ตอนที่แล้วบทที่ 27 โลงศพสำริด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 29 เคล็ดวิชาเลี้ยงวิญญาณเก้าแม่ลูก

บทที่ 28 ภาพลวงตาที่แท้จริง


"สมบัติมากมาย!"

ใบหน้าของชิงหงเฉินและชิงหานก็แดงขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน

แต่ที่นี่มันน่าแปลกไปหมด ดังนั้นถึงจะมีสมบัติมากมาย แต่ก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรบุ่มบ่าม

ดวงตาของลู่อวิ๋นเอาแต่จ้องมองไปที่ศูนย์กลางของห้องโถงหลัก โลงศพสำริดดูเหมือนบ้านหลังเล็กๆ

มีสัตว์ประหลาดอยู่ในโลงศพสำริด

ในฐานะโจรปล้นสุสาน ลู่อวิ๋นยอมเผชิญหน้ากับกับพันปีซ่งสือ แต่ไม่เต็มใจที่จะเผชิญหน้ากับโลงศพสำริด

บนโลก สำนักอาจารย์โมจินของลู่อวิ๋นเป็นสำนักโจรปล้นสุสานที่มีชื่อเสียงในโลกของโจรปล้นสุสาน ผู้คนต่างเจริญรุ่งเรืองไปทั่วทุกมุมโลก

แต่ในระหว่างการขุดค้นสุสานโบราณ เมื่อสุดท้ายได้พบกับโลงศพสำริด… สายของโมจินซึ่งเดิมเป็นที่นิยมมาก ก็ล่มสลาย ในรุ่นนี้ มีเพียงลู่อวิ๋นคนเดียวที่เหลืออยู่

พูดตามตรง… สายเลือดโมจินบนโลก ด้วยลู่อวิ๋นมาที่โลกเซียน จึงไม่เหลือทายาทอีกต่อไป

"อย่างไรก็ตาม ที่นี่คือโลกเซียน และข้าก็กลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์เซียน ข้าไม่เชื่อว่า ข้าแตะต้องโลงสำริดนี้ไม่ได้!”

ลู่อวิ๋นตัวสั่นเล็กน้อย นั่นเป็นเพราะความตื่นเต้นอย่างมาก

ลู่อวิ๋นอยากดู ในโลงศพสำริดที่ครั้งหนึ่งเคยกำจัดโมจินไปจนหมด คืออะไรกันแน่!

"นั่นคือเห็ดหลินจือจิ่วอวิ๋นเทียน! วัตถุดิบเซียนในตํานานที่เหนือกว่าสมบัติเซียนระดับเก้า… หลังจากที่กินเห็ดหลินจือจิ่วอวิ๋นเทียน เจ้าสามารถกลายเป็นเซียนได้ในทันที!"

ทันใดนั้น เจ้าเมืองเทียนเหอก็ส่งเสียงคำราม พุ่งตัวไปที่มุมหนึ่งของห้องโถงหลัก ต้องการที่จคว้าเห็ดหลินจือจิ่วอวิ๋นเทียนมา

"เจ้าคนบัดซบ กลับมา ที่นี่มีค่ายกล!!”

หลีโหย่วไฉเห็นเจ้าเมืองเทียนเหอพุ่งไปทางเห็ดหลินจือจิ่วอวิ๋นเทียน รีบตะโกนอย่างเร่งด่วน

บูม——

ทันใดนั้น คลื่นฟ้าร้อง(1)สีดำก็ระเบิดออกกลางอากาศ มันกระแทกร่างของเจ้าเมืองเทียนเหออย่างแรง

เจ้าเมืองเทียนเหอกรีดร้อง ร่างกายของเขาดำเป็นตอตะโก

บูม——

เหมือนได้รับการกระตุ้น ในความว่างเปล่า ฟ้าร้องฟ้าผ่าพัวพันกันมา กระแทกเข้าใส่ทุกคนที่อยู่ตรงนั้น

"อาจารย์สือซาน!"

ชิงหงเฉินหน้าเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง เขาพูดอย่างเร่งรีบ

เจิ้นสือซานเปลือกตากระตุกเล็กน้อย ต่อจากนั้นเขาก็ย่อตัวลงทันที มือข้างหนึ่งกดลงกับพื้น

โอม——

บนพื้นกระเบื้องวิหารหลัก ค่ายกลรูปแบบหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น ในพริบตา ค่ายกลป้องกันที่แข็งแกร่งก็ปรากฏออกมาจากอากาศ ปกป้องทุกคนไว้ในนั้น

แต่ฟ้าร้องฟ้าผ่าในห้องโถงหลัก ดูเหมือนว่าไม่มีที่สิ้นสุด กระแทกเข้าใส่ค่ายกลป้องกันอย่างหนัก

"ช่างเป็นฟ้าร้องที่น่ากลัว… นี่ นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นทัณฑ์สวรรค์ของเซียนก่อนที่จะกลายเป็นเซียน!"

มุมปากของเจิ้นสือซานมีเลือดไหลออกมา ดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความไม่อยากเชื่อ "นี่มันค่ายกลอะไรกัน มันสามารถเรียกทัณฑ์เซียนลงมาได้!"

"ออกไป!"

อย่างกระทันหัน ค่ายกลของเจิ้นสือซานก็เกิดการระเบิดออก

ในค่ายกลป้องกัน เมื่อมีการระเบิดออกอย่างกระทันหัน มันก็ผลักชิงหาน หลีโหย่วไฉและคนอื่นๆ ออกไป ปล่อยให้เขาอยู่กับชิงหงเฉินเท่านั้น

ทั้งห้องโถงหลัก ทุกคนจมอยู่ในทะเลฟ้าร้อง

บุคคลที่ถูกส่งออกจากค่ายกล ถูกฟ้าร้องฉีกออกเป็นชิ้นๆ ในทันที

"กลายเป็นว่า ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งหลอกลวง"

ลู่อวิ๋นยืนอยู่ที่เดิม เขายกมือขึ้นเพื่อดูสายฟ้าที่หนากว่าแขนของเขากระทบเข้ากับร่างกาย… ความเจ็บปวดอย่างหนักของค่ายกล กระตุ้นประสาทของเขาอย่างรุนแรง

ร่างกายของเขา กลายเป็นตอตะโก กลิ่นเนื้อย่างโชยเข้าจมูกของลู่อวิ๋น

"อาการเจ็บแบบนี้ ความเจ็บปวดช่างสมจริง… แต่ ถ้าไม่มีสายฟ้าเหล่านี้ ข้าเกรงว่าจะมองทะลุอาคมของค่ายกลนี้ไม่ได้”

ลู่อวิ๋นพึมพำกับตัวเอง

ร่างกายของเขาหายเป็นปกติอย่างรวดเร็ว เขาเอามือไพล่หลัง เดินไปที่ส่วนลึกของห้องโถงหลักอย่างช้าๆ

"ผู้ฝึกยุทธ์เซียนหรือเซียนเองก็ตาม สิ่งที่ปรารถนามากที่สุดคือทรัพย์สมบัติทุกชนิด… ดังนั้นที่นี่จึงมีสมบัติไม่สิ้นสุด และสิ่งที่พวกเขากลัวที่สุดก็คือทัณฑ์สวรรค์ ดังนั้นทัณฑ์สวรรค์จึงปรากฏขึ้นที่นี่”

"ใช่ โลงศพสำริดนี่ก็เป็นความกลัวที่ยิ่งใหญ่ในใจข้า ดังนั้นสิ่งที่ไม่รู้จักนี้ จึงอ่านความกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในใจข้า สร้างโลงศพสำริดนี้ขึ้น”

"แต่ ข้าเคยตายไปแล้วครั้งหนึ่ง ข้าจะกลัวโลงศพสำริดนี้ไปอีกทำไม"

ลู่อวิ๋นยิ้มเล็กน้อย จากนั้นร่างของเขาก็หายไปในห้องโถงหลัก

หลังจากลู่อวิ๋นหายไป ดูเหมือนว่าจะมีเงาสีขาว วาบผ่านห้องโถงหลักไป

ค่ายกลของเจิ้นสือซานก็พังลงเช่นกัน เจิ้นสือซานและชิงหงเฉินกรีดร้อง จากนั้นก็ล้มลงกับพื้น สิ้นสติไป

"ที่แห่งนี้เป็นวังใต้ดินในหลุมฝังศพขนาดยักษ์ หรือก็คือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจากเมืองเจิ้นสุ่ยภายใต้หลุมฝังศพขนาดยักษ์"

ลู่อวิ๋นมองดูสภาพแวดล้อมโดยรอบขณะที่กำลังเดินไป

คิ้วของเขายังคงขมวดแน่น

"แปลก ทำไมถึงมีแสงใต้ดิน"

ทันทีที่ลู่อวิ๋นพูดประโยคนี้ ดวงตาของเขาก็มืดสนิทในทันที

"เห็นได้ชัดว่า มีบางสิ่งตามข้ามา… ผีชนกำแพงงั้นหรือ? มันเป็นรุ่นปรับปรุงของผีชนกำแพง!

ลู่อวิ๋นหยุดฝีเท้า หลับตาลง ยืนอยู่อย่างเงียบๆ โดยไม่เคลื่อนไหว

ต่อจากนั้น ในมือของลู่อวิ๋น ก็ปรากฏถั่วเหลืองหนึ่งเม็ด

เขาโยนมันขึ้นไปในอากาศเบาๆ

โอม——

เมื่อเสียงกระหึ่มอันอ่อนโยนของเสียงโอมผ่านไป ร่างที่สูงหกหรือเจ็ดจั้ง ยักษ์ในชุดเกราะสีทองก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าลู่อวิ๋น

โรยถั่วเปลี่ยนเป็นทหาร!

"ย่า ขุดหลุมกันถึงขนาดนี้เลยงั้นหรือ!"

ยักษ์ในชุดเกราะสีทองมีเวลาเพียงจะปล่อยเสียงตะโกนดังออกมาเท่านั้น จากนั้นร่างนั้นหายไปต่อหน้าลู่อวิ๋น

ความหนาวเหน็บท่วมท้นหัวใจของเขา ลู่อวิ๋นยืนนิ่ง

นายพลชุดเกราะสีทองก่อนหน้านี้ตายแล้ว ร่างของหุ่นถั่วเหลืองแตก เทพหยินกลับสู่ดินแดนพิเศษ

ด้านหน้าของลู่อวิ๋น เป็นเหวที่ไร้ก้น

เทพเกราะทองคำตกลงไปในเหว ถูกบางสิ่งที่อยู่ใต้เหวกลืนกิน

"เกือบไปแล้ว… ทั้งที่รู้ว่าอยู่ในภาพลวงตา แต่ข้ากลับไม่สามารถมองผ่านภาพลวงตาได้ ถ้าข้าก้าวไปอีกก้าว ข้าก็คือคนที่จะมีร่างแหลกเป็นชิ้นๆ ”

หลังของลู่อวิ๋นเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็น

ลู่อวิ๋นสามารถมองทะลุสิ่งรอบตัวราวกับภาพลวงตา แต่ดวงตาของเขาไม่สามารถมองทะลุภาพลวงตานี้ได้

“เฮ้อ…”

เหมือนจะมีเสียงถอนหายใจกระซิบผ่าน จากนั้นฉากเบื้องหน้าลู่อวิ๋นก็เปลี่ยนไป

แสงสีแดงน่าขนลุกได้ฟื้นการมองเห็นของลู่อวิ๋น มีตัวแมลงเกาะอยู่บนกำแพงศิลาโดยรอบ ร่างกายของมันเปล่งแสงสีแดง เพิ่มความสว่างให้กับพื้นที่

แมลงตัวเล็กเหล่านี้ไร้การเคลื่อนไหว ดูเหมือนกำลังหลับอยู่

แต่ลู่อวิ๋นรู้สึกเหมือนผมของเขากำลังจะตั้งขึ้น

แมลงวันซากศพ!

เหล่าแมลงตัวเล็กเรืองแสงสีแดงที่น่าประหลาดใจนี้คือกลุ่มแมลงวันซากศพ

ยิ่งไปกว่านั้นแมลงวันซากศพเหล่านี้ มีขนาดใหญ่กว่าแมลงวันซากศพในภูเขาชื่อฉวน หลายเท่า มีขนาดตัวเท่ากับฝ่ามือ

เบื้องหน้าลู่อวิ๋น เป็นเหวที่ไร้ก้นบึ้ง หากลู่อวิ๋นก้าวเข้าไปอีกก้าว ก็จะตกลงไปในเหว

"ดูเหมือนว่าข้ากำลังมีอะไรสิ่งหนึ่งติดตามอยู่จริงๆ สิ่งนั้นจงใจสร้างภาพลวงตาโดยเจตนา นำข้ามาที่นี่ ใช้เหวนี้เพื่อฆ่าข้า… แต่เนื่องจากมันไม่ได้ฆ่าข้าโดยตรง นั่นสามารถพิสูจน์ได้ว่ามันไร้ความสามารถในการฆ่าข้าโดยตรง”

วู้ วู้ วู้!

ในเวลาถัดจากนั้น ข้างกายของลู่อวิ๋น ประตูใหญ่ขนาดมหึมาก็เปิดออกอย่างช้าๆ

"ผีลู่เทียน คารวะนายเหนือ!"

ชายคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมดำ ในมือถือเคียว ปรากฏกายขึ้นข้างตัวของลู่อวิ๋น

บุคคลผู้นี้เป็นหนึ่งในสี่เซียนที่ถูกลู่อวิ๋นสังหารด้วยความช่วยเหลือของค่ายกลมังกรเก้าพิทักษ์ ทั้งสี่คนนี้ล้วนเป็นสาวกของลู่หยวนโหว พวกเขาได้รับนามสกุลลู่ ตั้งชื่อว่า เทียน ตี่ ฉวน หวง

"ลุกขึ้น ถอดเสื้อผ้าผีออก แล้วตามข้ามา"

ลู่อวิ๋นตะโกน

"ขอรับ!"

ลู่เทียนรีบถอดเสื้อผ้าของผีออก

หลุมฝังศพขนาดยักษ์นี้ เต็มไปด้วยสิ่งแปลกประหลาด มีลู่เทียนคอยปกป้อง ลู่อวิ๋นรู้สึกปลอดภัยกว่ามาก

"เกิดอะไรขึ้น?"

ผ่านไปไม่ทราบว่านานเท่าไร เจิ้นสือซานและชิงหงเฉินก็ตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย

มุกราตรีส่องทุกสิ่งรอบตัว

ที่แห่งนี้ไม่มีห้องโถงหลักอีกต่อไป ไม่มีสมบัติที่แปลกประหลาด มันกลายเป็นห้องศิลาขนาดมหึมา… ในห้องศิลามีกระดูกไม่ทราบจำนวน ไม่ทราบว่ามีผู้เสียชีวิตในที่แห่งนี้เท่าไร

"นี่… ก่อนหน้านี้ ทั้งหมดล้วนเป็นจินตนาการงั้นหรือ?"

เจิ้นสือซานชาไปทั้งหนังศีรษะ เขามองไม่ทะลุผ่านภาพลวงตาของที่นี่เลยด้วยซ้ำ

"แล้วคนอื่นล่ะ"

ในห้องศิลานี้ ยกเว้นกระดูกขาวเหล่านั้น เหลือเพียงเจิ้นสือซาน ชิงหงเฉิน และเจ้าเมืองเทียนเหอที่นอนอยู่บนพื้น ไม่ทราบว่าเป็นหรือตาย

ชิงหงเฉินหน้าตาฟกช้ำดำเขียว เขาเตะเข้าตัวเจ้าเมืองเทียนเหอ

"ตายหรือยัง"

ชิงหงเฉินพูดเสียงเย็นชา

"คุณชายห้า!… ข้ายังไม่ตายงั้นหรือ?"

เจ้าเมืองเทียนเหอตื่นมากระทันหัน เมื่อเห็นชิงหงเฉินเขารีบพูดขึ้น "ว่าแต่เห็ดหลินจือจิ่วอวิ๋นเทียนของข้า!"

เจ้าเมืองเทียนเหอรีบยกมือขึ้นขึ้น ในมือของเขาถือกะโหลกไว้

ใบหน้าของกะกว่าสิบก ดูเหมือนจะมีรอยยิ้มเย้ยหยัน

เจ้าเมืองเทียนเหอร้องอุทาน โยนกะโหลกนั้นทิ้งไป

"เกิดอะไรขึ้น!"

เจ้าเมืองเทียนเหอเสียงสั่นสะท้าน

"หลอกลวง ทุกอย่างเกี่ยวกับที่นี่ล้วนหลอกลวง”

เจิ้นสือซานถอนหายใจ "ลู่อวิ๋นมองเห็นภาพลวงตาก่อนหน้านี้ ข้าไม่ดีเท่าเขา"

"เมื่อเป็นเช่นนั้น ในเมื่อลู่อวิ๋นหลบภัยมาอยู่กับข้า เขาก็เป็นคนของข้า เขากล้าดีอย่างไรมาทิ้งข้า"

ด้วยรอยยิ้มเย็นชา "เนื่องจากลู่อวิ๋นสามารถมองผ่านที่แห่งนี้ได้ ถ้าเช่นนั้นก็ให้เขาเปิดทางให้ข้า!"

—---------------------------------------------------------------

(1) เกร็ดความรู้ ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ในนิยายจีนส่วนใหญ่จะแยกออกจากกันเป็นคนละตัวอย่างชัดเจน ฟ้าร้องจะมีลักษณะคล้ายๆ ประทัด เป็นแรงกระแทก ในขณะที่ฟ้าผ่าก็เป็นสายฟ้าฟาดอย่างที่พวกเราเจอกันบ่อยๆ เมื่อเข้าใจแล้ว ก็จะอ่านนิยายได้สนุกมากขึ้นแล้วนะครับ เพื่อนๆ

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด