ตอนที่แล้วตอนที่ 32 พลังของตระกูลอุจิวะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 34 การประชุมและการเมือง

ตอนที่ 33 การต่อสู้ที่ไม่มีผู้สูญเสีย


เมื่อถูกรายล้อมไปด้วยโจนินมากกว่า 10 คน ทางหนีดันโซก็ถูกปิดตาย

เนตรสุดท้ายในตาขวาของเขาค่อยๆปิดลง พร้อมกับจักระสำรองที่ค่อยๆหมดของเขา ดันโซไม่สามารถต้านทานการจู่โจมแบบผสานได้อีกต่อไป และถูกจับในที่สุด

ชายที่ชอบใช้ผนึกเพื่อผนึกผู้คน ในตอนนี้ชายคนนั้นกลับโดนผนึกให้ขยับไปไหนไม่ได้เสียเอง

ในที่สุด ทุกคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ผลที่ตามมาจากเหตุการณ์นี้ยังอีกยาวไกล นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น...

ฮิรุเซ็นมองเพื่อนเขาที่ถูกผนึกด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยก่อนจะมองฮิอาชิ ฟุงาคุ แล้วก็บาโคริโอะ "ทุกคนที่รู้จักวิชานินจาแพทย์ โปรดช่วยนินจาและชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บเริ่มต้นจากผู้ที่อยู่ในภาวะวิกฤตก่อน"

เช่นเดียวกับที่ฮิรุเซ็นพูด ผู้บัญชาการโจนิน นาระ ชิคาคุ พูดว่า "ท่านโฮคาเงะ ประชาชนไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เนื่องจากการแทรกแซงอย่างทันท่วงทีของกองกำลังตำรวจอุจิวะ สำหรับนินจาของเรา นอกจากหัวหน้าตระกูลอาบุราเมะแล้ว ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บสาหัสครับ"

เรื่องนี้สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคน เหตุการณ์น่ากลัวที่เกิดขึ้นในใจกลางหมู่บ้านด้วยการต่อสู้ของนินจาระดับคาเงะไม่ได้ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายแต่อย่างใด แต่มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเพียงคนเดียว...

ฮิรุเซ็นพร้อมกับคนอื่นๆ เช่น ผู้อาวุโสหหมู่บ้านและชิคาคุมีท่าทางที่สับสนในขณะที่มองไปที่ฟุงาคุ โดยจดจำพลังที่เขาแสดงออกมาและแผนการที่ชัดเจนเบื้องหลังทั้งหมดนี้...

ฮิรุเซ็นถอนหายใจเมื่อรู้ว่าการเบี่ยงเบนความสนใจไปที่ผู้บาดเจ็บไม่ได้ผล เขาจึงพูด "ดีใจที่ได้ยินแบบนั้น กองกำลังตำรวจอุจิวะของโคโนฮะทำได้ดีมาก" ก่อนที่จะพูดต่อ "พวกเราจะประชุมด่วน นอกจากคนที่บาดเจ็บหนักแล้ว ทุกคนจะต้องเข้าประชุม โปรดตามฉันมา.."

ขณะที่ฮิรุเซ็นหันกลับไปที่หอคอยโฮคาเงะที่เสียหายเล็กน้อยด้วยท่าทางสับสน นินจาอีกคนก็มองฟุงาคุเป็นครั้งสุดท้ายทั้งความกลัวและความเคารพ ก่อนที่พวกเขาจะเดินตามหลังฮิรุเซ็นไป

สำหรับบาโคริโอะ เขานั่งอยู่บนพื้นโดยมีฟุงาคุและฮิอาชิมองมาที่เขาด้วยสีหน้ากังวล ขณะที่นินจาแพทย์ที่เชี่ยวชาญกำลังพยายามประเมินอาการบาดเจ็บของบาโคริโอะ ทันใดนั้นนินจาแพทย์ก็ใช้คาถาเพื่อให้บาโคริโอะสลบไป เมื่อเขาเห็นว่าบาโคริโอะกระดูกหักไปกี่ซี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมือของเขาซึ่งช่วยลดความเจ็บปวดที่น่ากลัวที่เขาได้รับเนื่องจากบาโคริโอะพยายามอดทนความเจ็บปวดนั้นไว้ตลอดการต่อสู้

ต่อมา นินจาแพทย์บอกกับฟุงาคุว่า "เราต้องพาเด็กคนนี้ไปโรงพยาบาลเพื่อรักษากระดูกที่หักของเขา ฉันไม่มีเครื่องมือที่เหมาะสมในการรักษาเขาที่นี่"

ก่อนที่ฟุงาคุจะทันได้ตอบอะไร ฮิอาชิก็พูดไปแล้วว่า "ช่วยดูแลเขาด้วย ฉันจะส่งนินจาแพทย์ของฮิวงะไปด้วยเพื่อไม่ให้พลาดอาการบาดเจ็บที่อาจซ่อนอยู่"

ฟุงาคุมองฮิอาชิแล้วคิดว่า 'อะไรกันเนี่ย ไอ้สารเลวนี่กลายเป็นคนดีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่' แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป

บาโคริโอะไม่ได้ตอบอะไร เพราะยาสลบทำให้เขาเวียนหัว ร่างแยกเงาของเขาจึงตอบไปแทนว่า "ขอบคุณมาก คุณ ฮิอาชิ พวกคุณไปได้แล้ว ผมจะส่งร่างแยกไปกับคุณในการประชุม" และร่างแยกนั้นก็สร้างร่างแยกขึ้นมาอีกที เพราะเขาต้องการเข้าร่วมการประชุมนั้นจริงๆ

บาโคริโอะคิดว่า 'ในที่สุดแผนการจัดการกับพวกแก่บ้าอำนาจนั้นกำลังจะจบลงแล้ว...'

อันที่จริง เป้าหมายของแผนตั้งแต่ต้นคือทั้งสภาสูงสุดของหมู่บ้าน ไม่ใช่แค่ดันโซ และทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนตั้งแต่ต้น ตั้งแต่การที่นารูโตะแสดงท่าทีเป็นมิตรกับบาโคริโอะต่อหน้าทุกคน ไปจนถึงข้อมูลที่มินาโตะเปิดเผยกับฮิรุเซ็นว่าเขาแค่ช่วยพวกเขาและนารูโตะแต่ไม่เคยบอกว่าเขามีแผนจะปลดปล่อยคุรามะหรือชุบชีวิตพวกเขาด้วย และตอนนี้ เขาใช้อุปกรณ์ตัวเดียวกับที่ให้มุไคไป เพราะนารูโตะก็มีอุปกรณ์อันนั้นอยู่ด้วย...

ต่อไปเมื่อรู้ว่าเรื่องทั้งหมดกำลังจะเกิดขึ้น พวกเราเลยตัดสินใจด้วยวิธียิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว คือปล่อยให้การปกป้องประชาชนอยู่ที่กองกำลังตำรวจภายใต้การนำของทั้ง อินาบิ และ เทกกะ พร้อมด้วย ชิซุยและอิทาจิ เพื่อสนองความต้องการสันติภาพและให้พวกเขาได้รู้ถึงความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นว่าสถานการณ์เสี่ยงที่วางแผนไว้อย่างดีนี้จะปลอดภัยมาก และผลลัพธ์ก็ชัดเจน ... ไม่มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บเลย

บาโคริโอะยังบอกฟุงาคุเกี่ยวกับมิตรภาพของเขากับฮิาชิ ซึ่งทำให้เขาตกใจอย่างมากเนื่องจาก ฮิวงะและอุจิวะ ไม่เคยเผชิญหน้ากันและมีความขัดแย้งระหว่างพวกเขาอยู่เสมอ

ขณะที่บาโคริโอะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโคโนฮะ นินจาแพทย์ที่เชี่ยวชาญสองคนเริ่มรักษาอาการบาดเจ็บของเขาอย่างรวดเร็ว หนึ่งในนั้นคือคนในตระกูลฮิวงะที่ฮิอาชิสัญญาไว้ และพวกเขาก็ประหลาดใจกับความเจ็บปวดที่เด็กเพียงห้าขวบสามารถอดทนได้

เมื่อเสร็จแล้ว วัยรุ่นผมดำสองคนก็มาหาบาโคริโอะ คนหนึ่งผมยาวอีกคนผมสั้นรุงรัง แน่นอนว่าพวกเขาคืออิทาจิและชิซุย

บาโคริโอะระวังตัวเล็กน้อยเมื่อเห็น ชิซุย ที่เขาไม่ได้เรียกมา เนื่องจากเขายังคงระแวดระวังเนตรกระจกเงาหมื่นบุปผาของเขา แต่ตอนนี้บาโคริโอะเชื่อว่าเขาสามารถตอบโต้ได้หากเห็นการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในดวงตาของชิซุย และในอนาคตเขาจะเรียนรู้จากมุไก ถึงวิธีตั้งฝึกร่างกายให้ทำตามคำสั่งหรือการกระทำบางอย่างโดยอัตโนมัติเมื่ออยู่ในสถานการ์ณคับขันเช่น ตกอยู่ในคาถาลวงตา

นี่เป็นสิ่งเดียวกับที่ดันโซทำกับชิซุยในเนื้อเรื่องหลัก แต่แทนที่จะฆ่าตัวตายเหมือนมุไกคำสั่งของเขาคือการเปิดใช้งานอิซานางิทำให้เขาสามารถหลบหนีจากผลกระทบของ วิชาเทพต่างสวรรค์ได้

ส่วนบาโคริโอะนั้นกำลังจะใช้คำสั่ง....

อิทาจิกับชิซุยมองดูมือและขาที่หักของบาโคริโอะด้วยความเป็นห่วง แล้วพูดว่า "นายสบายดีไหม บาโคริโอะ"?

"ไม่เท่าไหร่หรอก แค่ก แค่ก" บาโคริโอะพูดขณะที่ไอนิดหน่อยเพราะซี่โครงที่หัก ทำให้อิทาจิพูดว่า "ถ้ามันลำบากมากก็ไม่ต้องพูดก็ได้"

“ไม่ต้องห่วงหรอก แล้วที่ประชุมเป็นยังไงบ้าง”? เขาถามหลังจากการรักษาตัวเขานั้นใช้เวลาสักครู่กว่าจะเสร็จสิ้น

คราวนี้ชิซุยตอบว่า "เราไม่รู้ เพราะมันยังไม่จบ แต่หวังว่ามันจะเป็นไปตามแผน" ก่อนที่เขาจะโค้งให้บาโคริโอะโดยที่อิทาจิแสดงท่าทีไม่แปลกใจ แต่อิทาจิทำแบบเดียวกันกับชิซุยและพูดว่า "พวกเราขอโทษที่มัวแต่สับสนกับความคิดของเรา และคอยรับใช้คนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องแบบนี้" เด็กจากตระกูลของอุจิวะที่ต้องแบกรับความรับผิดชอบและความเสียสละมากมายในขณะทำภารกิจให้ฝ่ายที่ทำผิดมาตลอด...

การที่พวกเราคิดว่าตระกูลอยู่ฝั่งหนึ่งและหมู่บ้านอยู่อีกฝั่งหนึ่ง หมายความว่าพวกเราถือว่าตระกูลนั้นเป็นศัตรูของหมู่บ้านแล้ว ในขณะที่ความจริงแล้วศัตรูของหมู่บ้านตัวจริง กำลังปกครองหมู่บ้านจากความมืด และเราปล่อยให้ความมืดนั้นบดบังพวกเราจากความจริงที่ถูกต้อง..."

"พอเถอะเงยหน้าขึ้นได้แล้ว" บาโคริโฮะสั่งด้วยใบหน้าเย็นชา "พวกคุณต้องขอโทษทั้งตระกูลไม่ใช่แค่ฉัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคุณฟุงาคุ เนื่องจากเขาต้องแบกรับความรับผิดชอบนี้เป็นเวลาหลายปีโดยที่พวกคุณไม่รู้อะไรเลย ในฐานะผู้ชายที่ไม่ดูแลหมู่บ้านพวกคุณมีแต่จะทำให้หมู่บ้านแย่ลงสะเปล่าๆ" ก่อนที่บาโคริโอะจะมองชิซุย "หลังจากนี้ ผมคงแน่ใจว่าถ้าคุณเปิดเผยพลังของคุณ แล้วคุณไปรายงานเรื่องนี้ให้สภาของหมู้บ้าน คุณลองคิดดีๆว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อ จงเรียนรู้กับเหตุการ์ณที่ผ่านมาซะ คุณชิซุย..."

เพราะรู้สึกละอายใจ ทั้งคู่จึงตัดสินใจขอโทษคนทั้งตระกูลอีกครั้งในภายหลัง

ในขณะเดียวกันในที่ประชุม...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด