ตอนที่แล้วตอนที่ 548 งานเลี้ยง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 550 นี่คือกลุ่มดาวหมีใหญ่

ตอนที่ 549 บุ่มบ่ามเป็นมาร


“ข้าไม่มีเวลาจริงๆ!” ถังเทียนอธิบายให้โส่วจิงเหมือนกับว่าชีวิตของเขาขึ้นอยู่กับมัน  “ข้าจะต้องไป...”

โส่วจิงพยายามตัดบทเขา “ข้าขอเวลาเพียงสิบนาที สิบนาทีเท่านั้น! กับงานราตรีสโมสรอย่างนั้นถ้าฝ่าบาทไม่ปรากฏตัว  อย่างนั้นจะเป็นการผิดธรรมเนียมต่อคนทุกระดับ!  ทั้งกับงานใหญ่กับคณะทูตานุทูตจากหลายกลุ่มดาว ทั้งหมดนั้นเป็นคนสำคัญจากกลุ่มของพวกเขา ถ้าฝ่าบาทไม่ปรากฏตัว แล้วเราจะอธิบายแก้ต่างให้ได้ยังไง?”

โส่วจิงแสดงสีหน้าว่า “ถ้าเจ้ากลุ่มดาวยังคงยืนกราน  อย่างนั้นนั้นเขาจะตายเพื่อแสดงความจริงใจ”ทำให้ถังเทียนรู้สึกปวดหัว โส่วจิงเป็นคนดีทุกอย่าง แต่เมื่อถึงคราวยืนกราน ต่อให้กระทิงเปลี่ยวเก้าตัวก็ฉุดเขาไม่อยู่

โส่วจิงจับตัวถังเทียนแน่นและไม่ยอมปล่อยมือไม่ว่ายังไงก็ตาม  ขณะที่ผี่ผาแอบขำอยู่ข้างๆ

ถ้าเป็นคนอื่น ถังเทียนคงอาละวาดทุบตีไปแล้ว  แต่โส่วจิงมีร่างกายอ่อนแอและปกติถังเทียนไม่กล้าแตะต้องเขา  ถ้าขาดมือขาดเท้าอย่างโส่วจิงไปนั่นนับเป็นปัญหาใหญ่เลยทีเดียว

ถังเทียนตะลึงอยู่กับที่เมื่อโส่วจิงจับตัวเขาไว้  เขาไม่กล้าใช้กำลังใดๆ ได้แต่ยอมตามเขา  “ก็ได้ 10 นาที  แค่ 10 นาทีเท่านั้นนะ ไม่มีแถมแม้แต่วินาทีเดียว  10 นาทีเท่านั้น!”

โส่วจินทวนคำทันที “ข้าต้องการเวลาฝ่าบาทเพียงสิบนาทีเท่านั้น!”

ดีแล้ว เอาตามนั้น...

ถังเทียนแอบฉลองในใจ เขาอยู่ห่างจุดนัดพบกับเชียนฮุ่ย 15 นาที ถ้าถึงเวลาแล้วถังเทียนจะไม่สนใจเรื่องคณะทูตของกลุ่มดาวจะมีอะไรนักหนาเมื่อเทียบกับเรื่องของเชียนฮุ่ย!

ภายใต้การฉุดลากของโส่วจิงถังเทียนฉีกยิ้มแล้วค้างเอาไว้ในทุกที่ๆ เขาปรากฏตัว

“ไฮ้..สวัสดีทุกท่าน!”

“สบายดีนะ  สบายดีไหม!”

“ช่าย ช่ายช่ายแล้ว ยินดีที่ได้พบปะทุกท่าน ยินดีที่ได้พบทุกท่าน!”

……

ถังเทียนต้อนรับทุกคนเหมือนกับเครื่องจักรกระแสผู้คนปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าเขา ใบหน้าที่จู่ๆ ก็ยื่นเข้ามาใกล้ ทำให้เขาตกใจเสียงที่ดังจอแจไม่รู้จักจบสิ้นทำให้ถังเทียนปวดหัวและเบื่อหน่าย  อีกนิดเดียว ถังเทียนพึมพำในใจ  เขารู้สึกจะเป็นลม สติของเขากำลังจะหลุดเหมือนกับว่าเขาอยู่ในสนามรบและมีศัตรูอยู่ทุกที่รายล้อมเขาหนาแน่นไปหมด

ข้ารู้สึกเหมือนอยากกวาดล้างสถานที่ให้หมด...

โชคดีที่ถังเทียนไม่สูญเสียสติ  เนื่องจากเขารู้ตัวว่ายังอยู่ในงานเลี้ยง

บุ่มบ่ามเป็นมาร บุ่มบ่ามเป็นมาร.. แต่เป็นมารก็แข็งแกร่งดีนี่  จะเอายังไงดีหว่า...

ถังเทียนยังคงแปะยิ้มไว้บนใบหน้า  แต่ในใจของเขานับเวลาถอยหลังเช่นกัน  ไม้ตายนับถอยหลังของข้าคือ... ไม่นะ, รอเดี๋ยว,นับเวลาถอยหลังอีก 10 นาที...

เทียบกับเขาแล้วอาเฮ่อที่อยู่ด้านข้างยังดูสุภาพและสง่างามยิ้มอย่างสดใสหมดจดเหมือนลมในฤดูใบไม้ผลิ  ท่าทางของเขางามสง่าดึงดูดสายตาหลายคู่ได้เป็นอย่างดี หลิงซิ่วสวมชุดนักรบพาหนะน้ำแข็งเงินสีขาวขลิบทองยืนตัวตรงแน่วเหมือนคันทวนด้วยสีหน้าที่เย็นชามองดูเหมือนครูฝึกที่สง่างามแต่โหดห้าวมีแต่เว่ยเว่ยอันที่อยู่ใกล้ตัวอยู่ในใจเขาเท่านั้น

ถังเทียนผู้น่าสงสารถูกโส่วจิงคล้องแขนฉุดดึงไว้แน่นคล้ายเกรงว่าเขาจะหลุดหนีหายไป

“เฮ้, ถังเทียน!”

อังเดรผมทองสะดุดตาของถังเทียน  ในที่สุดก็ได้พบคนที่เขาคุ้นเคยบ้าง  ถังเทียนถอนหายใจ  “อังเดร, เจ้าก็มาเหมือนกัน”

“ดูสีหน้าของเจ้า ดูเหมือนเจ้าจะไม่สนุกกับงานนี้เลย”  อังเดรพูดตามตรง  นอกจากคนอื่นที่เรียกเขาว่าฝ่าบาทมีอังเดรนี่แหละที่เรียกชื่อถังเทียนโดยตรง ทั้งสองคนเคยพบกันมาก่อนและนี่เองทำให้รู้สึกสนิทกันอยู่บ้าง

“ความจริงข้ายินดีออกไปต่อสู้ยังจะดีกว่า!” ถังเทียนเปิดเผยความรู้สึกและฝืนยิ้ม

เหลืออีกแปดนาที....

“ถูกแล้ว, สมรภูมิคือบ้านของลูกผู้ชาย!”  อังเดรมีท่าทางเข้าใจจากนั้นผลักสการ์เล็ตที่อยู่ข้างหลังเขามาข้างหน้า  “นี่คือสการ์เล็ตน้องสาวของข้า”

เมื่อสการ์เล็ตปรากฏตัวก็ดึงดูดสายตานับคู่ไม่ถ้วนได้ทันที ผู้คนที่รายล้อมถังเทียนเงียบเสียงลงทันที

สการ์เล็ตเป็นสตรีที่งดงามมากหลังจากผ่านการประทินโฉมอย่างละเอียดประณีต ผมบลอนด์ของนางหยักสลวยและชุดยาวผ้ามันระยับสีฟ้ามีภาพดวงอาทิตย์ฉายแสงทองทั่วแผ่นผืนทะเลที่ใสเหมือนผลึก ไหล่ที่เปลือยเผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าที่บอบบางประกอบกับอกที่เต็มอวบอิ่มของนางดูน่าลุ่มหลง  เอวที่โค้งคอดกิ่วของนางทำให้ผู้คนไม่สามารถละสายตาจากนางได้เลย

“คารวะหนุ่มชาวฟ้า!”

เสียงอบอุ่นยั่วยวนใจเหมือนสายน้ำดึงดูดใจผู้คนยิ่งนัก

แสงสีทองและความมันระยับจากชุดราตรีภายใต้แสงจันทร์ส่องสะท้อนเป็นพิเศษทำให้ถังเทียนไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เกิดความเงียบอย่างฉับพลัน เสียงของสการ์เล็ตทำให้หัวใจของถังเทียนที่กำลังเร่งเวลาแทบบ้ารู้สึกสะดุ้ง

รัศมีอะไร!

หรือว่าจอมมารจะออกมา...

ดวงตาของถังเทียนเป็นประกายแวววาว เกือบจะใช้วิชายุทธออกมาแล้วแต่เมื่อในที่สุดถังเทียนเห็นว่าเป็นใบหน้าของสุภาพสตรีคนหนึ่ง  เขาข่มความรู้สึกร้ายกาจในใจลงจนได้....

ช่างเป็นสมรภูมิที่น่ากลัวจริงๆ...

หลังของถังเทียนหลั่งเหงื่อเยียบเย็น ภาพที่อยู่ต่อหน้าเขาเป็นสมรภูมิที่น่ากลัวที่สุด  มีศัตรูแปลกประหลาดมากมายอยู่ตรงนั้นและเขายังต้องต่อสู้กับความชั่วร้ายในจิตใจ

เขาเกือบพ่ายแพ้ต่อมารในใจแล้ว... อันตรายนัก...

ถังเทียนยังมีความกลัวเหลืออยู่ในใจ  เขาฝืนยิ้มขณะทักทายสการ์เล็ต  “แม่นางสการ์เล็ต”

เหลือเวลาอีกเจ็ดนาทีครึ่ง

ทำไมเวลาถึงคืบคลานผ่านไปช้านัก

ถังเทียนไม่ได้รู้สึกว่า“เวลากำลังคืบคลาน”มานานแล้ว ในสถานที่ยุ่งเหยิงเช่นนั้น ช่างทรมานจริงๆ  เขาสัญญากับตนเองว่า จะไม่เข้าร่วมงานเลี้ยงใดๆอีกเลย  ให้เขาไปฝึกฝนหรือต่อสู้ดีกว่ากลับมายังที่ซึ่งน่ากลัวแบบนี้

“ร่างกายของหนุ่มชาวฟ้ารู้สึกไม่ดีหรือ?”  สการ์เล็ตถามด้วยความห่วงใย  “หน้าของเจ้าดูเหมือนจะซีดเล็กน้อย”

เสียงของนางอบอุ่นและน่าหลงใหลมากและมีแฝงด้วยความห่วงใย  บุรุษที่อยู่ใกล้ๆทุกคนแสดงอาการเหมือนกับมึนเมา

มันเกือบทำให้ข้าฆ่าเจ้าเสียแล้ว...

ถังเทียนเกือบโพล่งออกมา ก็ได้ สการ์เล็ตยังไร้เดียงสา  แต่นี่ไม่ใช่วิถีที่ควรเป็นหน้าของเขาแสดงรอยยิ้มซึ่งน่าเกลียดยิ่งกว่าร้องไห้เสียอีก  “ฮะฮะ, ข้าไม่ค่อยสบายเล็กน้อย  พวกท่านเชิญสนุกกันต่อนะ  ข้าจะไปทักทายทุกคนก่อน”

เหลืออีกเพียงเจ็ดนาที!

ก่อนที่ทั้งสองคนจะได้ทันตอบ ถังเทียนลอบพาโส่วจิงซึ่งจับมือเขาไว้แน่นและใช้มืออีกข้างหนึ่งแหวกขอทางคนข้างหน้าและเบียดฝูงคนออกไปอย่างรวดเร็วจากนั้นถามโส่วจิงเสียงอ่อย “เหลืออีกเจ็ดนาที รีบบอกมาจะให้ข้าไปทักทายใครอีก?”

เมื่อเห็นด้านหลังถังเทียนสีหน้าสการ์เล็ตกลายเป็นเย็นชา นางปฏิเสธบุรุษทุกคนที่ตามพัวพันนางและตามอังเดรไปที่มุมหนึ่ง

นางไม่ยอมละสายตาจากถังเทียนเลย

“อะไรกัน? เจ้าแพ้เสียแล้วหรือ?” อังเดรชูแก้วและมองร่างที่เหมือนหมดแรงของถังเทียนและหัวเราะเบาๆ  “นานแล้วนะตั้งแต่ข้าเห็นเจ้าทำสีหน้าพ่ายแพ้”

สการ์เล็ตเม้มริมฝีปากแน่น นางไม่เชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งแต่แรกถังเทียนยังมองนางอยู่เลยและนางไม่เคยพบประสบการณ์เช่นนั้นมาก่อน

นางใช้ความสามารถมากมายและคิดเรื่องการแต่งหน้าและทักทายเขา  หลังจากคิดอยู่นานนางคาดไม่ถึงว่าถังเทียนจะไม่ตื่นเต้น นางสามารถเห็นได้ว่าถังเทียนยิ้มให้นางอย่างสุดฝืนและยากลำบาก

นานแค่ไหนกันแล้วตั้งแต่นางเผชิญกับการทักทายที่เย็นชาอย่างนั้น

ไม่เคยมาก่อน!

ตั้งแต่อายุน้อยตราบใดที่นางยิ้มคนนับไม่ถ้วนล้วนยินดีจะทำทุกอย่างเพื่อนาง  รูปร่างนางงดงาม ทำให้นางเป็นคนพิเศษสุดในโลกและนางเชื่อว่านางสามารถข่มโลกได้

แต่, นางล้มเหลว

นางล้มเหลวจริงๆ

แรงกระทบใจครั้งนี้หนักขณะที่นางจับแก้วไว้แน่นนางใช้แรงมากโดยไม่รู้ตัวจนนิ้วของนางซีดขาว

ฉากภาพที่ปรากฏหลายคนได้เห็น  หมิงเยี่ยเลิกคิ้วความจริงสการ์เล็ตก็สดสวยงดงามจนแม้แต่นางก็ยังตะลึง  แต่ถังเทียนไม่ยอมมองดูนาง  นางมองดูหวีจีที่อยู่ข้างนาง  แม้ว่าหวีจีจะแตกต่างจากสการ์เล็ตก็ตามแต่หมิงเยี่ยรู้สึกว่าความคิดของเบื้องบนไม่มีทางสำเร็จได้

ถังเทียนรู้สึกละลานตาไปหมดและจำใครไม่ได้สักคนและมีสิ่งเดียวที่เขาทำก็คือนับเวลาอยู่ในใจ

เหลืออีกสองนาที

ทันใดนั้นมีเสียงหนึ่งดังแว่วเข้าหูเขา

“ข้าสงสัยจริงๆว่าฝ่าบาทจะรู้จักผู้อาวุโสกุ่ยอู๋หรือไม่?” บุรุษผมแดงจ้องมองตาถังเทียนที่มองตอบเขา และเขาลุกขึ้นพูด “ข้ากันหาวจากองค์การวิญญาณมืด”

ผู้อาวุโสกุ่ยอู๋!

ใจที่มึนชาของถังเทียนพลันตื่นตัวขึ้นทันที

กันหาวจงใจไม่ลดเสียงและผู้คนโดยรอบที่ได้ยินเสียงเขาตะลึงทันที กุ่ยอู๋ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสามเซียนสุดยอดขององค์การวิญญาณมืด  เพราะจู่ๆ กันหาวถามเรื่องนั้นขึ้น จึงเหมือนกับโยนระเบิดลงในท่ามกลางผู้คน

สถานะของกุ่ยอู๋ได้รับการเคารพนับถือเป็นอย่างมากถูกจัดอยู่ในสุดยอดสามเซียนในประวัติศาสตร์องค์การวิญญาณมืด ความคงอยู่ที่แข็งแกร่งขนาดนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถนึกเรื่องเช่นนี้ออกได้ในวันนี้

เรื่องนี้ทำให้ทุกคนคาดเดาไปต่างๆ นานาถังเทียนและผู้อาวุโสกุ่ยอู๋มีความเกี่ยวข้องกันยังไง?

ผู้อาวุโสจากคณะทูตของกลุ่มดาวคันชั่งตาเป็นประกายกันทุกคน พวกเขามักคาดเดาอยู่เสมอว่ากลุ่มดาวหมีใหญ่มีสมบัติมากมายและด้วยข้อสงสัยของกันหาวทำให้พวกเขาเห็นความเป็นไปได้ทันที

สถานที่เงียบลงทันที

หลายคนลอบตื่นเต้น จากตั้งแต่แรกสถานะและพื้นหลังของถังเทียนมักเป็นความลับอยู่เสมอ และไม่มีใครรู้เรื่องเขา  แต่ถังเทียนกลับรุ่งเรืองขึ้นมาด้วยความเร็วอย่างน่าทึ่งและทำให้โลกตกตะลึง  หลายๆคนลอบคาดเดาว่าถังเทียนมาจากที่ซึ่งมีเบื้องหลังยิ่งใหญ่  ถ้าไม่อย่างนั้นเขาจะกลายเป็นผู้ทรงอำนาจอิทธิพลอย่างนั้นได้ยังไง

“ผู้อาวุโสกุ่ยอู๋?” ถังเทียนย้อนถามโดยไม่รู้ตัว

แม้ว่าเขาพยายามดิ้นรนออกจากความวุ่นวาย  แต่สมาธิของเขาอยู่ที่การนับถอยหลังเหลืออีกหนึ่งนาทีสี่สิบห้าวินาที....

“ถูกแล้ว!”  กันหาวใจเย็นกล่าวอย่างไม่สะทกสะท้าน  ตาของเขาร้อนแรง “จำได้ว่ากระบี่ดื่มเลือดเซียนเป็นของสะสมของผู้อาวุโสกุ่ยอู๋ องค์การวิญญาณมืดได้ตรวจสอบยืนยันในบันทึกแล้ว  ข้าหวังว่าฝ่าบาทจะอธิบายว่าทำไมกระบี่ดื่มเลือดเซียนตกไปอยู่ในมือของจิ่งหาว?”

“อธิบาย?”  ถังเทียนมองดูกันหาวด้วยท่าทีแปลกประหลาด  “ทำไมข้าต้องอธิบายด้วย?”

กันหาวหรี่ตาของเขา “ฝ่าบาท, ผู้อาวุโสกุ่ยอู๋ คือเซียนเทพเจ้าในองค์การวิญญาณมืด! ของสะสมของผู้อาวุโสกุ่ยอู๋ก็คือสิ่งที่องค์การวิญญาณมืดของข้าบอกได้ว่าจะไม่นั่งเฉยทนดูมันตกไปอยู่ในเงื้อมมือของคนอื่น”

เหลืออีกหนึ่งนาทียี่สิบวินาที...

ก่อนที่ถังเทียนจะพูด หลงโส่วจิงซึ่งเกาะถังเทียนไว้ตลอดลุกขึ้นโดยไม่ลังเลตอบอย่างเย็นชา“ประการแรก ท่านมีคุณสมบัติเป็นตัวแทนองค์การวิญญาณมืดหรือไม่?  ประการที่สององค์การวิญญาณมืดพยายามจะคุกคามกลุ่มดาวหมีใหญ่ของข้าใช่หรือไม่?”

กันหาวโบกมือและหัวเราะ “ทำไมเจ้าถึงพูดอย่างนั้น ท่านโส่วจิง? ข้าก็แค่ต้องการชี้แจง ถ้าข้าเสียมารยาท ข้าหวังว่าท่านจะยกโทษให้ข้าด้วย

เหลืออีกหนึ่งนาที...

ถังเทียนซึ่งไม่ได้ใส่ใจ เตรียมพร้อมจะออกไปแล้ว

กันหาวหรี่ตา เมื่อเห็นว่าถังเทียนเตรียมจะเดินจากไป  เขาตะโกน “ฝ่าบาท ได้โปรดรอก่อน  ข้า...”

รังสีอำมหิตในใจของถังเทียนไม่สามารถข่มเอาไว้ได้ในที่สุด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด