ตอนที่แล้วข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 58 มหาจักรพรรดินี? จงคุกเข่าลง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 60 คลื่นใต้น้ำในแผ่นดินหนานโจวลึกสุดหยั่ง

ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 59 มนุษย์หรืออสูร


ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 59 มนุษย์หรืออสูร

ฉินเค่ออวิ๋นคุกเข่าลงกับพื้น ใบหน้าที่สวยงามของนางซีดเซียว รูปลักษณ์ที่บอบบางและน่าสมเพชของนางไม่มีร่องรอยของคนที่เป็นฐานะเป็นจักรพรรดินีอีกต่อไป

ฉู่เซวียนนั่งบนเก้าอี้และมองลงไปที่นาง

แสงบนดวงตาของเขาหมุนวน

วิชาส่องความลับสวรรค์!

ในตอนนั้น ความแข็งแกร่งของเขายังไม่เพียงพอ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถสืบหาต้นกำเนิดของฉินเค่ออวิ๋นได้อย่างเต็มที่ได้

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาอยู่ในขอบเขตจักรพรรดิขั้นที่เก้าแล้ว

“ฉินเค่ออวิ๋นการกลับชาติมาเกิดในฐานะจักรพรรดินีอสูร เป็นวิญญาณของอสูรจิ้งจอก ครั้งหนึ่งเคยเป็นสัตว์อสูรจิ้งจอกขาวของจักรพรรดิต้าฉิน การฝึกฝนของนางอยู่ในขอบเขตจักรพรรดิขั้นที่เก้าก่อนที่นางจะตาย และวิญญาณของนางก็ได้หลบหนีไปจนได้เกิดใหม่ในสายเลือดของราชวงศ์ฉิน ผ่านฉินปิงเซี่ย...”

ในขณะนี้ ฉู่เซวียนได้เข้าใจในต้นกำเนิดของฉินเค่ออวิ๋นอย่างชัดเจน

เขาไม่ได้คาดหวังว่าฉินเค่ออวิ๋นจะเป็นสัตว์อสูรจิ้งจอกของจักรพรรดิต้าฉิน!

ในชีวิตที่แล้ว การฝึกฝนของนางอยู่ที่ขอบเขตจักรพรรดิขั้นที่เก้า

ส่วนจักรพรรดิต้าฉินเคยเป็นยอดฝีมือขอบเขตสูงสุด

เป็นจักรพรรดิในหมู่จักรพรรดิ รู้จักกันในนานราชันย์!

จากชาติที่แล้วของฉินเค่ออวิ๋น เจ้านายของนางจักรพรรดิต้าฉินนั้นคือบรรพบุรุษของตระกูลฉินและเป็นยอดฝีมือผ้โด่งดังในยุคโบราณ

อย่างไรก็ตาม ฉู่เซวียนนั้นไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับยอดฝีมือโบราณมาก่อน

เขาได้อ่านบันทึกประวัติศาสตร์มานับไม่ถ้วนเกี่ยวกับแผ่นดินหนานโจวและบันทึกทั่วไปทุกประเภท ทว่าไม่มีบันทึกของจักรพรรดิต้าฉินเลยแต่อย่างใด

เขายังคงใช้วิชาส่องความลับสวรรค์ต่อไป เขากำลังค้นหาต้นกำเนิดของการตายของฉินเค่ออวิ๋น

สิ่งที่ทำให้ฉู่เซวียนประหลาดใจก็คือฉินเค่ออวิ๋นได้ตกตายอย่างไม่คาดคิดตอนที่สงครามมารโบราณเริ่มขึ้น วิญญาณของนางได้หลบหนีไปได้และนางได้ซ่อนตัวอยู่ในดินแดนบรรพชนของตระกูลฉินเพื่อนอนหลับก่อนจะได้เกิดใหม่ในท้องของฉินปิงเซี่ย

จากสิ่งนี้ จะเห็นได้ว่าจักรพรรดิต้าฉินเองก็น่าจะตกตายไปในช่วงสงครามมารโบราณเช่นกัน

ก่อนการต่อสู้จะเกิดขึ้นนั้น แผ่นดินหนานโจวอาจเป็นที่ตั้งของจักรวรรดิต้าฉิน

บางทีความแข็งแกร่งของจักรพรรดิต้าฉินอาจเกินกว่าขอบเขตสูงสุดด้วยเสียด้วยซ้ำ

ฉินเค่ออวิ๋นตัวสั่น นางไม่รู้ว่าเพราะอะไรเช่นกัน ทว่านางรู้สึกราวกับว่าฉู่เซวียนนั้นได้มองทะลุนางปรุโปร่ง

นางรู้สึกราวกับว่าเส้นผมทุกเส้นของนางถูกดวงตาของฉู่เซวียนจับจ้อง

ฉินเค่ออวิ๋นรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่มาจับตัวฉู่เซวียน เหตุใดนางถึงไม่ยับยั้งชั่งใจตัวเอง?

อย่างไรก็ตาม เขาก็หน้าดีจริง ๆ

ทว่าใครจะไปรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาจะเป็นสัตว์ประหลาดเก่าแก่!

ใช่แล้ว!

ตอนนี้ฉินเค่ออวิ๋นเชื่อว่าฉู่เซวียนเป็นสัตว์ประหลาดเก่าแก่ที่กลับชาติมาเกิดเช่นกัน และนางยังสงสัยอีกว่าเขาคือบรรพบุรุษของตระกูลฉู่ที่ฟื้นคืนชีพมา

“ในชีวิตนี้เจ้าคือมนุษย์หรืออสูร?”

เสียงที่ไพเราะของฉู่เซวียนดังขึ้น

ร่างกายของฉินเค่ออวิ๋นสั่นสะท้านและนางก็เริ่มเชื่อในสิ่งที่นางคาดเดา

เขารู้เรื่องชาติที่แล้วของนางจริง?

“ข้าเป็นมนุษย์!”

ฉินเค่ออวิ๋นกล่าวด้วยเสียงต่ำ “ข้าไม่ใช่อสูร ในชีวิตนี้ข้าเป็นเพียงมนุษย์!”

ฉู่เซวียนถอนกลิ่นอายของเขาและกล่าวอย่างใจเย็นว่า “ในเมื่อเจ้าเป็นมนุษย์ ก็จงลุกขึ้น”

“ข้าไม่กล้า ฉินเค่ออวิ๋นแสดงความเคารพต่อท่านฉู่ซุน!”

ฉินเค่ออวิ๋นยังคงคุกเข่าอยู่กับพื้น

“ฉู่ซุน?”

ฉู่เซวียนหัวเราะเบาๆ และกล่าวว่า “ข้าไม่ใช่สัตว์ประหลาดเก่าแก่เช่นนั้น แล้วนับประสาอะไรกับบรรพบุรุษของตระกูลฉู่”

ฉินเค่ออวิ๋นตกตะลึง ไม่ใช่สัตว์ประหลาดเก่าแก่?

ไม่ใช่บรรพบุรุษของตระกูลฉู่?

เป็นไปได้อย่างไร?

เขาเป็นเพียงชายหนุ่มจริง ๆ หรือ?

เหตุใดเขาถึงแข็งแกร่งเพียงนี้?

“ลุกขึ้น ท้ายที่สุดแล้วเจ้ายังเป็นมหาจักรพรรดินีของต้าฉิน”

ฉินเค่ออวิ๋นยืนขึ้นและก้มศีรษะลงด้วยใบหน้าน่ารักน่าชัง

มันเหมือนกับครั้งแรกที่ฉู่เซวียนได้เจอนาง

นางไม่มีความสง่างามของมหาจักรพรรดินีแห่งราชวงศ์ฉินอีกต่อไป

“มหาจักรพรรดินี เจ้าต้องการทำอะไร”

ฉู่เซวียนชี้ไปที่กาน้ำชาและซูเซียนเอ๋อร์ก็เริ่มเตรียมชาทันที

“นั่งก่อน”

ทันใดนั้นเก้าอี้ก็ปรากฏขึ้นหน้าโต๊ะน้ำชา

ฉินเค่ออวิ๋นรู้สึกลังเล เก้าอี้นี้ถูกสร้างขึ้นจากพลังวิญญาณของฉู่เซวียน

จะมีปัญหาอะไรหรือไม่หากนางนั่งบนนั้น?

เมื่อนึกถึงความแข็งแกร่งและวิธีการของเขา เหตุใดเขาจึงต้องทำเช่นนี้?

นางนั่งลงบนเก้าอี้อย่างเบามือ

เมื่อเห็นเช่นนั้นซูเซียนเอ๋อร์เม้มริมฝีปากของนาง “เจ้าช่างโชคดีเสียจริง ข้าจะรินชาให้เจ้า”

หลังจากที่ชงชาเสร็จแล้ว ซูเซียนเอ๋อร์ก็รินชาสามถ้วย

ซูเซียนเอ๋อร์รู้ว่าชาของฉู่เซวียนไม่ได้ธรรมดา มันสามารถทำให้จิตใจรู้สึกสดชื่นและหล่อเลี้ยงวิญญาณศักดิสิทธิ์ได้

หากคนใดที่ได้ผนึกรวมวิญญาณศักดิสิทธิ์ของตนแล้ว ชานี้จะไปหล่อเลี้ยงวิญญาณศักดิสิทธิ์ของบุคคลนั้นได้

มันเป็นสมบัติที่หายากแม้จะอยู่ในจงโจว

ฉู่เซวียนจิบชาและกล่าวว่า “เชิญดื่ม นี่คือชาที่ดีและมันดีสำหรับตัวเจ้าเอง”

วิญญาณอสูรจิ้งจอกของฉินเค่ออวิ๋นนั้นอยู่ในสภาพหลับใหลมานานจนถึงตอนนี้ อันที่จริงมันค่อนข้างอ่อนแออย่างมาก ความทรงจำมากมายจากชาติที่แล้วก็พร่ามัวเนื่องจากการหลับใหลเป็นเวลานาน

ชานี้จะสามารถชำระวิญญาณของนางและช่วยให้นางฟื้นคืนความทรงจำได้

ฉินเค่ออวิ๋นจิบชาเล็กน้อย นางรู้สึกถึงกลิ่นหอมหวานที่อ้อยอิ่งอยู่รอบตัวของนาง ก่อนที่นางจะรู้สึกถึงความสบายมาห่อหุ้มวิญญาณของนาง

ความทรงจำที่คลุมเครือและพร่ามัวบางอย่างของนางก็พลันชัดเจนขึ้นทันที

ดวงตาของนางเป็นประกายเมื่อรู้ว่าชานี้ไม่ใช่ชาธรรมดา

นางดื่มชาจนหมดในอึกเดียวและขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะที่นางลิ้มรสมัน

หลังจากที่ฉินเค่ออวิ๋นดื่มมันเสร็จ ฉู่เซวียนก็ถามขึ้น “เกิดอะไรขึ้นที่สนามรบมารโบราณ?”

แผ่นดินหนานโจวกลายเป็นพื้นที่แห้งแล้ง เส้นชีพจรปฐพีพังทลายและกฎแห่งฟ้าดินก็ได้รับความเสียหาย ทั้งหมดนี้เกิดจากสงครามมารโบราณครั้งนั้น

ฉู่เซวียนมีความรู้จำกัดเกี่ยวกับสงครามนี้

เขาไม่สามารถหาบันทึกเกี่ยวกับสงครามนี้จากหอจันทร์ทมิฬได้อีกแล้ว

ในเมื่อฉินเค่ออวิ๋นมาถึงที่นี่ เขาย่อมต้องใช้โอกาสนี้เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสงครามรบมารโบราณ

สนามรบมารโบราณเป็นสนามรบที่เกิดจากมหาสงครามกับเผ่ามาร

เหตุผลที่เขาให้น้ำชาอันล้ำค่าแก่ฉินเค่ออวิ๋นก็เพื่อช่วยให้นางนึกถึงความทรงจำในอดีตชาติ โดยเฉพาะรายละเอียดเกี่ยวกับสงครามครั้งนั้น

ฉินเค่ออวิ๋นนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะนึกถึงความทรงจำในชีวิตที่ผ่านมาของนางและกล่าวว่า “อันที่จริงแล้ว เรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน”

นางกลัวว่าฉู่เซวียนจะเข้าใจนางผิดและเชื่อว่านางกำลังปกปิดข้อมูลอยู่ นางจึงรีบกล่าวเสริม “ข้าเป็นเพียงสัตว์เลี้ยงเผ่ามาร ดังนั้นข้าจึงไม่รู้อะไรมากขนาดนั้น”

“บอกข้าในสิ่งที่เจ้ารู้”

ฉู่เซวียนเอนหลังนอนลงบนเก้าอี้ของเขาและกลับมาทำตัวขี้เกียจเหมือนเดิม

“ข้าจำได้ลาง ๆ ว่าก่อนทำสงครามกับมาร ท่านฉินซุนรู้สึกโกรธเกรี้ยวอย่างมากและเขากล่าวว่า ‘ทรยศ เผ่ามนุษย์มีคนทรยศ พวกมันสมควรตาย’ หลังจากนั้นท่านฉินซุนก็ออกไปพร้อมกับยอดฝีมือเพื่อลงมือบางอย่าง…”

ในชีวิตที่แล้วของฉินเค่ออวิ๋น นางเคยเป็นสุนัขจิ้งจอกสีขาวตัวน้อย เป็นสัตว์อสูรที่จักรพรรดิต้าฉินรักมากที่สุดและนางมักจะติดตามและอยู่เคียงข้างเขาเสมอ

อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้นฉินเค่ออวิ๋นได้ถูกทิ้งไว้ในดินแดนบรรพชนของตระกูลฉิน และจักรพรรดิต้าฉินก็ได้เตรียมแผนสำรองไว้สำหรับฉินเค่ออวิ๋นพร้อมกับวิธีการเปิดแท่นบูชาในดินแดนบรรพชนของตระกูลฉิน

ในตอนที่เผ่ามารรุกราน ยอดฝีมือของเผ่ามนุษย์เข้าต่อต้าน ทว่าจักรพรรดิต้าฉินกลับไม่ได้ปรากฏตัว

เนื่องจากก่อนเริ่มสงครามกับเผ่ามาร จักรพรรดิต้าฉินและยอดฝีมือคนอื่น ๆ ได้ตกตายไปก่อนเสียแล้ว

ลูกแก้ววิญญาณที่ถูกทิ้งไว้ในจักรวรรดิต้าฉินได้แตกสลายไป

ก่อนที่เผ่ามารจะรุกราน แคว้นต้าฉินก็ตกอยู่ในความวุ่นวายแล้ว และจักรพรรดิต้าฉินคนใหม่ก็ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้ เมื่อเผ่ามารได้เข้ารุกราน แคว้นต้าฉินอันก็ถูกทำลายไปอย่างสมบรูณ์

ลูกหลานของจักรพรรดิต้าฉินถูกสังหารเกือบทั้งหมด ฉินเค่ออวิ๋นได้ปกป้องลูกหลานของตระกูลฉินบางส่วนและนำพวกเขาไปซ่อนไว้ในดินแดนบรรพชน ทว่านางก็ยังได้เสียชีวิตในการต่อสู้กับยอดฝีมือของเผ่ามาร

โชคดีที่จักรพรรดิต้าฉินได้เตรียมแผนสำรองไว้ให้นางก่อนหน้า และสามารถทำให้นางหลบหนีและซ่อนตัวอยู่ในดินแดนบรรพชนของตระกูลฉินเพื่อหลับใหลได้

“ในเวลานั้น การบุกรุกของเผ่ามารเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป มันทำให้เผ่ามนุษย์ไม่ทันตั้งตัว และดูเหมือนว่าจะมีเผ่ามนุษย์บางคนได้ทรยศและล่อเผ่ามารมาที่นี่”

ฉินเค่ออวิ๋นกล่าวต่อว่า “จักรพรรดิต้าฉินอาจสิ้นเสียชีวิตในตอนที่พยายามหยุดมนุษย์ที่ทรยศเผ่าพันธุ์และล่อเผ่ามารมาที่นี่”

“ความแข็งแกร่งของแคว้นฉินในตอนนั้นเป็นอย่างไร?”

ฉู่เซวียนรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่ประวัติศาสตร์บางส่วนจะสูญหายไปหลังจากสงครามกับเผ่ามาร

“ในตอนนั้นมีเพียงแคว้นเดียวในแผ่นดินหนานโจวซึ่งเป็นจักรวรรดิต้าฉิน!” ฉินเค่ออวิ๋นกล่าวอย่างภาคภูมิใจ

ฉู่เซวียนค่อนข้างประหลาดใจ จักรวรรดิต้าฉินโบราณได้รวมแผ่นดินหนานโจวให้เป็นปึกแผ่นได้?

แคว้นที่ทรงพลังเช่นนั้นกลับได้หายไปจากบันทึกประวัติศาสตร์โดยสิ้นเชิง บางทีอาจจะเป็นฝีมือของใครบางคน

และผู้ที่ลบล้างประวัติศาสตร์ส่วนนี้ของราชวงศ์ฉินได้ต้องเป็นหนึ่งในขุมอำนาจชั้นนำในแผ่นดินหนานโจว ผู้ต้องสงสัยรายแรกที่ฉู่เซวียนนึกถึงก็คือจักรวรรดิต้าเฉียนที่ซึ่งมีประวัติศาสตร์มาช้านาน

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด