ตอนที่แล้วตอนที่ 17-22 ความสบาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 17-24 ให้ข้าไปด้วย

ตอนที่ 17-23 รับคำสั่ง


“ในที่สุดก็มีภารกิจเข้ามาหรือ?”  ลินลี่ย์หันไปมองอาร์โฮส พลางกล่าวขอโทษ  “อาร์โฮส, ข้าต้องไปคุยกับประธานผู้อาวุโส”

อาร์โฮสมีสีหน้าเคร่งขรึมและกล่าวทันที  “ลินลี่ย์ประธานผู้อาวุโสคงไม่เรียกเจ้าโดยไม่มีเหตุผล สาเหตุที่นางเรียกเจ้าตอนนี้ มีโอกาส 90%ที่จะให้เจ้าออกไปสู้กับแปดตระกูลใหญ่ ลินลี่ย์, เจ้าต้องระมัดระวังให้ดีแปดตระกูลใหญ่น่ากลัวอย่างแท้จริง”

พวกเขาสามารถบังคับให้ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์อยู่ในสภาพนี้ได้ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าแคว้นอินดิโกช่วย ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์อาจถูกกำจัดไปแล้ว  แปดตระกูลใหญ่จะไม่ทรงพลังอำนาจได้ยังไง?

“ข้าจะระวัง”

ลินลี่ย์หัวเราะจากนั้นหันไปทางตำหนักมังกรฟ้าของประธานผู้อาวุโส นักรบชุดแดงติดตามไปด้วยเช่นกัน

อาร์โฮสมองดูขณะที่ลินลี่ย์จากไปจากนั้นพูดเบาๆ  “น้องลินลี่ย์,เจ้าต้องรอดกลับมาให้ได้!”

ทุกตระกูลของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์และแปดตระกูลใหญ่อาจถูกจัดอันดับอยู่ในสุดยอดตระกูลแดนนรกยี่สิบอันดับแรกตระกูลเก่าแก่มากมายย้ายมาที่นี่จากพิภพอื่นมารวมกันอยู่ที่นี่ในสงครามที่ป่าเถื่อนนี้

การสู้รบขนาดใหญ่ระหว่างสุดยอดตระกูลเหล่านี้เป็นสิ่งที่สี่พิภพชั้นสูงอาจไม่เคยพบเห็นมานานนับปีไม่ถ้วน

ยอดฝีมือสู้กับยอดฝีมือ!

ในสงครามแบบนี้การสู้รบที่แท้จริงดำเนินการโดยอสูรหกดาวและอสูรเจ็ดดาว  การสู้รบระดับนี้...โดยทั่วไปยอดฝีมือระดับนี้ในแต่ละตระกูลจะมีอยู่สักเท่าใด?  ที่สำคัญคือในแดนนรก ตระกูลใดๆมีนักสู้ระดับอสูรเจ็ดดาวสักคนก็จะถูกมองว่าเป็นตระกูลที่น่ากลัว

อย่างไรก็ตามในการสู้รบระหว่างตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์และแปดตระกูลใหญ่...อสูรเจ็ดดาวคนแล้วคนเล่าถูกฆ่า  ขณะที่อสูรหกดาวก็ถูกฆ่าเป็นกลุ่ม

การสู้รบที่โหดเหี้ยมระหว่างสุดยอดตระกูลนี้สร้างความตะลึงให้กับตระกูลนับไม่ถ้วนในแดนนรก  พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากดู! แม้แต่ตระกูลที่ทรงพลังอำนาจอย่างตระกูลแบ็คชอว์ก็ไม่กล้าแทรกแซง  ที่สำคัญคือสงครามเป็นเรื่องโหดร้ายเกินไป

สำหรับคนที่ทรงพลังอย่างลินลี่ย์ในสงครามขนาดใหญ่ที่ไม่มีใครยอมใคร เขาจะเป็นหนึ่งในอสูรเจ็ดดาวที่มีส่วนร่วมในสงครามล้างเลือดของเผ่ามังกรฟ้า

ตำหนักมังกรฟ้าโถงใหญ่ชั้นที่ห้า

สตรีคนหนึ่งในชุดดำยาวผมสีฟ้าสยาย หน้ากากเงิน นี่คือประธานผู้อาวุโสของเผ่ามังกรฟ้า! รูปร่างของประธานผู้อาวุโสดูเหมือนสูงโปร่ง  นางนั่งกับที่เงียบๆ ไม่ขยับแม้แต่น้อยไม่มีทางรู้ได้ว่านางกำลังคิดเรื่องใดอยู่

ผ่านไปอีกนาน...

“ได้เวลาให้เขาได้รับประสบการณ์บ้าง”  ประธานผู้อาวุโสถอนหายใจช้าๆ

ทันใดนั้นประธานผู้อาวุโสหันไปมองที่ประตู  เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นนางเห็นลินลี่ย์ก้าวเดินเข้ามา  เมื่อเห็นประธานผู้อาวุโสลินลี่ย์แสดงความเคารพทันที “ลินลี่ย์ขอคารวะประธานผู้อาวุโส”

“ลินลี่ย์ นั่งก่อน!”  ประธานผู้อาวุโสกล่าวอย่างใจเย็น

ลินลี่ย์คารวะทันทีจากนั้นจึงนั่งลง

“ลินลี่ย์ เจ้าเป็นหัวหน้าหน่วยที่สิบสามมานานมากกว่าปีหนึ่งแล้วใช่ไหม?”  ประธานผู้อาวุโสถาม

“ขอรับ, ท่านประธานผู้อาวุโส”  ลินลี่ย์ตอบ

เสียงของประธานผู้อาวุโสเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน“เจ้ารู้ว่าหลังจากเจ้าเอาชนะเอ็มมานูเอลได้และรับแต่งตั้งเป็นระดับผู้อาวุโสจากประมุขเผ่า  ประมุขเผ่ากับข้าได้พูดคุยปรึกษาหารือเรื่องของเจ้าอย่างจริงจัง”

ลินลี่ย์ตะลึง

ขณะนั้นเองเสียงของประธานผู้อาวุโสเป็นกันเองมากขึ้น  นี่ทำให้ลินลี่ย์อดสงสัยไม่ได้ ประธานผู้อาวุโสมักจะเย็นชาและเฉยเมยตามปกติ  ทำไมวันนี้นางถึงเป็นอย่างนี้?“  หรือว่าเป็นเพราะแหวนมังกรขนด?”  ลินลี่ย์พูดกับตัวเอง

แหวนมังกรขนดเป็นสมบัติมหาเทพประเภทปกป้องวิญญาณของมหาเทพมังกรฟ้า

“เดิมทีท่านประมุขเผ่าต้องการให้เจ้าฝึกฝนต่อไป  ที่สำคัญด้วยความสำเร็จของเจ้าในปัจจุบันถ้าเจ้าบรรลุพลังเทพระดับสูง เจ้าจะกลายเป็นไม้ตายอีกหนึ่งที่เผ่าเรามี!”  ประธานผู้อาวุโสถอนหายใจ  “เจ้าเป็นเพียงอสูรเจ็ดดาวอย่างเดียว  ยังไม่นับว่าเป็นไม้ตายเด็ด”

“ไม้ตายเด็ด?” ลินลี่ย์มองดูประธานผู้อาวุโส

ถ้าเขาฝึกเพื่อให้เป็นเทพระดับสูงที่สำคัญวิญญาณของเขาจะเปลี่ยนระดับคุณภาพไปด้วย ไม่เพียงแต่เสริมพลังป้องกันวิญญาณของเขาเท่านั้น  แม้แต่สนามพลังคุกศิลาดำและพลังมังกรคำรามของเขาก็ยังมีพลังเพิ่มขึ้นอีกมาก

“เมื่อเราพูดถึง ‘ไม้ตายลับ’ เราจะสนับสนุนยอดฝีมือผู้มีพลังเหนือกว่าอสูรเจ็ดดาวธรรมดาและเทียบได้กับเทพอสูรของแดนนรกหรือผู้บัญชาการขุมนรก”  ประธานผู้อาวุโสอธิบาย

ลินลี่ย์พยักหน้า

เทพอสูรแดนนรกและผู้บัญชาการขุมนรกเป็นผู้ทรงพลังกว่าอสูรเจ็ดดาวทั้งหมดมากนัก

ตัวอย่างเช่น‘รีสเจม’ ที่ลินลี่ย์ได้เรียนรู้สนามพลังศิลาดำจากเขาและกลายเป็นพลังที่มีประสิทธิภาพมาก แต่ถ้ารีสเจมใช้วิชาเล่า? นอกจากนี้แม่ทัพนรกผู้อยู่เบื้องหลังของตระกูลแบ็คชอว์ ผู้บัญชาการโมซี่ เขาสามารถเอาชนะโรมิโอผู้มีพลังใกล้ระดับเทพอสูรได้อย่างง่ายดาย เทพอสูรแดนนรกและแม่ทัพนรก..แต่ละคนล้วนแต่เป็นคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังน่ากลัว

พวกเขาใกล้จะอยู่ในจุดสูงสุดของความเป็นไปได้สำหรับพลังของเทพชั้นสูง

“ในเผ่าของเรามีเพียงสามคนในช่วงตลอดเวลานับปีไม่ถ้วนนี้นับได้ว่าเป็นไม้ตายลับ”  ประธานผู้อาวุโสพูด “นอกจากตัวข้าเองและประมุขเผ่าแล้วยังมีผู้อาวุโสอัจฉริยะอีกหนึ่งคนก็คือบลู”

“ผู้อาวุโสบลู?”ลินลี่ย์รู้จักคนผู้นี้ดีเช่นกัน

เขาเองได้รับการยอมรับจากผู้อาวุโสหลายคนว่ามีร่างกายแข็งแกร่งเป็นอันดับสี่ในเผ่ามังกรฟ้าคนแรกและคนที่สองที่มีร่างแข็งแกร่งที่สุดย่อมเป็นประมุขเผ่าและประธานผู้อาวุโสสำหรับอันดับที่สามก็คืออัจฉริยะผู้อาวุโสบลู พลังของบลูนั้นสูงส่งอย่างมิต้องสงสัย

“ไม้ตายลับไม่อาจมีจุดอ่อนใดๆ ได้ไม่ว่าว่าจะเป็นพลังป้องกันการโจมตีทางวัตถุหรือพลังป้องกันทางวิญญาณ!  บนพื้นฐานนี้จะต้องไม่มีจุดอ่อน และจะต้องมีสุดยอดวิชาที่ทำให้เขาสามารถครอบครองแดนนรกได้  นี่ถึงจะมีคุณสมบัติเป็นไม้ตายลับได้!”

ประธานผู้อาวุโสส่ายศีรษะ  “ตอนนี้เจ้ายังเป็นแค่เทพแท้  แม้ว่าเจ้าจะอาศัยพลังแหวนมังกรฟ้าเจ้าสามารถสร้างความแตกต่างในเรื่องพลังวิญญาณได้ ข้าคิดว่าแหวนมังกรฟ้าเป็นสิ่งที่ชำรุด ดังนั้นเจ้าจึงยังมีข้อบกพร่องอยู่”

ลินลี่ย์พยักหน้า

“ดังนั้นจุดอ่อนของเจ้าก็คือพลังป้องกันทางวิญญาณ ที่สำคัญในแง่คุณภาพพลังวิญญาณของเจ้ายังเป็นแค่ระดับเทพแท้”  ประธานผู้อาวุโสส่ายศีรษะขณะที่นางพูด  “ต่อเมื่อเจ้ากลายเป็นเทพชั้นสูงเจ้าจึงจะนับได้ว่าไร้จุดบกพร่อง”

“เมื่อประมุขเผ่าเห็นเจ้า!  เสียงของประธานผู้อาวุโสแฝงด้วยความยินดี ”เขารู้ว่าเผ่าของเราในอนาคตจะมีไม้ตายลับคนที่สี่!”

ลินลี่ย์อดหัวเราะไม่ได้

ปกติเขารู้สึกดีใจที่ได้ยินคำพูดชื่นชม  เพียงแต่ลินลี่ย์รู้ว่าเขาเป็นเพียงไม้ตายลับในอนาคตเท่านั้น

ประธานผู้อาวุโสชำเลืองมองลินลี่ย์  จากนั้นถอนหายใจเบาๆ “น่าเสียดายเจ้าไม่ใช่เทพชั้นสูง”

ลินลี่ย์ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี  เขาพูดกับตัวเอง “ประธานผู้อาวุโสท่านก็รู้ว่าถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเอ็มมานูเอลหลานชายของท่าน ข้าอาจจะออกไปทำศึกหลังจากฝึกฝนจนเป็นเทพระดับสูงแล้ว” นอกจากนี้ยังเป็นฟอร์ลันใช้กับดักคำพูดบีบเขาให้เข้าหุบเขาอ่างโลหิต

ลินลี่ย์ไม่มีทางเลือก

“ลินลี่ย์!พลังป้องกันวิญญาณของเจ้าเป็นยังไงบ้าง?” ประธานผู้อาวุโสถาม

“ต่อให้ข้าเผชิญหน้ากับอสูรเจ็ดดาวผู้เชี่ยวชาญพลังโจมตีวิญญาณข้าก็ยังสู้กับพวกเขาได้” ลินลี่ย์กล่าวด้วยความภูมิใจ แต่เขาถอนหายใจกล่าว“แต่แน่นอนว่าถ้าข้าเผชิญยอดฝีมือระดับสูงล้ำที่มีทักษะโจมตีวิญญาณ  อย่างนั้นข้าคงไม่สามารถสู้ได้”

ตัวอย่างเช่นแม่ทัพนรกโมซี่

คนผู้นี้สามารถควบคุมวิญญาณของอสูรเจ็ดดาวได้  พลังโจมตีวิญญาณทรงพลังมาก  ด้วยความสามารถของลินลี่ย์ไม่สามารถจะสู้ได้

“ถ้าเป็นแค่นั้น...นั่นก็นับว่าดีพอแล้ว”

เสียงของประธานผู้อาวุโสแฝงไปด้วยแววเบิกบานใจ  “เพื่อจะทำให้ปลอดภัยมากขึ้นเจ้าสามารถลอบโจมตีกองกำลังตระกูลบาร์บารี่ ความจริงแค่เพียงสู้กับกองกำลังของพวกเขาเจ้ามีโอกาสรอดมากกว่า 90%”

โอกาสรอดมากกว่า90%? และสู้กับตระกูลบาร์บารี่?

ลินลี่ย์รู้สึกพูดไม่ออก

ร่างกายของเขาแข็งแกร่งและวิญญาณของเขาไม่อ่อนแอเช่นกันไม่ควรจะมีใครหลายคนที่สามารถฆ่าเขาได้

“ลินลี่ย์!”

หน้าผากของประธานผู้อาวุโสขมวดและนางพูดเสียงเข้มขึ้น“เจ้าต้องระมัดระวัง  ระมัดระวังให้ดี! เจ้าต้องไม่ประมาทเลินเล่อได้แม้แต่น้อย อสูรเจ็ดดาวทุกคนที่ร่วมในการสู้รบระหว่างตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์และแปดตระกูลใหญ่นับได้ว่าเป็นหนึ่งในยอดฝีมือชั้นสูงของทั่วแดนนรก! เรามีไม้ตายลับของเรา แต่แปดตระกูลใหญ่ก็มีไม้ตายเด็ดของพวกเขาเช่นกัน!”

“ประมุขเผ่าและข้าทั้งสองคนมั่นใจตัวเองว่าฆ่าเจ้าได้ง่าย”ประธานผู้อาวุโสพูดอย่างเยือกเย็น“แปดตระกูลใหญ่ก็มีสุดยอดฝีมือที่มีพลังเทียบเท่ากับเรา!”

ลินลี่ย์ใจสั่นสะท้าน

นี่คือการกระตุ้นให้ตื่นตัว!ตั้งแต่เขาผ่านพิธีชุบตัว ดูเหมือนว่าเขาจะมีความมั่นใจเกินไป

เขาลืมคำภาษิตที่ว่าเหนือขุนเขายังมียอดเขายอดคนที่เก่งกว่ายังมีอยู่ในทุกที่!

ศัตรูของเขาคือใคร?

พวกเขาเป็นตระกูลระดับสูงที่ตามไล่ล่ามาจากพิภพอื่นและยังมีรวมกันถึงแปดตระกูล! เบื้องหลังตระกูลแบ็คชอว์ก็คือผู้บัญชาการนรกโมซี่  เผ่ามังกรฟ้ามีประมุขเผ่าประธานผู้อาวุโสและอีกฝ่ายก็มียอดฝีมืออย่างนั้นเหมือนกัน

เป็นไปได้หรือที่แปดตระกูลใหญ่จะไม่มีบ้าง?

ศัตรูของพวกเขาทรงพลังมากมายขนาดไหนสามารถบีบบังคับตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์จนเจ้าแคว้นอินดิโกต้องเข้ามาแทรกแซง?

“ศักยภาพของเจ้ามีมากมายดังนั้นข้าไม่กล้าส่งเจ้าออกไปรับภารกิจอันตรายที่สุดในแปดตระกูลใหญ่มีเพียงตระกูลบาร์บารี่ที่มาจากโลกธาตุน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่เชี่ยวชาญพลังโจมตีวิญญาณ”  ประธานผู้อาวุโสกล่าว  “ตระกูลอื่น เช่นตระกูลโบลีนจากแดนสวรรค์ หรือตระกูลแชนเนลแห่งโลกธาตุไฟศักดิ์สิทธิ์หรือตระกูลแอ็ชครอฟท์แห่งแดนยมโลกยอดฝีมือของตระกูลเหล่านี้หลายคนเชี่ยวชาญในพลังโจมตีวิญญาณมาก”

หน้าผากของลินลี่ย์เริ่มมีเหงื่อซึม

ยอดฝีมือของตระกูลโบลีนทั้งหมดฝึกมาในพลังวิถีชะตาเมื่อลินลี่ย์เพิ่งมาถึงแคว้นอินดิโก เขาเห็นยอดฝีมือของตระกูลโบลีนเหล่านั้นฆ่ากลุ่มเทพชั้นสูงได้อย่างง่ายดาย

“ไม่อาจมั่นใจเกินไปได้ ไม่อาจมั่นใจเกินไปได้เวลานี้ศัตรูแข็งแกร่งมาก” ลินลี่ย์เตือนตนเอง

เผชิญกับตระกูลธรรมดาหรือยอดฝีมือธรรมดาในแดนนรก  เขามีความแข็งแกร่งมากพอจะหยิ่งและภูมิใจ

อสูรเจ็ดดาว?ใช่ เขาทรงพลังมาก

แต่ในสงครามระหว่างตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์และแปดตระกูลใหญ่พลังที่เขามีอยู่นี้แค่เพียงพอให้เขาเข้าร่วม! มีหลายคนที่มีพลังมากกว่าเขา!

“ตระกูลบาร์บารี่กำเนิดจากโลกธาตุน้ำศักดิ์สิทธิ์ดังนั้นจึงเชี่ยวชาญในกฎธรรมชาติธาตุน้ำ กฎธรรมชาติธาตุน้ำไม่เหมาะสำหรับพลังโจมตีวิญญาณเท่าใดนักแต่พลังป้องกันวิญญาณและร่างกายของพวกเขามากมายมหาศาล”  ประธานผู้อาวุโสกล่าว  “แต่เท่าที่ข้าเห็นเจ้ามีข้อได้เปรียบเหนือพวกเขา”

ลินลี่ย์พยักหน้า

ตราบเท่าที่ศัตรูไม่เชี่ยวชาญพลังโจมตีวิญญาณเขายังมีความมั่นใจระดับหนึ่ง

“แต่เจ้าต้องไม่มั่นใจตัวเองเกินไป ยกตัวอย่างเผ่ามังกรฟ้าสร้างคนอย่างเจ้าผู้เชี่ยวชาญกฎธรรมชาติธาตุดินได้ บางทีมีความเป็นไปได้ว่าตระกูลบาร์บารี่นี้อาจมียอดฝีมือผู้ถนัดโจมตีทางวิญญาณก็ได้”  ประธานผู้อาวุโสเตือนลินลี่ย์อีกครั้ง

“ข้าเข้าใจแล้ว” ลินลี่ย์จะกล้ามั่นใจตัวเองเกินไปได้อย่างไร?

พอประธานผู้อาวุโสพลิกมือก็ปรากฏแผนที่ขนาดใหญ่และนางชี้ไปบนตำแหน่งในแผนที่...

ขณะที่ประธานผู้อาวุโสยังคงอธิบายต่อไปลินลี่ย์เข้าใจว่าภารกิจนี้เป็นเช่นไร

“ลินลี่ย์, ในภารกิจเจ้าจงทิ้งร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ไว้ที่หุบเขาอ่างโลหิตด้วย”  ประธานผู้อาวุโสกล่าว

“ได้” ลินลี่ย์พยักหน้า “ท่านประธานผู้อาวุโส ข้าจะไปรวมกำลังคนของข้าก่อน”

“ไปเถอะ” ประธานผู้อาวุโสพยักหน้า

ลินลี่ย์บินออกมาจากหน้าต่างชั้นห้าตำหนักมังกรฟ้าและตรงไปยังบ้านพักหน่วยสิบสาม  ประธานผู้อาวุโสมองดูลินลี่ย์บินจากไปจากนั้นนางรำพึงเบาๆ “เผ่าเราไม่มีเวลาพอ เราต้องให้ลินลี่ย์ร่วมรบด้วย บางทีในท่ามกลางสงครามเขาจะบรรลุระดับใหม่ได้เร็วขึ้น

……………….

“สมาชิกหน่วยสิบสามทุกคนรวมตัวกันได้  เรามีภารกิจ” ลินลี่ย์บินตรงมายังเหนือที่พักหน่วยสิบสามจากนั้นตะโกนบอก

ทันใดนั้นมีเงาร่างบินออกมาทีละคนๆ  ทั้งสิบคนมารวมตัวกันทันที พวกที่เห็นหน่วยสิบสามรวมตัวกันแต่ไกลพากันอธิษฐานให้พวกเขาเงียบๆ  ทุกครั้งที่มีหน่วยนักรบถูกส่งไปเพื่อภารกิจ  พวกเขาจะต้องดิ้นรนระหว่างความเป็นกับความตาย

ตอนนี้หน่วยสิบสามเข้าประจำการเต็มที่  แต่หลังจากภารกิจนี้ได้ข้อสรุปใครจะรู้กันว่าพวกเขามีเหลือกันเท่าใด?

“หัวหน้า!  เรามีภารกิจหรือ?”  สตรีผมหยกพูดด้วยความประหลาดใจ

“ถูกแล้ว พวกเจ้าเตรียมตัวให้พร้อมเราจะออกไปทันที”  ลินลี่ย์กล่าว ขณะเดียวกันลินลี่ย์อีกคนหนึ่งบินออกมาจากร่างของเขาและเข้าไปในบ้านพักหัวหน้าหน่วย ดูเหมือนว่ามีแค่ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์เพียงร่างเดียว แต่ในความเป็นจริงมีร่างแยกศักดิ์สิทธิ์สองร่างอยู่ในนั้น

ลินลี่ย์ใช้ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์เพียงร่างเดียวในการรับภารกิจ

“เรากำลังจะเริ่มกันอีกครั้ง”  สมาชิกทั้งสิบคนในหน่วยมีสีหน้าเคร่งขรึมและเกือบทุกคนปล่อยร่างแยกศักดิ์สิทธิ์บินออกจากร่างกลับไปที่พักของตน

ลินลี่ย์มองดูคนทั้งสิบนี้จากนั้นพูดอย่างใจเย็น “จำไว้ ในการมอบหมายนี้พวกเจ้าต้องเชื่อฟังข้าอย่างเคร่งครัด ข้าหวังว่าเรามีกันสิบเอ็ดคนเมื่อเวลาไป พอตอนเรากลับเรายังจะเหลือจำนวนสิบเอ็ดคน”

“ขอรับ หัวหน้า”  ทั้งสิบคนรับคำพร้อมกัน

“เดินทางได้!”

ลินลี่ย์บินขึ้นท้องฟ้าทันทีตรงไปทางทิศใต้ อสูรหกดาวทั้งสิบคนตามข้างหลังเขาอย่างกระชั้นชิด ภารกิจแรกของหน่วยสิบสามหลังจากลินลี่ย์รับตำแหน่งหัวหน้าหน่วยเริ่มต้นในที่สุด!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด