ตอนที่แล้วตอนที่ 122 ดั๊กเติบใหญ่ (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 124 พบปะราชินี (อ่านฟรี)

ตอนที่ 123 มังกรในตำนาน (อ่านฟรี)


แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร

ตอนที่ 123 มังกรในตำนาน

"ฮ่าๆๆๆ… ใจเย็นๆ ดั๊ก นายไม่ได้ตัวเล็กอีกต่อไปแล้ว นายโตมาขนาดนี้ได้อย่างไงเนี่ยเทียบกับตอนแรกตัวนิดเดียว” แม็กนัสถามมังกรตัวใหญ่ อย่างน้อยเขาก็มีขนาดเท่ากับมินิบัสแล้ว

"โอ้ ดิฉันมีหนังสือมากมายเกี่ยวกับวิธีให้อาหารและฝึกมังกรเจ้าค่ะ ดูเหมือนว่าอาหารพิเศษจะสร้างความมหัศจรรย์ให้กับเขา แต่ดิฉันยังสืบหาไม่ได้ว่าเขาเป็นมังกรสายพันธุ์ไหนกันแน่เจ้าค่ะ" แล้วคุณยายมาร์ธาก็มาถึง

แม็กนัสก็กอดเธอเช่นกัน "แล้วคุณยายคิดว่าผมจะขี่หลังเขาได้ไหมฮะ?"

ดั๊กมองแม็กนัสด้วยดวงตาเป็นประกาย เขาส่งสัญญาณให้แม็กนัสกระโดดขึ้นหลัง

"ฮิฮิ... ดิฉันคิดว่าเธอขี่ได้เจ้าค่ะ เขาปฏิเสธคนอื่น คาดว่าบางทีเขาอาจจะรอเธออยู่ก็ได้" มาร์ธาเผย

แม็กนัสเดินไปหาดั๊กอย่างตื่นเต้นและปีนขึ้นไปบนหลังของมัน เขาลูบหัวมันด้วย "ไอ้หนู นายยังเด็กแต่ตัวใหญ่โตมาก ฉันสงสัยว่าการเติบโตอีกร้อยปีจะเปลี่ยนนายเป็นแบบไหนกัน"

"แคว๊กกก..." ทันใดนั้น ดั๊กก็ร้องเสียงดังและกระโจนออกไปข้างนอกโดยมีแม็กนัสอยู่บนหลัง

แม็กนัสหัวเราะอย่างควบคุมไม่ได้ ตอนที่ได้ยินเขายังคงร้องเหมือนดั๊ก แคว๊ก

เขาจับเดือยแหลมต่างๆ บนหลังดั๊กและเพลิดเพลินกับการชมทิวทัศน์ เขารู้สึกว่าดั๊กกำลังสนุกกับการพาเขาบินไปรอบๆ เหมือนเด็กที่อวดความสำเร็จให้พ่อแม่ภูมิใจ

“อ๊ะ ไม่นะ เจ้าดั๊ก อย่าเอียงมากเกินไป ไม่งั้นฉันจะล่วง” แม็กนัสเตือนเขา

ดั๊กค่อยๆ คุ้นเคยกับการแบกคนไว้บนหลัง พวกเขาบินเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงและในเวลานั้นทั้งคู่เรียนรู้วิธีการบินร่วมกันอย่างสมบูรณ์แบบ ขณะที่พวกเขากำลังบินเหล่า นกฟีนิกซ์ ฮิปโปกริฟฟ์ และสัตว์วิเศษอื่นๆ ที่บินได้จำนวนมากก็บินวนรอบๆ พวกเขา พวกเขาบินเหนือเมฆโดยหันหน้าไปทางลม

มันเป็นภาพมหัศจรรย์ที่ได้เห็น หลังจากนั้นพวกเขาก็กลับไปที่ปราสาทเพื่อรับประทานอาหารเช้า เขาเพิ่งนึกได้ว่าเขาต้องกลับบ้านด้วย มิฉะนั้น พ่อแม่ของเขาจะเริ่มกังวล

"คุณยายฮะ ยายพอรู้วิธีที่จะพาดั๊กออกไปข้างนอกด้วยได้ไหมฮะ ผมหมายความว่าเขาจะบินและอยู่รอบตัวผมในโลกมักเกิ้ลได้ยังไง?” แม็กนัสถาม

มาร์ธาสวมผ้ากันเปื้อนน่ารักขณะเดินไปรอบๆ โต๊ะอาหารและวางอาหารลงบนจานของแม็กนัส ขนาดดั๊กก็นั่งอยู่ใกล้ๆ แต่ชามของเขาใหญ่เท่ากับโต๊ะทั้งหมด

"แน่นอนที่รัก ดิฉันได้ฝึกดั๊กน้อยและสอนคาถาอาคมบางอย่างให้เขาไปบ้างแล้วเจ้าค่ะ พวกเขาถูกก็อบลินสลักรูนบนร่างของเขาไปแล้ว เขาสามารถเปิดใช้งานรูนเหล่านั้นได้ทุกเมื่อที่ต้องการช่วยให้ล่องหนได้เจ้าค่ะ” มาร์ธาเปิดเผย

แม็กนัสมองไปที่ดั๊กอย่างตั้งใจเพื่อสังเกตมนต์คาถาบนร่าง ดั๊กหันมาหาเขาพลางโยนชิ้นเนื้อจากชามใส่เขาอย่างมีความสุข

แม็กนัสหัวเราะเบาๆ “ฮ่าฮ่า เด็กดีๆ รู้จักแบ่งปันอาหารด้วย ฉันนึกไม่ออกเลยว่า ซัมเมอร์กับแชดจะทำตัวยังไงหนอหากเจอนาย แต่ฉันก็ยังไม่รู้ว่าจะพานายติดตัวไปด้วยตลอดเวลาได้อย่างไรอยู่ดีน่ะ”

"แคว๊ก..."

"หืม... นายเป็นมังกรงั้นหรอ? แต่ฉันว่าตอนนี้นายสูงลิ่วแล้ว นายสมควรได้รับชื่อที่ดีกว่านี้" แม็กนัสพูดและเริ่มคิด

ดั๊กรอชื่อด้วยตาโต

"อืมม... ดัคกี้ไหม?" แม็กนัสพึมพำ

“นั่นก็ไม่แตกต่างจากตอนนี้เท่าไหร่นะเจ้าคะ บางทีสิ่งที่น่ากลัวอาจจะดีก็ได้นะเจ้าคะ” มาร์ธาแนะนำ

"ดั๊กพิฆาต?" แม็กนัสแนะนำ

"ฮ่าๆๆๆ...ล้อเล่นน่า ผมตัดสินใจชื่อให้เขาแล้ว เขาเป็นครอบครัว ดังนั้นเขาจะใช้นามสกุลเดียวกับฉัน และสำหรับชื่อของเขาจะเป็น แอนนิเฮลัส, แอนนิเฮลัส แกรนท์ เอมริส เพนดราก้อน" เขาประกาศ

กว๊าาาาาาาาาาา….” ดั๊กเงยหน้าขึ้นแล้วพ่นไฟออกจากปากด้วยความตื่นเต้น

"ฮิๆ คงชอบสินะ แต่สำหรับผม เขาจะเป็นดั๊กตลอดไป" แม็กนัสกล่าวเสริม

มาร์ธายิ้ม “เป็นชื่อที่ดีมากเจ้าค่ะ ด้วยอัตราการเติบโตนี้ ดิฉันมั่นใจว่าเขาจะมีขนาดที่ใหญ่กว่ามังกรทุกตัวที่เคยมีมา”

"แคว๊ก"

"นี่จ่ะเด็กน้อย" มาร์ธาเพิ่มอาหารให้ในชามของดั๊ก

“เฮ้ อันที่จริง ผมว่าจะพาดั๊กไปเดินเล่นสักหน่อย แต่ก่อนอื่น ผมคงต้องกลับไปบอกพวกเขาที่บ้านก่อน” แม็กนัสบอกเธอแล้วรีบกลับบ้าน

...

"แม็กนัส... อาหารเช้าพร้อมแล้วจ้า..."

พอกลับมาก็ได้ยินเสียงแม่

"ไปแล้วคร้าบ..."

เขาไปที่โรงอาหาร บ้านหลังใหม่ใหญ่โตมาก แต่อย่างไรก็ตาม เกรซก็สามารถตะโกนให้ดังพอที่จะไปถึงห้องเขาได้ ไม่มีใครรู้ว่าเธอทำได้อย่างไร บางทีอาจเป็นพลังพิเศษของแม่ๆ

ตอนนี้ แม้ว่าแม็กนัสจะอิ่มแล้ว แต่เมื่อเห็นแพนเค้กจานโปรด เขาก็ตัดสินใจกินเพิ่มแคลอรีในวันนี้

“แม่ครับ วันนี้ผมจะไปคาเมล็อตนะ” เขาบอกเธอ

“โอ้ ฝากสวัสดีมาร์ธา แล้วก็ทักทายดั๊กน้อยด้วยนะจ๊ะ” เกรซพูด

แม็กนัสหัวเราะเบาๆ “แม่ครับ ตอนนี้ดั๊กโตใหญ่แล้วล่ะฮะ แม่ขี่หลังมันให้พาบินได้ด้วยซ้ำ แต่จิตใจมันยังเหมือนเด็กอยู่”

"จริงดิ?" รักนาร์ถามทันที เขาเฝ้ารอวันนี้ตั้งแต่เห็นดั๊ก เขาฝันและพยายามเพื่อสักวันหนึ่งจะได้บินบนหลังมังกรได้

“ใช่ แล้ววันนี้นายต้องไปกับฉันด้วย” แม็กนัสตอบพร้อมกับขยิบตา

“แม่ฮะ งานวิจัยของแม่ใกล้จะเสร็จหรือยังฮะ ขอคร่าวๆ ก็ได้ฮะ” แม็กนัสถาม

"โอ้ ที่รัก แม่ใกล้จะทำเสร็จสมบูรณ์แล้วล่ะจ่ะ ที่เหลือตอนนี้แม่แค่ต้องยื่นจดสิทธิบัตรทั่วโลก แม่ติดต่อเท็ดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วล่ะ" เธอเปิดเผย

*เสียงผิวปาก*

“เร็วมาก แล้วพ่อล่ะฮะ?” แม็กนัสถาม

อดัมตอบอย่างภาคภูมิใจว่า "ฮะ... พ่อลูกสุดยอดมาก พ่อกำลังสร้างเครื่องยนต์รถรูปแบบใหม่ แต่พ่อคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง เพราะพ่อกำลังค้นคว้าเกี่ยวกับแบตเตอรี่ประเภทใหม่ๆ ด้วย พ่อคงต้องรวบรวมเงินทุนด้วยน่ะ”

"จริงหรอฮะ? เป็นตลาดที่ทำให้อู้ฟู้มากทั้งรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ผมคิดว่าคราวนี้คงต้องซื้อบริษัทรถยนต์แล้ว พ่อฮะผมจะลงทุนในโครงการของพ่อนะ อา... ผมว่าคงต้องหานักบัญชีเพิ่ม อืมม... ให้เท็ดจัดการละกัน พ่อแค่แจ้งเขาทุกครั้งที่พ่อต้องการเงินนะฮะ” แม็กนัสตัดสินใจ

อดัมและเกรซพูดไม่ออก การตัดสินใจโดยฉับพลันของแม็กนัสมักสร้างปริศนาให้พวกเขาเสมอ เขาเอาความมั่นใจที่ไหนมาลงทุนแบบนี้?

หลังจากกินข้าวเสร็จ เกรซและอดัมก็ออกไปทำงาน ส่วนรักนาร์และแม็กนัสไปที่คาเมล็อต

ทันทีที่พวกเขาไปถึงที่นั่น รักนาร์ก็ได้รับคำทักทายจากดั๊กเช่นกัน เขาถูกลิ้นของมังกรเลียจนเกลี้ยงเกลาไม่ต่างจากเพื่อน

"อ่า ฉันลืมบอกไป ตอนนี้ชื่ออย่างเป็นทางการของเขาคือ แอนิเฮลัส ใช้นามสกุลของฉัน แชดกับซัมเมอร์ก็ทักทายดั๊กหน่อยส” แม็กนัสแนะนำพวกเขา

แต่แชดและซัมเมอร์ดูราวกับถูกแช่แข็ง

"แคว๊ก"

เพราะเสียงร้องนี้ทำให้พวกเขารู้ว่ามังกรตัวใหญ่ตัวนี้คือดั๊กจริงๆ ซัมเมอร์บินเข้ามาใกล้หัวของเขาและนั่งลงในขณะที่ชาดปีนขึ้นไปบนหลังของเขา

"ฮ่าฮ่า นี่คงเป็นงานรวมพลเพื่อนเก่าสินะ เอาเลย รักนาร์ เรากำลังจะไปพบราชินีแล้ว" แม็กนัสตัดสินใจ

รักนาร์ตกตะลึง “ตอนนี้หรอ? บนหลังมัน?”

แม็กนัสพยักหน้าขณะที่เขาปีนขึ้นไป "ใช่ บนหลังมังกร!"

รักนาร์เริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง "บว๊าฮ่าฮ่าฮ่า... โอ้ ไอ้หนู! ฉันคงจะชอบโชว์วันนี้แน่"

"เดี๋ยวก่อน... ฉันจะใส่อะไรดี ฉันไปเจอเธอในชุดนอนคงไม่ได้ ฉันต้องการบางอย่างที่ดูข่มหน่อย" แม็กนัสบ่นและพยายามหาเสื้อผ้าในกระเป๋าวิเศษของเขา แต่ไม่มีตัวไหนดูดีเลย

*ฟืบ*

"ที่รัก ดิฉันจะช่วยพวกเธอเองเจ้าค่ะ" มาร์ธาหายตัวมาหาทันใด

“คุณยายไปกับเราไหมฮะ?” รักนาร์ถาม

"แน่นอนเจ้าค่ะ เจ้าดั๊กน้อยยังดุร้ายเกินไปในบางครั้ง เจ้าเด็กนี่ต้องการให้ดิฉันดูแลเพื่อให้ไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้น ตอนนี้ สำหรับเสื้อผ้าของพวกเธอ ดิฉันพอจะมีชุดที่เหมาะสม ทันสมัย และน่าเกรงขามอยู่ อืม... รองเท้าบูทสูงจะทำให้เธอดูสูง” เธอพึมพำ

"พรื้ดด...แม็กนายมันเตี้ย" รักนาร์แกล้งเขา

แต่แม็กนัสไม่ได้รับผลกระทบ "ฉันยังโตได้อีกเฟ้ย... ฉันแค่ต้องการนมเพิ่ม ฮืม..."

ในไม่ช้ามาร์ธาก็ช่วยแม็กนัสแต่งตัวด้วยชุดใหม่ และมันก็สวยมากจริงๆ มันมีเสื้อยืดสีเทาที่ดีกับกางเกงคาร์โก้สีดำ มีมีดติดอยู่กับเข็มขัดของเขาและสุดท้ายคือเสื้อโค้ทหนังสีน้ำตาลตัวยาว แถมเขายังมีถุงมือหนังสีดำ

"นี่ดูดีแหะ... ผมแน่ใจว่าราชินีจะไม่ถือสาเรื่องนี้กับผมหรอกมั้ง" แม็กนัสแสดงความคิดเห็น

"ฮะ... ไปกับมังกรเนี่ยนะ ดิฉันคิดว่าคงไม่ค่อยมีใครมาสนใจเธอหรอก" มาร์ธาตอบติดตลก

...

อเบอร์ดีนไชร์ สกอตแลนด์

ปราสาทบัลมอรัล,

เป็นปราสาทอายุ 165 ปี ล้อมรอบด้วยต้นไม้เขียวขจี ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 50,000 เอเคอร์ (126,500 ไร่) มันเป็นพื้นที่ทำงาน ซึ่งรวมถึงทุ่งล่าสัตว์ ป่าไม้ และพื้นที่เพาะปลูก ตลอดจนการจัดการฝูงกวาง วัวที่ราบสูง และม้า

ที่ดินขนาด 50,000 เอเคอร์มีภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่หุบเขาแม่น้ำดีไปจนถึงภูเขาที่โล่ง มีมันโรเจ็ดแห่ง (เนินเขาในสกอตแลนด์ที่สูงกว่า 3,000 ฟุตหรือ 914.4 ม.) ภายในที่ดิน มันโรที่สูงที่สุดคือล็อชนากาที่ 3,789 ฟุต (1,155 ม.)

ด้วยความหรูหราและสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลาย ทำให้เข้าใจได้ว่าทำไมราชินีจึงมักใช้เวลาช่วงฤดูร้อนที่นี่

วันนี้เธอออกมาล่ากวางกับลูกชายคนโตของเธอ มันเป็นประเพณีของราชวงศ์ที่จะออกไปล่าสัตว์และเธอชอบที่จะทำมัน

"เสด็จแม่... ทรงทำได้..."

เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ให้กำลังใจพระมารดาซึ่งกำลังยิงกวางอยู่ไม่ไกล พวกเขามาตั้งแคมป์ที่นี่ได้ระยะหนึ่งแล้ว

"แม่รู้แล้ว ลูกรัก แม่มาพักผ่อนในวันหยุดนี้... จะมีอะไรผ่อนคลายไปกว่าการออกล่าสัตว์..."

ราชินีตอบและเหนี่ยวไกปืน

*ปั้ง*

เสียงปืนดังขึ้นที่เนินหญ้า มีเพียงรถจี๊ปที่พวกเขานำมาด้วย เนื่องจากเป็นที่ดินทั้งหมดของพวกเขา การรักษาความปลอดภัยจึงแน่นหนารอบเขตแดน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม

"แม่นโป๊ะเชะ!" เธอโห่ร้องหลังจากเห็นกวางล้มลง

พวกเขาไฮไฟว์ให้กัน... แต่... แค่นั้น...

"กรรรรรร..."

เสียงคำรามดังหนวกหูดังมาจากฟากฟ้า มันมีพื้นฐานที่แปลกประหลาดซึ่งทำให้หัวใจของพวกเขาสั่นคลอน

"เมื่อกี้คืออะไรกัน?" เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ตรัสถามด้วยความตื่นตระหนก

ราชินีก็หวั่นไหวอย่างเห็นได้ชัดเช่นกันเมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้า "แม่... แม่ไม่รู้... ไปสตาร์ทรถจี๊ป... เร็วเข้า!"

"กร๊าาซซซซซซซซซ!"

คราวนี้ปิดเสียงคำรามดังลั่นและรุนแรงกว่าเดิม พวกเขารู้สึกได้ถึงการสั่นไหวของพื้นดิน

และทันใดนั้นก็มีร่างยักษ์ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าพวกเขา มันบินลงมาอย่างช้าๆ ในขณะที่ปีกขนาดใหญ่กระพือได้สร้างกระแสลม แรงพอที่จะทำให้หมวกของพวกเขวบินปลิวออกไปไกล

ควีนเอลิซาเบธเห็นมังกรเป็นครั้งแรกในชีวิตของพระองค์ มันใหญ่โตและน่ากลัวอย่างน่าสยดสยอง มีหนามแหลมมากมายบนร่างกาย ด้วยเสียงคำรามที่น่าหวาดหวั่น ทั้งเธอและเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์รู้สึกว่าขาของพวกพระองค์แข็ง

ฟ้าชาร์ลส์ถึงกับหงายหลังเพราะลมแรง ขณะที่พระราชินีทรงยืนหยัดอยู่ได้หลังจากพยายามอย่างหนัก

จริงๆ แล้ว ดั๊กกำลังสนุกกับการแกล้งมนุษย์พวกนี้ เขายังทำให้ตัวเองดูแตกต่างไปจากเมื่อก่อนอีกด้วย อย่างตอนที่เล่นกับแม็กนัสเขาจะดูน่ารักและไม่เป็นอันตราย แต่ตอนนี้เขาดูร้ายกาจและเกรี้ยวกราด บนหลังของเขาก็ไม่มีใครมองเห็นแม็กนัสและคนอื่นๆ เพราะเขาตัวสูงใหญ่เกินไป คอและศีรษะของเขาบังไว้จนมิด

*ตู้มมม*

ด้วยเสียงอันดังและฝุ่นที่ปลิวว่อน ดั๊กร่อนลงมาอย่างสง่าผ่าเผย เขามองไปที่มนุษย์ตัวจ้อยทั้งสองอย่างใกล้ชิดด้วยดวงตาสีเหลืองเรียวขนาดใหญ่ของเขา มนุษย์ทั้งสองถูกแช่แข็งด้วยความกลัว ดังนั้นเขาจึงค่อยๆ เปิดปากของเขา

ทั้งราชินีและเจ้าชายเห็นแสงสีเหลืองเล็กๆ ลึกเข้าไปในปากที่เหมือนหลุมของมังกรมากขึ้น พวกเขาตระหนักว่านั่นคือไฟ

ดั๊กแค่อยากทำให้พวกนั้นกลัวเป็นครั้งสุดท้าย เขาตัดสินใจคำรามใส่หน้าพวกเขา เขานึกถึงวิธีทำหน้าตาให้น่าเกลียดที่สุดเท่าที่จะทำได้และทำมัน

"กร๊าซซซซซ..."

ราชินีและฟ้าชายรู้สึกราวกับว่าวิญญาณออกจากร่าง พวกเขาจับมือกันแน่น เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์เริ่มอธิษฐานว่า "ข-ขอพระเจ้าทรงเมตตาเรา... ช่วยเราด้วย!"

_____________________________

เพจแปลถ้าเช่นนั้นข้าขอลา

อารมณ์ตอนดั๊กได้รับชื่อ แอนนิเฮลัส

ปราสาทบัลโมลล่า

ดั๊กผู้เหี้ยมโหด

น่าตาน่าเกลียดที่สุดที่ดั๊กนึกออก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด