ตอนที่แล้วตอนที่ 17-5 บาลุค
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 17-7 วิกฤติของตระกูล

ตอนที่ 17-6 สาขาเล็กและอ่อนแอที่สุด


“ยินดีต้อนรับกลับบ้าน!” คำเหล่านี้ทำให้ความรู้สึกเร่าร้อนคุกรุ่นอยู่ในอกลินลี่ย์

ความรู้สึกที่อาทรแสดงออกทางสายตาของคนในตระกูลที่มีต่อเขา  ลินลี่ย์ตระหนักได้ทันทีว่าความยากลำบากที่เขาอดทนผ่านมาเกือบเจ็ดร้อยปีที่เขาใช้ในทวีปเรดบุดการเดินทางผ่านทะเลสตาร์มิสท์ และรีบเร่งผ่านเข้าไปยังทวีปบลัดริจนั้นคุ้มค่า!

หลังจากเดินทางในดินแดนนรกเป็นเวลาหลายปีในที่สุดเขาก็กลับมาถึงบ้าน!

บาลุคปล่อยลินลี่ย์จากนั้นมองดูลินลี่ย์ ใบหน้าเหี้ยมหาญของเขามีน้ำตาคลอเบ้า  “ลินลี่ย์!  เจ้าคงต้องผ่านความยากลำบากมาแน่”

“ท่านเฮนด์แมน, ขอบคุณจริงๆ”  บาลุคมองดูเฮนด์แมน  “ลินลี่ย์ผู้นี้เป็นคนของสาขาตระกูลข้าในยูลานจริง”

“ฮ่าฮ่า, บาลุค!  ยินดีด้วย นี่คือตราเครื่องหมายตระกูลเราให้ลินลี่ย์ผูกสัญญาด้วยเลือดซะ” เฮนด์แมนส่งตราให้ จากนั้นหัวเราะและกล่าว “ข้าไม่รบกวนพวกเจ้าอีกต่อไปแล้ว” ขณะที่กล่าว, เฮนด์แมนปลีกตัวแยกจากมา

บาลุคให้ตราตระกูลกับลินลี่ย์

“ผูกสัญญาด้วยเลือด?”  ลินลินลี่ย์ศึกษาตราตระกูล

“นี่จะใช้ระบุสถานะเจ้าว่าเป็นคนในตระกูล  สมาชิกทุกคนในเผ่าจะต้องมีกันทั้งนั้น”  บาลุคอธิบายและลินลี่ย์ผูกสัญญาโลหิตทันที ในทันทีที่เขาผูกสัญญา ลินลี่ย์พบด้วยความประหลาดใจ..

ว่าเขาสามารถรู้สึกได้ถึงตราตระกูลที่คนอื่นมีเช่นกัน

“ความจริง อาศัยตราตระกูลนี้จะสามารถใช้จำแนกว่าคนผู้นั้นเป็นสมาชิกตระกูลหรือไม่”

“ลินลี่ย์”บุรุษหนุ่มรูปงามด้านหลังบาลุคยิ้มให้ “เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร?”

ลินลี่ย์อดตกใจไม่ได้เขาไม่เคยพบกับบรรพบุรุษของตระกูลเขามาก่อนแล้วเขาจะรู้จักชื่อหรือสถานะพวกเขาได้ยังไง?

“ข้าชื่อไรอัน” บุรุษหนุ่มรูปหล่อพูด“เจ้าเพิ่งเล่าเรื่องวีรกรรมของข้าเมื่อครู่นี้เอง”

ตอนนี้ลินลี่ย์ถึงได้เข้าใจและหัวเราะขึ้น  “เซียนผู้ขับขี่มังกรทองคนแรกของตระกูลบาลุคเรา!”

“ฮ่าฮ่า, เซียนผู้ขับขี่มังกรทอง ใช่ใช่แล้ว”  ไรอันเริ่มหัวเราะลั่น  “เจ้าเพิ่งจะพูดถึงเรื่องของข้ากับฮาซาร์ด  ฮาซาร์ดก็มาที่นี่ด้วย”  ด้านหลังไรอันเป็นบุรุษหนุ่มร่างกำยำผมทอง

“ว่าไง, ลินลี่ย์” ฮาซาร์ดทักทาย

ลินลี่ย์อ้าปากค้างแต่ทันใดนั้นลินลี่ย์เพิ่งรู้ตัวว่าเขาไม่รู้ว่าจะลำดับญาติกับพวกเขายังไง

ฮาซาร์ดเป็นทวดของทวด..ของ....ทวด?

ไม่ว่าจะเป็นบาลุคหรือไรอันหรือฮาซาร์ดทุกคนเป็นญาติรุ่นอาวุโสของลินลี่ย์ทั้งนั้น

เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของลินลี่ย์บาลุคคาดเดาได้ว่าลินลี่ย์กำลังคิดอะไร เขาหัวเราะ “ลินลี่ย์!ในพิภพโลกธาตุอายุขัยของมนุษย์ไม่ยืนยาวนัก ลำดับรุ่นจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างไรก็ตามในแดนนรก มีหลายคนที่มีชีวิตยืนยาวเกินร้อยล้านปีเรื่องการลำดับรุ่นไม่มีความหมายอีกต่อไป”

“ดูสิ, ในเผ่ามังกรฟ้าของพวกเราคงอยู่มาเป็นเวลาล้านๆ ปีนับไม่ถ้วน อาจมีช่วงห่างเป็นร้อยล้านรุ่นระหว่างผู้อาวุโสกับผู้เยาว์ บอกข้าทีความหมายอยู่ตรงไหน?”

เมื่อหลายอย่างมีระดับที่แน่นอนเรื่องแบบนี้กลายเป็นไม่มีประโยชน์

ตัวอย่างเช่นในทวีปยูลานและในจักรวรรดิโอเบรียน

เทพสงครามโอเบรียนมีลูกหลานมากมาย  หลังจากห้าพันปีผ่านไป ลูกหลานของเขามีมากมายดังนั้นโอเบรียนเองจึงไม่ใส่ใจพวกเขามากนัก บรรดาศิษย์ที่เขารับไว้ ผู้ที่มีอาวุโสมากที่สุดมีอายุมากพอๆ กับเขา  ขณะที่ผู้เยาว์ที่สุดเทียบได้กับลินลี่ย์มีช่วงห่างกันถึงห้าพันปี

แต่ศิษย์ที่มีช่วงอายุห่างขนาดนั้นพวกเขาก็ยังถูกมองว่าเป็นศิษย์

“เผ่ามังกรฟ้าหยั่งรากและกระจายอยู่ในหลายสถานที่เป็นไปได้ว่าคนสองคนที่เกิดมาในเวลาเดียวกันถ้านับกันโดยหลักการอาจมีลำดับรุ่นอาวุโสที่แตกต่างกันนับไม่หวาดไม่ไหว”  บาลุคหัวเราะ “ดังนั้น ไม่ใช่แค่ตระกูลของเราเอง ในแดนนรกทั้งหมดลำดับรุ่นอาวุโสไม่ใช่เรื่องสำคัญนัก”

ลินลี่ย์พยักหน้ายอมรับด้วยเช่นกัน

“พี่ใหญ่, ปู่เบรุตกับข้าก็ยังห่างกันมากจนข้าไม่รู้ว่าห่างกันกี่รุ่นต่อกี่รุ่น แต่ข้าก็ยังเรียกเขาว่าปู่อยู่ดี”  บีบีกล่าว “แม้ว่าปู่เบรุตจะมีลูกชายสามคนข้าก็ยังเรียกชื่อพวกเขาตรงๆ เหมือนกัน”

ที่สำคัญบีบีจำตระกูลเบรุตได้ว่ากันตามหลักการ เขาต้องถือว่าเป็นรุ่นลูกหลานของแฮรี่และน้อง

แต่เพราะความแตกต่างระหว่างรุ่นพวกเขามีมากเกินไปบีบีจึงเรียกชื่อพวกเขาโดยตรง

“ฮ่าฮ่า” ไรอันหัวเราะ  “ลินลี่ย์!ตอนแรกเราก็ปวดหัวกับเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ตอนนี้เราทุกคนคุ้นเคยเสียแล้วสมาชิกทุกคนของเผ่ามังกรฟ้าแค่เรียกกันเองตามปกติ สิ่งสำคัญที่ระบุสถานะก็คือพลังของเขา!”

ถ้าสมาชิกมีพลังมากเขาจะมีระดับที่สูงส่งในตระกูล  แม้ว่าจะมีอาวุโสมากในแง่ของลำดับอาวุโสแต่ยังเป็นเทพแท้แม้ว่าจะฝึกมาเป็นล้านๆ ปีขณะที่อีกคนฝึกมาแค่หมื่นปีกลายเป็นเทพชั้นสูง ผู้นั้นจะต้องคำนับแสดงความเคารพเมื่อเห็นเทพชั้นสูงนั้น

“เจ้าสามารถเรียกข้าเป็นหัวหน้าตระกูลได้  สำหรับคนอื่นเจ้าเรียกชื่อเขาได้ตามปกติ”บาลุคหัวเราะ

“เรียกชื่อได้ตรงๆ น่ะหรือ?” ลินลี่ย์รู้สึกอึดอัด

“แน่นอน” ฮาซาร์ดหัวเราะ  “เจ้าเป็นระดับเทพแท้ แต่มีความเป็นไปได้ว่าเจ้าคงเกิดในช่วงพันปีที่ผ่านมาไม่กี่สิบปีที่แล้ว ข้าเพิ่งได้ลูกสาวอีกคน นางอ่อนกว่าเจ้ามาก  แล้วเจ้ายังจะเรียกนางเป็นบรรพบุรุษอีกหรือ?”

ลินลี่ย์ได้แต่หัวเราะ

สำหรับคนเหล่านี้มีอายุขัยไม่จำกัดการจัดลำดับญาติกลายเป็นเรื่องไร้ความหมายจริงๆ

“ถ้าไม่ใช่ภายในสามชั่วรุ่นเจ้าก็เรียกชื่อพวกเขาได้ตรงๆ เช่นกัน” ฮาซาร์ดกล่าว

“ทุกคน, ที่อยู่ตรงนั้น ไปที่ห้องโถงใหญ่เถอะ”  บาลุคหัวเราะ ลินลี่ย์ตามพวกเขาลึกเข้าไปและพูดคุยกับทุกคนขณะที่เดินเข้าไป ลินลี่ย์แนะนำเดเลียและบีบี

“หัวหน้าตระกูล” ลินลี่ย์ถาม  “คนของสาขายูลานของเรามีอยู่เท่าใดกันแน่?”

“มีไม่กี่ร้อยคน”บาลุคหัวเราะขณะที่เขามองไปรอบๆ “อย่างไรก็ตาม ในหุบเขาแห่งนี้ ยังมีสาขาอื่นอีกสองสามสาขาเช่นกัน สาขายูลานของเราเป็นสาขาตระกูลเล็กๆ”  แต่มีบางอย่างที่บาลุคไม่พูดออกมา..

นั่นคือสาขาของเขาเป็นสาขาที่เล็กที่สุดและอ่อนแอที่สุด

“บาลุค, ดูเหมือนว่าเจ้าจะอารมณ์ดีใช่ไหม?”  เสียงล้อเลียนดังขึ้น

บาลุคและคนอื่นทำสีหน้าไม่ดีทันที  ลินลี่ย์หันไปมองที่มาของเสียง  จากระยะไกล มีคนสองสามคนเดินเข้ามาหาผู้นำเป็นบุรุษหนุ่มผมยาวสีเขียว ใบหน้าเด็กหนุ่มมีรอยยิ้มเยาะเย้ย “เกิดเรื่องน่ายินดีอะไรหรือ? บอกให้เราฟังบ้าง”

“อย่าไปสนใจพวกเขา  ไปกันเถอะ!”  บาลุคพูดเบาๆ

ลินลี่ย์สังเกตได้ว่าคนอื่นในตระกูลไม่มองดูเด็กหนุ่มผมเขียวเช่นกันยังคงเดินไปที่อยู่ของพวกเขา

“บาลุค!  ข้ากำลังพูดกับเจ้า  ทำไมทำหน้าตาไม่น่าดูแบบนั้น?”  เด็กหนุ่มผมเขียวตะโกนด้วยความโกรธ

เด็กหนุ่มที่อยู่ด้านหลังเด็กหนุ่มผมเขียวดูเหมือนจะไม่พอใจบาลุคเป็นอย่างมากเช่นกัน  มีคนหนึ่งแค่นเสียง “บาลุค, อะไรทำให้เจ้าทำตัวยโสนักแค่เพราะเจ้ามีคนหนุนหลังเจ้าน่ะหรือ? เจ้าเลยไม่ให้ความสนใจเราขณะที่เราพูดกกับเจ้า?”

หน้าของบาลุคไรอันและคนอื่นยังคงดูบิดเบี้ยว

ในเผ่ามังกรฟ้าสาขายูลานเป็นพวกที่อ่อนแอที่สุด เมื่อพวกเขาถูกนำตัวมา พวกเขาเป็นระดับเซียนกันทุกคน หลังจากผ่านพิธีชุบตัวของบรรพบุรุษและฝึกฝนอย่างหนักแม้ว่าพวกเขาจะมีความก้าวหน้ามากมาย แต่ช่วงเวลาที่พวกเขามีชีวิตอยู่ยังสั้นเกินไปแค่เพียงไม่กี่พันปี

แม้แต่สมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของสาขายูลานก็เป็นเพียงระดับเทพแท้!

เทพแท้?

ในแดนนรกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตระกูลเก่าแก่โบราณอย่างตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์  ถ้าแม้แต่คนที่แข็งแกร่งที่สุดในสาขาตระกูลยังเป็นแค่เทพแท้ อย่างนั้นรับรองได้ว่าสาขาตระกูลนี้จะต้องถูกมองอย่างดูถูกเหยียดหยาม

สาขาอื่นมีเทพชั้นสูงหลายคน

แต่สาขาของท่านมีแต่เทพแท้เท่านั้นหรือ?  แล้วยังจะแข่งขันกับพวกเขาได้อย่างไร? คงเป็นเรื่องแปลกถ้าท่านไม่ถูกล้อเพราะเรื่องนั้น

แม้ว่าทุกคนในหุบเขาจะเป็นคนของสาขาตระกูลที่อ่อนแอก็ตาม แต่อย่างน้อยสาขาอื่นก็ยังมีเทพชั้นสูงอยู่คนหนึ่ง!

“แม่ง..เอ๊ยพวกเจ้าทุกคนพูดไร้สาระอะไรกัน?” บีบีตะโกนด้วยความโกรธ

ทารอสมีสีหน้าน่ากลัวเช่นกันและเขากวาดสายตามองดูคนเหล่านี้อย่างเย็นชา “พวกเจ้ามาจากไหนกันมากมาย และทำไมพวกเจ้าถึงได้มาทำปากดีในที่ของเรา?”

“เจ้า...” คนพวกนั้นตะลึง และโกรธเป็นอย่างาก พวกเขาไม่เคยคาดเลยว่าในสาขายูลานที่อ่อนแอที่สุดสาขาที่พวกเขามักจะเยาะเย้ยดูถูก ยังมีใครกล้าทำหยิ่งผยองต่อหน้าพวกเขา!

เด็กหนุ่มที่เป็นหัวโจกหัวเราะด้วยความโกรธ  “บาลุค, คนของเจ้ากล้าจริงๆ นะ  พวกเขากล้าสบประมาทข้า อัสซูร์!”

อัสซูร์เองเป็นเทพชั้นสูง!

ในตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์การได้เป็นเทพชั้นสูงไม่มีความหมายอะไรมาก ในระหว่างเส้นทางมังกรลินลี่ย์เห็นทหารลาดตระเวนมากกว่าแสน ทุกคนเป็นเทพชั้นสูงดังนั้นใครก็สามารถคิดได้ว่าที่นี่น่าจะมีเทพชั้นสูงอยู่ทั่วไป

แต่...

สาขายูลานไม่มีเทพชั้นสูงแม้แต่คนเดียว!

ดังนั้นอัสซูร์ในฐานะเทพชั้นสูงสามารถทำตัวหยิ่งยโสต่อหน้าสาขายูลานได้สำหรับบาลุคและคนอื่นๆ พวกเขาได้แต่ทน

“อัสซูร์, อย่าให้มากเกินไปนักนะ”  บาลุคพูดเสียงทุ้ม  “วันนี้เรามีอาคันตุกะ”

“ข้ากระทำเกินเลยไปหรือ?”  อัสซูร์ถลึงตา

“บาลุค!  เจ้ากล้ามาก เจ้ากล้าสบประมาทท่านอัสซูร์หรือ?” พวกที่อยู่ข้างหลังอัสซูร์โวยวาย

ถึงตอนนี้ทารอสและบีบีเริ่มโกรธอย่างไม่เคยมีมาก่อน ทารอสไม่เคยเห็นเทพชั้นสูงธรรมดาอยู่ในสายตา  “เด็กน้อย..”

“หุบปากเจ้าซะ!”  อัสซูร์ชี้ทารอสด้วยความโกรธ

ทารอสโกรธ

อัสซูร์หัวเราะอย่างเย็นชา  “ข้ารู้ว่าพวกเจ้าเป็นเทพชั้นสูง แต่เจ้าไม่ได้ถูกมองว่าเป็นสมาชิกเผ่ามังกรฟ้าของเรา  เจ้าได้รับอนุญาตให้อยู่ที่นี่ที่ซึ่งเผ่ามังกรฟ้าของเราพักอาศัย นั่นเป็นเรื่องที่พวกเจ้าต้องซาบซึ้งขอบคุณ  แต่ถ้าเจ้าจะสู้...ทหารของเผ่าเราจะฆ่าเจ้าก่อน!”

อัสซูร์สังเกตนานแล้วว่าทารอสซีซาร์ และคนอื่นเป็นเทพชั้นสูง

แต่เขาไม่กลัวเพราะนี่เป็นอาณาเขตของเผ่ามังกรฟ้า โดยใช้ตราประจำเผ่า เขาสังเกตได้นานแล้วว่าคนพวกนี้เป็นคนนอก

“ซีซาร์,พวกเจ้าทุกคนไม่ว่ายังไงก็ห้ามสู้เด็ดขาด” บาลุคส่ายศีรษะและส่งสำนึกเทพบอก “เหตุผลที่พวกเจ้าสามารถอยู่ที่นี่ได้ก็เนื่องมาจากสถานะของลินลี่ย์และเพราะตระกูลเราตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล แต่ถ้าเจ้าสู้..ไม่ว่าเจ้าจะถูกหรือผิดทหารของเผ่าจะเข้าข้างคนในตระกูลของเรา เมื่อเจ้าเริ่มสู้ พวกเขาจะฆ่าเจ้า ลินลี่ย์!  ดูแลคนของเจ้าด้วย”

ทารอสซีซาร์ และโอเบรียนตะลึงกันหมด

“หัวหน้าตระกูล ท่านไม่ต้องกังวล”  ลินลี่ย์ตอบ

จากนั้นลินลี่ย์หันไปมองอัสซูร์  อัสซูร์เป็นเทพชั้นสูงหรือ?  แต่เทพชั้นสูงธรรมดาจะทำอะไรเขาได้?  ขณะที่อยู่ในเกาะมิลัวร์ เมื่อเขาใช้คุกศิลาดำเขาสามารถเข่นฆ่าได้แม้จะถูกเทพชั้นสูงเป็นหมื่นล้อม

เขาไม่กลัวแม้แต่เทพชั้นสูงเป็นหมื่นคน

แล้วจะใส่ใจอัสซูร์ผู้นี้ได้ยังไง?

“เด็กน้อย!  เจ้ามองอะไร?” อัสซูร์ตะโกน วันนี้อัสซูร์อารมณ์ไม่ดี สาขายูลานที่อ่อนแอที่สุดนี้ปกติจะถูกเยาะเย้ยล้อเลียนโดยไม่มีการตอบโต้แต่วันนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะทำตัวค่อนข้างยโส

“อัสซูร์ ใช่ไหม?”  ลินลี่ย์หัวเราะ

“เออ” อัสซูร์เชิดหน้าเล็กน้อย

“ลินลี่ย์! อย่าหาเรื่อง”บาลุคค่อนข้างกังวล เขารีบส่งสำนึกเทพเตือน “สมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลบาลุคเราเป็นแค่เทพแท้  ตระกูลบาลุคของเราอ่อนแอเกินไป  เราไม่สามารถสู้กับพวกเขาได้”

“หัวหน้าตระกูลข้าเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูล ถ้าข้าลงมือกับพวกเขา ทหารของเผ่าคงจะไม่เข้าข้างพวกเขาใช่ไหม?”  ลินลี่ย์ส่งสำนึกเทพถาม

บาลุคกล่าว  “พวกเขาจะไม่เข้าข้างพวกเขา  แต่เจ้าเป็นเพียงเทพ..ทะ”

ลินลี่ย์หันไปมองอัสซูร์ทันที  “อัสซูร์, ข้าขอแนะนำเจ้าว่า ต่อไปในอนาคต ทางที่ดีอย่ามารบกวนสาขายูลานของเราอีก”

“เจ้าว่ายังไงนะ?” อัสซูร์หงุดหงิด

“ในอนาคต อย่ามารบกวนเราอีก”  ลินลี่ย์พูดอย่างสุภาพ

อัสซูร์ถลึงตามองลินลี่ย์พูดไม่ออก จากนั้นแหงนหน้าหัวเราะลั่น “ฮ่าฮ่า...” แม้แต่เด็กหนุ่มข้างหลังอัสซูร์ก็เริ่มหัวเราะลั่น

สาขายูลานเป็นสาขาที่อ่อนแอที่สุดในหุบเขา  พวกเขามักจะถูกเยาะเย้ยถากถางจากตระกูลสาขาอื่น  แต่พวกเขาอ่อนแอเกินไป  พวกเขาไม่สามารถต่อต้านได้แม้แต่น้อย

“เด็กน้อย, ฟังให้ดี...”  อัสซูร์ชี้ลินลี่ย์ เตรียมจะพูดบางอย่าง  แต่ทันใดนั้น..รัศมีเหลืองเข้มเรืองรองแผ่ขยายครอบคลุมอัสซูร์และคนอื่น

พื้นที่ศิลาดำ- สุดยอดพลังโน้มถ่วง!

ร่างของอัสซูร์โน้มลงและเขาคุกเข่าทันที แรงดึงดูดที่ทรงพลังทำให้ตลอดทั้งร่างของเขาสั่นสะท้านคนที่อยู่ข้างหลังเขาก็แย่ยิ่งกว่า พวกเขาทรุดตัวลงกับพื้นก่อนจากนั้นก็แทบลุกไม่ขึ้น

“ข้าบอกเจ้าว่า ต่อไปในอนาคตอย่ามารบกวนสาขายูลานของข้าอีก!”  ลินลี่ย์สีหน้าเข้ม และทันใดนั้นแสงสีเหลืองเข้มสั่นสะเทือน

แรงดึงดูดกับพื้นกลายเป็นแรงผลักทันที

“บึ้ม!”อัสซูร์และคนอื่นๆ ถูกแรงผลักเหวี่ยงกระเด็นไปไกล จากระยะไกล พวกเขาจ้องมองตกตะลึงและหวาดกลัวลินลี่ย์  ลินลี่ย์ไม่ได้เคลื่อนไหว  แต่เขาสามารถเล่นงานพวกเขาราวกับของเล่น

ความแตกต่างมากเกินไป

ลินลี่ย์ไม่ใส่ใจแม้แต่จะเหลือบมองกลุ่มอัสซูร์เป็นพิเศษ  เขาหันไปทางบาลุคและกล่าว “หัวหน้าตระกูล!  กลับกันเถอะ”  ในเกาะมิลัวร์ ลินลี่ย์เข่นฆ่าเบิกทางตะลุยผ่านเทพชั้นสูงเป็นหมื่นเขาจะสนใจเทพชั้นสูงธรรมดาคนเดียวได้ยังไง?

“ลินลี่ย์....”

กลุ่มของบาลุคตะลึงไปหมดทุกคน

พวกเขายังไม่เข้าใจว่าจากวันนี้เป็นต้นไปสาขายูลานจะไม่มีทางถูกล้อให้อับอายอีกต่อไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด