป็นไม้ตายเก่าของหลิงซิ่วหลังจากผ่านการพัฒนาและขัดเกลาแล้ว จึงออกมากลายเป็น พลังแทงต้นกำเนิดดารา

ชี่!

นางแอ่นถูกทะลวงทะลุ พลังแทงต้นกำเนิดดวงดาวยังมีแรงเฉื่อยต่อพุ่งเข้าไปในรังสีรูปกระสวย

ดวงดาวระเบิดรังสีหอกนับไม่ถ้วนยิงออกมาจากทุกทิศทาง สมาชิกทุกคนที่อยู่ภายในรังสีรูปกระสวยไม่มีเวลาตั้งตัวและถูกแทงทะลุทั่วทั้งตัวราวกับรูกระชอน

พวกเขาสูญเสียการควบคุมพลังในร่างทันที

ปัง!

กระสวยแสงทั้งหมดระเบิดรวมทั้งรังสีดาบนกนางแอ่นที่พวกเขาสร้างขึ้นก่อนนั้นด้วย

ลูกไฟขนาดใหญ่ปกคลุมทั่วท้องฟ้า  ทั้งกลุ่มถูกกำจัดไปหมด ไม่มีผู้รอดชีวิตแม้แต่คนเดียว

นี่ยังคงเป็นความแตกต่างระหว่างดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์และสวรรค์วิถี ผู้คนจากสวรรค์วิถีจะเก็บพลังงานไว้ในตันเถียน แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีพลังงานมากมายเหมือนคนของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์  แต่หลังจากเส้นชีพจรพวกเขาถูกชำระสะอาดก็มีความมั่นคงยิ่งขึ้น และมีโอกาสต่ำที่จะมีการเผาไหม้  แต่คนจากดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์เหมือนถุงใส่พลังงานและจะระเบิดได้ง่ายมาก

ตลอดการรบทั้งหมดถังเทียนและพวกที่เหลือไม่ได้เข้ามาห้ามและยังคงรักษาความเร็วในการรุดหน้าต่อไป

การแสดงฝีมือของหลิงซิ่วทำให้ถังเทียนเลือดลมพลุกพล่าน  เขากางแขนและสูดหายใจเต็มปอดและตะโกนเน้นทีละคำ“เสี่ยว..ซิ่ว...ซิ่ว!”

หลิงซิ่วที่เพิ่งจะอวดผลงานที่โดดเด่นอย่างห้าวหาญแทบจะหัวคะมำทันใด

เจ้าบ้านี่....

อาเฮ่อสังเกตเห็นกลุ่มในระยะไกล  เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย  “เตรียมประจัญบาน”

คงเป็นเรื่องยากจะทำลายและจัดการสร้างความตื่นตกใจให้กับกองทัพที่มีคน500 ด้วยกำลังคนไม่กี่คน และภารกิจปัจจุบันของพวกเขาก็คือเมืองเป่ากวง สำหรับกองทัพเหมาะจะให้ทหารผ่านศึกอย่างสือเซินรับมือ  ดีที่ตำแหน่งของศัตรูอยู่ทางด้านขวางของเขาและมีระยะห่างระหว่างพวกเขามากจึงยังไม่ต้องเผชิญหน้ากับพวกเขา

ซุนเจี๋ยคาดไม่ถึงเลยว่ากลุ่มเล็กๆจะถูกกำจัดทันทีที่พวกเขาปะทะกัน พลังของคู่ต่อสู้เหนือกว่าที่เขาคาดไว้ พวกเขาเป็นยอดฝีมือ!

เขาลอบประหลาดใจ คนของเขา 500 คนในทุกคนจะมีฝีมือดีกันทั้งนั้น และผ่านการคัดเลือกมาหลายระดับและยังผ่านการสู้รบในสงครามจริงมาแล้ว ดังนั้นพวกเขาไม่ควรมีคู่ต่อสู้ที่คู่ควรในทวีปซางโจว  นอกจากนี้ แค่เพียงปะทะครั้งเดียวทั้งสิบคนก็ถูกฆ่าเชียวหรือ?

นักสู้ที่แข็งแกร่งขนาดนั้น  เขาคงไม่ใช่คนไร้ชื่อเสียงแน่นอน

ไม่ใช่เพียงแต่เขาเท่านั้นบริวารคนอื่นของเขาก็ประหลาดใจพอกัน ในกองทัพคนที่แข็งแกร่งขนาดนั้นปกติจะไม่ถูกเลือกให้เป็นหน่วยลาดตระเวน

ซุนเจี๋ยเสียใจเล็กน้อยที่เขาไม่นำหน่วยลาดตระเวนมาอย่างเพียงพอในครั้งนี้  หน้าของเขาเขียวคล้ำ  เขาออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว  “หมวดสอง ไปหยุดพวกมันเอาไว้”

“ขอรับ!”

หมวดสอง 50 คนแยกออกจากกลุ่มใหญ่และพุ่งเข้าหาพวกเขาทันที

จิ่งหาวชำเลืองมองกองกำลังที่กำลังจะมาถึง  เขาพูดเบาๆ “อาเฮ่อ, ไปกันเถอะ”

“ได้เลย!”

ขณะที่เขาตอบ ปีกมารสั่นเล็กน้อยอาเฮ่อพาจิ่งหาวหายวับไปทันที

ชั่วเวลาต่อมาพวกเขาก็มาปรากฏอยู่ข้างกองกำลังนั้นและทั้งสองก็แยกกันทันที

กองร้อยหมวดสองคาดไม่ถึงว่าศัตรูไม่ยอมถอยแต่กลับโจมตีพวกเขาก่อนแทน

ในกลางอากาศ อาเฮ่อถือกระบี่และร่ายรำย่างก้าวของเขาลึกซึ้งและยากจะเข้าใจชุดดำของเขากระพืออย่างสง่างามคล้ายกับกระเรียนดำเริงระบำ สีหน้าของเขาดูน่านับถือและสายตาของเขาเหมือนกับน้ำที่ใสกระจ่าง กระบี่กระเรียนในมือของเขา  วิชากระบี่ของเขาเป็นสุดยอดวิชา กลิ่นอายโบราณดูเหมือนกระจายออกมาตามจังหวะเคลื่อนไหวของเขา  กระแสพลังที่โบราณป่าเถื่อนค่อยๆแพร่กระจายจากกระบี่เข้าไปในตัวของเขา

เมื่อตระหนักถึงปราณที่ระเบิดออกมาอาเฮ่อกางแขนขาเหมือนกับกระเรียนดำทะยานฟ้า

ระลอกพลังไร้ลักษณ์กระเพื่อมออกมาโดยมีร่างของเขาเป็นศูนย์กลางขณะที่มันถูกสร้างและหายไปอย่างเงียบๆ

หัวหน้าหมวดหน้าซีดขาวด้วยความตกใจ  นั่นมันวิทยายุทธแบบไหนกัน?  เขาไม่เคยพบเจออะไรแบบนั้นมาก่อน พลังงานงานที่มีอยู่ทั่วรอบตัวในหน่วยดูเหมือนจะลดลง!

จิ่งหาวที่ยังอยู่ในอากาศตาของเขาสงบไม่มีกระเพื่อม กระบี่ในมือของเขาสั่นเล็กน้อย มันกระหายและใจร้อนมานานแล้ว

เพราะชื่อของมันคือ ดื่มเลือดเซียน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด