ตอนที่ 546 ภารกิจการทูตราคาแพง

เสี่ยวเอ้อไม่เคยพบกับคนที่ฟุ่มเฟือยขนาดนั้นมาก่อนในชีวิต  สมบัติศักดิ์สิทธิ์และของมีค่าทั้งหมดของผู้อาวุโสกุ่ยอู๋ไม่ได้เป็นรองคลังสมบัติขนาดใหญ่เลย แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าเด็กโง่นั่นกลับยกให้คนอื่นจนเกลี้ยง

สมบัติวิญญาณที่สามารถเตะตาผู้อาวุโสกุ่ยอู๋คือสมบัติที่ผ่านการทดสอบทางกาลเวลามาแล้วและเป็นสมบัติที่สั่นสะเทือนสวรรค์ได้ทั้งนั้น

ทุกคนถือสิ่งของเอาไว้ในมือพวกเขา  สีหน้าของทุกคนยังอยู่ในอาการมึนงง ติงม่านพยายามหยิกมือตนเองเพื่อให้แน่ใจว่านางมิได้ฝัน  เหลียงฟงกำลังฟุ้งซ่านจู่ๆ ก็ร้องไห้ออกมาดังๆเสียงร้องไห้ครั้งนี้ทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ตามมาเนื่องจากทุกคนเริ่มร้องไห้ออกมาดังลั่นห้องประชุม

สำหรับพวกนักสู้ที่ก้าวเข้าสู่ระดับเซียนและการได้เป็นเซียนย่อมได้รับความฉลองยินดี แต่แค่เพียงผ่านเข้าประตูไปแล้วพวกเขาถึงได้รู้ว่าโลกที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้สวยงามเหมือนอย่างที่พวกเขาคิด  ตรงกันข้าม โลกของเซียนโหดร้ายมากกว่า รุนแรงมากกว่า พวกเขาเหมือนพวกจัณฑาลในโลกของเซียน ต้องระมัดระวังตนมากขึ้นและต้องทำตัวให้ดี วิชาจิตวิญญาณทั้งหมดทำให้พวกเขาน้ำลายไหลและสมบัติจิตวิญญาณระดับบรอนซ์เป็นได้แค่เพียงความฝัน

ตอนนี้ พวกเขากำลังถือสมบัติที่พวกเขาไม่เคยกล้าแม้แต่จะฝันถึง สมบัติทุกอย่างที่พวกเขาถือล้วนมีชื่อในประวัติศาสตร์ทั้งนั้นและเบื้องหลังแต่ละชื่อก็เป็นตำนานทั้งหมด

ความทุกข์ทนขมขื่นทุกอย่างตอนนี้ผุดออกมาจากใจพวกเขา ความรู้สึกที่แตกต่างทั้งหมดท่วมท้นอยู่ในหัวใจของพวกเขาจนทำให้พวกเขาพูดไม่ออกได้แต่ร้องไห้

เทียบกับสมบัติในมือของพวกเขากลายเป็นของเล็กน้อยและต่ำค่าไปเลย

เสี่ยวเอ้อยังคงไม่ไหวติง เขารู้สึกโกรธจัดต่อพฤติกรรมสุรุ่ยสุร่ายของถังเทียน สมบัติข้างในทุกชิ้นสามารถแลกเปลี่ยนมาได้ซึ่งความภักดีของเซียนผู้แข็งแกร่งกว่าและโดดเด่นกว่า  สำหรับเขาพวกเซียนที่อยู่ข้างหน้าเขาไร้ค่าอย่างสิ้นเชิง

เทียบกันแล้ว อาเฮ่อหลิงซิ่วและจิ่งหาวยังคงสงบใจกับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง มีบางครั้งที่ถังห้าวก็ตระหนี่และโลภมากจนสร้างความโกรธให้คนอื่นและมีบางครั้งที่ถังห้าวก็ใจกว้างราวกับอาเสี่ยใหญ่ผู้มีอิทธิพล ดังนั้นบุคลิกที่สุดโต่งทั้งสองนี้จะปรากฏขึ้นเมื่อใด?นั่นขึ้นอยู่สภาพใจของถังห้าวว่าเป็นเช่นไร

ถังเทียนยังทำหน้าตกใจ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนถึงได้ร้องไห้ ข้าคิดว่าข้าทำเรื่องดีๆ กับพวกเขาแล้วนะ...

อาเฮ่อสังเกตเห็นสีหน้าประหลาดใจของถังเทียนก็อดยิ้มไม่ได้  เมื่อมองดูในแง่ผลประโยชน์การกระทำของถังเทียนเป็นเรื่องที่ไม่มีมนุษย์ปกติผู้มีปัญญาคนใดเขาทำกัน  แต่หัวใจของถังห้าวในบางคราก็ง่ายๆ อย่างนั้น

บางทีนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ข้าไม่ยินดีไปจากที่นี้ความอบอุ่นที่แท้จริงนี้  ความงี่เง่าสุดโต่งนี้ด้วยความคิดที่เรียบง่าย ‘มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน’ ก็คือสิ่งที่หาได้ยากที่สุดในโลก

ปิงยังคงมองดูฉากภาพปัจจุบัน ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มจางๆและความคิดของผู้บัญชาการ ความจริงตั้งแต่แรก สหายของถังเทียนไม่เคยโดดเด่นที่สุดหรือได้รับการขัดเกลามาก่อน

หลิงซิ่วคือมือหอกพเนจรและเป็นอันธพาลรับจ้าง,อาเฮ่อเป็นศิษย์ของสำนักที่ตกต่ำและจิ่งหาวเป็นคนหนึ่งที่มีพรสวรรค์จากสมาพันธ์ชาวยุทธที่ถูกลืมเลือนเซรีนคือเจ้าของร้านเล็กๆ จากเมืองสามวิญญาณ ผู้เฒ่าเฟ่ยก็ยังไม่ค่อยดีนัก  ติงตังตำแหน่งม้าวิญญาณมืดที่ธรรมดาคนหนึ่งผี่ผาเด็กสาวอมโรค หลงโส่วจิงแพะรับบาปจากกลุ่มดาวมังกร...

อาศัยคนกลุ่มนี้ซึ่งในสายตาคนอื่นอาจมองว่าเป็นเพียงสวะที่ไร้ค่า แต่พวกเขาคือพวกที่ทำให้กลุ่มดาวหมีใหญ่มีวันนี้ได้

หลิงซิ่วในตอนนี้เป็นเซียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้และถูกมองว่าเป็นผู้ฟื้นคืนชีพกองกำลังพาหนะน้ำแข็งเงิน อาเฮ่อเป็นเซียนคนที่สองในประวัติศาสตร์สำนักกระเรียนและพิชิตใจของทุกคนในกลุ่มดาวคนธนูได้  ตราบใดที่เขายินดีเขาจะกลายเป็นเจ้ากลุ่มดาวคนธนูได้ จิ่งหาวฝึกฝนจนได้ภูตกระบี่ที่หาได้ยาก ตราบใดที่เขาไม่ตายเขาย่อมมีคุณสมบัติกลายเป็นเซียนกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุด เซรีนกลายเป็นปรมาจารย์วิศวกรจักรกลหมายเลขหนึ่ง  ผู้เฒ่าเฟ่ยกลายเป็นผู้มีชื่อเสียงในหมู่ผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือดและมีห้องปฏิบัติการพลังสายเลือดภายใต้การกำกับดูแลของเขา  ติงตังกลายเป็นหัวหน้าผู้ชาญฉลาดของกลุ่มดาวหมีใหญ่ ขณะที่ผี่ผาและหลงโส่วจิงกลายเป็นแกนหลักจัดการกิจการภายในของกลุ่มดาวหมีใหญ่และกลุ่มมหาอำนาจใหญ่พร้อมจะทุ่มค่าใช้จ่ายมหาศาลเพื่อให้ได้ตัวพวกเขาไป

คนทั้งหมดนี้ไม่มีชื่อเสียงและคลุมเครือกลับมีชื่อเสียงภายนอกในปัจจุบันนี้

ปิงรู้ว่าแกนกลางของกลุ่มจิตวิญญาณของกลุ่มที่แท้จริงก็คือเด็กหนุ่มที่ตีสีหน้าประหลาดใจผู้นี้เอง

ผู้นำที่โดดเด่นอย่างแท้จริงสามารถรับตำแหน่งผู้นำได้

ปิงแอบยกย่องสรรเสริญในเรื่องพรสวรรค์มีหลายคนที่มีความโดดเด่นมากกว่าเขา แต่จะมีพวกเขากี่คนที่สามารถไขว่คว้าความสำเร็จได้อย่างเขา? ทำเรื่องโง่ๆอย่างเช่นเอาสมบัติวิญญาณทั้งหมดออกมาให้  คนที่มีสติปัญญาทั่วไปไม่มีทางทำเช่นนั้น อย่าว่าแต่คนทั้งหมดเหล่านั้นฉลาดและทะเยอทะยานเลยแต่ถังเทียนก็ยังทำอยู่ดีและแววประกายในดวงตาของเซียน ปิงมีความคุ้นเคยมากเพราะมันเหมือนกับที่เห็นในกองทัพ

แสงในดวงตานี้จะค่อยๆเพิ่มขึ้นมากจนเกิดความไม่ย่อท้อตลอดไป

ปิงซึ่งมาจากกองทัพดาวกางเขนใต้รู้ว่าคนธรรมดาเมื่อเปลี่ยนรูปร่างลักษณะจะทำให้สายตามึนงงได้เหมือนกัน

ขณะเดินไปตามถนนในเมืองศีรษะหมีเมื่อเห็นผู้คนทั้งหมดไปมาขวักไขว่ด้วยความกระตือรือร้นสูงผู้เฒ่าเซียวหยุดอยู่กับที่และกล่าว “ในรุ่นของเยี่ยนหย่งเลี่ย  ข้าเคยมากลุ่มดาวหมีใหญ่และเมืองศีรษะหมีตอนนั้นก็รุ่งเรืองเฟื่องฟูเหมือนกัน แต่เมื่อเทียบกับเมืองศีรษะหมีในปัจจุบันยังอ่อนกว่ามาก เมืองศีรษะหมีของเยี่ยนหย่งเลี่ยเป็นสถานที่หย่อนใจและผ่อนคลายมาก  เมืองศีรษะพญาหมีของเยี่ยนหย่งเลี่ยถูกมองว่าเป็นสถานที่ผ่อนคลายและสวยงามแต่เมื่อมองดูในตอนนี้ ทุกคนมีความกระตือร้นสูงและพูดถึงกันแต่เรื่องการฝึกฝน”

ผู้เฒ่าหัวที่อยู่ข้างตัวเขากล่าว  “ถูกแล้ว สิ่งที่ปลุกเร้าผู้คนก็คือการเติบโตแบบฉับพลันทันด่วนของกลุ่มดาวหมีใหญ่ทำให้ผู้คนไม่ท้อถอยจริงๆ  ข้าอยากพบถังเทียนผู้นี้จริงๆจะดูว่าเขามีพลังร้ายกาจใดกันแน่ถึงได้เปลี่ยนกลุ่มดาวหมีใหญ่ไปอย่างสิ้นเชิงแบบนี้  กลุ่มดาวหมีใหญ่นี้กลายเป็นกลุ่มดาวทรงอิทธิพลไปแล้ว”

ทันใดนั้น ชุดเกราะจักรกลวิญญาณชุดหนึ่งเหาะผ่านพวกเขาไป

ผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งถามทันที  “อาวุธจักรกลวิญญาณนั่นรุ่นอะไรกัน ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน”

สายตาของผู้อาวุโสเซียวยังมองอยู่ที่ชุดอาวุธจักรกลวิญญาณที่งดงามแต่เขาทำการบ้านมาเป็นอย่างดีก่อนที่จะมานี้ “นั่นน่าจะเป็นรุ่นล่าสุดของกลุ่มดาวหมีใหญ่ ‘หมีร้าย 1’ ข้าได้ยินว่ายังคงอยู่ในช่วงพัฒนา แต่คิดไม่ถึงเลยว่ารุ่นตัวอย่างจะสร้างเสร็จแล้ว”

กลุ่มผู้อาวุโสมองดูร่างนั้นบินหายไปในท้องฟ้าด้วยสายตาหลงใหล

ชัยชนะของกองทัพจักรกลที่มีต่อกองพลเพลิงนรกและกองพลแสงสางผลักดันให้ทักษะการต่อสู้ของอาวุธจักรกลวิญญาณเข้าสู่ระดับสูง  นักสู้จักรกลคือผู้ที่เหมาะสมสำหรับกองทัพ ขณะที่อาวุธจักรกลวิญญาณสามารถจัดการในระดับขนาดจำนวนที่มากได้และข้อได้เปรียบนี้คือสิ่งที่อาวุธสมบัติไม่สามารถแทนได้  ก็แค่เพียงว่าวิชาจักรกลตกต่ำมาเป็นเวลานานบรรดามหาอำนาจทั้งหลายไม่มีใครมั่นใจในอาวุธจักรกล  รวมทั้งกลุ่มดาวคันชั่ง (ตุล)ที่ตัดสินใจแล้วว่าจะเดินตามเส้นทางจักรกลซึ่งความจริงแล้วก็ไม่ชอบสิ่งที่พวกเขากำลังทำ

ตลอดเส้นทางจนกระทั่งชัยชนะของกองทัพจักรกล ในที่สุดก็เปลี่ยนความคิดของผู้บริหารระดับสูงในกลุ่มดาวคันชั่ง

ดังนั้นกลุ่มดาวคันชั่งจึงได้ผลักดันภารกิจทางการทูตขนาดใหญ่  ด้วยผู้คนเกิน 500 คนรวมทั้งผู้อาวุโส 7 สำนักในช่วงไม่กี่ร้อยปีของประวัติศาสตร์กลุ่มดาวคันชั่งเรื่องเช่นนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อน  แสดงให้เห็นว่ามุมมองที่พวกเขามีต่อกลุ่มดาวหมีใหญ่เปลี่ยนไปมากมายขนาดไหน

“ข้าได้ยินมาว่าแม้แต่ราชสีห์เลโอนคิดจะเชื่อมสัมพันธ์ผ่านการแต่งงาน”  ผู้เฒ่าหัวหัวเราะ

ผู้เฒ่าเซียวไม่หัวเราะด้วยหน้าของเขาขรึมลงขณะที่เขาพยักหน้า “ใช่แล้ว, สการ์เล็ตมาพร้อมกับอังเดร”

ผู้เฒ่าหัวประหลาดใจ “สการ์เล็ต, ท่านหมายความถึงสการ์เล็ตสาวงามอันดับหนึ่งของกลุ่มดาวราชสีห์น่ะหรือ?  เลโอนยังยินดีจะทำแบบนั้นจริงๆ!”

“ก็ไม่รู้ว่าจะเต็มใจหรือไม่!” ผู้เฒ่าเซียวหงุดหงิดเล็กน้อย “ถ้าข้ามีลูกสาวงดงามขนาดนั้น ข้าจะต้องพานางมาที่นี่แน่นอน!  แต่งงานกับเจ้ากลุ่มดาวผู้กล้าหาญ นั่นเป็นความความฝันที่ทำให้ข้าไม่อยากตื่นขึ้นเลย  เลโอนใช้สการ์เล็ตเป็นเหยื่อล่อ ผ่อนสายเบ็ดแล้วตกถังเทียนทันที”

“เราต้องไม่ยอมให้พวกเขาได้เขาไป!” น้ำเสียงของผู้อาวุโสฮัวชื่นชมอีกฝ่ายหนึ่งอยู่ในที

ผู้อาวุโสเซียวแค่นเสียง “ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก ถังเทียนยึดมั่นอยู่กับเชียนฮุ่ยและคนในตระกูลซ่างกวนก็อพยพเข้ามาในกลุ่มดาวหมีใหญ่กันแล้ว  นอกจากนี้ซ่างกวนเชียนฮุ่ยยังไม่ตาย  และนี่คือสิ่งที่หลายคนไม่รู้  ตอนนี้เลโอนตัดสินใจพลาดแน่นอน  เขาต้องการหลอกล่อถังเทียน หึหึเขาไม่ใช่คู่ต่อกรของเราแน่”

“อย่าบอกข้านะว่าเรามีแผนการเด็ด?”  ผู้อาวุโสอันอดถามไม่ได้

“แผนการเด็ด?” ผู้อาวุโสเซียวหัวเราะ  “ถูกแล้วและนั่นก็คือผลกำไร  ทุกคนดู ที่เมืองพญาหมีนี้แม้ว่าจะเต็มไปด้วยพลังงาน แต่ก็ยังขาดแคลนบางอย่างไม่ใช่หรือ? กลุ่มดาวหมีใหญ่เพิ่งถูกสร้างขึ้นมา ถังเทียนไม่ได้มาจากตระกูลพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เขาผ่านการสู้รบมามากมายและตอนนี้จนกรอบแน่นอน  ด้วยสมบัติของกลุ่มดาวคันชั่งข้าไม่เชื่อว่าถังเทียนจะไม่ตื่นเต้น!”

“ฮ่าฮ่า!  นั่นก็จริง!”  ผู้อาวุโสหัวหัวเราะ  “พวกวิญญาณที่ยากไร้เหล่านี้ทันทีที่พวกเขาเห็นสมบัติเหล่านี้  ข้าพนันได้ว่าน้ำลายยืดแน่นอน”

“ฮ่าฮ่า ข้าก็หวังว่าพวกเขาคงไม่กลืนสมบัติเหล่านี้ลงไปอยู่ในท้องพวกเขาเสียก่อน!”

กลุ่มพวกผู้อาวุโสเริ่มหัวเราะดังลั่น

กลุ่มดาวหมีใหญ่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่ากลุ่มดาวอื่น แต่เทียบกับมหาอำนาจเก่าสิบสองกลุ่มดาวระนาบสุริยุปราคาอย่างกลุ่มดาวคันชั่งกลุ่มดาวหมีใหญ่ยังตามหลังเป็นแสนกิโลฯ ในประวัติศาสตร์ของกลุ่มดาวหมีใหญ่ไม่เคยมีแม้แต่ครั้งเดียวที่คนจากระดับกลุ่มดาวระนาบสุริยุปราคาย่างเท้าเข้ามา

แม้ว่าเหล่าผู้อาวุโสจะอิจฉาวิชาจักรกลของกลุ่มดาวหมีใหญ่ก็ตาม  แต่พวกเขาก็ยังคิดว่ากลุ่มดาวหมีใหญ่เป็นแค่ชาวนาที่โชคดีเท่านั้น สมบัติทั้งหมดที่พวกเขามีไม่สามารถเอาลงในตลาดได้จะทำให้พวกชาวนาตกใจและพูดไม่ออกอย่างแน่นอน

ดังนั้นในคุณทูตทุกคนจะเต็มไปด้วยความคาดหมายต่อภารกิจของพวกเขา

“นี่คือคณะทูตหรือนี่?”

เซียนคนหนึ่งบินมาในท้องฟ้าและมองดูพวกเขา

“เราเป็นคณะทูตจากกลุ่มดาวคันชั่ง”  ผู้อาวุโสเซียวเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพ  ปราณของเซียนไม่ธรรมดาและความแข็งแกร่งของเขาไม่ใช่น้อยๆ แน่นอน

“กลุ่มดาวคันชั่ง!” เหลียงฟงประหลาดใจ “เชิญตามข้าเข้ามา!”

เขานำคณะทูตที่มาเยี่ยมเยือนไปทันทีจิงโส่วและผี่ผาเพิ่งจะได้รับข้อความจากมหาอำนาจต่างๆ ทั้งสองคนไม่เคยมีประสบการณ์ในเรื่องเช่นนั้นถึงกับมือไม้ปั่นป่วน

เพราะไม่ใช่เรื่องธรรมดาเกินไป  พวกเซียนทุกคนจึงถูกส่งมาต้อนรับคณะทูตเอง

สายตาของผู้อาวุโสเซียวกวาดมองผ่านเหลียงฟงไปโดยไม่รู้ตัวและเขาตกใจทันที สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่จี้หยกรูปร่างแปลกประหลาดที่ห้อยอยู่ที่เอวเหลียงฟง  จี้หยกนั้นดูเหมือนปลาสองตัวที่ผสานกันลงตัวปลาตัวหนึ่งมีนัยน์ตาสีเงิน อีกตัวหนึ่งมีนัยน์ตาสีดำสนิท จี้หยกนี้มีแสงเปล่งเป็นระลอกและในระหว่างปลาทั้งสองจะมีเข็มทิศสีแดงเข้มซึ่งมีเครื่องหมายสลักไว้ในนั้น

ผู้อาวุโสเซียวผู้มีสารานุกรมอยู่ในความทรงจำรู้สึกใจเต้นแรงเพราะในใจของเขามีชื่อหนึ่งผุดขึ้นมาทันที

เข็มทิศเป็นตายแห่งกลุ่มดาวมีน

แต่หน้าของเขากลับเป็นปกติอย่างรวดเร็ว  เขาหัวเราะในใจ  ข้าแก่จนปูนนี้แล้ว เข็มทิศเป็นตายแห่งกลุ่มดาวมีนเป็นสมบัติในตำนานจะมาปรากฏอยู่ที่นี่ได้ยังไง?

ต้องเป็นของปลอมแน่นอน

แต่ต่อให้เป็นของปลอม รัศมีของมันคล้ายกันมาก  ข้าเกรงว่าราคาของมันคงไม่ถูกอย่างแน่นอน

ถังเทียนเต็มใจใช้เงินเพื่อจ้างเซียนเหล่านี้จริงๆ  ผู้อาวุโสเซียวคิดในใจ

เหลียงฟงนำคณะทูตเข้ามาและเห็นติงม่านซึ่งกำลังคุ้มกันอยู่ด้านข้างเขาถอนหายใจกล่าว “ข้าจะปล่อยให้ท่านจัดการ!”

ติงม่านหัวเราะ “ไม่มีปัญหา!”

นางหน้ามาก็เห็นผู้อาวุโสเซียวเหม่อมองจ้องดูที่สร้อยคอสีแดงสดใสที่ห้อยอยู่ที่คอนาง