ตอนที่แล้วตอนที่ 574 ขี้ขลาด โกหก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 576 ติดอาวุธ

ตอนที่ 575 ข้อเสนอของบาร์บารา


ถังเทียนนอนอยู่บนทรายและโคลน

เขามองดูท้องฟ้าอย่างมึนงงเขากำลังหอบหายใจ เหงื่ออาบทั่วใบหน้าของเขา เขาไม่รู้ว่าอะไรทำให้เขาโกรธ แต่เขารู้สึกหงุดหงิด

หลังจากได้ระบายไปแล้วเขาก็สงบลง

บางทีอาจเป็นเพราะข้าเองก็เหมือนกับเขา  ข้าเบื่อที่จะแบกความฝันและความหวังของคนอื่น

เขาในปัจจุบันนี้ไม่ได้ประมาทเหมือนอย่างที่เคยเป็นมาในอดีต  เขาไม่สามารถทำอะไรตามใจตัวเองได้อีกต่อไปเขากลายเป็นผู้นำของเหล่าสหาย แม้ว่าเขาจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม แต่มันก็กลายเป็นความจริง

ตัวอย่างเช่นในอดีต เขาสามารถลุยเดินหน้าได้โดยคิดแต่เพียงตนเอง  แต่ตอนนี้ เขาต้องพาทุกคนไปกับเขาด้วย

เขาไม่ได้พูดอะไรไม่มีอะไรที่ต้องพูดกันมาก ด้วยความเชื่อถือของผู้คนที่ฝากไว้ในตัวเขา  เขาก็แค่ทำงานให้หนักขึ้น  จนกระทั่งวันนี้ เมื่อเขาเห็นสือเซิน หัวใจของเขาหดหู่และตกตะลึงเขาโกรธจนระเบิดอารมณ์ออกมาทันที

แรงกดดันที่เขามีเพิ่มขึ้นมากทุกวัน

เขามองดูท้องฟ้า ท้องฟ้าสีครามเต็มไปด้วยเมฆของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์  ก็เหมือนกับสวรรค์วิถี

แต่ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

จิ่งหาวอาเฮ่อ และหลิงซิ่วอยู่ด้วยกัน ไม่สามารถป้องกันกลุ่มคน 50 คนได้เรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในสวรรค์วิถี

ถังเทียนคิดถึงเรื่องนี้ ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์เป็นสภาพแวดล้อมที่ใหม่  แต่เขาไม่เคยคิดว่าความแตกต่างระหว่างสองโลกจะมากมายนัก  หวังจุนเซียนพูดว่าทวีปฝานซิงโจว (ทวีปมหาศาล) มีกองทัพขนาดต่างๆ36 กองพล และภายในภูมิภาคใต้ ทวีปฝานซิงโจวไม่ใช่ที่แข็งแกร่งที่สุด  ถังเทียนไม่อยากเชื่อตัวเลขทั้งหมดดังนั้นจึงสร้างแรงกดดันมหาศาล

ในสวรรค์วิถี  แม้แต่ทหารที่แย่ที่สุดก็ยังเป็นกองทัพหนึ่ง

แต่ในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์  กองทัพประจำทวีปมีประวัติศาสตร์ยาวนานเมื่อได้ยินคำบรรยายและรายละเอียดอย่างสมบูรณ์ของหวังจุนเซียนถังเทียนถึงได้ตระหนักถึงงานท้าทายที่พวกเขากำลังเผชิญ

ถ้าเราพูดว่าวิทยายุทธของทวีปในสวรรค์วิถีพัฒนาจนถึงจุดสูงสุด อย่างนั้นทหารประจำทวีปในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ก็ยังคงพัฒนาจนถึงจุดสูงสุดเหมือนกัน  เมื่อผู้เยาว์ในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์เติบโตและไปโรงเรียน  พวกเขาจะเรียนรู้การฝึกฝนเป็นกลุ่มอย่างขั้นพื้นฐานที่สุด  พวกเขาจำเป็นต้องเข้าใจพื้นฐานของการเข้ากันได้และพื้นฐานของกลยุทธ์ในการสู้รบ นักเรียนแบบนี้เมื่อจบออกมาก็จะแทรกซึมเพื่อรับตำแหน่งสำคัญในกองทัพ  ตัวอย่างเช่นกองกำลังรักษาการณ์หมู่บ้านกองทหารรับจ้าง และกองทหารเจ้าศักดินาผู้มีอำนาจทั้งหลาย

ในสถานที่อย่างนี้  งานทุกอย่างเน้นที่การประสานงานเป็นทีมอย่างมาก

ทวีปซางโจวเป็นสถานที่ยากจนและมีเพียงโรงเรียนเดียว มาตรฐานค่อนข้างต่ำ ยังต่ำกว่ามาตรฐานทั่วไปของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ด้วยซ้ำ

ในสวรรค์วิถีกลุ่มดาวหมีใหญ่ของถังเทียนสามารถยืนหยัดอยู่ในพื้นที่ของตนเองต่อต้านมหาอำนาจอื่นได้เพราะพวกเขามีกองทัพที่แข็งแกร่ง  แต่ไม่ว่าเขาจะเชื่อถือในพวกเขาเพียงไร  เขาไม่คิดว่ากองทัพของพวกเขาซึ่งผ่านการต่อสู้มาเพียงไม่กี่ปีจะสามารถเทียบได้กับกองทัพประจำทวีปของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ที่มีการจัดสร้างกันมาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว

ด้านที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาความจริงก็คือจุดอ่อนที่สุดทำให้ถังเทียนและพวกรู้สึกเสียเปรียบเป็นอย่างมาก

ความรู้สึกนี้น่ากลัวมากจริงๆ

ไม่,  ต้องมีสักทาง!

ถังเทียนยังคงมองดูท้องฟ้า  ข้าจะหาทางให้พบ

*********************

ทวีปฝานซิงโจว บุรุษอ้วนเต็มไปด้วยไขมันคนหนึ่งกวาดรายงานทั้งหมดในมือและถามโดยไม่เงยหน้าขึ้น “ความคืบหน้าในการสร้างสะพานลอยในทะเลแสงเป็นยังไงบ้าง?”

ที่อยู่ด้านหน้าโต๊ะเป็นบุรุษวัยราว30 ปีคนหนึ่งค้อมศีรษะพูดด้วยความเคารพ “ยังไม่ก้าวหน้าเท่าใดนัก ยังขาดแคลนแรงงานชาวบ้านมากเกินไป”

“ห้าเดือนจะเสร็จทันไหม?” บุรุษอ้วนถาม

หยางจื่อชิงหลั่งเหงื่อเยียบเย็น  เขาแข็งใจตอบ “นั่นเป็นไปไม่ได้”

ปัง!

แก้วบนโต๊ะถูกปาใส่หน้าเขาโดยตรง  แต่เขายังคงหลบตาไม่กล้าเคลื่อนไหว  หน้าผากของเขาถูกแก้วบาดเลือดไหลเลือดที่ไหลอาบใบหน้าของเขาทำให้เขาดูน่ากลัวมาก

บุรุษอ้วนเงยหน้าขึ้นเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น  หน้าของเขาเฉยเมยไม่แสดงอารมณ์  “เจ้ารู้ไหมว่าข้าต้องสูญเสียทุกวันมากแค่ไหนหากสะพานไม่ได้รับการซ่อมแซม?”

หยางจื่อชิงรู้ว่าเจ้านายกำลังโกรธจึงไม่กล้าส่งเสียงหรือเช็ดเลือดที่หน้าของเขา

“เจ้ารู้ไหมว่าวันหนึ่งข้าต้องใช้จ่ายเงินไปมากมายเพียงไหน? เจ้าคิดไหมว่ามันง่ายมากนักหรือที่หาเลี้ยงพวกเจ้าทุกคน?”  บุรุษอ้วนถอนหายใจ  “ตอนนี้ทุกอย่างแพงมาก เงินใช้จ่ายออกไปราวกับน้ำรั่ว  แล้วทวีปฝานซิงโจวของเราจะต้องพึ่งพาอะไร?  มันเป็นธุรกิจ ทุกวันที่สะพานลอยในทะเลแสงพังเสียหายก็คือวันสูญเสียทั้งนั้น ข้ารู้สึกกังวล  จื่อชิง เฮ้อ,เจ้าติดตามข้ามานานแค่ไหนแล้ว?”

“เรียนนายท่าน เป็นเวลา 12 ปีแล้วขอรับ”  หยางจื่อชิงตอบ

“เป็นเวลา 12 ปีแล้ว”  บุรุษอ้วนถอนหายใจ  “เจ้าแก่แล้ว ไม่มีพวกเจ้าทุกคนก็คงไม่มีทวีปฝานซิงโจวในวันนี้ ข้ารู้ว่าหลายคนพอใจกับสิ่งที่พวกเขามีในตอนนี้  และทวีปฝานซิงโจวในปัจจุบันก็แข็งแกร่งมากกว่าสิบสองปีก่อนหลายเท่า  ทุกคนมีครอบครัวและธุรกิจเป็นของตัวเองและคิดถึงแต่เวลาที่สนุกเพลิดเพลิน แต่จื่อชิง ดูสิ”

บุรุษอ้วนเดินไปที่อุปกรณ์ดวงดาว อุปกรณ์ดวงดาวขนาดมหึมาแสดงตำแหน่งของทุกดวงดาวในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์

“ทวีปฝานซิงโจวของเราตั้งอยู่ในพื้นที่สำคัญ  นี่ถึงได้นำความสำเร็จมาให้เราและภูมิภาคใต้ทั้งหมด ทวีปฝานซิงโจวคือหนึ่งในสิบอันดับแรกที่สามารถทำการค้าได้”  น้ำเสียงของบุรุษอ้วนมีแววหยิ่งยโส  “แต่นี่ก็หมายความว่าเราต้องพยายามดิ้นรนพัฒนาต่อสู้มาหลายครั้ง เราเป็นเหมือนชิ้นเนื้อที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ใครจะมากัดกิน”

“ข้ารู้ว่าคนเบื้องต่ำมีความคิดเห็นเกี่ยวกับข้ามากมาย พวกมันคิดว่าเรามีกองทัพมากมายในทวีปฝานซิงโจว แต่พวกมันไม่คิดเรื่องว่าถ้าไม่มีกองทัพหลายกอง  แล้วเราจะอยู่รอดได้ยังไง?  เราจะปกป้องแผ่นดินที่มีค่าเอาไว้ได้ยังไง?”

“นายท่านฉลาดเลิศล้ำ!”  หยางจื่อซิงตอบ

“ฉลาด?” น้ำเสียงของบุรุษอ้วนเข้มงวดขึ้น “ใครที่จะบอกว่าข้าฉลาด? พวกมันมีแต่จะเกลียดข้าถามถึงเหตุผลที่ข้าไม่แบ่งปันผลกำไรให้พวกมัน พวกมันทำงานกันอย่างหนักและทำเงินประสบความสำเร็จได้มากและควรจะได้ยินดีกับผลของการกระทำ! หึ หึ!”

ใบหน้าของบุรุษอ้วนเต็มไปด้วยอาการเย้ยหยัน  แต่ก็สงบลงโดยเร็ว  “แต่ไม่ว่าพวกมันคิดอะไรกัน  ข้าไม่สนใจทั้งนั้น”

น้ำเสียงของเขาผ่อนคลายมากขึ้นและหัวเราะเบาๆ

หยางจื่อซิงเย็นไปตามขั้วสันหลัง เขารู้ว่าการกวาดล้างที่เจ้านายเก็บไว้ในใจมานานกำลังจะเริ่ม

เหมือนกับว่าเขาอ่านใจของหยางจื่อชิงออก  บุรุษอ้วนหัวเราะ  “มนุษย์เราเมื่อพวกเขาไม่กระตือรือร้นมาเป็นเวลานาน ก็จะสะสมพิษและขยะในร่างกาย ขอเพียงทำความสะอาดอวัยวะภายในและกำจัดพิษออกไปก็จะทำให้พวกเขารู้สึกสดชื่นขึ้น มีเจ้าคอยรับมือหลายอย่าง ข้าก็พักได้อย่างวางใจ  อีกสามเดือน สะพานลอยจะต้องซ่อมให้เสร็จ ไปจัดการได้ตามที่เจ้าต้องการได้เลย”

บุรุษอ้วนตบไหล่ของหยางจื่อชิง

หยางจื่อชิงเดินออกมาจากห้องของเจ้านาย  เขาคล่องแคล่วมากเขาพยายามสงบจิตใจตนเองและไม่คิดอะไรมากต่อไปโดยเฉพาะในเรื่องซ่อมสะพานลอยให้เสร็จก่อน

นายท่านบอกว่าให้ทำในสิ่งที่ข้าต้องการได้เลยนั่นเป็นการส่งเสริมและเตือนด้วยว่าถ้าข้าปล่อยให้หละหลวมไม่ทำให้ดี  อย่างนั้นจะกลายเป็นปัญหาของข้าเอง  หยางจือชิงเข้าใจเจ้านายของเขา  เจ้านายของเขาต้องการแต่ผลงานเท่านั้น

หยางจื่อชิงฝืนยิ้ม ดูเหมือนว่าเขาต้องกดดันผู้ใต้บังคับบัญชาของเขามากขึ้น

***********************

โลกน้ำเงิน

บาร์บารากลับมาโดยไม่เตือนผู้ใด  เทียบกับคนแคระน้ำเงินอื่น เขาฉลาดกว่ามาก เขามาถึงที่ภูเขาอาบิดิราซึ่งเป็นโขดหินขนาดใหญ่อยู่ในกลางอวกาศว่าง  มันมีขนาดมหึมาด้วยความยาวเกินกว่า 120กิโลเมตร และส่วนกว้างที่สุดคือ 85 กิโลเมตร โครงสร้างของมันมองดูคล้ายทั่งหิน

คนแคระน้ำเงินสร้างเมืองของตนเองอยู่บนผิวเรียกว่าเมืองอาบิดิยา

เมืองอาบิดิยาปกคลุมไปด้วยหมอกน้ำเงินเลือนรางมันคือหมอกสีน้ำเงินที่แปลกประหลาดของคนแคระน้ำเงินซึ่งมีปรากฏอยู่ที่ทุกที่ซึ่งคนแคระน้ำเงินรวมตัวกัน หมอกน้ำเงินนี้ถูกปล่อยออกมาโดยเถาสีน้ำเงินคอยปกป้องคนแคระน้ำเงินจากการถูกมิติว่างกัดกร่อน

แต่ภายในเมืองไม่มีหมอกน้ำเงิน

เป็นครั้งแรกที่บาร์บารามาถึงเมืองอาบิดิยา  แต่เขาหาพบสถานที่เป้าหมายอย่างรวดเร็ว เป็นหุบเขาเว้าตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ดูเหมือนสหายเก่าของเขาไม่ได้เป็นอยู่ที่ดีเท่าใดนัก

ในเมืองทุกเมืองของคนแคระน้ำเงินจะมีแหล่งกำเนิดไม้เถาซึ่งในตำแหน่งนั้นจะติดกับแหล่งไม้เถาซึ่งมีมูลค่าทำเงินได้มาก

หุบเขานี้อยู่ไกลมาก

ในเวลาอันรวดเร็วบาร์บาราก็พบบ้านสหายเก่าของเขาซึ่งความจริงเป็นถ้ำเล็กๆ

เขาเคาะประตู

“นั่นใคร?” เสียงหนึ่งดังออกมาอย่างไม่พอใจ

“ข้าเอง, บาร์บาราไง”  บาร์บาราตอบ

ประตูไม้เล็กเปิดออกดังแอ๊ดด..และปรากฏร่างคนแคระน้ำเงินที่มีสีหน้าประหลาดใจ “บาร์บารา, เจ้ามาทำอะไรที่นี่”

“ดีดิสัน!ไม่ได้พบกันนานเลยนะ!” บาร์บาราร้องอย่างตื่นเต้นดีใจ

“เป็นเวลานานมากจริงๆ!”  ดีดิสันจับมือของเขาและกอดบาร์บาราด้วยความรัก  “รีบเข้ามา”

ดีดิสันสูงกว่าบาร์บาราครึ่งศีรษะและเขาดูเหมือนจะมีความกล้าและแข็งแกร่งมากกว่า จมูกโด่งเป็นสัน ตาสีฟ้าเข้มสายตาที่จ้องมองดูคนของเขาประเมินตัดสินคนมากและอาจทำให้คนผู้นั้นรู้สึกอึดอัดใจ

“ดูเหมือนเจ้าเป็นอยู่ไม่เลวเท่าไหร่เลยนะ”  บาร์บารามองดูรอบๆ ห้อง  ห้องมองดูตกแต่งอย่างเรียบง่าย

“ความจริง มันแย่”ดีดิสันรินน้ำใส่แก้วส่งให้บาร์บารา “ที่นี่ข้ามีแต่น้ำเปล่า โชคดีที่เจ้าไม่ใช่คนช่างจุกจิก”

“ข้าแปลกใจจริงว่าจดหมายที่เจ้าส่งให้ข้าครั้งล่าสุด” บาร์บาราจ่อแก้วกับปากและดื่มลงไป  “ข้ารู้สึกว่าด้วยพรสวรรค์ของเจ้าเจ้าสามารถอยู่ในกองพลอาญาแดงได้”

“ข้าไม่เต็มใจจะสาบานจงรักภักดีต่อทะเลน้ำเงินอีกแล้ว”  ดีดิสันไม่ได้หลบสายตาแต่จ้องมองบาร์บาราตรงๆ  “เราก็เหมือนกัน,บาร์บารา เราตื่นแล้ว แม้แต่เจ้าเองก็แกล้งทำไปอย่างนั้น แต่ข้ารู้มานานแล้ว จริงไหม?”

บาร์บาราไม่ปฏิเสธเขาเพียงแต่เลิกคิ้ว  “ทำไมเจ้าไม่ทำเล่า?ตราบใดที่เจ้ายังภักดีต่อทะเลน้ำเงิน ข้าเชื่อว่าด้วยพรสวรรค์อย่างเจ้าเจ้าจะต้องเป็นดาวรุ่งในกองพลอาญาแดงแน่นอน”

“แม้ว่าพวกทะเลน้ำเงินจะหล่อเลี้ยงเรา  แต่ข้าไม่ต้องการเป็นหุ่นเชิด  ข้าตื่นแล้วและมีสติเป็นของตนเองและข้าตายไปเมื่อสิบปีที่แล้ว และยังคงกลับไปที่ทะเลน้ำเงิน  แต่ก่อนนั้นข้าต้องการจะชี้นำชีวิตของตัวเอง”  ดีดิสันโบกมือ “บาร์บาร่า อย่าบอกข้านะว่าเจ้ามาหาข้าเพื่อพูดปัญหาชีวิต?”

“แน่นอนว่าไม่” บาร์บาราเคร่งขรึม “ถ้ามีโอกาสสำหรับเจ้าในตอนนี้เล่า เจ้าจะนำกองทัพบ้างไหม?”

“เลิกฝันได้แล้ว”  ดีดิสันส่ายศีรษะ “ทะเลน้ำเงินจะไม่ยอมให้คนแคระน้ำเงินที่ตื่นแล้วผู้ไม่ต้องการสาบานจะภักดีต่อมันให้ยืมทหารเป็นแน่  นั่นเป็นการทำลายกฎ!”

“แล้วจะเป็นยังไงถ้าเราสร้างกองทัพของเราเอง?”  บาร์บาราถามอีกครั้ง

“เราจะไปหาทหารมาจากไหน?เจ้ากับข้าน่ะหรือ?”  ดีดิสันตอบประชด“ทหารที่ดีที่สุดมักจะมาจากทะเลน้ำเงิน”

“เราสามารถหาคนแคระน้ำเงินที่ตื่นแล้วเหมือนกับเราได้”  บาร์บาราชี้มาที่ตนเอง

“นั่นไม่ใช่ความคิดที่ดี”  ดีดิสันส่ายศีรษะ  “เมื่อคนแคระน้ำเงินตื่นเขาจะมีความคิดเป็นของตนเอง และกลายเป็นพวกไร้วินัย  พวกเขาจะไปค้นคว้าจักรกลหรือวิชาแปลกๆแต่พวกเขาไม่มีคุณสมบัติเป็นทหารเหมือนอย่างเจ้าเป็นต้น”

บาร์บาราละอายเขาไม่ใช่ทหารที่ดี  แต่เขาไม่มีความคิดจะยอมแพ้  “บางทีเจ้าอาจพูดถูก  แต่ดีดิสัน เจ้าเป็นคนแคระที่มีความรู้ทำไมมนุษย์ถึงมีสติเป็นของตนเอง แต่กองทัพของพวกเขาก็ยังทรงพลังมากเล่า?”

ดีดิสันตะลึง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด