ตอนที่แล้วตอนที่ 555 พัฒนาการ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 557 คนแคระน้ำเงิน

ตอนที่ 556 หนุ่มชาวฟ้า ลุยลุยลุย


ทะเลหิน บุรุษผู้ตื่นเต้นทั้งสี่คนเก็บกวาดไปทุกที่ที่ผ่านไปและเก็บรวบรวมทรัพย์สิน

มีหนอนดำมากมายและพวกเขาก็ได้รับกรวดทองมากมายแต่เตาหลอมสายเลือดในตัวถังเทียนไม่สนใจของพวกนี้อีกต่อไปไม่ว่าถังเทียนพยายามจะทำยังไงก็ตาม เตาหลอมสายเลือดก็ไม่รับกรวดทองอีกต่อไป ถังเทียนสันนิษฐานว่าร่างของเขาดูดซับกรวดทองไว้มากพอแล้วจึงไม่สามารถซึมซับได้อีกต่อไป

ถังเทียนจึงได้แต่เฝ้าดูขณะเสี่ยวเอ้อช่วยจิ่งหาวอาเฮ่อและหลิงซิ่วเสริมพลังอาวุธจิตวิญญาณของพวกเขา

กรวดทองกลับมีความสามารถที่โดดเด่นในการเปลี่ยนแปลงโลหะต่างๆกระบี่ดื่มเลือดเซียน,ปีกมารของอาเฮ่อและหอกเงินของหลิงซิ่วล้วนได้รับการปรับปรุงพลังทั้งสิ้น

การปรับปรุงเลื่อนระดับเป็นเรื่องน่าทึ่งและสมบัติวิญญาณทั้งหมดแข็งแกร่งขึ้นอย่างมากมาย

สิ่งที่ทำให้ถังเทียนตกใจก็คือแม้แต่ลุงปิงก็เอาพยัคฆ์ฟ้าออกมาและขอให้เสี่ยวเอ้อช่วยเสริมพลังให้มันถังเทียนยังจำสีหน้าที่น่ารักของเสี่ยวเอ้อที่ตกตะลึงเมื่อเผชิญกับพยัคฆ์ฟ้าขนาดมหึมาสีหน้าของเขาเขียวคล้ำทันที

แต่ก่อนที่เขาจะปฏิเสธ ถังเทียนโบกมือและยอมรับ

เสี่ยวเอ้ออยากจะร้องไห้เพลิงเกียรติยศชาวยุทธเหลืออยู่เล็กน้อย

มงกุฎเกียรติยศชาวยุทธเป็นสมบัติที่สมาพันธ์ชาวยุทธสร้างเป็นพิเศษและเป็นสมบัติดีชนิดหนึ่ง เพลิงเย็นที่เสี่ยวเอ้อเคยใช้ไม่อาจเข้ากันได้กับเขาอีกต่อไป  สำหรับการเข้ากันได้กับมงกุฎเกียรติยศชาวยุทธ เสี่ยวเอ้อต้องเปลี่ยนแปลงพิเศษด้วยการ์ดวิญญาณวิชาเพลิงเกียรติยศชาวยุทธ

เพลิงเกียรติยศชาวยุทธก็คือการ์ดวิญญาณส่วนตัวของสมาพันธ์ชาวยุทธ  แต่เมื่อเทียบกับแสงสางยังคงด้อยอยู่  ตราบใดที่ใครๆยินดีจะขุดเงินจำนวนมหาศาลพวกเขาสามารถหาซื้อมาจากตลาดได้  การ์ดนี้ความจริงเมอร์เรย์มอบให้มา  แม้ว่าพวกเขาจะพ้นจากแสงลงทัณฑ์  แต่พวกเขาไม่สามารถฝึกวิชาวิญญาณของสมาพันธ์ชาวยุทธได้อีกต่อไป

พวกเขาตัดสินใจเดินตามเส้นทางร่างพลังกายเป็นศูนย์ดังนั้นการ์ดวิชาจิตวิญญาณจึงไม่มีค่าสำหรับพวกเขาอีกต่อไป

ตามที่ศึกษาและค้นคว้าตามแผนงานพญาหมีอย่างต่อเนื่องและด้วยความสำเร็จของผู้ทดลองชุดแรกอย่างหลิงซิ่ว, อาเฮ่อและจิ่งหาวจึงมีคนมากมายเดินตามวิถีเช่นนี้ในกลุ่มดาวหมีใหญ่ในอนาคต

เพลิงเกียรติยศชาวยุทธไม่ค่อยมีอิทธิพลเด็ดขาดเลยกับนุ่มนวลและเยือกเย็น แต่ผลที่ได้โดดเด่นมากเมื่อเทียบกับเพลิงเย็น และด้วยจุดเริ่มต้นร่วมกัน พลังจึงมีทวีคูณเมื่อเพลิงเกียรติยศชาวยุทธถูกใช้ร่วมกับมงกุฏเกียติยศชาวยุทธ

เทียบกับเพลิงมารของถังเทียนเพลิงเกียรติยศชาวยุทธของเสี่ยวเอ้ออ่อนแอกว่า การหลอมเมล็ดทองและผสานเข้ากับสมบัติจิตวิญญาณไม่ใช่งานง่ายสำหรับเขา  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสริมพลังให้พยัคฆ์ฟ้าไม่เคยมีใครทำกับอาวุธจักรกลวิญญาณเหมือนกับสมบัติจิตวิญญาณ ไม่ต่างกับสร้างใหม่ความสามารถของเสี่ยวเอ้อในการใช้เพลิงเกียรติยศชาวยุทธยังตื้น เพลิงสายเล็กๆกับพยัคฆ์ฟ้าขนาดมหึมา แม้แต่จิ่งหาวก็ยังรู้สึกสงสารเสี่ยวเอ้อ

เสี่ยวเอ้อไม่มีทางเลือกได้แต่เสริมพลังให้ครั้งละส่วน จำเป็นต้องใช้เวลายี่สิบวันต่อครั้ง กินเวลามากกว่าที่ใช้เสริมความแข็งแกร่งให้สมบัติของจิ่งหาวและคนอื่น

พยัคฆ์ฟ้าสีฟ้าเดิมในตอนนี้ถูกรมด้วยชั้นสีดำบางๆกลายเป็นสีน้ำเงิน แม้ว่าจะไม่สว่างสดใสเหมือนอดีต แต่มีพลังเพิ่มขึ้น

หลังจากดูดซึมกรวดสีทองความแข็งแรงของพยัคฆ์ฟ้ามากขึ้นอย่างน่าประหลาด เว้นแต่การใช้วิชาจิตวิญญาณแล้วถังเทียนยังไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนบนตัวพยัคฆ์ฟ้าได้

ลุงปิงรู้สึกร่าเริงและสรรเสริญเป็นการใหญ่

แม้ว่างานจะชุกแต่ก็ทำให้เสี่ยวเอ้อก้าวหน้าในการใช้เพลิงเกียรติยศชาวยุทธ  ในเวลายี่สิบวันค่าวิญญาณของเพลิงเกียรติยศชาวยุทธเพิ่มขึ้นเป็น 120 จากเดิมที่เป็นเพลิงอ่อนตอนนี้มีขนาดเท่ากำปั้น

เวลาหนึ่งเดือนผ่านไปซึ่งทุกคนล้วนแสวงหาและก้าวหน้า

แต่ทุกคนผิดหวังเนื่องจากพวกเขาไม่พบหินดำหรือไข่หนอนอีกต่อไป

ทะเลหินดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุดเนื่องจากถังเทียนและพวกยังคงมองหาหนอนดำต่อไป พวกเขาไม่เร่งและไม่ชักช้า แต่หลังจากเดินหน้าไปเป็นเวลาหนึ่งเดือนฉากภาพที่อยู่ข้างหน้าดูเหมือนจะเปลี่ยนไป

ถ้าไม่ใช่เพราะดวงตาเซกซ์แทนส์พวกเขาคงจะหลงอยู่ในทะเลก้อนหินอีกนาน แต่ถึงอย่างนั้นความรู้สึกไม่มีที่สิ้นสุดนี้บั่นทอนกำลังใจทุกคน โชคดีที่ทั้งสี่คนมีความมานะบากบั่นและไม่ย่อท้อ

กรวดทองเข้มไม่ได้ใช้อีกต่อไป  แต่พวกเขายังคงพบเจอขณะเดินทางและจากนิสัยของพวกเขา พวกเขายังคงเก็บเกี่ยวต่อไป

ต้องบอกว่าไม่มีอะไรดีไปกว่าการร่วมต่อสู้จริงๆเพื่อการพัฒนา ช่วงเวลาสั้นๆ หนึ่งเดือน แม้ว่าศัตรูจะมีแต่พวกหนอน แต่ความสามารถและพลังของพวกเขาก็แสดงออกว่าก้าวหน้า

ร่างเงาดำพรั่งพรูบินใส่พวกเขาเหมือนลูกศรกราดเกรี้ยว

หลิงซิ่วแทงหอกของเขาตามปกติ ปลายหอกปลดปล่อยรังสีเงินนับไม่ถ้วนห่อหุ้มหนอนทันที  หลิงซิ่วเคลื่อนไหวหอกอย่างนุ่มนวลทำให้จุดรังสีเงินเคลื่อนไหวต่อเนื่องทันที เหมือนกับแส้เงินที่หวดใส่หลังหนอนและหนอนทั้งหมดถูกแช่แข็ง

เผียะ เผียะ เผียะเสียงระเบิดเป็นกลุ่มดังขึ้นขณะที่กลุ่มหนอนถูกแช่แข็ง  พลังของหลิงซิ่วไหลเข้าไปในตัวหนอน  แม้ว่าพวกมันจะดูเหมือนไม่ได้รับบาดเจ็บ  แต่เนื้อและอวัยวะภายในทั้งหมดถูกกระแทกจนเละ

หลิงซิ่วควงหอก จากนั้นตะโกน  “เสี่ยวเอ้อ!”

ควั่บ หนอนดำทั้งหมดเหมือนเมฆดำบินเข้าหาเสี่ยวเอ้อ

พอดีเวลานั้น เสี่ยวเอ้อดึงมงกุฏเกียรติยศชาวยุทธกะโหลกทองคายเพลิงขาวออกมา ดึงซากหนอนเข้าไปในกะโหลก

เสี่ยวเอ้อหลับตาและผนึกไว้หลายครั้ง

หลังจากนั้นชั่วครูภายในเบ้าตาทั้งสองของกะโหลกทอง  แสงสีขาวสองสายสว่างวูบและลูกกลมสีทองเล็กลอยออกมาตกลงในมือของเสี่ยวเอ้อ

แม้ว่าจะใช้ประโยชน์อะไรได้ไม่มาก แต่เพื่อไม่ให้สูญเปล่าหนอนทั้งหมดที่พวกเขาพบในเส้นทางจะถูกหลอมเป็นกรวดทองกลม

“นี่มันช่างโง่!”  หลิงซิ่วโกรธ “ทุกวัน ทั้งหมดที่เราพบมีแต่พวกหนอน หนอน หนอนเหล่านี้ทำเอาข้าอยากจะอ้วกทุกครั้งที่เจอพวกมัน”

อาเฮ่อตอบอย่างเกียจคร้าน “แต่เจ้ามักเป็นคนแรกที่ลงมือก่อนใคร เจ้าเห็นนี่ ตอนนี้เราเกียจคร้านเกินกว่าจะลงมือทำอะไร”

“ลงมือมันน่าเบื่อก็จริง  ไม่ลงมือสิน่าเบื่อยิ่งกว่า!”  หลิงซิ่วหงุดหงิดเขาควงหอกและแทงใส่ก้อนหินแตกระเบิดเป็นชิ้น “ถ้าให้ดีที่สุดให้เราพบกับคนที่แข็งแกร่งทรงพลังตอนนี้ จะทำให้ข้าดีใจที่ต่อสู้”

จิ่งหาวฝืนหัวเราะ “พวกเจ้าปากไม่เป็นมงคลเอาเสียเลย

ขณะนั้นทุกคนรู้สึกแตกต่างไปบ้าง พวกเขามักจะเดินทางเข้าไปในที่ว่างมืดซึ่งไม่มีแสง แม้ว่าถังเทียนและตาของเขาจะสามารถเห็นได้ราวกับเป็นกลางวันแต่ก็ยังมืดและเป็นอวกาศดำ

จนกระทั่งในเวลานี้พวกเขาจึงตระหนักได้ทันทีว่าต่อหน้าพวกเขามีแสงเลือนลาง

ทั้งสี่คนมองหน้ากันเองแสดงสีหน้าที่ระมัดระวัง

พวกเขาลดความเร็วและบินไปช้าช้าขณะที่พวกเขายังคงไปข้างหน้าต่อ แสงที่อยู่ข้างหน้าเริ่มสว่างขึ้นทุกที

เมื่อพวกเขาผ่านหินก้อนสุดท้ายไป  พวกเขาตะลึงกับสิ่งที่อยู่ข้างพวกเขา  แสงสีฟ้าสายตาทั้งหมดของพวกเขาปกคลุมไปด้วยแสงสีฟ้า

แสงสีฟ้าถูกแยกออกจากทะเลหินอย่างชัดเจน แต่จุดสำคัญคือไม่ว่าจะไกลเพียงไหนแต่สายตาของพวกเขาสามารถเห็นได้  มันไร้ขอบเขต

“อะไรกันนี่?”  ถังเทียนพึมพำ

“มันคือพลังงานรูปแบบหนึ่ง” สีหน้าที่ปกติจะใจเย็นของจิ่งหาวเต็มไปด้วยความตกใจ  “พลังงานมากมายนัก...”

“โลกนี้มีทะเลพลังงานจริงๆ....”  อาเฮ่อพูดไม่ออกต่อไป

หลิงซิ่วมองดูแสงสีฟ้าไร้ขอบเขต

เสี่ยวเอ้อและปิงตกใจจนพูดไม่ออกพอกัน

หลังจากผ่านไปนานกลุ่มก็เริ่มตั้งหลัก  ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความสงสัย

“พลังงานแปลกประหลาดนี้ข้าไม่เคยเห็นพลังงานที่ไม่รุนแรงแต่กลับมีความมั่นคงแทน  ในมือของอาเฮ่อ มีสายรังสีฟ้าลอยอยู่   มันคือบางอย่างที่เขาดึงออกมาจากทะเลแสงสีฟ้า

“ใช่แล้ว มันมั่นคงมากจริงๆ” จิ่งหาวยังคงรับรู้ถึงพลังแปลกอย่างระมัดระวัง  “แต่มันยังคงถูกขับออกมาจากร่างของเรา  นับเป็นปาฏิหาริย์จริงๆ  ทะเลพลังงานที่กว้างใหญ่นี้  ข้าสงสัยว่าจะมีอะไรอยู่ข้างใน   นั่นคือจุดที่ข้าสนใจอย่างแท้จริง”

“น่าสนใจ, ยังไงก็ตามเราก็แค่ลุยเข้าไป!” หลิงซิ่วกระตือรือร้นจะเข้าไป

ถังเทียนผงกศีรษะ  “เสี่ยวซิ่วซิ่วพูดถูก  เนื่องจากเราไม่เคยเห็นที่อย่างนี้มาก่อนและเราจำเป็นต้องผ่านเข้าไป เราไม่ควรจะคิดอะไรมาก!”

จิ่งหาวและอาเฮ่อมองหน้ากันเองและได้แต่ฝืนหัวเราะให้กับความไร้เดียงสาของทั้งสองคน ไม่มีใครรู้ว่าอะไรอยู่ข้างในพลังงานแปลกประหลาด  มันประกอบด้วยอะไร และมีลักษณะอย่างไร  และสำหรับทะเลพลังงานกว้างขวางไร้ขอบเขต  จะมีอะไรสามารถอยู่ข้างในได้?  นั่นอาจทำให้ผู้คนยำเกรงอย่างแท้จริง

“นั่นก็จริงไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม เราจำเป็นต้องผ่านเข้าไปอยู่ดี!”  จิ่งหาวพูดทันที เนื่องจากการเดินทางของพวกเขาสู่ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์พวกเขาไม่สามารถถอยกลับได้  แม้ว่าแสงสีฟ้าจะอันตราย  พวกเขาก็ยังต้องผ่านเข้าไปอยู่ดี

อาเฮ่อสะบัดมือและพูดด้วยท่าทางดีใจ  “ข้ามักจะโดนฉุดลากเข้าไปในเรื่องแบบนี้อยู่เรื่อย”

“ไปกันเถอะ!” ถังเทียนประกาศและกลุ่มพวกเขาบินเข้าหาแสงสีฟ้า

แสงสีฟ้าเหมือนผนังขนาดใหญ่  แผ่ออกมาจำกัดสายตาของพวกเขามันเหมือนกับทะเลแสงสีฟ้า กว้างใหญ่พอๆ กับทะเลโขดหิน

ขณะบินเข้าไปใกล้แสงสีฟ้า   ถังเทียนและพวกเริ่มรู้สึกว่าพวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่เล็กกระจ้อยร่อย

แม้ว่าทุกคนจะไม่ลังเล แม้ว่าถังเทียนจะเพ่งสมาธิถึง120%  เสี่ยวเอ้อ ปิงและหยาหยาซ่อนอยู่ในตัวเขาทั้งหมด แสงสีฟ้าคือพลังงานรูปแบบหนึ่ง และร่างของเขาสามารถขับไล่พลังงานได้  ดังนั้นจึงอันตรายไม่มาก แต่ก็อาจพัฒนาไปเป็นอันตรายสำหรับเสี่ยวเอ้อและปิง

“ทุกคน, อยู่ใกล้ๆและมัดรอบตัวเอาไว้”

ถังเทียนดึงเชือกยาวออกมา เชือกยาวเส้นนี้คือแส้เงินมันมีความเหนียวมาก เนื่องจากถังเทียนเคยลองทำลายมาก่อนแต่ไม่ได้ผล  เขาเกรงว่าพวกเขาอาจพลัดกัน

“ข้าจะนำเอง!”  จิ่งหาวกล่าว

ถังเทียนส่ายศีรษะกล่าวด้วยเสียงมุ่งมั่น “ทุกคนตามข้ามา  แน่นอนข้าจะต้องอยู่หน้าอยู่แล้ว และข้ายังจำเป็นต้องใช้ดวงตาเซกซ์แทนส์นำทางพวกเราด้วย”

“อย่างนั้นก็ระวังด้วย”  จิ่งหาวตอบ  “ถ้าเจ้าพบอันตรายใดๆให้กระตุกเชือกด้วย”

พลังที่ไร้ขอบเขต เต็มไปด้วยพลังประหลาด  ไม่ว่าเซียนคนหนึ่งจะแข็งแกร่งเพียงไหน  เมื่อเผชิญหน้ากับมันก็รู้ว่าตนเองเล็กลงทันที

“ได้!”  ถังเทียนยิ้มกว้าง  “วางใจได้  เราจะสามารถผ่านตรงนี้ไปได้แน่  ไม่มีอะไรที่หยุดหนุ่มชาวฟ้าผู้นี้ได้”

“ใช่แล้ว!”อาเฮ่อหัวเราะ  “จะมีอะไรที่หยุดคนห้าวได้เล่า?  ไม่มีเลยจริงๆ!”

“ผิดแล้ว!”  หลิงซิ่วพูดอย่างอารมณ์ดี  “มีอย่างหนึ่งที่หยุดเขาได้!”

อาเฮ่อสับสน  “ยังมีอะไรหยุดเขาได้อีก?”

“เชียนฮุ่ย!”  หลิงซิ่วหัวเราะก๊าก  “เสี่ยวเฮ่อ, เจ้ายังไม่ฉลาดเท่าข้าจริงๆ ด้วย....”

อาเฮ่อพูดไม่ออก

จิ่งหาวอดยิ้มไม่ได้ ความเครียดในหัวใจของเขาคลายตัว บางครั้งได้รวมกลุ่มกับพวกสมองน้อยก็เป็นเรื่องดีเหมือนกัน

ทั้งสี่คนใช้แส้ยาวเชื่อมกันไว้ ถังเทียนเหยียดแขนหันหน้าไปทางทะเลแสงสีฟ้า  “เฮ้, หนุ่มชาวฟ้าเตรียมวิ่งเข้าใส่แล้วนะ”

หลิงซิ่ว  “ฆ่าฆ่าฆ่า!”

อาเฮ่อ  “เจ้าแน่ใจนะว่าเจ้ายังเป็นหนุ่มชาวฟ้าที่ไม่เหลวไหล?”

จิ่งหาว “ความจริง เราสามารถคิดฉายาที่ดีมีความหมายมากกว่าก็ได้นะ...”

ถังเทียนหัวเราะลั่นและพุ่งเข้าไปหาทะเลแสงสีฟ้าทันใด ทั้งสี่คนกลายเป็นริ้วสี่สายพุ่งเข้าหาทะเลแสงสีฟ้าที่กว้างใหญ่ทันที

“หนุ่มชาวฟ้า..ลุย ลุย ลุย!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด