ตอนที่แล้วตอนที่ 17- 9 แปดสิบปี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 17-11 ทักษะเทพตามธรรมชาติ

ตอนที่ 17-10 สระมังกร


ท้องฟ้ามืดค่ำ พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว

คืนนี้พิธีชุบของบรรพบุรุษจะเริ่มขึ้น  ภายในหุบเขาในเทือกเขาสกายไรท์ลินลี่ย์กำลังรออย่างอดทนต่อมาไม่นานลินลี่ย์มองเห็นนักรบในชุดเกราะสีฟ้าบินตรงมาหา

“ใครคือลินลี่ย์!”  นักรบเกราะฟ้าตะโกนถาม

ลินลี่ย์รู้สึกดีใจ เขาออกมาทักทายบุรุษผู้นั้นทันที

“ข้าเอง ลินลี่ย์” ลินลี่ย์หัวเราะนักรบเกราะฟ้าชำเลืองมองลินลี่ย์ หลังจากตรวจสอบอย่างระมัดระวังเขาโมโหและตะคอกใส่ “หยุดล้อเล่นได้แล้ว ทุกคนที่จะไปเข้าพิธีชุบตัวอายุไม่ถึงร้อยปี  เจ้าเป็นเทพแท้แล้วหรือว่าเจ้ายังอายุไม่ถึงร้อยปี ไปตามลินลี่ย์ออกมา”

ลินลี่ย์ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี  ดูเหมือนว่าเขามีแววจะถูกมองว่าเป็นคนหลอกลวง

“ข้าคือลินลี่ย์ ข้าอาศัยอยู่ในพิภพอื่นมาก่อนเพิ่งจะกลับมาที่เทือกเขาสกายไรท์เมื่อแปดสิบปีที่แล้ว” ลินลี่ย์อธิบาย  “ดังนั้นจนถึงตอนนี้ข้ายังไม่ได้เข้าร่วมพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษ”

“เหรอ?” นักรบเกราะฟ้าค่อนข้างสงสัย

ขณะนั้นเอง บาลุค เดเลียบีบีและคนอื่นที่มองดูจากด้านล่างไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้เช่นกัน  นักรบเกราะฟ้าไม่เชื่อว่าลินลี่ย์คือคนที่เขาถามหา บาลุคจึงต้องบินขึ้นไปหานักรบเกราะฟ้าด้วยตัวเอง “เป็นเรื่องจริงเขาคือลินลี่ย์แน่นอนเขาไม่ได้เกิดในเทือกเขาสกายไรท์ซึ่งทำให้ในช่วงเวลาหลายวันมานี้เขายังไม่ผ่านพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษ”

นักรบเกราะฟ้าเหลือบมองลินลี่ย์จากนั้นแค่นเสียงเย็นชา “ตอนนี้ข้าจะเชื่อเจ้าก่อน  แต่,เด็กน้อย จงทำความเข้าใจไว้ให้ดี...ถ้าเจ้าผ่านพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษมาแล้ว  การเข้าพิธีชุบตัวครั้งที่สองจะไม่มีประโยชน์อะไรกับเจ้าและถ้าเจ้าถูกตรวจพบว่าหลอกลวง เจ้าลำบากแน่ พอเถอะ ไปกันได้”

นักรบเกราะฟ้าบินขึ้นไปในท้องฟ้าทันที

ลินลี่ย์หันหน้าบอกลาเดเลียและบีบี  จากนั้นติดตามเขาไปทันที

พวกเขาบินขึ้นไปบนถนนมังกรและไปตามเส้นทางมังกรลินลี่ย์ติดตามด้านหลังนักรบเกราะฟ้าอย่างกระชั้นชิดขณะที่พวกเขาไปข้างหน้าไม่หยุด  หลังจากบินมาด้วยกันกับนักรบเกราะฟ้าผู้นี้เป็นเวลาช่วงหนึ่ง  ทั้งสองคนมาถึงยอดเขาสีดำสนิทแห่งหนึ่ง

บนยอดเขามีนักรบเกราะฟ้าอยู่หลายคน บุรุษชุดดำศีรษะโล้นคนหนึ่งและเด็กหนุ่มเด็กสาวราวสิบคนอยู่ก่อนแล้ว

“ใต้เท้า!พาตัวลินลี่ย์มาที่นี่แล้ว” นักรบเกราะฟ้าบินเข้าไปหาและรายงานด้วยความเคารพทันที

บุรุษหัวโล้นชุดดำชำเลืองมองลินลี่ย์จากนั้นพยักหน้าและสั่งนักรบ “แค่นั้นแหละ ตอนนี้เจ้าไปได้”  บุรุษชุดดำมองลินลี่ย์  “ลินลี่ย์!เจ้าจงรออยู่ที่นี่สักครู่ เมื่อทุกคนมาพร้อมกัน เราค่อยเข้าไป”

“ขอรับ” ลินลี่ย์ยืนอยู่กับที่พร้อมกับกลุ่มคนสิบกว่าคน

“คนพวกนี้เป็นเพียงระดับเซียนกันทุกคน”  ลินลี่ย์บอกได้ทันที  เด็กหนุ่มสาวเหล่านี้สงสัยกันมากและพวกเขามองดูลินลี่ย์ด้วยความประหลาดใจ พวกเขาประหลาดใจที่พบว่าพวกเขามองไม่เห็นพลังของลินลี่ย์!

“คนผู้นี้ไม่ใช่เซียนหรือ?”  เด็กหนุ่มสาวพากันสงสัยทุกคน

สำหรับคนที่เกิดมาในรอบร้อยปีนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกหลานของเผ่ามังกรฟ้าเป็นไปไม่ได้ว่าจะกลายเป็นเทพด้วยตัวเองโดยไม่ผ่านพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษ

ลินลี่ย์เพียงแต่รออยู่กับที่อย่างเงียบงัน ขณะที่บุรุษหนุ่มถูกนักรบเกราะฟ้านำเข้ามาทีละคน

“ทั้งหมดรวมยี่สิบแปดคน” บุรุษชุดดำหัวโล้นพยักหน้าเล็กน้อยจากนั้นพูดอย่างใจเย็น  “พอได้แล้ว, เด็กๆตามข้ามาทุกคน จำไว้ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากข้า อย่าเที่ยวไปอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า”

ขณะที่พูดบุรุษชุดดำศีรษะโล้นพาพวกเขาทุกคนไปตามเส้นทางเดินบนยอดเขา

ด้านนอกทางเข้าทางเดินเต็มไปด้วยประติมากรรมรูปมังกร  ทางเดินเริ่มลาดลงลึกเข้าไปในใจกลางภูเขา  ทางเดินนี้กว้างเกือบหกเมตรและสูงสี่เมตร  เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า  ขณะเดียวกันผนังริมทางเดินก็มีรูปสลักโบราณให้เห็น

พื้นปูด้วยพรมทอ

ลินลี่ย์เพียงแต่ติดตามบุรุษศีรษะโล้นชุดดำไปอย่างเงียบงัน

“เฮ้, เจ้า, เจ้าเป็นเทพแล้วใช่ไหม?” เด็กสาวผมเขียวที่เดินข้างลินลี่ย์ไม่อาจเก็บความสงสัยไว้ได้และนางถามขึ้นเบาๆ

ลินลี่ย์หันไปมองนาง เขาหัวเราะ และแค่เพียงพยักหน้าตอบรับ

ตาของเด็กสาวผมเขียวเป็นประกาย และมองดูน่ารัก  “เจ้าช่างน่าทึ่งจริงๆเจ้ายังไม่เคยผ่านพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษ แต่เจ้ากลายเป็นเทพได้ภายในร้อยปี”  แม้ว่าหนุ่มสาวที่กำลังเข้าพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษก็มองลินลี่ย์ด้วยความเลื่อมใสประหลาดใจ หรือไม่ก็อิจฉา

ไม่ถึงร้อยปีหรือ?

เขาอายุเลยร้อยปีมานานแล้ว อย่างไรก็ตาม..ในทวีปยูลานเมื่อเขากลายเป็นเทพด้วยตนเองเป็นเรื่องจริงที่ว่าเวลานั้นเขายังฝึกได้ไม่ถึงร้อยปี

“เงียบเดี๋ยวนี้” บุรุษหัวโล้นชุดดำตะคอกเย็นชา

ทันทีนั้นพวกเซียนทั้งสิบสองคนหวาดกลัวจนไม่กล้าพูดแม้แต่คำเดียวสีหน้าของลินลี่ย์ไม่เปลี่ยน “คนหัวโล้นนี้เจ้าอารมณ์จริงๆ”  ลินลี่ย์ยังคงเดินตามเขา  ครู่ต่อมาพวกเขามาถึงที่สุดทางเดินซึ่งเป็นโถงกว้างและมีคนชุดดำสองสามคนอยู่ข้างใน

“ทั้งหมดนี่หรือ?” หนึ่งในคนชุดดำมาต้อนรับพวกเขา

“ทั้งหมดนี้ยี่สิบแปดคน” บุรุษหัวโล้นกล่าว “เจ้าดูแลพวกเขาสักครู่ข้าจะไปเชิญผู้อาวุโสทั้งสองมาเปิดการทำงานของสระมังกร”

“ไม่เป็นไรเจ้ารู้แล้วใช่ไหมว่าตอนนี้สองผู้อาวุโสอยู่ที่ใด?”  บุรุษชุดดำกล่าว

บุรุษชุดดำศีรษะโล้นพูดอย่างสงสัย“หรือว่าพวกเขายังมาไม่ถึง?”

“พวกเขามาถึงแล้ว พวกเขามาถึงแล้วแต่ผู้อาวุโสทั้งสองอยู่ในห้องส่วนบุคคล พวกเขาบอกว่าถ้าไม่ได้รับอนุญาต ห้ามมิให้ใครเข้าไปรบกวน”  บุรุษชุดดำงง“พวกเขาอยู่ในห้องส่วนบุคคลทางตำหนักด้านตะวันออก”

“ข้าจะไปดู” บุรุษชุดดำหัวโล้นเดินไปทันที

ลึกเข้าไปในภูเขา ในห้องส่วนบุคคลในปีกห้องโถงตะวันออก

มีคนสองคนกำลังยืนเคียงไหล่คนหนึ่งมีจมูกงองุ้มเหมือนปากเหยี่ยวศีรษะโล้นจอนหูทั้งสองข้างหลุบลงและดวงตาน่ากลัวเหมือนกับตาอสรพิษ  อีกคนเป็นบุรุษหนุ่มรูปงามไว้ผมยาวจนถึงหลัง

ทั้งสองคนสวมชุดเกราะฟ้าปักด้วยลวดลายทองคำ ส่วนชุดคลุมเต็มไปด้วยอักษรเวทรูนเปล่งประกายแสงเลือนลาง

พวกเขากำลังให้ความสนใจมองดูผลึกบันทึกที่กำลังฉายอยู่ในกลางอากาศในห้องส่วนบุคคล

“น่ากลัวจริงๆ” บุรุษศีรษะโล้นอดถอนหายใจชมไม่ได้

“แม้แต่เจ้ากับข้าบางทีคงไม่มีทางป้องกันแรงฟันนั้นได้ง่ายๆ”บุรุษรูปงามถอนหายใจชื่นชม

ผลึกบันทึกที่กำลังฉายอยู่ในตอนนี้เป็นฉากภาพที่น่าอัศจรรย์เป็นภาพการต่อสู้ของลินลี่ย์ในท้องฟ้าเหนือเกาะมิลัวร์ ภาพที่ทำให้ทั้งสองคนถอนหายใจด้วยความทึ่งก็คือผู้อาวุโสชุดแดงของตระกูลแบ็คชอว์ใช้ดาบเดียวฟันใส่ลูกบาศก์สีดำของลินลี่ย์

การต่อสู้ครั้งนั้นมีคนภายนอกเกาะมิลัวร์มองเห็นคนเหล่านั้นฝึกมาทางกฎธาตุน้ำจึงบันทึกการต่อสู้นี้ไว้ได้เป็นธรรมดา

เพราะตัวหลักในการต่อสู้ครั้งนี้ก็คือลินลี่ย์ถูกยอดฝีมือหลายคนมองว่าเป็นคนของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์  บันทึกนี้จึงถูกส่งมายังตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เป็นธรรมดา เพียงแต่นับแต่เหตุนี้เกิดขึ้นความเร็วในการส่งมานับว่าล่าช้า

ลินลี่ย์อยู่ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์มาหลายสิบปีแล้ว  แต่บันทึกการต่อสู้เพิ่งจะส่งมาถึงที่นี่

“ดูสิ, ผู้อาวุโสชุดแดงกำลังจะสู้กับคนของตระกูลเรา”บุรุษรูปงามรีบกล่าว

ในบันทึกนั้นผู้อาวุโสชุดแดงหลังจากได้รับคำสั่งจากแบ็ควิลประมุขตระกูลแบ็คชอว์  เขาก็เริ่มควงดาบและบุกจู่โจมลินลี่ย์

เมื่อเห็นดาบฟันโจมตีลงมา ผู้อาวุโสทั้งสองแทบกลั้นหายใจ

แต่จากนั้นพวกเขาเห็นจากบันทึกว่าลินลี่ย์สามารถใช้ขาขวาเตะใส่ดาบนั้นอัดกระแทกอสูรเจ็ดดาวลงไปกับพื้นโดยตรงพอชั่วเวลาต่อมาบันทึกก็จบลง

“น่ากลัวจริงๆ!”  บุรุษหนุ่มรูปงามถอนหายใจชื่นชม

แววตื่นตะลึงปรากฏอยู่ในสายตาของบุรุษศีรษะโล้นด้วยเช่นกัน  “แค่อาศัยร่างกายของเขาก็สามารถต้านพลังโจมตีวัตถุเต็มกำลังจากอสูรเจ็ดดาวได้  ร่างของเขาแข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ...แม้แต่ในตระกูลของเรา มีเพียงไม่กี่คนที่มีพลังระดับนี้”

“อย่างน้อยก็ไม่ใช่เจ้ากับข้า”  บุรุษหนุ่มรูปงามให้ความเห็น

แม้ว่าสมาชิกเผ่ามังกรฟ้าจะแข็งแกร่งในร่างแปลงมังกรแต่พลังแข็งแกร่งระดับนี้ไม่ใช่แค่พลังสายเลือด แต่ยังคงมีปัจจัยอย่างอื่นอีก

“ไม่ใช่แค่ร่างของเขาแข็งแกร่งเท่านั้นเจ้าเห็นรัศมีแสงสีเหลืองรอบตัวของเขาไหม? ทุกคนติดอยู่ภายในนั้นและส่งผลต่อความเคลื่อนไหวของพวกเขาแม้แต่ผู้อาวุโสชุดแดงแห่งเกาะมิลัวร์ก็ยังได้รับผลด้วยเช่นกัน”  บุรุษศีรษะโล้นพูดจริงจัง

“ใช่แล้ว นั่นคือสนามพลังโน้มถ่วงเป็นสนามพลังโน้มถ่วงที่น่ากลัวมาก” บุรุษหนุ่มรูปงามพูดอย่างสงสัย  “คนในตระกูลเรามีเชี่ยวชาญในกฎธาตุดินด้วยหรือ?และยังถึงระดับนั้นเสียด้วย? ไม่อยากเชื่อเลย!”

หลังจากเห็นบันทึกนั้นพวกเขาแน่ใจว่าคนผู้นี้เป็นคนในเผ่าของพวกเขา

ในแดนนรกมีแต่เพียงเผ่ามังกรฟ้าที่มีร่างกายแข็งแกร่งทรงพลังอย่างนั้นหลังจากแปลงร่างแล้ว!

“พลังของคนผู้นี้ยอดเยี่ยม”บุรุษศีรษะโล้นถอนหายใจ “เขาสามารถเอาชนะอสูรเจ็ดดาวได้โดยไม่ต้องใช้ทักษะเทพธรรมชาติของเขา  ถ้าเขาใช้ทักษะเทพธรรมชาติของเขา  เขาคงเอาชนะได้อย่างง่ายดาย”

“ถูกแล้ว” บุรุษรูปงามพยักหน้า “ร่างของเขาทรงพลังมากซึ่งก็หมายความว่าสายเลือดของเขาต้องบริสุทธิ์มาก ถ้าสายเลือดของเขาบริสุทธิ์มาก อย่างนั้นทักษะเทพธรรมชาติของเขาต้องน่ากลัวเช่นกัน” บุรุษรูปงามรู้ดีว่าทักษะเทพธรรมชาติของเขานั้นเป็นอย่างไร”

“แต่ข้าไม่เคยเห็นคนผู้นี้มาก่อน”  บุรุษศีรษะโล้นมองหน้า “หรือว่าเจ้าเคย?”

บุรุษหนุ่มรูปงามหงุดหงิด “ร่างแปลงนี้..ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน”

“อาจจะเป็นยอดฝีมือผู้ถือสันโดษอยู่นอกตระกูล”บุรุษหนุ่มรูปงามกล่าว

“ฮึ!  ตระกูลอยู่ในสถานการณ์วิกฤติแต่คนผู้นี้ยังไม่ยอมกลับมา” บุรุษศีรษะโล้นไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด “เขาอาจจะแข็งแกร่งทรงพลัง แต่ถ้าเขาไม่กลับมา จะนับเป็นตัวดีได้ยังไง?”

“ก๊อก ก๊อก!”

เสียงเคาะประตูดังขึ้น

“เข้ามา” บุรุษศีรษะโล้นพูดอย่างเยือกเย็น

เจ้าหน้าที่ชุดดำผลักเปิดประตูห้องส่วนบุคคลจากนั้นเรียนด้วยความเคารพ “ท่านผู้อาวุโส  ผู้เข้าร่วมพิธีชุบตัวทั้งยี่สิบแปดคนมาถึงที่นี่แล้ว”

“โอว ไปกันเถอะ ไปเปิดใช้งานสระมังกร”  บุรุษหนุ่มรูปงามกล่าว จากนั้นเดินออกไปพร้อมกับบุรุษศีรษะโล้น

ทั้งสองคนเป็นสมาชิกสภาอาวุโสเผ่ามังกรฟ้า

กลุ่มของลินลี่ย์ยี่สิบแปดคนเดินตามหลังผู้อาวุโสทั้งสองและเจ้าหน้าที่ชุดดำทั้งสี่ผ่านไปตามทางคับแคบ  ผู้อาวุโสสองคนที่อยู่ข้างหน้าพูดคุยหัวเราะกัน“การ์วีย์! เป็นโอกาสหายากจริงๆ ที่เรามีเทพแท้มาเข้าร่วมพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษ”

“น่าสนใจจริงๆ”บุรุษหนุ่มรูปงามพยักหน้า

“เขาเป็นเทพแท้ได้โดยไม่ผ่านพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษไม่เลว”  บุรุษหนุ่มรูปงามหันไปมองลินลี่ย์แต่น่าเสียดาย..ระหว่างการต่อสู้ศึกใหญ่เหนือท้องฟ้าเกาะมิลัวร์ลินลี่ย์อยู่ในร่างแปลงมังกรตลอดเวลา

ตอนนี้ลินลี่ย์อยู่ในร่างมนุษย์ ดังนั้นผู้อาวุโสทั้งสองจึงจำไม่ได้ว่าเขาเป็นนักสู้หลักในบันทึกที่พวกเขาเพิ่งดูมาซึ่งพวกเขาเรียกว่ายอดฝีมือซ่อนกายผู้ใช้ชีวิตอยู่นอกตระกูล

ในที่สุดของทางเดินเป็นโถงกว้างใหญ่

ในใจกลางโถงกว้างใหญ่เป็นสระน้ำกลมขนาดใหญ่รัศมีสองร้อยเมตรน้ำในสระเปล่งกลิ่นอายแปลกประหลาด และที่อยู่ข้างสระมีบุรุษชุดดำคนหนึ่งกำลังโยนสมุนไพรลงสระ

“บุ๋มๆๆ...” น้ำในสระไหลเวียนต่อเนื่อง

“นี่คือสระมังกร” บุรุษศีรษะโล้นพูดด้วยน้ำเสียงดังฟังชัด “รอสักครู่ก่อนจนกว่าข้าจะบอกพวกเจ้า”

ขณะที่เขาพูดบุรุษศีรษะโล้นพลิกมือดึงอัญมณีขนาดกำปั้นออกมาอัญมณีขนาดกำปั้นนี้เปล่งประกายสีฟ้าเลือนรางและบุรุษศีรษะโล้นโยนลงไปในสระมังกรโดยตรง

“จ๋อม!” อัญมณีตกลงไปในสระน้ำ

สิ่งที่แปลกก็คือ...

สระมังกรเรืองแสงสีฟ้าและเริ่มเจิดจ้าบาดตาจากนั้นน้ำทั่วสระมังกรเริ่มมีฟองพล่าน และน้ำปล่อยฟองเดือดพล่านตลอด  พลังงานสีฟ้าของคลื่นที่ปรากฏบนผิวน้ำมากมายราวกับมีมังกรฟ้าตัวเล็กบิดตัวอยู่

“พอแล้ว, พวกเจ้าทุกคนลงไปได้แล้ว”บุรุษศีรษะโล้นพูดตามปกติ

“พวกเจ้าคอยจับตาดูแทนข้า”ผู้อาวุโสโล้นมองเจ้าหน้าที่ศีรษะโล้นชุดดำ“หลังจากพิธีชุบตัวเสร็จสิ้นเก็บอัญมณีมังกรมาคืนเรา”

“ขอรับ ท่านผู้อาวุโส” เจ้าหน้าที่ชุดดำหัวโล้นคำนับตอบรับเขา

“ไปกันเถอะ”ผู้อาวุโสโล้นและบุรุษหนุ่มรูปงามหัวเราะและแยกจากไป  พิธีชุบตัวต้องใช้เวลาที่นานผู้อาวุโสทั้งสองไม่รออยู่เฉยๆ แน่

บุรุษโล้นชุดดำถลึงตามองกลุ่มทั้งยี่สิบแปดคนทันที  “พวกเจ้าทุกคน ลงไปได้”

“สระมังกรน่ะหรือ?” ลินลี่ย์จ้องมองพลังงานสีฟ้าที่เดือดพล่านข้างหน้าเขาสระมังกรกำลังเปล่งแสงสีฟ้าแพรวพราว  เขากระโดดลงไปในสระมังกรโดยตรงเคลื่อนไปข้างหน้าราวกับประกายไฟ ขณะที่อีกยี่สิบเจ็ดคนก็ลงเดินหน้าลงสระขนาดใหญ่ข้างหน้าด้วยเช่นกัน

ยี่สิบแปดคนลงไปอยู่ในสระมังกร

“โรวววววว!” ทั่วทั้งสระมังกรมีเสียงมังกรคำรามแปลกประหลาด  เสียงคำรามที่สั่นสะท้านวิญญาณ ขณะเดียวกันแสงสีฟ้าแพรวพราวที่เปล่งออกมาจากสระมังกรฉายไปทั่วทุกทิศเริ่มหมองลงและพลังงานสีฟ้ามหาศาลบนผิวสระหมุนวนเข้าหาและท่วมคนทั้งยี่สิบแปดคน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด