ตอนที่แล้วตอนที่ 17-23 รับคำสั่ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 17-25 เลือดสาดเต็มท้องฟ้า

ตอนที่ 17-24 ให้ข้าไปด้วย


ลินลี่ย์อยู่ในชุดสีฟ้า ขณะที่บินในท้องฟ้า ชุดยาวโบกสะบัดตามสายลม ด้านหลังของเขาเป็นนักสู้ระดับอสูรหกดาวสิบคนแต่งกายด้วยเครื่องแบบสีต่างๆ ขณะที่เข้าร่วมรบในภายนอก ถ้าพวกเขาทุกคนแต่งตัวด้วยเครื่องแบบเหมือนกัน ก็จะดูสะดุดตาเกินไปและจะเป็นผลให้พวกเขาถูกศัตรูค้นพบได้ง่าย

“ทุกคน ระวังตัวให้ดี เป้าหมายของเราครั้งนี้คือตระกูลบาร์บารี่ ไม่ว่ายังไงอย่าปล่อยให้พวกเขาพบเรา ขอให้บินเรี่ยพื้นไว้” ลินลี่ย์สั่ง ขณะเดียวกัน ตัวเขาเองบินลงไปโดยบินเลียดพื้น ขณะที่สมาชิกในกลุ่มบินตาม

“หัวหน้าไม่ต้องห่วง เราไม่ออกนอกลู่ทางการต่อสู้แน่ พวกเขาไม่สามารถหาเราได้พบแน่” เมลินาหัวเราะ

ออกนอกลู่ทางการสู้รบหรือ?

ลินลี่ย์อดนึกย้อนถึงข้อมูลที่ประธานผู้อาวุโสให้เขาไว้ก่อนการสู้รบจะเริ่ม ทั้งฝ่ายตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์และแปดตระกูลใหญ่ใช้วิธีการซุ่มโจมตี และยังนอนรอให้ศัตรูเข้ามาใกล้

เช่นถ้าตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ไม่ต้องการสู้ พวกเขาจะซ่อนตัวอยู่ในเทือกเขาสกายไรท์ และแปดตระกูลใหญ่จะไม่มีทางทำอะไรได้

ถ้าแปดตระกูลใหญ่ยังคงอยู่ในพื้นที่ของตนเองและไม่ออกมา ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม....

แปดตระกูลใหญ่เกลียดตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เข้ากระดูก และในทางกลับกันก็เป็นความจริง! พวกเขาตั้งใจท้าทายให้อีกฝ่ายออกมาสู้ครั้งแล้วครั้งเล่า! ทั้งสองฝ่ายไม่มีปิดบัง ทั้งสองฝ่ายรู้ว่านี่เป็นสงครามตัดกำลัง แต่แปดตระกูลใหญ่ยินดีจะเข้าร่วมสงครามแบบนี้ ขณะที่ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ก็หยิ่งในศักดิ์ศรีเกินกว่าจะยอมรับ

“แปดตระกูลใหญ่ให้ความสนใจมาก แต่ละครั้ง พวกเขาจะใช้เส้นทางที่กำหนดแน่นอน นี่เป็นการท้าทายอย่างเปิดเผย” ลินลี่ย์รำพึงกับตนเอง

บรรดาแปดตระกูลใหญ่ สี่ตระกูลตั้งอยู่ที่ขอบเขตแคว้นอินดิโกด้านตะวันออก ขณะที่อีกสี่ตระกูลอยู่ที่ชายขอบตะวันตกของแคว้นอินดิโก พวกเขามีความสามัคคีกันมาก พวกเขากังวลว่าถ้าพวกเขาแตกแยกกัน ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์จะทำลายพวกเขาได้ทีละตระกูล

แต่โดยการแบ่งแยกลักษณะนี้ ไม่มีทางที่ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์จะทำเช่นนั้นได้

นอกจากนี้...

แปดตระกูลใหญ่อยู่ในแต่ละด้านของแคว้นอินดิโกจะส่งกลุ่มยอดฝีมือไปลาดตระเวนโดยรอบ การเดินทางแต่ละครั้งพวกเขาจะใช้เส้นทางหนึ่งในสองเส้นทางที่กำหนดไว้ สมาชิกทุกคนของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาพบระหว่างทางจะถูกสังหาร!

บางครั้งพวกเขาจะลอบโจมตีที่ขอบนอกของเทือกเขาสกายไรท์

“ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์จะกล้ำกลืนการยั่วยุนี้ได้อย่างไร? พวกเขาหยิ่งผยองขณะใช้เส้นทางที่กำหนด ถ้าเราแค่ยอมรับเรื่องนี้ ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์จะกลายเป็นตัวตลกให้หัวเราะหยอกล้อ” ลินลี่ย์เข้าใจว่าในการสู้รบของพวกเขา ศัตรูจะยั่วยุท้าทาย ที่สำคัญยอดฝีมือของพวกเขามีจำนวนมาก

หลังจากบินไปตามเส้นทางสามวัน กลุ่มของลินลี่ย์ก็ถึงที่หมายของพวกเขา หน่วยข่าวกรองตั้งอยู่ใกล้เส้นทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ลินลี่ย์ชำเลืองมองเนินทรายไกลๆ ซึ่งอยู่ในที่รกร้างไม่เป็นที่สังเกต

“เจ้าออกมาได้แล้ว” ลินลี่ย์พูดอย่างใจเย็น

หน่วยสืบข่าวนี้ถูกจัดตั้งโดยประธานผู้อาวุโส

เนินทรายพลันบิดตัวและจากนั้นมีร่างของคนผู้หนึ่งอยู่ภายในนั้น เป็นเด็กหนุ่มร่างผอมมากสวมชุดสีเหลือง เด็กหนุ่มชุดเหลืองสงสัยขณะมองลินลี่ย์ที่กำลังหัวเราะและแสดงตราประจำตัวผู้อาวุโส

“คารวะท่านผู้อาวุโส” เด็กหนุ่มรีบกล่าว

“กองกำลังของตระกูลบาร์บารี่จะมาถึงเมื่อไหร่?” ลินลี่ย์ถาม

หน่วยข่าวกรองนี้อาศัยใช้วิธีพิเศษ โดยใช้ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์สองร่างอยู่ในตำแหน่งห่างกันเพื่อให้สามารถรายงานข่าวกรองได้เร็ว การรายงานข่าวกรองจะถูกส่งไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะอยู่ห่างเป็นร้อยล้านกิโลเมตร ผู้รับข้อมูลจะส่งข่าวออกไปทันทีที่ได้รับ

“ถูกแล้ว สันนิษฐานว่าเป็นกองกำลังของตระกูลบาร์บารี่” หน่วยข่าวกรองกล่าว “กองกำลังที่สันนิษฐานว่าเป็นของตระกูลบาร์บารี่อยู่ห่างออกไปหลายล้านกิโลเมตร ด้วยระดับความเร็วในการเดินทางของพวกเขา อีกวันหรือสองวันพวกเขาจะมาถึงที่นี่”

ลินลี่ย์พยักหน้า

“เจ้าพูดว่าสันนิษฐานหรือ? เป็นไปได้ไหมว่าเจ้ายังไม่มั่นใจเต็มที่ว่านี่เป็นกองกำลังของตระกูลบาร์บารี่?” ลินลี่ย์ถามด้วยความกังวล

“ไม่มีทางแน่ใจได้เต็มที่ หน่วยนั้นตามรายงานข่าวกรองของเราประกอบด้วยยอดฝีมือสายธาตุน้ำ แต่มีสองคนไม่รู้ว่าใคร เราสามารถระบุได้ว่าพวกเขาเป็นสมาชิกของตระกูลบาร์บารี่เท่านั้น แต่ยังเป็นไปได้ว่านี่เป็นหน่วยที่ตั้งขึ้นจากสองตระกูล” เด็กหนุ่มกล่าว

ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว

เป็นหน่วยผสม? นี่เป็นเรื่องที่ยากมาก

นี่เป็นเพราะผู้อาวุโสของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์โดยทั่วไปจะพกหยดพลังมหาเทพไว้กับตัว เมื่อพวกเขาไม่ใส่ใจความเป็นตายอีกต่อไปและใช้พลังมหาเทพและทุ่มกำลังสู้ แม้แต่คู่ต่อสู้อสูรเจ็ดดาวก็พลาดท่าได้เหมือนกัน

ดังนั้นศัตรูจึงเตรียมการสู้ตัวต่อตัว เพียงแต่ในสถานการณ์พิเศษ ตัวอย่างเช่นเมื่อเป้าหมายคือประมุขเผ่าหรือผู้อาวุโสพิเศษจะถูกส่งออกมาร่วมหน่วยด้วย

“ตอนนี้เจ้าลงไปประจำที่ได้แล้ว” ลินลี่ย์สั่ง

“พวกเจ้าที่เหลือตามข้ามา” ลินลี่ย์บินขึ้นไปในอากาศ และตามด้วยอสูรหกดาวสิบคน

เจ้าหน้าที่สืบข่าวเงยหน้ามองพวกเขาบินห่างออกไป เขาอธิษฐานในใจ “คนตระกูลของเรา พวกเจ้าต้องชนะ” ขณะที่เจ้าหน้าที่การข่าวเองก็ต้องเดินอยู่ระหว่างความเป็นความตายเช่นกัน ถ้าเขาถูกศัตรูพบเจอ ศัตรูจะฆ่าเขาอย่างไม่ลังเล

นอกจากนี้ หน่วยข่าวกรองส่วนใหญ่จะอ่อนแอมาก

ความหวังอย่างเดียวของพวกเขาก็คือยอดฝีมืออย่างลินลี่ย์จะล้างแค้นให้พวกเขาหากพวกเขาถูกฆ่า

บินออกมาห่างจากเจ้าหน้าที่ข่าวกรองแล้ว กลุ่มของลินลี่ย์ก็หยุดและซ่อนตัวอยู่ภายในป่าในภูเขา ทุกคนมีสีหน้าขึงขังจริงจัง พวกเขาทุกคนรู้ว่าเมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น เป็นไปได้มากกว่าพวกเขาอาจตาย

“หัวหน้า ศัตรูจะมาเมื่อใด เรามีแผนอะไรบ้าง?” ซานตาบุรุษร่างใหญ่ถาม ลูกกลุ่มคนอื่นๆ มองดูลินลี่ย์เช่นกัน

“เป้าหมายแรกก็คืออสูรเจ็ดดาวของฝ่ายศัตรู” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างเยือกเย็น “การซุ่มโจมตีไร้ประโยชน์ ด้วยสำนึกเทพของพวกเขา พวกเขาสามารถระบุตำแหน่งเราได้ พวกเจ้าแค่ต้องรออยู่ที่นี่ เมื่อศัตรูเข้ามาใกล้ พวกเจ้าค่อยบินเข้ามาในสนามพลังศิลาดำของข้าและค่อยเริ่มสู้กับพวกเขา”

“เรา, บินเข้าไป?” ลูกกลุ่มบางส่วนเข้าใจความหมายของลินลี่ย์ “หัวหน้า, ท่านจะไม่โจมตีร่วมกับเราหรือ?”

ถ้าพวกเขายังคงอยู่ด้วยกัน ลินลี่ย์คงจะรวมพวกเขาไว้ในสนามพลังศิลาดำแน่ ดังนั้นจึงไม่ต้องการให้พวกเขาบินเข้าไป

“ถูกแล้ว ข้าจะลอบจู่โจมพวกเขา” ลินลี่ย์หัวเราะ

“อะไรนะ?” คนทั้งสิบตกใจ

“หัวหน้า! ท่านไม่อาจเอาชีวิตตนเองไปเสี่ยงอย่างนั้นได้ เราอยู่ด้วยกันจะดีกว่า ท่านจะโจมตีด้วยตัวเองได้ยังไง? นั่นเสี่ยงเกินไป ต่อให้เราสิบคนต้องตาย ท่านก็ตายไม่ได้นะหัวหน้า” ลูกหน่วยร่างผอมรีบกล่าว

อสูรเจ็ดดาวมีคุณค่าสูงต่อเผ่าตระกูล พวกเขาเป็นเสาหลักที่ค้ำจุนเผ่าตระกูล

“ไม่ต้องห่วง ด้วยการโจมตีด้วยตัวข้าเอง ข้ามั่นใจว่าสำเร็จเกิน 90%” ลินลี่ย์หัวเราะ

“หือ?” คนในหน่วยทั้งสิบคนตะลึง

“เนื่องจากข้าซ่อนรัศมีพลังได้ พวกเขาจะถือว่าข้าเป็นเพียงเทพแท้ พวกเขาจะไม่ระมัดระวังข้า” ลินลี่ย์กล่าว แคว้นอินดิโกก็เหมือนกับที่อื่น มีชนเผ่ามากมายให้พบเห็นอยู่ทุกที่

เทพแท้เป็นคนธรรมดาในแดนนรก

กลุ่มของลินลี่ย์ขณะที่บินมาก็ยังพบเจอกับเทพแท้และเทียมเทพค่อนข้างมาก พวกเขาไม่ให้ความสนใจพวกนี้เป็นธรรมดา

“พวกเขาจะไม่ให้ความสนใจข้า แต่เมื่อข้าเข้าไปใกล้พวกเขา ข้าจะลงมือโจมตีพวกเขากะทันหัน นี่จะต้องสร้างผลกระทบที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน” ลินลี่ย์พูดด้วยความมั่นใจ

“หัวหน้า” เมลินาพูดด้วยความห่วงใย “เท่าที่เราเห็น ท่านเป็นแค่เทพแท้แน่นอน ทักษะซ่อนรัศมีพลังของท่านน่ากลัวอย่างแท้จริง แต่ศัตรูเป็นอสูรเจ็ดดาวเช่นกัน อาจจะมีคนหนึ่งในพวกเขาสามารถตรวจสอบพลังที่แท้จริงของท่านได้ว่าท่านเป็นเทพชั้นสูง”

ความจริงที่ว่าลินลี่ย์เป็นแค่เทพแท้เป็นเรื่องซึ่งคนในเผ่ามังกรฟ้าน้อยคนนักที่จะรู้

ตัวอย่างเช่น ประมุขเผ่าและประธานผู้อาวุโสพบเรื่องนี้ด้วยตัวพวกเขาเอง สำหรับคนอื่นแม้แต่เอ็มมานูเอลก็ยังเชื่อว่าลินลี่ย์เป็นเทพชั้นสูงที่ก่อนนี้ซ่อนพลังของเขาไว้

“คนที่ค้นพบพลังแท้จริงของข้าน่ะหรือ? คนที่ค้นพบว่าข้าเป็นเทพชั้นสูงหรือ?” ลินลี่ย์หัวเราะ

ตัวเขาเองเป็นเทพแท้จริงๆ ทำไมเขาต้องซ่อนรัศมีพลังด้วย?

“ไม่ต้องห่วง ศัตรูจะไม่มีทางพบ” ลินลี่ย์พูดด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม

ทันใดนั้นสมาชิกอื่นของกลุ่มพูดด้วยความกังวลใจ “หัวหน้า, ท่านจะเอาตัวเองไปเสี่ยงชีวิตอย่างนี้ไม่ได้นะ เราควรจะรวมกำลังและโจมตีด้วยกัน ถ้าเราทำงานร่วมกัน เราสามารถ...”

“พอเถอะ” ลินลี่ย์หงุดหงิด “ข้าตัดสินใจแล้ว หยุดพูดเถอะ”

คนในหน่วยทั้งสิบคนมองหน้ากันเอง แต่พวกเขาไม่มีทางเลือกได้แต่ยอมรับคำสั่ง ลินลี่ย์เป็นหัวหน้า ในเวลาอย่างนี้พวกเขาต้องเชื่อฟังคำสั่งหัวหน้าหน่วยพวกเขา นี่เป็นพื้นฐานที่จำเป็น

“พวกเจ้าอยู่ที่นี่ ข้าจะอยู่ห่างออกไปสิบกิโลเมตร” ลินลี่ย์สั่ง “ระยะทางสั้นขนาดนั้น เมื่อการสู้รบเริ่มขึ้นพวกเจ้าจะสังเกตได้ พวกเจ้าสามารถรีบไปยังตำแหน่งของข้าทันที นอกจากนี้สำนึกเทพของพวกเขาจะไม่สามารถจับตำแหน่งของพวกเจ้าได้”

โดยทั่วไปสำนึกเทพของเทพชั้นสูงขยายออกมาได้ราวพันเมตร

แม้แต่อสูรเจ็ดดาวก็จำกัดอยู่ที่สองสามพันเมตร แต่ตามธรรมดาแล้วพวกเขาสามารถขยายสำนึกเทพไปเต็มพิกัดหรือ? แม้ในหน่วยรบ หัวหน้าที่เป็นอสูรเจ็ดดาวโดยทั่วไปจะขยายสำนึกเทพออกไปพันเมตรก็รับประกันระดับความปลอดภัยได้

“จำเอาไว้ เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น จงมาทันที แต่ก่อนที่จะเริ่ม พวกเจ้าต้องไม่เข้ามาใกล้” ลินลี่ย์กำชับ

ทั้งสิบคนกังวลห่วงใยลินลี่ย์

“เข้าใจไหม?” ลินลี่ย์ตวาด

“ขอรับ, หัวหน้า” ทั้งสิบคนยืนยัน

จากนั้นลินลี่ย์บินไปยังส่วนหนึ่งของถนนข้างหน้าพวกเขา “หัวหน้า..ระวังตัวด้วย” เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลัง ลินลี่ย์อดหัวเราะไม่ได้ เขาบินไปสิบกิโลเมตรทันที ซึ่งมีภูเขาขนาดเล็ก ลินลี่ย์ขุดเป็นอุโมงค์แล้วเข้าไปอยู่ในนั้น

ภายในถ้ำ เขาสามารถจ้องมองท้องฟ้าด้านนอกได้ผ่านปากทางเข้าถ้ำ

“ข้าก็แค่แกล้งทำเป็นเทพแท้ธรรมดา” ลินลี่ย์หัวเราะ

ลินลี่ย์มั่นใจการลอบทำร้ายในครั้งนี้เต็มที่ คงเป็นเรื่องแปลกถ้าพวกเขาสามารถเห็นได้จริงๆ ที่สำคัญเขาเป็นเทพแท้จริงๆ

เวลาผ่านไปและในพริบตาผ่านไปหนึ่งวัน

“ควั่บ!”

ลินลี่ย์พบว่าเป็นร่างมนุษย์คนหนึ่งบินมาด้วยความเร็วสูง นั่นเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยข่าว ในช่วงเวลาสั้นๆ หนึ่งวันเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวจะรายงานตำแหน่งของศัตรูหลายครั้ง

“ผู้อาวุโส ศัตรูกำลังจะมาถึง ตอนนี้พวกเขาอยู่ห่างจากที่นี่ออกไปไม่ถึงหนึ่งหมื่นกิโลเมตร” เด็กหนุ่มรีบรายงาน “ผู้อาวุโสโปรดจำไว้ให้ดีว่าศัตรูโดยสารมาในอสูรโลหะมีรูปร่างเป็นอสรพิษสีเขียว

“ไม่ถึงหมื่นกิโลเมตร?” ลินลี่ย์สะดุ้งตื่นตัวเต็มที่

อสูรโลหะประจำหน่วยของแปดตระกูลใหญ่เดินทางได้เร็วมาก สามารถเดินทางได้วันละสี่หรือห้าล้านกิโลเมตรต่อวัน ในระยะทางไม่ถึงหมื่นกิโลเมตรก็จะมาถึงในช่วงเวลาสั้นๆ

“เร็วเข้า ไปแจ้งคนอื่นให้ทราบ” ลินลี่ย์สั่งทันที

“ขอรับ, ผู้อาวุโส” เจ้าหน้าที่การข่าวรู้ว่าการต่อสู้กำลังใกล้เข้ามา และบินออกไปทันที

ลินลี่ย์บินออกไปจากถ้ำเขาทันที การเดินอยู่ในป่าเขาด้วยตนเองในแดนนรกเป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะพวกเทพสามารถพบเห็นได้บ่อยๆ แต่ลินลี่ย์ต้องการให้เรื่องนี้เกิดขึ้น...เพราะเรื่องนี้เองทำให้เขาโดดเด่นขึ้นมามากในแดนนรก

อสรพิษสีเขียวขนาดมหึมาบินอยู่ใบอากาศ มันคืออสูรโลหะโดยสาร

“ผู้อาวุโส ท่านคิดว่าตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์จะกล้าลอบโจมตีเราในเวลานี้หรือไม่?” อสูรโลหะมีคนโดยสารมากกว่าสิบคน

“ลอบโจมตีเราน่ะหรือ?”

ผู้อาวุโสศีรษะโล้นตัวสูงใหญ่แข็งแรงสูงอย่างน้อยสามเมตร สมาชิกในกลุ่มคนอื่นล้วนมีตัวสูงใหญ่กันทุกคน เตี้ยที่สุดในกลุ่มก็สูง 2.5 เมตร นี่เป็นเพราะสายเลือดพิเศษของตระกูลบาร์บารี่ ดวงตาของผู้อาวุโสเป็นประกายสีเขียวและเขาหัวเราะ “ครั้งนี้เรามีท่านมอสลีย์มากับเราด้วย ข้าถนัดในพลังโจมตีวัตถุ ขณะที่เขาถนัดพลังโจมตีวิญญาณ ไม่ว่าใครมา ก็ไม่มีทางที่พวกมันจะรอดชีวิตกลับไปได้”

“โคล! ข้าเชื่อว่าตระกูลบาร์บารี่ของเจ้าสามารถกำจัดทุกคนได้โดยไม่จำเป็นต้องให้ข้าเข้าไปแทรกแซง” ผู้พูดเป็นชายชราศีรษะล้านสวมชุดสีเทาธรรมดา หูของเขามีงูน้อยสองตัวขดตัวอยู่รอบ

………

“เด็กน้อย, เจ้าเป็นแค่เทพแท้ยังกล้าเดินเตร็ดเตร่ในแดนนรกอีกหรือ? เร็วเข้า, ส่งแหวนเก็บของของเจ้าออกมา” ข้างหน้าลินลี่ย์มีโจรมากกว่าสิบคนปรากฏตัวขึ้น ในแดนนรกมีโจรอยู่มากมายเกินไป แม้ว่าลินลี่ย์จะพยายามอย่างหนักเพื่อหลบหลีกพวกเขา แต่ในที่สุดก็ยังพบเจอเข้าจนได้

“แหวนเก็บของ?” ลินลี่ย์ทำเป็นกลัว “ก็ได้ ก็ได้ ข้าจะเอาออกมาให้ท่าน”

“ฮ่าฮ่า, ไม่เลว” พวกโจรเห็นว่าลินลี่ย์เชื่อฟังอย่างว่าง่ายก็พากันดีใจ หนึ่งในนั้นหัวเราะ “เราอยู่ในช่วงอารมณ์ดีและจะไว้ชีวิตเจ้า อย่างไรก็ตามเจ้าต้องเข้าร่วมกับเรา ถ้าไม่อย่างนั้น...”

“ร่วมก็ได้” ลินลี่ย์รีบพยักหน้า

ขณะนี้เอง ในท้องฟ้าระยะไกล อสรพิษสีเขียวขนาดใหญ่กำลังบินด้วยความเร็วสูง ลินลี่ย์ดีใจ นี่คืออสูรโลหะของศัตรู

“เอ..ทำไมเจ้ายังไม่ส่งแหวนเก็บสมบัติมาเล่า?” โจรคนหนึ่งตวาด

“ควั่บ!” ลินลี่ย์พุ่งขึ้นไปในท้องฟ้าทันที

พวกโจรประหลาดใจ แต่จากนั้นก็โกรธและไล่ตามขึ้นไปในท้องฟ้าเช่นกัน

อสูรโลหะบินผ่าน และขณะที่ลินลี่ย์บินขึ้นมาในท้องฟ้า เขาก็เข้าไปใกล้เช่นกัน อสูรหกดาวและอสูรเจ็ดดาวแสดงความไม่พอใจอย่างช่วยไม่ได้

“แม่มันเถอะ! พวกโจรกำลังมาหาเรื่อง พวกมันบินตรงมาทางเรา”

พวกเขาพบแล้วว่าคนระดับต่ำกว่าเขาเป็นแค่เทพแท้ พวกเขาไม่กังวลแม้แต่น้อย

“ใต้เท้าทั้งหลาย ได้โปรดช่วยข้าด้วย ให้ข้าโดยสารไปด้วย คนพวกนี้จะฆ่าข้า” ลินลี่ย์บินไปข้างๆ อสูรโลหะ หน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นหวาดกลัว

“ให้ตายเถอะวะ!” อสูรหกดาวคนหนึ่งตะโกนทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด