ตอนที่แล้วตอนที่ 565 จับราชา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 567 บาร์บารา

ตอนที่ 566 ตกตะลึง


ตลอดทางจนกระทั่งพวกเขาเข้าหมู่บ้านหญ้าแดง  สือหย่งและคณะดูเหมือนอยู่ในอาการมึนงง

เราชนะ?

เราชนะจริงๆ?

สือหย่งรู้สึกค่อนข้างสูญเสีย คลื่นน้ำเงินเกิดขึ้นในหลายทวีปในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์และขณะที่มันเกิดขึ้นเป็นประจำ พวกเขาเปรียบได้กับเจอแผ่นดินไหว แผ่นดินถล่มและน้ำหลากท่วม  มีแต่เมืองใหญ่ที่สามารถต้านทานคลื่นน้ำเงินได้ ดาวหญ้าแดงประสบกับคลื่นน้ำเงินมาถึงสี่ครั้งแล้ว  และทุกครั้ง ผลก็คืออพยพประชาชน

หมู่บ้านหญ้าแดง....เป็นหมู่บ้านธรรมดาที่สุดเหมือนเคยมีหลายหมู่บ้านที่มีชื่อเดียวกับดาวหญ้าแดง เฉพาะหมู่บ้านแห่งนี้ห่างไกลมากและเป็นหมู่บ้านธรรมดาที่ไม่มีอะไรสนับสนุน

แต่คนร่างใหญ่เหล่านี้...

สือหย่งไม่รู้ว่าคนร่างใหญ่เหล่านี้เป็นใคร  แต่เขารู้สึกเคารพพวกเขา  แค่อาศัยกำลังเพียงไม่กี่คนพวกเขาก็สามารถผลักดันคลื่นน้ำเงินกลับไปได้ ไม่, เมื่อเห็นชาวบ้านทุกคนนอนอยู่กับพื้นและเห็นทะเลคนแคระน้ำเงินไม่มีที่สุดสือหย่งรู้สึกเหมือนกับว่าพื้นใต้เท้าของเขาอ่อนยวบ

แม้ว่าคนแคระน้ำเงินจะหมอบลงแทบเท้าพวกเขาแต่พวกคนตัวใหญ่ทำได้ยังไง สือหย่งไม่กล้าคิดเรื่องนั้น และเขากล้ายืนยันว่าพวกเขาไม่ใช่คนที่สามารถยั่วได้และไม่ใช่คนที่ทวีปซางโจวจะไปตอแยได้แน่นอน โอวรวมทั้งทวีปเซี่ยโจวด้วย...

จะบ้าหรือเปล่า?ทำไมเจ้าถึงมักคิดแต่เรื่องตอแยคนอื่น..

สือหย่งหลั่งเหงื่อเยียบเย็น  โอวพระเจ้าแม้แต่คิดความคิดที่อันตรายอย่างนั้น มันก็น่ากลัวเกินไปเสียแล้ว ตั้งสติไว้!  ใจเย็นๆ

“สือหย่ง! ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่ด้วยเล่า!”  ชาวบ้านคนหนึ่งทักทายเขาอย่างอารมณ์ดี

กองกำลังรักษาการณ์หมู่บ้านเป่ากวงก็คือกองทัพเดียวบนดาวหญ้าแดงและเรื่องที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่พวกเขาจะรับดูแล แม้ว่าจะไม่มีอะไรมาก แต่สำหรับชาวบ้าน กองกำลังรักษาการณ์เมืองเป่ากวงก็คือผู้ปกครองดาวหญ้าแดงที่แท้จริง สำหรับสือหย่งผู้เป็นหนึ่งในกองทหารรักษาการณ์เป็นแกนหลัก  ในสายตาของชาวบ้าน เขาคือผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง

“เราตั้งใจมาส่งข่าวให้พวกเจ้าทุกคน แต่เราไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เห็นการสู้รบขนาดใหญ่”  สือหย่งยิ้มอย่างฝืนธรรมชาติ  ความรู้สึกเหมือนกับว่าคันคอยิบๆเหงื่อเยียบเย็นหลั่งอยู่เต็มหลังซึมออกมานอกเสื้อผ้า  พวกเขาจะเดาความคิดข้าได้หรือไม่?

สือหย่งทำเป็นสงสัยกลุ่มสหายที่มากับเขาไม่กล้าพูดอะไร ตั้งแต่เมื่อใดกันที่พวกเขารู้สึกกดดันอย่างนี้เมื่อพวกเขากลับมาที่หมู่บ้าน?

“ขอบคุณ,สือหย่งและสหาย! ครั้งนี้เราได้พบกับคนชั้นสูงแล้ว!  ฮ่าฮ่า เราสู้กันอย่างมีความสนุก  ชีวิตชราของข้านี้นับว่าใช้คุ้มค่าจริงๆ”  หนึ่งในชาวบ้านพูดอย่างมีความสุข

“ใช่ใช่ ใช่แล้ว” สือหย่งผงกศีรษะ  “พวกเจ้าทำได้สำเร็จขนาดนี้พวกเจ้าคงขู่ขวัญจนพวกมันกลัวได้แน่นอน!  ภาพที่เห็นนั้นจับตาจับใจมากแม้แต่ข้าก็ยังอยากขึ้นไปสู้เองเลย”

สหายร่วมทีมพลอยผงกศีรษะตามกันทุกคน  หน้าของพวกเขามีแววอิจฉามันเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การอิจฉาจริงๆ แม้แต่กองกำลังรักษาการณ์เมืองเป่ากวงเป็นกองกำลังแห่งเดียวบนดาวหญ้าแดงความสำเร็จอย่างดีที่สุดก็คือเอาชนะพวกบัดซบจากทวีปเซี่ยโจวได้โดยไม่มีถอย  เทียบกันแล้วแตกต่าง  ความจริงยังด้อยกว่ากันไกลและน่าละอายด้วยซ้ำ

ชาวบ้านดีใจกันมากและฉีกยิ้มกว้างจนถึงหู

สือหย่งถือโอกาสถามเบาๆ  “พวกคนชั้นสูงนี้มาจากไหน?”

ชาวบ้านส่ายศีรษะ  “ข้าไม่รู้ เสี่ยวอวี่พาพวกเขามาที่นี่”

“เสี่ยวอวี่?”สือหย่งสะดุ้งไปชั่วขณะ เขารู้ว่าเสี่ยวอวี่เป็นใคร เสี่ยวอวี่เป็นที่รู้จักกันดีในดาวหญ้าแดง เขาเกิดมามีปัญหา เขาไม่สามารถใช้พลังงานได้ เป็นเรื่องที่เห็นได้ยากในดาวของพวกเขาและแม้ว่าเขาจะไม่สามารถใช้พลังงานได้ แต่เขาขยันหมั่นเพียรในการทำธุรกิจการค้าและเรียนรู้ทักษะต่างๆ หลายอย่างนอกจากนั้นเขายังขุดหาแกนหญ้าแดงเพื่อหารายได้ สำหรับเด็กอายุ 12 ปีต้องไปทำอย่างนั้น ทำให้ทุกคนรู้สึกสงสารเขา

“เจ้าต้องการให้ข้าไปแจ้งพวกเขาไหม?”  ชาวบ้านถาม

สือหย่งสั่นและส่ายศีรษะทันที  “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เรารออยู่ที่นี่  รอตรงนี้ดีกว่า”

ภายในบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้าน  ถังเทียนและพวกที่เหลือมีปัญหาอย่างหนึ่ง

“ใครต้องการให้เขายอมรับ?”

ทุกคนที่อยู่ข้างในมองหน้ากันเองทำแบบนั้นเป็นทักษะที่พิเศษมาก และไม่มีใครรู้วิธี

ทันใดนั้นเมื่อคนแคระน้ำเงินแก่เห็นหน้าถังเทียน  หน้าของเขาเปลี่ยนไปมันสั่นตั้งแต่ศีรษะยันเท้าและร้องเสียงหลง “ผู้บุกรุก!  ผู้บุกรุก...”

แม้ว่าสำเนียงของเขาจะแปร่งแต่ทุกคนสามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจน ถังเทียนสะดุ้ง เขาชี้จมูกตัวเอง “เจ้ารู้จักข้าหรือ?”

หน้าของคนแคระน้ำเงินแก่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวสั่นจนพูดไม่ออก และหน้าของเขาเริ่มซีดขาวขึ้นเรื่อยๆ

“เฮ้เฮ้ เฮ้ เขากำลังจะแย่แล้ว...” ถังเทียนตื่นเต้น “ข้ายังไม่ได้ถามอะไรเลย...”

คนแคระน้ำเงินชราหัวห้อยลง เขาหยุดหายใจความหวาดหวั่นขวัญผวาปรากฏอยู่บนหน้าของเขา

ถังเทียนตกใจ

คนอื่นๆ ตกตะลึง

ถังเทียน...ขู่ขวัญจนผู้นำคนแคระน้ำเงินตายได้จริงๆ...

“ข้าทำอะไรเขาหรือ?”  ถังเทียนหันมามองพวกที่เหลือ เขาไม่รู้จะทำยังไง

ทุกคนมองดูเขาเงียบๆ

“ข้าคิดว่าเขาตายเพราะเห็นหน้าตาที่น่าเกลียดเกินไปของเจ้า”  เสี่ยวเอ้อพูดโพล่งออกมา

“นั่นเป็นเหตุผลที่น่าเชื่อถือ”  ปิงพยักหน้าเห็นด้วย

หยาหยาเองก็ผงกหัวโดยไม่รู้ตัวและพอรู้ตัวมันหน้าแดงสลับขาวและรีบส่ายหัวรัวๆ ทันที  แก้มยุ้ยของมันกระเพื่อมเป็นระลอก

“แล้วตอนนี้เราจะทำยังไง?”  เขาดึงมือกลับ เขารู้สึกยากจะยอมแพ้

“ข้าคิดว่าเราควรคิดว่าจะทำยังไงกับคนแคระน้ำเงินข้างนอก”  ปิงยังคงรู้สึกปวดหัวทันที  พวกเขาจับตัวผู้นำได้อย่างยากเย็นและต้องการข้อมูลบางอย่าง  ตัวอย่างเช่น ไม่ว่าเขาจะได้เห็นจิ่งหาวหรือไม่โลกของคนแคระน้ำเงินถูกแยกจากกันได้ยังไง แต่ก่อนที่เขาจะได้รับข้อมูลอะไร เขาก็ตายเสียก่อน

เขากลัวจนตายจริงๆ...

ปิงมองดูถังเทียนและรำพึงในใจถังห้าวน่าเกลียดมากถึงระดับนี้จริงๆ หรือ? เราแค่ชินกับเขา นั่นคือเหตุผลกระมัง?

ผู้นำคนแคระน้ำเงินตายและปัญหาที่เหลือเป็นเรื่องใหญ่  พวกเขาจะทำยังไงกับคนแคระน้ำเงินข้างนอก?  ก่อนนี้ปัญหานี้กวนใจปิงอยู่แล้ว  แต่ตอนนี้ผู้นำของเขาตายก็กลายเป็นเรื่องแย่ยิ่งกว่า

ทันใดนั้น เสียงร้องทรมานดังมาจากด้านนอก

ทุกคนสะดุ้ง พวกเขาวิ่งออกไปข้างนอกทันที และเมื่อพวกเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น  หน้าของทุกคนบิดเบี้ยวเหยเกความหนาวสะท้านแล่นไปตามสันหลัง

คนแคระน้ำเงินที่เพิ่งนอนกับพื้นที่ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดพร้อมกันร่างของทุกคนเหมือนกับน้ำแข็งสีน้ำเงินละลายลงอย่างรวดเร็วต่อหน้าต่อตาพวกเขา

ในพริบตา คนแคระน้ำเงินกลายเป็นสภาพเป็นของเหลวน้ำเงินกันหมดซึ่งซึมเข้าไปในพื้นดินอย่างรวดเร็ว

พวกเขาเห็นไกลเท่าที่จะเห็นได้ พื้นด้านนอกหมู่บ้านทั้งหมดกลายเป็นสีน้ำเงินแปลกประหลาด มีแต่เพียงสิ่งที่เหลืออยู่บนพื้นก็คือหอกและหลาวไม้ดำที่แตกหักเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความฝัน

น่าทึ่งมาก!

มันแปลกมากที่แม้แต่ถังเทียนก็รู้สึกเย็นสันหลังวาบ  คนแคระน้ำเงินที่มีจำนวนมากมายปกคลุมไปทุกที่ที่เขามองดูพลันหายไปเหมือนกับหิมะละลาย

ทุกคนมองดูหน้ากันเองและเห็นแต่เพียงแววตกใจอยู่ในตาของแต่ละคน

คนแคระน้ำเงินแปลกประหลาดนี้คืออะไรกันแน่...

ชาวบ้านสือหย่งและกลุ่มสหายร่วมงานของเขาตกใจยิ่งกว่า เขาและท้องของพวกเขาสั่นราวกับเป็นบ้า

ทันใดนั้นสายตาถังเทียนมองดูที่ไกลออกไปและเห็นจุดดำจุดหนึ่ง จุดดำนั้นรวดเร็วมาก และในพริบตา พวกเขาก็บินเข้ามาใกล้  ถังเทียนสั่นทันที เขาเห็นชัดเจนแล้วว่าพวกเขาเป็นใครและวิ่งเข้าไปหา

เป็นเสี่ยวซิ่วซิ่วและพวกนั่นเอง!

ทั้งสามคนท่าทางโทรมมากชุดของพวกเขาขาดรุ่งริ่ง สีหน้าเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด  มองดูก็รู้ว่าพวกเขาผ่านพบเจออะไรมามาก  เมื่อพวกเขาเห็นถังเทียน  พวกเขาดีใจทันที

แต่ในเวลาอันรวดเร็วสีหน้าของพวกเขากลายเป็นกังวล

“ระวัง! มีคนแคระน้ำเงินไล่ตามหลังเรา” หลิงซิ่วตะโกนเต็มกำลัง เขายังรู้สึกอ่อนเพลียอยู่บ้าง

เมื่อคำพูดของเขาดังได้ยินทั่ว  หน้าของทุกคนเปลี่ยน  มีเพียงถังเทียนที่ไม่สะทกสะท้าน

ในสายตาของเขาทะเลน้ำเงินปรากฏมาอีกครั้งจำนวนคนแคระน้ำเงินที่จะมาถึงน่าประหลาด พวกมันดูเหมือนมหาสมุทรครอบคลุมเต็มภูเขาและพื้นที่ราบ  หน้าของเสี่ยวเอ้อและปิงเปลี่ยน ระดับของคนแคระน้ำเงินที่กำลังมาถึงสูงกว่าพวกที่เพิ่งตายไปก่อนนั้นมาก

แย่แล้ว!

หลังจากประสบกับการต่อสู้ที่โหดร้าย  แม้ว่าพวกเขาจะชนะ  แต่ทุกคนก็เหนื่อย ถ้าไม่ใช่เพราะชัยชนะของเสี่ยวเอ้อที่จับผู้นำได้  การรบคงจะลากยาวออกไปและในที่สุดฝ่ายที่ทนไม่ได้ก็จะเป็นพวกชาวบ้าน เพราะคนแคระน้ำเงินมีมากเกินไป การฆ่าทางผ่านพวกมันไม่ใช่วิธีที่ถูกนัก

พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าหลังจากชนะไปแล้ว  ยังมีคลื่นน้ำเงินอีกชุดหนึ่งโผล่ออกมาอีก

ชาวบ้านหลายคนกระแทกนั่งกับพื้น

แต่แทนที่จะกลัวถังเทียนกับมีความสุขมากแทน ทุกคนสามารถหาตัวเจอจนได้ นั่นเป็นข่าวดีที่สุด! ก่อนหน้านั้นเขาเตรียมเข่นฆ่าจนไปถึงค่ายพวกคนแคระน้ำเงินเพื่อค้นหาตัวเสี่ยวซิ่วซิ่วและพวกแต่ตอนนี้ทุกคนปลอดภัยไร้ปัญหาแล้วยังจะมีข่าวดีอะไรมากไปกว่านี้?

เทียบกับสู้เข่นฆ่าไปจนถึงค่ายพวกคนแคระน้ำเงินแล้วคลื่นน้ำเงินที่อยู่ต่อหน้าเขานับว่าไม่มีอะไรเลย

ถ้าเราเอาชนะไม่ได้  เราสามารถหนีได้..

ถังเทียนไม่ลืมตะโกนสิ่งที่เขาคิด  “ทุกคนมาอยู่ข้างหลังข้า!  ข้าจะรับมือคลื่นลูกแรกก่อน!”

เสี่ยวซิ่วซิ่วอาเฮ่อและจิ่งหาวแสดงสีหน้าตื่นเต้น พวกเขาไม่พูดอะไรและหลบไปด้านหลัง ในหมู่บ้านหญ้าแดง ปิงรวบรวมชาวบ้านแล้วเพื่อเตรียมตัวถอย

ถังเทียนลากโซ่ตะขาบถ่วงน้ำหนักออกมาและจ้องมองคลื่นน้ำเงินที่กำลังเข้ามา

พวกเขาเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว!

พวกเขาแข็งแกร่งมากกว่าชุดก่อนนั้น!

คนแคระน้ำเงินที่กำลังเข้ามามีรูปขบวนที่เข้มงวดมีลักษณะของกองทัพ สายตาถังเทียนมองดูกิ่งน้ำแข็งในมือพวกมัน หัวใจของเขาเต้นแรงเห็นได้ชัดว่าเป็นกิ่งต้นน้ำแข็งฟ้าที่พวกเขาพบเห็นที่ทะเลแสง

กิ่งน้ำแข็งสีฟ้าไม่ใช่ข่าวดี..มิน่าเล่าเสี่ยวซิ่วซิ่วถึงได้ดูโทรมนัก ถังเทียนกระชับลูกตุ้มไว้แน่น

คนแคระน้ำเงินคาดไม่ถึงว่าจะมีคนทีกล้าหยุดพวกมัน  เมื่อพวกมันมาถึงหน้าถังเทียน  พวกมันหยุดทันที

ความรู้สึกนั้นเมื่อคลื่นบ้าคลั่งมาถึงอย่างรวดเร็ว แต่การหยุดทันใดโดยไม่มีคำเตือนทำให้ถังเทียนหัวใจเต้นแรงอีกครั้ง

ปิงสีหน้าเปลี่ยน  เขาอยู่ด้านหลัง และเมื่อเขาเห็นกองกำลังจัดตั้งขบวนทัพที่เข้มงวดมีแต่กองทัพที่ได้รับการฝึกฝนมาแล้วจึงจะทำได้  ทักษะการจัดตั้งขบวนทัพทำให้ปิงรู้ว่าปัญหาใหญ่กำลังตามมา

เมื่อเผชิญหน้ากับรังสีฆ่าฟันของกองทัพ ถังเทียนสามารถรู้สึกได้ถึงความโกรธที่ออกมาจากพวกเขา

หัวใจของเขาเต้นแรงสัญชาตญาณของเขาแหลมคมและสามารถรู้สึกได้ถึงเจตนาตั้งใจฆ่าทำให้ผมขนในร่างกายลุกชัน  หลังของเขาหลั่งเหงื่อเยียบเย็น  เขาบังคับตนเองให้เข้มแข็ง  เขาเตรียมพร้อมตราบเท่าที่มีบางอย่างผิดปกติ เขาจะถอยและหนีทันที

ข้าจะลงมือรอบแรกและถ่วงเวลาไว้ระยะหนึ่ง

ถังเทียนไม่เคยรู้สึกกดดันอย่างนั้นมาก่อนในชีวิต  แม้ว่าสีหน้าของเขาจะมั่นคง แต่จิตสำนึกของเขามักรู้สึกได้ถึงเสี่ยวซิ่วซิ่วและพวกที่เหลือ  ตราบใดที่พวกเขาเชื่อมโยงกับปิง  อย่างนั้นพวกเขาก็สามารถถอยได้

เขาลอบแจ้งให้เสี่ยวเอ้อเตรียมใช้วิชาเคลื่อนย้ายพริบตา

แต่เขาต้องให้ความสำคัญกับการถ่วงเวลาคนแคระน้ำเงิน  ดังนั้นถังเทียนค่อยๆ ควงตะขาบถ่วงน้ำหนักตาของเขาหรี่มองมองอากาศอย่างยอดฝีมือ

ขณะนั้นผู้นำของคนแคระน้ำเงินเห็นหน้าของถังเทียน สีหน้าของเขาเปลี่ยนทันทีและโพล่งออกมา“ผู้บุกรุก!”

เป็นครั้งที่สองที่ถังเทียนได้ยินวลีนี้และตอนแรกเขากังวลมากโพล่งออกมาว่า “อะไรนะ?”

เมื่อพูดเช่นนั้นถังเทียนสบถในใจ  หรือว่าข้าเปิดเผยตัวเองไปแล้ว?  ข้าพยายามถ่วงเวลาไว้ตอนนี้   ข้าจะต้องทำให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม...

แต่ก่อนที่เขาจะทันรู้ตัว  กองทัพคนแคระน้ำเงินถอยหนีไปด้วยความเร็วไวกว่าเมื่อตอนมาหลายเท่า

กะ..เกิดอะไรขึ้น...

ปากของถังเทียนอ้าค้าง เขามองดูพื้นที่ว่างข้างหน้าซึ่งดูว่างเปล่าอย่างรวดเร็ว  และคลื่นน้ำเงินหนีไปไกลอย่างรวดเร็ว  ปิงและชาวบ้านที่อยู่ด้านหลังตะลึงกันไปหมด เสี่ยวเอ้อเตรียมจะใช้เคลื่อนย้ายในพริบตาช่วยถังเทียนก็ตะลึง  เสี่ยวซิ่วซิ่วก็ตะลึง  อาเฮ่อก็ตะลึง จิ่งหาวก็ยังตะลึงไปด้วย ทุกคนตะลึงกันหมด

ถังเทียนที่ลอยอยู่ลำพังในอากาศรู้สึกผิดหวัง

“มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันวะนี่?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด