ตอนที่แล้วตอนที่ 537 - หลีกไป ให้ข้าจัดการเอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 540 - อ่านไม่ออก กลับบ้านนอกไปเถอะ

ตอนที่ 539 - เข็มทิศสามโลก


ดวงดาวถือกำเนิดดวงแล้วดวงเล่า ก่อตัวเป็นหมู่ดาวแกะ

สนามพลังดารานภากาศขยายตัวออกไปอีก

พลังกว้างใหญ่ที่อธิบายไม่ได้ของดวงดาวทำให้เกิดแรงดึงดูดเกินกว่าจะคาดคิดในกับดักสนามพลังของชางเหยียน ภายใต้ผลกระทบของแรงโน้มถ่วงดารานภากาศ ศพของเพชรฆาตโบราณที่กำลังจะระเบิดค่อยๆ ลอยขึ้นมาในอากาศ พวกมันดูเหมือนจะสง่างามกว่าเย่ว์หยางที่อยู่ในขอบเขตวงจักรอนันตกาล ร่างใหญ่โตมโหฬารของมันเบาราวกะขนนก

เย่ว์หยางใช้จักษุญาณทิพย์ตรวจดูก็สามารถเห็นความลับของพลังที่น่าอัศจรรย์นั้น สนามพลังดารานภากาศนี้ก็ไม่ถึงกับน่าตื่นตาตื่นใจเพราะวิธีที่มันสามารถแยกย่อยกับดักสนามพลังที่ใหญ่ของชางเหยียน แต่เป็นเพราะพลังของมันเอง

ซากศพของเพชรฆาตโบราณทั้งหมดถูกห่อหุ้มอยู่ในพลังดวงดาวบางๆ

แม้ว่าชนวนของกับดักสนามพลังจะมีพลังประหลาดน่าทึ่ง แต่หลังจากถูกพลังดวงดาวแยกออกไป ก็ไม่สามารถจุดชนวนได้อีกต่อไป กับดักสนามพลังแทบจะไร้ประโยชน์ไปแล้วในตอนนี้ ขณะที่ชางเหยียนจะใช้ระเบิดต่อเนื่อง จักรพรรดินีราตรีก็สามารถจัดการลบล้างได้อย่างง่ายดาย

เมื่อไม่มีชนวน ต่อให้เขาต้องการจะทำ กับดักสนามพลังของชางเหยียนก็ไม่สามารถระเบิดได้แต่อย่างใด ไม่ว่ามันจะทรงพลังมากเพียงใด ก็กลายเป็นไร้ประโยชน์ในทันที

ชนวนคือจุดอ่อนที่สุดของกับดักสนามพลัง!

“มีอาหารเหลือเฟือ…” นางพญาดอกหนามมงกุฎทองที่เพิ่งถูกระเบิดเป็นชิ้นๆ เนื่องจากแรงระเบิดของซากศพอสูรเขี้ยวปีศาจถูกจุดชนวนโดยกับดักสนามพลัง ปรากฏตัวอีกครั้ง เงาร่างที่ถูกระเบิดกระจายออกไปไม่ใช่ร่างที่แท้จริงของนาง ก้านดอกหนามงอกออกมาจากพื้น แล้วบานออกจนเป็นรูปเตียงนอนที่งดงามสุดจะบรรยาย บนเตียงดอกไม้เป็นร่างจริงของนางพญาดอกหนามมงกุฎทองที่ยังหาวงัวเงียอยู่ นางโบกมือที่งดงามดุจหยก ปรากฏดอกหนามนับไม่ถ้วนงอกออกมาในสนามพลังดารานภากาศ ดอกหนามเหล่านั้นช่วยเพิ่มพลังดวงดาวของจักรพรรดินีราตรีโจมตีใส่กับดักสนามพลังของชางเหยียน กวาดซากศพของเพชรฆาตโบราณที่กำลังลอยอยู่

เมื่อไม่สามารถกินเนื้อได้หมด ดอกหนามยักษ์จึงพันหุ้มไว้เป็นพันๆ ชั้นแล้วลากศพอสูรเพชรฆาตโบราณเหล่านั้นออกไป

จ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณได้แต่โกรธ

แต่เพราะมันกลัวเย่ว์หยางที่มีเพลิงอมฤต จ้าวอสูรจึงไม่กล้าห้ามสิ่งที่เกิดขึ้น

ในระยะห่างออกไป มันได้แต่พ่นไฟเผาต้นดอกหนาม ต้นดอกหนามนับไม่ถ้วนถูกเผาเป็นเถ้าถ่านด้วยไฟความร้อนสูง แต่ดอกหนามต้นใหม่ก็งอกออกมามากกว่าเดิม กลับกลายเป็นทะเลดอกไม้ และพวกมันไม่สนใจจ้าวอสูร ยังคงลากศพของเพชรฆาตโบราณออกไป

ตาของชางเหยียนเป็นเหมือนน้ำแข็ง

เขาได้แต่มองอย่างเย็นชา และไม่กล้าเข้าแทรกแซง

ส่วนแม่ทัพเพชรฆาตโบราณทั้งสี่ สายตาการมองเห็นของพวกมันยังไม่ฟื้นฟูดี ได้แต่ดิ้นรนกระเสือกกระสนอยู่ในทะเลดอกไม้ แม้ว่าพวกมันจะได้รับบาดเจ็บจากแสงรังสีทำลายล้างของจื้อจุนก็ตาม แต่พวกมันก็ยังไม่ตาย ความจริง พวกมันมีพลังต่อสู้มากมาย แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่ทะเลดอกไม้ของนางพญาดอกหนามมงกุฎทองจะจับพวกมันไว้ได้ ด้วยความช่วยเหลือของกับดักสนามพลัง แม่ทัพเพชรฆาตโบราณทั้งสี่ ก็ทำร้ายทะเลดอกหนามอย่างโหดเหี้ยมและหนีไปอยู่ข้างตัวชางเหยียน….

ด้วยพลังนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าระดับสาม นางพญาดอกหนามมงกุฎทองในตอนนี้ ยังไม่สามารถจับพวกมันได้แม้ว่าพวกมันจะบาดเจ็บหนักก็ตาม

เย่ว์หยางไม่ได้โจมตีพวกมัน

แต่สำหรับพวกจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณที่ใกล้จะตาย เย่ว์หยางไม่มีความปราณี

เย่ว์หยางตั้งใจจะใช้พวกมันฝึกฝนคนของเขาขณะที่พวกมันดิ้นรนอยู่ในทะเลดอกหนาม นางพญากระหายเลือดหง, โคเงาอาหมัน, มังกรไร้เขาเจี้ยงอิงและเสี่ยวเหวินหลีออกมาอย่างต่อเนื่อง

ชางเหยียนไม่สนใจว่าเย่ว์หยางจะเรียกอสูรพิทักษ์ตนใดออกมา ยังไม่สนใจเสวี่ยอู๋เสียผู้ถือคัมภีร์โบราณอยู่ในมือ เขาเพียงแต่จ้องดูองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่สะพายดาบเทพจักรพรรดิอวี้

เขาไม่ได้มองดูองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน เขากำลังมองดูดาบเทพจักรพรรดิอวี้

นอกจากจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีแล้ว ชางเหยียนไม่สนใจคนอื่น

แม้แต่นักสู้อย่างหวงฉวน, เฝินเทียนและหวิ่นซิงที่เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าระดับสามและสอง ก็เป็นเพียงแค่มดแมลงในสายตาของชางเหยียน เขาไม่สนใจพวกนั้นแม้แต่น้อย

“ไม่มีความจำเป็นต้องให้ข้าโจมตีพวกเจ้าที่ไม่มีคะแนนเพียงพอ พวกเจ้าทุกคนจะต้องถูกรหัสโบราณกำจัดออกไป” ชางเหยียนแค่นเสียงมองดูจื้อจุน เขารู้ว่าจื้อจุนมีคะแนนพอจะหลบหนีการลงโทษของรหัสโบราณได้ คนอื่นๆ ไม่มีโอกาสรอดเลยแม้แต่น้อย เพราะเหตุนี้ ชางเหยียนตัดสินใจไม่โจมตี ประการแรก เพราะเขาไม่มั่นใจเต็มร้อยว่าเขาจะสามารถเอาชนะจื้อจุนมนุษย์ผู้ลึกลับที่อยู่ในสนามพลังดารานภากาศได้ ประการที่สอง เหตุผลใหญ่ที่สุดของเขาก็คือลงมาทำร้ายพวกนักสู้ฝีมือดีที่กำลังจะก้าวเข้าขอบเขตแดนสวรรค์ และไม่ต้องการเสียเวลากับคนธรรมดา

“….” หวงฉวนและคนอื่นๆ มองดูไม่สบายใจ

ก่อนนี้ เมื่อพวกเขาอยู่ภายใต้การคุกคามของมรณภัยอย่างต่อเนื่อง ทำให้พวกเขาไม่มีเวลาจะกังวลถึงคะแนนของพวกเขา

ตอนนี้ หลังจากชางเหยียนพูดออกมาดังๆ พวกเขารู้สึกชาถึงหนังศีรษะ เมื่อจื้อจุนชาวมนุษย์โจมตีและสังหารเพชรฆาตโบราณส่วนใหญ่ในรวดเดียว แม้ว่านางจะช่วยชีวิตของทุกคนได้ แต่พวกเขาไม่สามารถหลบหนีรหัสโบราณได้ เพราะคะแนนของพวกเขาไม่เพียงพอ

พวกเขาควรทำเช่นไร?

แม้แต่หวงฉวนผู้สงบที่สุดก็ยังกระวนกระวาย คลื่นความโกรธเกิดขึ้นในใจเขา

“คุณชายสามตระกูลเย่ว์ ท่านมีความคิดดีๆ ยังไงบ้าง?” หวงฉวนข่มความกลัวเต็มที่ เขาสามารถรู้สึกถึงโอกาสอยู่รอดได้โดยสัญชาตญาณ และนั่นก็คือเชื่อมั่นเย่ว์หยาง คุณชายสามตระกูลเย่ว์ผู้นี้จะไม่ยอมรอให้ความตายมาถึงแน่นอน เขาไม่ใช่คนเช่นนั้นแน่นอน เขาไม่ยินดีตาย ดังนั้นเขาอาจคิดหาแผนการหลบหนีการลงโทษของรหัสโบราณได้อย่างแน่นอน ตอนนี้ ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็เชื่อถือเย่ว์หยาง

“แผนน่ะหรือ? ข้ามีอยู่อย่างหนึ่ง แต่อาจไม่ค่อยดีนัก…” แน่นอนว่าเย่ว์หยางคงไม่รอความตาย เมื่อเขาเห็นสายตาวิงวอนของหวงฉวนและพวกที่เหลือ เขามีความยินดีและจงใจถ่อมตัว

“ข้า, เรา, เราเชื่อเจ้า!” เฝินเทียนคิดว่าถ้าเมื่อมาถึงจุดนี้แล้วยังมีคนไม่เชื่อใจเย่ว์หยางอยู่อีก คนผู้นั้นต้องเป็นคนโง่งม

“พวกเจ้าทุกคนจะไม่มีทางหนีพ้นการลงโทษของรหัสโบราณ เพราะข้าจะกลับไปแดนสวรรค์ จะไม่มีเพชรฆาตโบราณมาเพิ่มอีก พวกเจ้าทุกคนจะไม่มีคะแนนสะสมเพียงพอ จงฆ่ากันเองอย่างสิ้นหวังอยู่ในที่นี่เถอะ” ชางเหยียนกวักมือทั้งสองข้าง จ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณและแม่ทัพเพชรฆาตโบราณต่างเข้ามารายล้อมตัวเขา

ไม้เท้าแพลตตินัมปรากฏอยู่ในมือของชางเหยียน

ไม้เท้าหวนกลับ

ไม้เท้าหวนกลับระดับแพลตตินัมนับเป็นสมบัติล้ำค่าสำหรับแดนสวรรค์

แม้ว่าจะมีมากถึงสิบชิ้น แต่ก็หาพบได้แต่ในแดนสวรรค์เท่านั้น หรือบางทีอาจเป็นสมบัติของตำหนักกลางแดนสวรรค์ ไม่มีใครอื่นเป็นเจ้าของได้

รังสีขาวสว่างแพรวพราวพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า เกิดกระแสคลื่นนับไม่ถ้วนกระจายอยู่ในกับดักสนามพลัง เมื่อแสงสีขาวไปถึงจุดสูงสุดในท้องฟ้า ก็ระเบิดเหมือนกับพุแตก รังสีขาวหกสายยิงโค้งลงมาที่ตัวชางเหยียน, จ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณ และแม่ทัพเพชรฆาตโบราณทั้งสี่

หวงฉวน เฝินเทียนและหวิ่นซิงไม่สามารถต่อต้านคลื่นกระแทกที่ทรงพลังจากกับดักสนามพลังของชางเหยียนถูกเหวี่ยงกระเด็นไปหลายกิโลเมตร

ชางเหยียนพาจ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณและแม่ทัพเพชรฆาตโบราณเทเลพอร์ตหายตัวไปจากลานแก้วผลึกพร้อมกับเขา

พวกเขากลับไปยังแดนสวรรค์

กระบวนการทั้งหมดเป็นเรื่องที่แปลกมาก เพราะไม่มีใครได้รับการลงโทษจากรหัสโบราณ จากเหตุนี้เอง เห็นได้ชัดว่าสังเวียนมรณะอยู่ภายใต้การควบคุมของใครบางคน พวกเขาต้องใช้ช่องโหว่ภายในรหัสโบราณเปลี่ยนสนามรบโบราณแห่งนี้เป็นลานประหารพวกแดนสวรรค์ระดับต่ำของพวกเขา

ถ้าจื้อจุนไม่ได้มา ชางเหยียนมีแนวโน้มว่าจะไม่ต้องทอดทิ้งราชาเฮยอวี้และหลบหนีกลับแดนสวรรค์ในทันที

แต่แม้ด้วยการสนับสนุนจากจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรี ก็ยังไร้ประโยชน์

ศัตรูเตรียมกับดักไว้นานแล้ว

รอให้เหล่านักสู้จากโลกระดับต่ำกว่าและจับกุมพวกเขาทั้งหมด

“นี่เราจะต้องกลายเป็นเนื้อขึ้นเขียงจริงๆ หรือ?” เฝินเทียนทรุดตัวลงกับพื้นอย่างไม่รู้จะทำยังไง ตอนนี้ชางเหยียนหนีกลับแดนสวรรค์ไปแล้วและไม่มีนักฆ่าอื่นๆ เข้ามาอีก พวกเขาจะต้องตายเพราะคะแนนไม่เพียงพอ

“ตอนนี้เรายังจะมีทางเลือกอะไรอื่นอีกเล่า เราน่าจะร่วมมือกันต่อสู้รั้งตัวชางเหยียนไว้ที่นี่อย่างสุดกำลัง” เวิ่งจินถอนหายใจ ถ้าเพียงแต่จื้อจุนและจักรพรรดินีราตรียินดีก้าวเข้ามาขัดขวางไม่ให้ชางเหยียนหนีไป ต่อให้ชางเหยียนต้องการจะจากไป ก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย! เวิ่งจินไม่เข้าใจว่าทำไมจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีถึงไม่ห้ามชางเหยียน มันไม่เป็นผลดีต่อพวกเขาที่ปล่อยให้ชางเหยียนไป ทำไมพวกเขาต้องทำเช่นนั้น?

“เราทุกคนมาช่วยกันคิดหาวิธีแก้ปัญหากันเถอะ บ่นไปก็ไม่มีประโยชน์” หวิ่นซิงโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ เขารู้สึกว่าจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีได้ทำสิ่งที่พวกนางสามารถทำได้อย่างเต็มที่แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่พวกนางจะเอาชนะชางเหยียนได้ ถ้าไม่ใช่เพราะสิ่งที่พวกนางทำได้ขู่ขวัญจนชางเหยียนหนีไป พวกเขาก็คงตายอยู่ในกับดักสนามพลังของชางเหยียนไปแล้ว

“คุณชายสาม, ท่านคิดว่ายังไงบ้าง…..” หวงฉวนมองดูเย่ว์หยางเต็มไปด้วยความหวัง

“เราไม่สามารถห้ามชางเหยียนไม่ให้หนีไปได้ หากว่าเขาต้องการ ยิ่งกว่านั้น ข้าไม่มีความตั้งใจจะหยุดเขาเสียด้วย” เย่ว์หยางกล่าว ทันใดนั้นเข็มทิศสีทองที่สว่างแพรวพราวกว่าไม้เท้าหวนกลับเป็นร้อยเท่าปรากฏขึ้น

นี่คือเข็มทิศสามโลกที่นางพญาเฟ่ยเหวินหลีให้เย่ว์หยางหยิบยืม

เครื่องมือเทพชนิดพิเศษ

ไม้เท้าหวนกลับนับว่าเป็นสมบัติที่น่าประทับใจแล้ว เนื่องจากมันสามารถเทเลพอร์ตเข้าแดนสวรรค์ได้โดยตรงจากสังเวียนมรณะ อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับเข็มทิศสามโลก ไม้เท้าหวนกลับกลายเป็นเหมือนของเด็กเล่น ตราบใดที่ท่านตั้งค่าไปที่ตำแหน่งใดหรือสิ่งของใดๆ เข็มทิศสามโลกสามารถส่งทุกคนได้ตามต้องการ ไม่เพียงแต่หอทงเทียน, แดนอมตะและแดนสวรรค์เท่านั้น ต่อให้เป็นแดนเทพเจ้าจากตำนาน ก็อาจเทเลพอร์ตส่งไปถึงที่นั่นได้ สิ่งกีดขวางทุกอย่างในโลกนี้ นอกจากรหัสโบราณแล้ว มิติคัมภีร์เทพและผนึกอมตะที่ไม่มีวันทำลายแล้ว พวกผนึกหลุมดำที่ถูกเรียกว่าผนึกอมฤต ก็ไม่มีมิติอื่นที่สามารถขัดขวางการเทเลพอร์ตที่ใช้โดยเข็มทิศสามโลกนี้

นอกจากนี้เข็มทิศสามโลกยังเป็นสมบัติระดับเทพสามารถใช้งานได้สำเร็จแม้ว่าเจ้าของจะไม่ทรงพลังนักก็ตาม

นี่คือสมบัติชั้นเทพคุณภาพพิเศษสูงสุด

แม้ว่านี้คือสมบัติชั้นเทพของนางพญาผู้ปกครองแดนดิน แต่เพราะนางกับเย่ว์หยางทำสัญญาวิญญาณโลหิต ตราบเท่าที่นางกำหนดไว้ เย่ว์หยางก็สามารถยืมมาใช้ได้

ในตอนนั้นเมื่อเย่ว์หยางเข้าไปขอความช่วยเหลือจากนางพญาเฟ่ยเหวินหลี นางล้วงเข็มทิศสามโลกนี้ออกมาหลังจากเข้าใจสถานการณ์แล้ว ต่อมานางกลับพูดบางอย่างที่ทำให้เย่ว์หยางตกตะลึงอย่างหนัก “วิธีที่ดีที่สุดในการทำลายสนามรบโบราณก็คือบุกโจมตีแดนสวรรค์”

ปล่อยให้ชางเหยียนหนีกลับไปแดนสวรรค์เป็นส่วนหนึ่งของแผนของเย่ว์หยาง จื้อจุนและจักรพรรดินีราตรี

มิฉะนั้น จื้อจุนคงไม่ปล่อยเขาไปแน่

แน่นอนว่าถ้าจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีไม่ได้มา เย่ว์หยางคงจนปัญญาต่อให้เขามีเข็มทิศสามโลกก็ตาม นี่เป็นเพราะชางเหยียนไม่ใช่คนที่เขาจะรับมือได้ ศัตรูจากแดนสวรรค์ไม่สามารถก่อกวนให้สับสนได้ หลังจากได้ยินแผนของเย่ว์หยาง จื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีเห็นด้วยโดยไม่ต้องคิดเลย โจมตีแดนสวรรค์เป็นความเคลื่อนไหวที่น่าประทับใจ ต่อให้ล้มเหลวก็สามารถสร้างความตื่นตะลึงได้ทั้งหอทงเทียน… นอกจากนี้เย่ว์หยางยังได้รับคำแนะนำจากนางพญาเฟ่ยเหวินหลีเองโดยตรง ต่อให้พวกเขาไม่สามารถโจมตีแดนสวรรค์ได้ เย่ว์หยางก็ยังมีวิธีกลับมาโดยปลอดภัย

“หวงฉวน, เฝินเทียน, หวิ่นซิง, พวกท่านทั้งสามสามารถรั้งอยู่ข้างหลังได้ ข้าจะไม่บังคับพวกท่าน แผนของเราคือโจมตีแดนสวรรค์ ไม่มีทางที่เราจะยอมปล่อยชางเหยียนให้หนีไป! ข้าได้ทำเครื่องหมายไว้ที่จ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณไว้แล้วและเราสามารถเทเลพอร์ตไปยังที่อยู่ของมันได้ทันที ตัดสินใจเอาเองว่าจะตามเราไปฆ่าชางเหยียนหรือว่าอยู่ที่นี่!” ขณะที่เย่ว์หยางออกปากชวนหวงฉวนและพวกทั้งสอง เขายังคงถ่ายปราณก่อกำเนิดเข้าไปในเข็มทิศสามโลก

ต่างจากไม้เท้าหวนกลับ มีภูตน้อยบินออกมาจากเข็มทิศสามโลกที่งดงาม นี่คือภูตของสมบัติชั้นเทพ เป็นภูตแฟรี่ขนาดเท่าฝ่ามือ

ภูตประจำสมบัติชั้นเทพมีปีกคู่เหมือนกับสายรุ้งและมีหางปลาที่งดงาม

มันดูเหมือนเสี่ยวเหวินหลีขนาดจิ๋วมากกว่า

แม้ว่าจะไม่เหมือนกันเสียทีเดียวแต่ก็ยังน่ารักมาก

ภูตน้อยโบกมือน้อยๆของมัน และทุกชีวิตในระยะสิบเมตรจากตัวเย่ว์หยางถูกทำเครื่องหมายอักษรรูนสีทองไว้

หวงฉวน เฝินเทียนและหวิ่นซิงมองหน้ากันเองและรีบวิ่งเข้ามาทันที แน่นอน พวกเขาต้องการเข้าร่วมแผนการบ้าระห่ำโจมตีแดนสวรรค์ครั้งนี้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าที่นั่นจะมีศัตรูอยู่เท่าไหร่ โอกาสรอดน้อยยังดีกว่าต้องตายในสังเวียนมรณะ

อยู่ที่นี่หมายถึงต้องตายแน่นอน

ไม่ต้องพูดถึงพวกที่อยู่ใกล้ๆ แม้แต่ผู้เฒ่าหนานกงและจักรพรรดิใต้พิภพที่เฝ้าสังเกตอยู่แต่ไกลก็ยังวิ่งเข้ามาร่วมด้วย พวกเขาตั้งใจแน่วแน่จะร่วมกันตอบโต้แดนสวรรค์ให้ได้ แม้ว่าพวกเขาอาจไม่ได้กลับมาก็ตาม

สามารถบุกโจมตีแดนสวรรค์เป็นความปรารถนายาวนานของนักสู้ทุกคน

แม้ว่าพวกเขาจะต้องตายในการต่อสู้ ก็ยังนับว่าคุ้มค่า

ก่อนเทเลพอร์ตเข้าแดนสวรรค์ เย่ว์หยางตะโกนใส่พื้นที่ว่างเปล่า “ราชาเฮยอวี้, เจ้าเต่าหดหัวในกระดอง เจ้าจะรอความตายอยู่ที่นี่ใช่ไหม?”

“รหัสโบราณฆ่าข้าไม่ได้หรอก คุณชายสาม เจ้าจะไม่มีทางเข้าใจว่าผู้ทรยศที่แท้จริงเป็นเช่นไร!” หลังจากเย่ว์หยางและพวกหายไปแล้ว ราชาเฮยอวี้ปรากฏตัวเงียบๆ ลอยตัวในอากาศ เขาค่อยๆ ยกมือของเขาปลดเกราะศักดิ์สิทธิ์บนตัวของเขา และถือกระบี่ทมิฬศักดิ์สิทธิ์ไว้ เขาเก็บทุกอย่างไว้ในคัมภีร์อัญเชิญ เหลือแต่ตัวเองยืนอยู่ในอากาศ สุดท้ายเขาพึมพำกับตัวเอง “ผู้ทรยศที่แท้จริงสามารถทรยศต่อตนเอง… การทรยศครั้งล่าสุด ไม่ใช่แค่เพียงความภักดีของบ่าวทาส น้ำตาของคนรัก ความคุ้มครองของอสูรพิทักษ์และพันธมิตรระหว่างสหายร่วมกลุ่ม แม้แต่ชีวิตตัวเอง.. ข้า เฮยอวี้ ก็ไม่ต้องการมัน”

การลงทัณฑ์ของรหัสโบราณได้ใช้พลังสายฟ้าทำลายล้างจนราชาเฮยอวี้กลายเป็นเถ้าถ่านทันที

ทันใดนั้น แสงสีขาวปรากฏขึ้นไม่มีปี่มีขลุ่ย

มันยิงขึ้นสู่ท้องฟ้า

เงาร่างของราชาเฮยอวี้กระพริบวาบอยู่ภายในแสงสีขาวแล้วหายไปทันที…

******************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด