ตอนที่แล้วตอนที่ 570 สือเซิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 572 การเปลี่ยนของปลาดึกดำบรรพ์

ตอนที่ 571 เกราะเจ็ดชุด


“เป็นยังไงบ้าง?

ถังเทียนงอหลังเอามือท้าวเข่าเหงื่อไหลย้อยมาตามร่องแก้มและหยดลงพื้น เขาดูราวกับว่าเพิ่งขึ้นมาจากน้ำ เสื้อผ้าของเขาเปียกโชกไปหมดหน้าของเขาซีดเล็กน้อย ลมหายใจของเขาหยาบหนัก เสียงดังเหมือนกับตะโกนเขารู้สึกเหมือนกับว่าไม่สามารถขยับนิ้วได้

ดูเหมือนว่าเขาต้องใช้แรงฮึดอึดสุดท้ายกว่าจะพูดเช่นนั้นออกมาได้  เสียงแหบแห้งเหลือเกิน

ปิงมองดูจำนวนตัวเลขข้างหน้าเขาขณะที่เขาคาบบุหรี่ของเขา  “ยังดีอยู่,ในแง่ของพลังงาน ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแม้แต่น้อยยอดฝีมือท้องถิ่นก็มีความสามารถเพียงพอแล้วแต่ถ้าเจ้าต้องการแสดงศักยภาพของมันเต็มที่ เว้นแต่ร่างพลังกายเป็นศูนย์ เจ้าจำเป็นต้องมีร่างกายที่แข็งแรง  และข้ายังข้องใจยอดฝีมือที่นี่มากอยู่มาก อย่างไรก็ตามถ้าคิดความจริงที่ว่าจะแสดงพลังของมันออกมาเว้นแต่มันมีร่างพลังกายเป็นศูนย์ เจ้าจำเป็นต้องมีร่างกายที่แข็งแรง ข้าสงสัยว่านักสู้ที่นี่ยังไม่มีคุณสมบัติพอสำหรับเรื่องนั้น ดูเหมือนจะไม่มีพลังสายเลือดในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์อยู่เลย  มาดูกันเมื่อถึงเวลาไม่ว่าเราจะนำระบบพลังสายเลือดมาใช้ หรือนำพลังสายเลือดมาทดสอบเราก็ต้องคุยกับผู้เฒ่าเฟ่ยก่อน”

เหนือศีรษะของเขาเป็นเกราะเงินแบบต่างๆ ลอยอยู่

ปิงเคาะเถ้าบุหรี่และพูดต่อ “มาพูดกันเรื่องเกราะ...ข่าวดีก็คือที่นี่มีพลังงานหนาแน่น ดังนั้นด้วยการหล่อเลี้ยงอย่างต่อเนื่องเป็นไปได้มากว่าเกราะรบจะมีความก้าวหน้าขึ้นไปอีกระดับ จากหนทางที่ข้าเห็นเกราะเบาร่มพญาหมีมีความเป็นไปได้ที่จะก้าวหน้า”

ปิงโบกมือและเกราะพิเศษลอยอยู่มาต่อหน้าเขา  เกราะเงินดูเหมือนหมีเงินกำลังหมอบดูน่ากลัวและสง่างาม ส่วนที่ดึงดูดสายตามากที่สุดก็คือร่มเงินยักษ์บนหลังของมัน

ในบรรดาชุดเกราะเบาทั้งเจ็ด เกราะเบาร่มพญาหมีสะดุดตาที่สุดเพราะมันมีสีทองเลือนราง

“อีกข่าวหนึ่งไม่ว่าดีหรือเลวเนื่องจากเวลาผ่านไปลักษณะเฉพาะของเกราะเหล่านี้จะเปลี่ยนไปแน่นอน พลังงานที่นี่แตกต่างจากสวรรค์วิถีอย่างสิ้นเชิงในแง่พลังตามธรรมชาติ  ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงในอนาคตยังไงก็ไม่มีใครรู้”

“อย่างนั้นแผนนี้จะมีประโยชน์หรือไม่?” ถังเทียนรู้สึกว่าเขาฟื้นฟูเรี่ยวแรงบ้างเล็กน้อยแล้วจึงเงยหน้าถาม

“ถูกแล้ว มันมีประโยชน์!”  ปิงพ่นควันบุหรี่เป็นวง  “เกี่ยวกับสถานการณ์ของเราที่ยังขาดแคลนกองทัพแผนการนี้เหมาะสมกับเราที่สุด  ต้องใช้สมาชิกจำนวนน้อยลงสำหรับป้องกันปราสาทดำแห่งนี้ แน่นอนพวกเขาต้องได้รับการสั่งสอนเกี่ยวกับการใช้เกราะ”

“นั่นก็ดีเลย!”  ถังเทียนพึมพำ  เขาเป็นหนูทดลองในช่วงเวลาสองสามวันที่ผ่านมาต้องถูกทรมานจนปางตายอยู่ทุกคน

ชุดเกราะอื่นอีกหกชุดเปล่งรัศมีสีเงิน และเชื่อมโยงขึ้นไปบนยอดแหลมปราสาททั้งหกชุด  เกราะเบาร่มพญาหมีจะอยู่ที่ศูนย์กลางปราสาทดำทำให้เป็นจุดเชื่อมต่อหลักกับชุดเกราะทั้งหกชุด

แม้ว่าระดับมาตรฐานของชุดเกราะทั้งเจ็ดจะยังต่ำอยู่เป็นแค่ระดับเงินก็ตาม แต่กลุ่มดาวหมีใหญ่ต้องใช้ความพยายามมากมายเพื่อรวบรวมมันขึ้นมา ชุดเกราะเป็นสมบัติที่มีเอกลักษณ์ที่สุดบรรดาสมบัติทั้งหมด

เมืองสมบัติเป็นเมืองที่มีรูปแบบเฉพาะที่สุดในสวรรค์วิถี การใช้สมบัติดวงดาวระดับสูงสุดเนื่องจากเป็นแกนกลาง  จึงเป็นการจัดการแหล่งพลังดวงดาวรอบๆเมืองไปโดยอัตโนมัติ และสร้างเครือข่ายพลังงานขนาดมหึมา ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันหรือการโจมตีหรือเพื่อการฝึกฝนประจำวันก็จะได้รับประโยชน์ทุกอย่าง

พลังงานของหมู่บ้านหญ้าแดงมีความเข้มข้นสูง  ยังสูงกว่าสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคามาก  ดังนั้นจึงอยู่ในเกณฑ์สำหรับสร้างเมืองสมบัติได้

อย่างไรก็ตามเซรีนเป็นคนที่ไม่เห็นด้วยและไม่รับกฎธรรมเนียมเดิม  และปิงเองก็รู้สึกในทำนองเดียวกัน  เมืองสมบัติธรรมดาไม่ค่อยมีความหมายมากนัก

ในฐานะที่เป็นขุนพลที่มีชื่อเสียง ความรู้ของปิงไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นจะเทียบได้ หลังจากตั้งใจสังเกตในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา  เขาก็เข้าใจดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ได้ชัดเจนขึ้น

ความอุดมสมบูรณ์ที่น่าอัศจรรย์ของพลังงาน  พวกเซียนผู้ไม่มีสนามพลังวิญญาณ  ความคุ้นเคยและการควบคุมพลังงานยังไม่ละเอียดมากพอ

เมื่อจุดทั้งหลายเหล่านี้ถูกจัดเรียงลำดับ ขบคิดและสรุปปิงจึงค่อยๆ ตัดสินใจแตกต่างจากสวรรค์วิถีที่ซึ่งพวกเขาควบคุมด้วยอำนาจพลังส่วนตัว   ที่นี่ในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ผู้คุมกฎก็คือกองทัพ

ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ถือเป็นพื้นที่ดีในการพัฒนากองทัพซึ่งแม้แต่ชาวบ้านที่ธรรมดาที่สุดก็มีพลังที่เหมาะสม  ตราบใดที่พวกเขาได้รับการฝึกเล็กน้อย  พวกเขาจะสามารถสร้างกองกำลังต่อสู้ที่ดีได้  ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพลังงาน  พวกเขาเกิดมาเป็นเซียนโดยธรรมชาติ  วิธีการต่อสู้ที่นี่มีแนวโน้มว่าจะมีขนาดใหญ่  อย่างไรก็ตาม พวกเขายังขาดการปรับปรุงและการตั้งรูปขบวนในสนามรบ ในทางตรงกันข้ามสวรรค์วิถีซึ่งยากจนเรื่องพลังงานก็ถูกบังคับให้ปรับระบบวิชาต่อสู้  โดยการค้นพบวิถีใหม่ที่ลึกซึ้งยิ่งกว่า

ปิงได้ตั้งคำถามนี้กับสือหย่งและขอให้สือหย่งเห็นพ้องกับเขาอย่างมีเหตุผล  ในพันทวีปของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์กองทัพได้รับความนิยมเพราะไม่มีพื้นที่ให้ปัจเจกบุคคลได้เติบโต

แต่สำหรับพวกเขา กองทัพมีอำนาจอิทธิพลควบคุมได้ไม่ใช่ข่าวดีแน่นอน

จนถึงตอนนี้พวกที่สามารถเข้าไปในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ได้มีแต่เพียงพวกเขา  และนอกจากพวกเขาแล้วมีเพียงปิงที่นำทหารเข้าสงครามได้ ในช่วงเวลาสั้นๆอย่างนั้นพวกเขาไม่มีความสามารถเปิดช่องทางตรงสู่กลุ่มดาวหมีใหญ่ นั่นก็หมายความว่ากองทัพกลุ่มดาวหมีใหญ่ไม่สามารถเข้ามาในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์

ถังเทียนและพวกไม่สามารถได้รับกำลังเสริม

บาร์บารากลับไปยังโลกน้ำเงิน พร้อมกับสัญญาว่าจะนำแม่ทัพคนแคระน้ำเงินที่แข็งแกร่งมาหาถังเทียน

คำถามที่ยากสำหรับปิงก็คือจะปกป้องปราสาทดำได้อย่างไร  เมืองสมบัติธรรมดาไม่สามารถรับมือกองทัพเซียนได้แน่และแน่นอนว่าเขาต้องสร้างแผนใหม่

ในสวรรค์วิถีทุกคนต่างก็ชื่นชมความแข็งแกร่งของแต่ละคนและวิทยายุทธ  กองทัพถูกสบประมาท ในทางตรงกันข้าในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์  เป็นกองทัพที่ได้รับความเคารพและความแข็งแกร่งของแต่ละบุคคลและวิทยายุทธถูกประเมินไว้ง่ายๆ

ปิงเป็นผู้เชี่ยวชาญในการหาโอกาสให้กับตนเองไม่ว่าศัตรูจะแข็งแกร่งมากขนาดไหน

กองทัพสามารถถ่ายโอนและจัดการพลังงานขนาดใหญ่ได้  แต่เมืองสมบัติก็ทำเช่นนั้นได้ชุดเกราะทั้งเจ็ดดึงดูดพลังงานรอบด้านเหมือนวังน้ำวนพลังงานเจ็ดแห่ง  พอเวลาผ่านไปชุดเกราะทั้งเจ็ดจะยังวิวัฒนาการต่อไปและแข็งแกร่งมากขึ้น

และจุดที่แข็งแกร่งกว่าก็คือชุดเกราะทั้งเจ็ดนั้นเกิดขึ้นจากแหล่งพลังงานที่มั่นคงดังนั้นพลังงานทั้งหมดในรัศมี 50 กิโลเมตรจึงอยู่ภายใต้การควบคุมของมัน

ทุกๆ ชุดเกราะสามารถระดมพลังงานในปริมาณที่น่าตื่นตะลึง

อย่างไรก็ตามชุดเกราะเหล่านี้มีความต้องการคุณสมบัติสูงมาก  ด้วยพลังงานที่น่าตื่นตะลึงอย่างนั้นพลังกัดกร่อนที่ผลิตออกมามีความรุนแรงมาก ถ้าไม่มีร่างกายที่แข็งแกร่ง คนผู้สวมก็ไม่สามารถทนรับพลังงานได้

จิ่งหาวและสหายอีกสองคนถูกถังเทียนบังคับให้ฝึกฝนร่างกาย  พวกเขามีร่างพลังกายเป็นศูนย์กันทุกคน  แต่สภาพร่างกายของพวกเขายังไม่นับว่าแข็งแกร่งและนั่นจะทำให้ศักยภาพมีจำกัด

ถังเทียนถูกใช้เป็นหนูทดลองกับเกราะ ด้วยร่างกายที่แข็งแรงซึ่งเหมาะกับการแบกรับเกราะนอกจากนี้ปิงยังจำเป็นต้องทำความเข้าใจความสามารถพิเศษของเกราะในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์

เกราะหกชุดบรรจุไว้ในยอดแหลมทั้งหก  เหลืออยู่แต่เกราะเบาร่มพญาหมีที่ลอยอยู่หน้าถังเทียน

“จากที่รูปลักษณ์ของมัน พลังงานที่กำลังถูกแสดงโดยเกราะในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์เป็น 12เท่าของสวรรค์วิถี และปริมาณพลังงานที่สามารถถ่ายโอนหรือเคลื่อนย้ายก็คือ 25 เท่า  ข้าไม่รู้พลังที่แท้จริงของกองทัพที่นี่  น่าเสียดาย ข้าอยากได้กองทัพสักกองมาทดสอบดู..”

ปิงพึมพำกับตนเอง แต่ทันใดนั้นเสาทั้งหกเปล่งประกายแสงแวววาวสร้างความตกตะลึงให้กับปิง

มีคนบุกโจมตี

ก่อนที่เขาจะทันได้รู้ตัว ปังเสียงดังสนั่นจนปราสาทดำสั่นสะเทือน

ปิงสั่น พลังขนาดนี้ต้องเป็นพลังจากกองทัพแน่นอน!

ปฏิกิริยาของถังเทียนไวกว่าปิง  ตาของเขาเป็นประกายเยือกเย็น แทบจะในทันทีเขาอยู่ในสภาพพร้อมรบ  เขาฝืนความปวดระบมของร่างกายกระโจนขึ้นจากพื้นสวมใส่เกราะเบาร่มพญาหมีที่อยู่เหนือเขา

แก๊ก แก๊ก แก๊ก

เกราะเบาร่มพญาหมีเป็นเหมือนชิ้นเงินนับไม่ถ้วนกลืนร่างถังเทียนไว้ข้างในชิ้นเงินนับไม่ถ้วนค่อยๆ จางหายไปตามร่างกายของถังเทียนพอถึงเวลาที่เขาลงมายืนกับพื้น ถังเทียนก็เสร็จสิ้นการสวมชุดเกราะ (ให้นึกถึงภาพการสวมชุดเกราะไอรอนแมน...แต่ความเห็นของผมเหมือนตอนธอร์สวมชุดในภาค1)

หมวกหัวหมีลงมาปิดดวงตาเขาแสดงให้เห็นถึงพลังที่น่ากลัวและคลุมเครือมิอาจอธิบายได้ที่ด้านหลังของเขามีร่ม มันคือแรงบันดาลใจ ทั่วทั้งร่างของเขาคลุมไปด้วยเกราะเงินซึ่งดูขึ้นรูปคล้ายกับกล้ามเนื้อบรรจุพลังที่แปลกประหลาด

ความรู้สึกเมื่อยล้ากระจายหายไป ถังเทียนรู้สึกว่าตลอดทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยพลังงานคลื่นพลังในตัวเขาพลุกพล่านหมุนเวียน

ถังเทียนพบว่าตนเองอยู่ในสภาพประหลาดอัศจรรย์เสี่ยวเอ้อซึ่งอยู่ภายในร่างของเขากำลังสะสมพลังงานเป็นจำนวนมาก  ขณะที่พลังงานพลุกพล่านไปทั่วร่างกายเขาโดยมีร่างพลังกายเป็นศูนย์เป็นตัวกลาง  สิ่งที่ถังเทียนคาดไม่ถึงก็คือพื้นที่ว่างที่แยกเขาออกมานี้ความจริงเพิ่มความสามารถของเสี่ยวเอ้ออีกด้วย ผลกระทบที่ผิดปกตินี้ไม่เคยมีในบันทึกมาก่อน

“ถังห้าว!  ขยี้พวกมันให้หมด!”

ปิงตะโกนตามหลังด้วยความตื่นเต้น

ถังเทียนไม่สนใจเนื่องจากเขาเข้าสู่สภาพพร้อมสู้รบจากสภาพเหนื่อยล้า นี่ไม่ได้หมายความว่าร่างกายที่เหนื่อยล้าของเขาฟื้นขึ้นแล้ว เพียงแต่มันถูกปล่อยวางและเพ่งความสนใจทั้งหมดไปที่การสู้รบ  ดังนั้นเขาจำเป็นต้องคลี่คลายศึกนี้ให้เร็ว

เขากระโจนออกไปโดยไม่ต้องยืมแรงภายนอกแต่อย่างใด

จากมุมมองของปิง เขาเห็นแต่แสงสีเงินยิงออกไปเท่านั้นมันเหมือนกับแสงสะท้อนของก้อนน้ำแข็งที่กระพริบเป็นครั้งคราวอยู่ในท้องฟ้า

ไวมาก!

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็น  แต่ทุกครั้งที่เขาเห็น  ภาพของถังเทียนจะเต็มไปด้วยพลังพุ่งออกมาเหมือนคมมีด  ปิงอดตื่นเต้นไม่ได้

ถังเทียนปรากฏอยู่ที่กำแพงเมือง

เขาสามารถรู้สึกได้ว่าเกราะภายในยอดทั้งหกกวักมือเรียกเขา เขาสามารถควบคุมพลังภายในปราสาทดำได้อย่างอิสระ  และใช้มันโจมตีศัตรูได้  แต่เขาไม่ทำเช่นนั้น เขาเพียงแต่จ้องไปที่ศัตรู

สือเซินสะดุ้งตกใจเมื่อเขาเห็นแสงสว่างไปทั่วปราสาทดำอย่างฉับพลัน  แต่หลังจากนั้น เขาเห็นรังสีดาบที่ลุกโชนซึ่งกลุ่มของเขาปล่อยออกไปโจมตีกำแพงปราสาทดำ

ก่อนที่เขาจะได้ร้องออกมาอย่างดีใจรัศมีแพรวพราวสว่างขึ้นจากกำแพงเมือง ม่านพลังแสงป้องกันรังสีดาบไว้ รังสีดาบที่ไม่มีอะไรหยุดได้ สามารถแทงเข้าไปในกำแพงเมืองได้สามนิ้วก่อนจะหยุดอยู่กับที่

ปัง!

รังสีดาบที่ถูกบีบอัดด้วยพลังงานอย่างสูงภายใต้แรงกดดันของพลังงานที่เหนือกว่า  ก็ถูกทำลายพินาศ  และรังสีระเบิดออกหลังจากผ่านไปในเวลาสั้นๆ

รังสีแสงแพรวพราวปกคลุมตำแหน่งกำแพงเมืองนั้น

พอรังสีแสงหายไป ก็เผยให้เห็นรอยมีดยาว 21เมตรอยู่บนกำแพง สือเซินเห็นรอยมีดแล้วรู้ได้ทันทีว่ารังสีดาบไม่สามารถคุกคามกำแพงเมืองได้

แทนที่จะกลัวเขากลับมีความสุขมาก  เขามั่นใจแล้วว่ามาตรฐานของปราสาทดำแข็งแกร่งมากกว่าป้อมปราการโดยทั่วไป!  นั่นหมายความว่าอะไร?  หมายความว่าอีกฝ่ายหนึ่งให้ความสำคัญของสถานที่นี้สูงซึ่งก็หมายความว่า มีความมั่งคั่งที่น่าอัศจรรย์สะสมอยู่ที่นี่

เขามองดูกำแพงเมืองดำอย่างระมัดระวัง  ทันใดนั้นเมื่อเขาเห็นหินดำที่แตกอยู่รอบๆแผ่นดินแห้งแล้ง ตาของสือเซินฉายประกายทันที

หินดำ!

ใช่แล้ว มันคือหินดำ ศัตรูมาเพื่อหินดำทั้งหลายเหล่านี้!

เมื่อคิดว่ารังสีดาบที่ทั้งหน่วยของเขาใช้ออกไปทิ้งไว้แต่รอยตื้นๆอยู่บนกำแพงเมือง หัวใจของสือเซินยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น

วัสดุแบบใหม่ซึ่งมีความแข็งแกร่งมั่นคงและมีปริมาณมหาศาล...

ประสบการณ์และความรู้ที่สือเซินมีเขารู้ถึงคุณค่าที่มีอยู่  ในสายตาของเขาหินดำที่อยู่ในแผ่นดินที่แห้งแล้งนี้เป็นเหมือนทะเลทอง

ข้ารวยแล้ว!

ข้ารวยจริงๆ!

ทันใดนั้นสือเซินหรี่นัยน์ตาลง

บนกำแพงเมืองนักสู้สวมชุดเกราะเงินอยู่ที่นั่นอย่างเย็นชา สือเซินไม่ทันสังเกตว่าเขาปรากฏตัวเมื่อใด

รูปทรงชุดเกราะมีรูปทรงเฉพาะตัวที่แตกต่างจากทุกตระกูลที่เขารู้จัก มันให้ความรู้สึกถึงพลังปราณที่น่ากลัวขณะจ้องมองมาที่เขา

ศัตรูย่อเข่าเล็กน้อยและกระโจนเบาๆ

เดี๋ยวก่อน... ความเคลื่อนไหวนั่น...

นัยน์ตาของสือเซินเบิกกว้าง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด