ตอนที่แล้วตอนที่ 7 ปืน ธนู และการเผชิญหน้าที่ตึงเครียด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9 แหวนพลัง

ตอนที่ 8 คำขอร้องของร้อยเอก


ตอนที่ 8 คำขอร้องของร้อยเอก

ผู้ติดเชื้อประมาณ 100 กว่าได้พังประตูเข้ามาในห้อง แต่สิ่งที่พวกมันพบก็มีเสียงกองเลือดที่พื้นเท่านั้น หลายตัววิ่งเข้าไปและเลียเลือดที่พื้นอย่างบ้าคลั่ง ส่วนตัวอื่น ๆ พากันสูดดมตามกลิ่นเลือดไปก็พบว่าเหยื่อของมันหายไปที่หน้าต่าง

เรนกับพวกที่เหลือพากันหนีไปกันสาดที่หน้าต่าง พวกโดยมีร้อยเอกก้องมาด้วย

ห้องชมรมอยู่ถัดไปไม่ไกล ซึ่งในอาคารส่วนนี้จะเป็นสถานที่รวมกันของชมรมต่าง ๆ และห้องกิจการนักศึกษาที่คอยทำกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งระดับคณะและระดับมหาวิทยาลัย

“ห้องนี้แหละ” เรนเปิดหน้าต่าง แต่พบว่ามันล็อกอยู่

“ฉันเอง” ธันวาใช้ขวานงัดไปที่ขอบหน้าต่างจนในที่สุดก็งัดหน้าต่างเปิดจนได้

เรนเข้าไปคนแรกและยืนมือไปรับร้อยเอกก้องที่บาดเจ็บลงมา พอเข้ามาได้ร้อยเอกก้องก็ทิ้งตัวลงนอนกับพื้นด้วยสีหน้าซีดขาว

คนอื่น ๆ ตามเข้ามา

ห้องชมรวมไม่ได้กว้างมากนัก เพราะส่วนใหญ่แล้วชมรมธนูไว้ใช้เก็บอุปกรณ์ยิงธนูเท่านั้น เวลาฝึกซ้อมกันจริง ๆ จะไปยิงกันที่สนามกีฬาของมหาวิทยาลัยแทน

“เรนนายต้องมาดูนี่” ตอนนั้นธันวาเรียกเรนให้ไปดูที่หน้าต่าง

“ฝากดูเขาที กล่องประถมพยาบาลอยู่ที่ตู้นั้น” เรนบอกกับอาจารย์สาวและไอรา

ไอราเดินไปหยิบเอากล่องปฐมพยาบาลที่ตู้มาให้อาจารย์สาวได้ทำแผลให้กับร้อยเอกก้อง

“มีอะไร” เรนเดินมาที่หน้าต่าง

ธันวาชี้ให้เขาดูที่ถนนด้านล่าง เรนมองไปก็เห็นว่าอาจารย์โอยังไม่ตายและนักศึกษาสองคนก็ตามไป พวกนั้นกำลังไปที่รถฮัมวีที่ทหารจอดทิ้งไว้ และก็เป็นเป้าหมายของพวกเขาก่อนหน้าด้วย

“พวกนั้นคงจะพยายามขโมยรถเพื่อหนีไปจากที่นี่” ธันวาพูดขึ้นมา

“ร้อยเอกกุญแจรถอยู่ที่ไหน” เรนหันไปถาม

“อยู่...ที่รถ” ร้อยเอกก้องใช้แรงตอบกลับไป

เรนขมวดคิ้วทันที ก่อนจะพูดต่อว่า “พวกเขามีโอกาสน้อยมากที่จะไปถึงรถ”

แต่ตอนนั้นเองก็เกิดเรื่องขึ้นที่ด้านล่าง มีกลุ่มผู้ติดเชื้อเข้ามาทำร้ายพวกเขาสามคน อาจารย์โอที่บาดเจ็บและมีเลือดไหลอยู่แล้วจึงเป็นเป้าหมายหลักของพวกมัน

“ฉันไม่ยอมตายหรอก” อาจารย์โอใช้มีดพกที่โดนทหารปาใส่ก่อนหน้าแทงไปที่หลังของนักศึกษาชายที่พยายามช่วยเขา

ทำให้นักศึกษาชายคนนั้นร้องด้วยความจบและล้มไปกับพื้น ส่วนนักศึกษาหญิงก็กรีดออกมาเธอจึงดึงดูดความสนใจของผู้ติดเชื้อไปด้วย

อาจารย์โอเห็นโอกาสรอด เขารีบวิ่งไปที่รถและปล่อยให้นักศึกษาสองคนนั้นกลายเป็นเหยื่อล่อพวกผู้ติดเชื้อ

เรนจ้องด้วยแววตาเย็นชาต่อการกระทำของอาจารย์โอ

“ไอ้ชั่วนั่น” ธันวาพูดด้วยเสียงลอดไรฟันออกมาอย่างไม่พอใจสุด ๆ

อาจารย์โอขึ้นไปบนรถฮัมวีก่อนจะสตาร์ทเครื่องรถและขับชนผู้ติดเชื้อหลายคนจนออกไปจากมหาลัยได้สำเร็จ นี่ยิ่งทำให้เรนและธันวาไม่พอเข้าไปอีกที่ชายคนนั้นหนีไปได้

“เกิดอะไรขึ้น” ไอราลุกขึ้นมาถาม

“อาจารย์โอเอารถหนีไปแล้ว” ธันวาบอกกับไอรา

“พอกเขารอดออกไปแล้วอย่างนั้นเหรอ” ไอราถามด้วยความประหลาดใจ

“ไม่มีแค่อาจารย์โอคนเดียว ส่วนที่เหลืออยู่ตรงนั้น” ธันวาชี้ไปที่จุดหนึ่ง ผู้ติดเชื้อจำนวนมากรวมตัวกันอยู่ตรงนั้น

ไอราคาดเดาได้ทันทีว่าสองคนนั้นคงกลายเป็นอาหารให้กลุ่มผู้ติดเชื้อเหล่านั้น

“ช่างมันเถอะ เดี๋ยวค่อยหาทางทีหลัง” เรนปิดหน้าต่างและเดินไปดูอาจารย์สาวและร้อยเอกก้อง

“คุณเป็นยังไงบ้าง” เรนถาม

“พวกคุณเก็บยาไว้เถอะ ผมไม่รอดแล้ว” ร้อยเอกก้องบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง

อาจารย์สาวหันกลับมามองเรนอย่างหมดปัญญา ร้อยเอกก้องไม่ยอมให้เธอทำแผล

“หมายความว่ายังไงคุณก็แค่มีแผลที่แขน” เรนถามด้วยความสงสัย เขาไม่เข้าใจทำไมร้อยเอกก้องถึงยอมแพ้แบบนี้

ตอนนั้นเองเรนก็เห็นว่าตาของร้อยเอกก้องเปลี่ยนไป มันมีเลือดไหลซึมออกมาที่ต่อมน้ำตา

“เลือด ร้อยเอกคุณติดเชื้อ” เรนพูดด้วยความตกใจ

“หรือว่าแผลนั้นเป็นแผลโดนกัดอย่างนั้นเหรอ” อาจารย์สาวถอยหลังหนีด้วยความตกใจ

“ไม่ใช่ นั้นแผลโดนยิง แต่ผมติดเชื้อมาก่อนหน้านั่นแล้ว” ร้อยเอกก้องเปิดเสื้อขึ้นมาทำให้เห็นว่าที่หน้าอกมีผ้าพันแผลปิดอยู่ ร้อยเอกก้องดึงผ้าพันแผลออกก็พบกับแผลโดนกัดอยู่หนึ่งรอย

เรนและคนอื่น ๆ งงว่ามันเป็นไปได้ยังไง

“คุณโดนกัดแต่รอดมาได้ยังไง ทำไมไม่กลายเป็นผู้ติดเชื้อตั้งแต่แรก” เรนถามด้วยความสงสัย คนอื่น ๆ ก็อยากจะรู้เช่นกัน

ร้อยเอกก้องหันไปที่กระเป๋าที่เขาใช้กุญแจมือล็อกติดกับมันไว้และพูดว่า “ในกล่องนั้นเปิดออกมา รหัสคือ 6903”

ธันวาเข้าไปหยิบกล่องออกมา ก่อนจะเปิดตามรหัสที่ร้อยเอกก้องบอก พอกระเป๋าถูกเปิดก็เผยให้เห็นยา 4 เข็ม ถูกใช้ไป 2 เข็มแล้ว

“ผมกำลังจะตายแล้ว จะเก็บความลับไว้ก็ไม่มีประโยชน์บางทีสิ่งนี้อาจจะทำให้พวกคุณรอดไปได้ พวกมันคือยาที่ใช้ในการต้านเชื้อที่ระบาดอยู่ตอนนี้ รัฐบาลได้ค้นพบพวกมันและสร้างยาพวกนี้ขึ้นมา ผมไม่รู้รายละเอียดมากนัก แต่ที่รู้คือเชื้อพวกนี้มีช่องโหว่พวกมันจะติดกับคนส่วนใหญ่ แต่บางคนก็มีภูมิต้านเชื้อได้เองตามธรรมชาติ เราพบคนหนึ่งและสร้างยานี้ขึ้นมาได้ แต่มันไม่ดีพอจะทำลายเชื้อ เพราะเวลาเรามีไม่พอ”

“ยานี่สิ่งที่ได้จากการวิจัยพวกนั้น มันคือยาเร่งภูมิร่างกาย ช่วยให้ต้านเชื้อได้ชั่วคราว ทั้งผมและจ่าชุนติดเชื้อแล้ว พวกเราฉีดมันทัน แต่ทหารในหน่วยอื่น ๆ ฉีดมันไม่ทันก่อนจะกลายร่าง”

“ยานี่มีจุดอ่อนอยู่พอร่างกายบาดเจ็บเชื้อจะกระจายเร็วขึ้น ต่อให้ฉีดอีกก็ไม่ช่วยอะไร”

ผู้กองก้องกำลังจะตาย เสียงของเขาอ่อนแอลงเรื่อย ๆ

“เอากระเป๋านี่ไปที่ขบวนผู้อพยพ พวกเขาอยู่ที่จุดพักรถถนน 404 ถ้ารีบไปพวกคุณอาจจะยังไปทันก่อนที่พวกเขาจะถอนกำลังกลับออกไป เอาไปให้หน่วยทหารที่นั่นแทนผม ถ้าคุณทำแบบนั้นพวกเขาจะช่วยพวกคุณอพยพไปด้วย จำเอาไว้เอากระเป๋านี้ไปให้พวกเขา เพราะทหารอพยพจะไม่อนุญาตให้คนนอกรายชื่ออพยพไปกับพวกเขา ถ้าคุณมีกระเป๋าใบนี้ไปด้วยทหารพวกนั้นจะต้องพาคุณและพวกไปยังค่ายลี้ภัยแน่นอน”

“รับนี่ไป” ร้อยเอกก้องเอาแม็กกาซีนของปืนพกกึ่งอัตโนมัติ เอ็ม 1911 ให้เรน 2 แม็กและบอก “นายยิงธนูแม่นมาก น่าจะยิงปืนแม่นด้วย หวังว่าจะเอากระเป๋าไปถึงมือทหารนะ”

พอเรนรับแม็กกาซีนทั้งสองมา ร่างของร้อยเอกก้องก็กระตุกอย่างต่อเนื่อง ร้อยเอกก้องกำลังกลายร่าง

คนอื่น ๆ ถอยออกมาในทันที

เรนหยิบเอาธนูของตนเองมาและลูกธนู ก่อนจะใช้โอกาสที่ร้อยเอกก้องยังกลายร่างไม่สมบูรณ์ยิงลูกศรเจาะทะลุเบ้าตาไปยังสมอง

ร่างของร้อยเอกก้องหยุดขยับและตายไปอย่างเงียบ ๆ

เรนมีสีหน้าที่นิ่งเฉยมาก เขาวางธนูของตนเองด้านข้าง ก่อนจะนั่งลงเพื่อพักข้าง ๆ ศพของร้อยเอกก้อง

ไอราเดินไปหาผ้าขนหนูที่อยู่ในห้องมาปิดศพของร้อยเอกก้องไว้

ทุกคนเงียบให้กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในใจของพวกร้อยเอกก้องเป็นมนุษย์ ส่วนพวกผู้ติดเชื้อที่ตายไปพวกเขาไม่ใช่ผู้ติดเชื้อแล้ว การได้มาเห็นคนเป็น ๆ ตายต่อหน้าแบบนี้ โดยเฉพาะทหารแบบร้อยเอกก้อง มันทำให้พวกเขารู้สึกเหนื่อยล้าในใจ

“เก็บของกันเถอะ เรายังต้องไปกันต่อ” ธันวาลุกขึ้นมาและพูดกับทุกคน โดยเฉพาะเรน

“อืม เราต้องไปกันต่อ” เรนพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะพูดต่อว่า “ในตู้นั้นมีขนมอยู่ น่าจะช่วยรองท้องพวกเราได้”

ธันวาเดินเข้าไปเปิดตู้ ก่อนจะหาขนมด้านใน มันเป็นพวกขนมช็อกโกแลตสอดไส้ถั่วมันเป็นห่อใหญ่ ด้านในมีอยู่ 24 ชิ้น ธันวาแจกคนละ 2 ชิ้นและเหลืออีก 16 แท่ง ธันวายัดมันเข้าไปในกระเป๋าเป้ด้านหลังของตนเอง

ธันวาแกะขนมกินในทันที ไอราก็กินตาม เรนเองก็กิน อาจารย์สาวมองไปที่ศพของร้อยเอกก้องและขนมในมือ สีเลือดที่ไหลออกมานั้นคล้ายกับสีช็อกโกแลต

“คุณไม่กิน จะไม่มีแรงนะ” เรนหันไปพูดกับอาจารย์สาว

“อืม” อาจารย์สาวพยักหน้าและเริ่มกิน

“อาจารย์ชื่ออะไรเหรอคะ” ไอราถามขึ้นมา เพื่อทำให้สถานการณ์ผ่อนคลายลง อีกอย่างตั้งแต่หนีมาด้วยกันก็ยังไม่มีใครรู้ชื่ออาจารย์คนใหม่นี้เลย

“อาจารย์ชื่อ หลิน” อาจารย์หลินบอกชื่อของเธอออกไป

“อาจารย์พึ่งย้ายมาใหม่เหรอคะ อาจารย์สอนคณะอะไร อาจารย์โสดใหม่” ไอราถามต่อ

“เออ...ตอนนี้โสดนะ แล้วก็สอนคณะบริหารธุรกิจ” อาจารย์หลินตอบไปอย่างอาย ๆ

ขณะที่ท้องสองคนกำลังคุยกันอยู่นั้น เรนก็เดินเข้าไปที่ตู้หนึ่ง มันถูกล็อกไว้

“ธันยืมขวานหน่อย” เรนหันไปหาธันวา

ธันวาส่งขวานให้กับเรน เรนรับมาและใช้ขวานงัดไปที่แม่กุญแจ ไม่ถึงนาทีแม้กุญแจก็ถูกงัดจนหลุด

“ด้านในมีอะไร” ธันวาถามขณะที่รับเอาขวานกลับมา

“ธนู” เรนเปิดตู้ออกมา ก็พบกับกระเป๋าธนูอยู่ใบเดียว

“หมายความว่ายังไง ใครเอาธนูคันอื่น ๆ ไปกัน” เรนพูดด้วยความตกใจ ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ วันนี้มีซ้อมที่สนามมหาวิทยาลัย คนอื่น ๆ น่าจะเบิกคันธนูที่ใช้ส่วนรวมไป

“เรนมีอะไร” ธันวาเดินเข้ามาดูที่ตู้ด้วย “มีแค่นี้เหรอ”

“อืม มีแค่นี้ ดูเหมือนวันนี้ชมรมจะไปซ้อมยิงกันที่สนามกีฬา พวกนั้นคงเอาไปใช้กัน” เรนกล่าว ก่อนจะยื่นมือไปหยิบคันธนูออกมา

“พอเรนเปิดกระเป๋าดูก็พบว่านี่คือธนูรีเคิร์ฟ มีแรงดึงถึง 50 ปอนด์ แรงดึงของมันหนักคนอื่น ๆ จึงไม่ชอบใช้เจ้านี่ แต่กลับกันสถานการณ์ในตอนนี้ของแรง ธนูคันนี้เหมาะมาก” เรนพอใจที่พวกนั้นเหลือธนูคันนี้ไว้ให้

“นายจะใช้มันไหม” เรนหันไปถามธันวา

“ไม่ดีกว่าฉันไม่เคยฝึกยิงธนู ต่อให้เอามายิงก็คงสู้ขวานในมือไม่ได้” ธันวากล่าวด้วยรอยยิ้มและเหวี่ยงขวานไปมา

“คือว่าฉันขอใช้มันได้ไหม” อาจารย์หลินเดินเข้ามาถาม

“อาจารย์เคยยิงธนูมาก่อนเหรอ” เรนถามด้วยความประหลาดใจ

“อืม สมัยอยู่มัธยม แต่เลิกเล่นไปนานแล้ว” อาจารย์หลินกล่าว

เรนพยักหน้าตกลงและยื่นธนูไม้คันที่เขาใช้ก่อนหน้านี้ให้กับเธอ อาจารย์หลินรับมาและลองดึงดู ธนูคันนี้มีแรงดึงที่ 40 ปอนด์ทำให้เธอต้องออกแรงสักหน่อย แต่ว่าก็พอดึงมันได้

“ธันวาช่วยงัดตู้นั้นที แล้วเอาลูกธนูออกมาให้หน่อย ในนั้นมีกระเป๋าใส่ลูกธนูอยู่ด้วย” เรนหันไปขอให้ธันวาช่วย

ธันวาจัดการให้ตามคำขอของเรน ด้านในมีลูกธนูอยู่จำนวนมาก พวกมันถูกเก็บไว้เป็นชุด ชุดละ 6 ลูก

“เอาอันในสุด มันอยู่ลึกหน่อย” เรนบอกขณะที่ทำการประกอบธนูและติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้มัน

ตอนแรกเขาคิดว่าจะใช้ตัวถ่วงด้วย แต่มาคิดดูแล้วมันไม่เหมาะสักเท่าไหร่ในการใช้งานที่ต้องหนีไปด้วยยิงไปด้วย อีกอย่างเรนมีสิ่งที่เรียกว่ารูนิกลางสังหรณ์บอกกับเขาอยู่ ทำให้เขาแทบจะไม่ยิงพลาดเลย

เรนเอากระเป๋าธนูไม้รีเคิร์ฟและใช้กระเป๋าเป้ของธนูคันใหม่ กระเป๋าเป้นี้เหมือนกระเป๋าเป้ทั่วไป แถมด้านบนมันมีกระบอกเก็บลูกธนูเพิ่มมาด้วย เรนหยิบลูกธนูใส่ไปทั้งหมด 30 ลูก

“อาจารย์ใช้กระเป๋าเป้นี้” เรนไปหากระเป๋าเป้ธนูอันเก่าที่อยู่ด้านในมาให้อาจารย์หลินอีกใบ เธอจัดการใส่ลูกธนูแบบที่เรนทำ ตอนนี้แต่ละคนมีลูกธนูคนละ 30 ลูกแล้ว

“เรนเอาไงกับลูกธนูที่เหลือ” เรนถาม เหลือลูกธนูอีก 5 ชุดหรือก็คือ 30 ลูก

“เอามาใส่กระเป๋าฉันก็ได้ ฉันจะถือไปให้เอง” ไอราเสนอตัว เธอพยายามทำตัวให้เป็นประโยชน์ เพื่อช่วยเหลือทุกคนให้มากที่สุด ไอรารู้ว่าธนู 30 ดอกหมายถึงกระสุนที่หยุดผู้ติดเชื้อ 30 ตัว มันมีความสำคัญมาก

“ได้” เรนตกลง

ธันวาก็ไม่มีปัญหาอะไร ที่จริงเขาอยากจะแบกมัน แต่กลัวว่าตอนที่สู้ระยะประชิดลูกธนูพวกนี้จะเกะกะเอาได้

“ไอราเอานี่ไปด้วย” เรนส่งปืนเอ็ม 1911 ให้กับไอรา

“นี่มัน นายแน่ใจเหรอ” ไอราถาม

“ไว้กับฉันก็ยังไม่ได้ใช้ อีกอย่างเธอควรมีของไว้ป้องกันตัวบ้าง แต่ว่าถ้ายังไม่จำเป็นจริง ๆ อย่าพึ่งใช้พวกมัน เพราะเสียงปืนจะดึงดูดพวกมันในระยะไกลมา” เรนพูดกับเธอ ก่อนจะหันไปมองธันวา ธันวาพยักหน้ากลับมาด้วยความขอบคุณที่เรนให้ปืนกับไอรา

“ฉันจะใช้อย่างระวัง” ไอรารับไว้ด้วยความยินดี

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด