ตอนที่แล้วตอนที่ 538 สู้ระยะประชิด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 540 เตาหลอมเจมินี่

ตอนที่ 539 จะมีเหตุผลอย่างหนึ่งเสมอ


“เชียนฮุ่ย, ไม่ต้องห่วง!  ข้าจะตามหาเจ้าให้ได้!”

บนยอดเขามีเงาร่างสองเงาทอดยาวเด็กชายคนหนึ่งกำลังมองดูเด็กหญิง เขาร้องลั่น คำมั่นสัญญาของเขาล่องลอยไปกับสายลมห่างออกไปทุกที

“แม่,เสี่ยวเทียนจะต้องแข็งแกร่งให้ได้ แม่ดูข้าอยู่หรือเปล่า?”

ภายใต้ดวงดาวเด็กหนุ่มกำลังร้องไห้ขณะที่เขาพึมพำปนสะอื้น

“ผู้เฒ่ากรงเล็บภูตพราย ข้าจะนำมรดกตกทอดของท่านไปสู่ความยิ่งใหญ่ให้ได้!”

เมื่อเห็นร่างที่เย็นชาและหลังโกงเด็กหนุ่มกำหมัดแน่น

……

ความทรงจำนับไม่ถ้วนแว่บผ่านมา  ใบหน้าหลายคนลอยผ่านไปคำสาบานนับไม่ถ้วนผุดขึ้นมาในใจ

ถังเทียนหูอื้อเหมือนกับว่าเขาไม่สามารถได้ยินอะไร  ฉากภาพที่อยู่ต่อหน้าต่อตาเขาขาวโพลนไปหมด  เขาไม่สามารถเห็นอะไรเลย  ทั่วทั้งร่างของเขาร้อน  เลือดไหลออกมาจากเนื้อของเขา  เหมือนกับว่าเขาติดอยู่ในเปลวไฟเขาไม่มีความรู้สึกอื่นแต่อย่างใดและไม่สามารถขยับแม้แต่นิ้วได้

ข้าแพ้หรือ...ข้ากำลังจะตายหรือ... ข้าจะตายอยู่ที่นี่หรือ?

ไม่!

ข้าไม่อยากตายที่นี่!

ข้ายังไม่ได้พบเชียนฮุ่ย,ข้ายังไม่ตระหนักถึงความฝันของข้าเอง ข้ายังทำสิ่งที่สัญญาไว้ไม่สำเร็จ ข้ายังคลี่คลายปริศนามากมายไม่ได้ ข้ายังมีเรื่องสงสัยติดอยู่ในใจอีกมากมาย  ความสงสัยที่แผดเผาอยู่ในใจข้าจนโลกไม่สามารถระงับได้...ข้าไม่ต้องการตายที่นี่...

ข้าเสียเวลามากมายกับที่นี่....มันยากลำบากนัก!

ข้าทุกข์ทนมามากต้องอดทนต่อการเยาะเย้ยถากถางรอบตัว ต้องเสียเหงื่ออยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์แผดเผา ข้าสงสัยจริงๆ ว่าข้าต้องหมดเหงื่อไปกี่ตุ่มถึงจะได้พ้นข้าผ่านมาทั้งม่านควันและก้าวไปบนถ่านร้อน ถูกซ้อมจนเจ็บระบมไปหมด  แต่ก็มาถึงที่นี่จนได้!

มีหลายคนที่มุ่งมั่นและศรัทธาข้าคนหลายคนที่ไม่สนใจไยดีในชีวิตยอมต่อสู้เคียงข้างข้า  หลายคนให้เกียรติยอมฝากชีวิตและอนาคตไว้กับข้า  ดวงตะวันไม่เคยหายไปจากข้า  ความหวังไม่เคยทอดทิ้งข้า  ข้าได้พบกับสิ่งงดงามมากมาย  นั่นจึงทำให้ข้ามีวันนี้ได้

ต้องทุ่มเทมากเหลือเกินกว่าจะมาถึงนี่ได้  แล้วข้าจะยอมแพ้ได้ยังไง?

ข้าจะตายที่นี่ได้ยังไง?  เป็นไปได้ยังไง!

เจ้าพูดอยู่เองว่าเจ้าจะไปตามหาเชียนฮุ่ย!

เจ้าพูดไว้ก่อนแล้ว  เจ้าจะต่อสู้เคียงข้างพวกเขาทุกคน

เจ้าพูดไว้ก่อนแล้วว่าเจ้าต้องการเอาชนะพวกกลุ่มดาวใหญ่ๆ!

เจ้าบอกกับตัวเองว่าเจ้าคือหนุ่มชาวฟ้า!

กล้ามเนื้อทุกมัดในร่างของถังเทียนกำลังสั่นร่างของเขาร้อน เลือดของเขากำลังเผาผลาญ เสียงระเบิดดังก้องอยู่ในหูของเขา  ความกระวนกระวายและความบ้าคลั่งดังก้องอยู่ในหัวใจของเขา!

ถังเทียนเจ้าเคยพูดไว้ก่อนแล้ว!

คำทั้งหมดนี้เจ้าเคยพูดไว้ก่อนแล้วทั้งนั้น!

เจ้าลืมไปแล้วหรือ?  เจ้าจะกลับคำหรือ?  เจ้าขี้ขลาดหรือเปล่า?  เจ้าท้อถอยหรือ? เจ้ายอมแพ้หรือ?

เลือดที่กำลังไหลเวียนอยู่ในเส้นเลือดของเขาทั้งเส้นเลือดดำและเส้นเลือดแดงเป็นเหมือนลาวาที่กำลังพ่นออกมาจากภูเขาไฟ  เลือดเหล่านั้นทะลักเข้าไปในไขกระดูก,กล้ามเนื้อของเขา ผิว พลังที่ทำให้สั่น ทะลวงทุกความรู้สึกที่เขามี  ทำให้ร่างของเขาสั่นอย่างควบคุมมิได้

ไม่, มันกำลังสั่น!

เหมือนกับว่ามันมาจากนรกร้อนระอุใจกลางโลกและสร้างพลังงานที่น่ากลัว

การต่อสู้ด้านนอกใกล้ถึงจุดวิกฤติ

ซูอี้มาปรากฏตัวต่อหน้าถังเทียนและฟันสันมือลง

ทันใดนั้นข่ายแสงที่คล้ายกับกระดานหมากรุกปรากฏขวางหน้าถังเทียนทันที

กระบี่ศุภลักษณ์

แววดูถูกปรากฏบนใบหน้าของซูอี้วูบหนึ่งก็แค่ดิ้นรนครั้งสุดท้าย  เขาคิด เขาเคยเห็นพลังของกระบี่ศุภลักษณ์มาแล้วค่าพลังวิญญาณไม่เกิน 100 จุดไอ้วิชาแบบนั้นจะมาขัดขวางการโจมตีของเขาได้ยังไง?

ซูอี้ไม่มีความตั้งใจจะเปลี่ยนท่า  เขาฟันมือใส่ตาข่ายแสงเสี่ยวเอ้อครางขณะที่เขาถูกแรงปะทะกระเด็นออกไป

เป็นไปตามที่ซูอี้คาดไว้  ตาข่ายรูปกระดานหมากรุกสลายไป แต่เขาคาดไม่ถึงเลยว่าเปลวเพลิงโปร่งใสทะลักออกมาจากตาข่ายแสงที่พังและพุ่งใส่เขา  ซูอี้ไม่สามารถป้องกันได้จึงปะทะเต็มที่

เพลิงกลืนวิญญาณ!

นี่คือไม้ตายสังหารที่แท้จริงของเสี่ยวเอ้อตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงบัดนี้  เสี่ยวเอ้อมักเก็บเปลวเพลิงไว้เสมอ เพลิงกลืนวิญญาณของเขามีพลังรุกที่แข็งแกร่งที่สุดยิ่งกว่าทุกคนและเป็นเพียงไม้ตายเดียวที่สามารถใช้คุกคามซูอี้ได้ ดังนั้นไม่ว่ามอนตาและเซียนที่เหลือจะสู้หนักเพียงใดเขาก็ยังควบคุมตนเองไว้ไม่ยอมใช้ออกมา

เขากำลังรอซูอี้!

เพลิงกลืนวิญญาณที่มีค่าพลังวิญญาณถึง260 ปะทะเข้าแขนขวาของซูอี้ แม้แต่แสงสางก็ไม่สามารถหยุดเพลิงกลืนวิญญาณได้

เปลวเพลิงใสคลุมแขนทั้งหมดของซูอี้ มันแปลกมากเหมือนกับปรอทที่ซึมเข้าไปในแขนของเขา

หน้าของซูอี้ซีดขาวราวกับกระดาษ  สายตาเขาเคร่งขรึมเขาเงื้อมือซ้ายและฟันแขนขวาของตัวเองทันที

“อ๊า....”

เสียงร้องโหยหวนดังไปทั่วสมรภูมิ  ร่างของซูอี้กระพริบหายไปจากข่ายแสง  แขนขวาเขายังอยู่ที่เดิม  ทันใดนั้นเปลวเพลิงพุ่งออกมาจากแขน ในพริบตามันครอบคลุมแขนทั้งหมดและเผาจนเหลือเถ้าถ่านภายในไม่กี่วินาที

ซูอี้ปรากฏตัวอยู่ห่างออกไป30 เมตร  แขนขวาของเขาหายไปมีแต่รอยบาดแผลเสมอไหล่ เลือดยังคงฉีดพุ่งออกมาย้อมชุดเซียนของเขาจนเป็นสีแดง

หน้าของซูอี้ซีดขาวเขาจ้องมองเสี่ยวเอ้อด้วยสายตาโกรธแค้นเหมือนสัตว์ป่า

เพลิงกลืนวิญญาณที่กลืนกินแขนของเขายังลอยอยู่ในอากาศอย่างเงียบงัน

ร่างของเสี่ยวเอ้อค่อนข้างโปร่งใส  หน้าซีดของเขาจ้องมองซูอี้ ควั่บร่มคันหนึ่งปรากฏอยู่ในมือของเขา สภาพพลังในปัจจุบันของเขาเหลือไม่พอจะกระตุ้นการทำงานของเพลิงกลืนวิญญาณ

ซูอี้หัวเราะอย่างน่ากลัว  “ดี!  ดีมาก, ร่างวิญญาณสามารถทำลายแขนของข้าได้!”

หน้าที่หล่อเหลาของเขาเหมือนกับคนบ้าที่ดูน่ากลัว  เขายกสันมือซ้าย

“ไปตายซะ!”

เขาฟันสันมือซ้ายลงอย่างบ้าคลั่งรังสีดาบนับไม่ถ้วนส่งเสียงหวีดหวิวเข้าหาเสี่ยวเอ้อ

เสี่ยวเอ้อหายวับรังสีดาบเฉียดผ่านร่างของเขาไป รังสีดาบอีกสายหนึ่งลอยอยู่หน้าเขา  เขากัดฟันใช้ร่มป้องกันทันที

ปัง!

ภายใต้พลังที่รุนแรง ร่มหยาหยาพังในทันทีเสี่ยวเอ้อปลิวขึ้นไปในท้องฟ้า

เสียงหัวเราะที่น่ากลัวของซูอี้ดังชัด  เขาเงื้อมือซ้ายที่มีแสงสว่างแพรวพราว  ข้าจะตายที่นี่หรือ?  เสี่ยวเอ้ออดคิดไม่ได้ สภาพปัจจุบันของเขาใกล้จะถูกทำลายเต็มที

“ตาย!”

ซูอี้ฟันสันมือลงอย่างรุนแรง รังสีดาบหวีดหวิดที่ไม่มีการควบคุมพุ่งเข้าหาเสี่ยวเอ้อ

ยิยิ ย้าย้า!

เงาร่างหนึ่งปรากฏอยู่หน้ารังสีดาบทันที  เสี่ยวเอ้อตะลึง  นั่นคือ...หยาหยา!

ใบหน้าที่น่ารักและอวบอูมของหยาหยามีร่องรอยของความกลัว  แต่หมัดน้อยๆ ของมันดูดกลืนรังสีแสงได้  หมัดเหล็กกลืนแสง!

“ไม่!”  เสี่ยวเอ้อร้องอย่างหวาดผวา

ภายใต้การเผชิญหน้ากับแสงสางที่มีค่าพลังวิญญาณเกินกว่า200 หมัดเหล็กกลืนแสงอ่อนเหมือนกระดาษซึ่งไม่สามารถดูดซับพลังได้แม้แต่วินาทีเดียวก่อนหมัดจะถูกทำลายรังสีแสงทั้งหมดหายเข้าไปในตัวของหยาหยา

ใบหน้าอวบของหยาหยาบิดเบี้ยวทันทีมันเบิกตากว้างเต็มไปด้วยความกลัว เข็มที่แพรวพราวเหมือนแสงสว่างแทงเข้าไปในผิวของมันอย่างน่ากลัว

บึ้ม!

เสียงดังออกมาเหมือนเสียงฟ้าผ่า  หยาหยาหายไปจากสายตาของเสี่ยวเอ้อ  พลังที่น่ากลัวทำลายแม้แต่ร่างของมันพุ่งออกไปเหมือนปืนใหญ่กระแทกเข้ากับพื้น  ทิ้งไว้แต่รูเล็กๆ ให้เห็น

ไม่...

เสี่ยวเอ้อมองไปทางตำแหน่งว่างซึ่งหยาหยาเคยยืนอยู่คล้ายกับว่าวิญญาณหายไป ความทรงจำห่างไกลนับไม่ถ้วนไหลผ่านเข้ามาในสายตา...

ภาพในอดีตเสี่ยวเอ้อลอยตัวอยู่ในอากาศอย่างมึนงงเมื่อมีเสียงร้อง ยิ ย้า ยี้ ย้า ดังขึ้นมาจากด้านหลังถังเทียน ขุนพลวิญญาณน้อยที่ร่าเริงและมีชีวิตชีวาโดดออกมา เมื่อเห็นเสี่ยวเอ้อมันประหลาดใจ

ทั้งสองมองกันอย่างมึนงง

“ยิ..”

หยาหยาตาสว่างเป็นประกายแปลกประหลาด ทันใดนั้นมันโถมร่างเข้าหาเขาและหยิบหินดวงดาวยื่นส่งให้เสี่ยวเอ้อ

เป็นครั้งแรกที่เสี่ยวเอ้อรู้สึกมึนงงและว้าวุ่นใจ  เขารับหินดวงดาวมาเคี้ยวกิน หลังจากนั้นหลังจากนั้นเขาเอาการ์ดวิญญาณออกมาและยื่นให้หยาหยาซึ่งหยาหยาก็ยอมรับไว้อย่างดีใจแล้วกินมัน

หยาหยาตื่นเต้นและตีกลองรัวดีใจ

เสี่ยวเอ้อยังอยู่ในอาการมึนงง  แต่ก็ค่อยๆ มีความคิดแสงม่านพลังล้อมรอบตัวเขาและหมุนอย่างต่อเนื่อง ด้วยวิธีนี้ข้าก็สามารถเข้าใจได้แล้ว...

เมื่อหยาหยามีความสุขขึ้นและตื่นเต้นมันจะตีกลองดังขึ้นเรื่อยๆ

เสี่ยวเอ้อได้รับผลจากหยาหยาจึงเริ่มบินอยู่รอบตัวหยาหยาเร็วขึ้นเรื่อยๆ

มีความสุขมาก

นี่คือความสุขงั้นหรือ?

ในที่สุดเสี่ยวเอ้อก็เข้าใจ

หยาหยาลูบศีรษะของมันและสอนพลังงานเกลียวให้เขาด้วยความเจ็บปวด..

หยาหยาเล่นกับเขา..

เขามีความสุขมากจริงๆ

จนกระทั่งเขาครอบครองร่างของเสี่ยวเอ้อทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

หยาหยาจะวิ่งพล่านไปทั่วทุกวันเพื่อเอาใจเขา‘ยิย้า ยิย้า’และสร้างความรำคาญใจให้เขาต่อเนื่อง ทุกวันเขาจะเอาหินดวงดาวออกมาจากก้นและยื่นส่งให้เขา ‘ยิย้า ยิย้า’ ทำอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพียงแต่เวลาที่เขากินหินดวงดาวหยาหยาจะยิ้ม

เขามักรู้สึกว่าหยาหยาน่ารำคาญ  แต่เขาไม่รู้จะทำยังไงจึงได้แต่กินหินดวงดาวเพื่อไม่ให้หยาหยากวนใจเขา

ทำไมข้าถึงรู้สึกหวาดกลัวนัก?

มันเป็นแค่เพียงขุนพลวิญญาณน้อยไม่มีค่าอะไรและไม่มีประโยชน์อะไร?ข้าคือวิญญาณระดับสูงและข้าต้องมาคอยรับมือขุนพลวิญญาณน้อยนี้ทุกวัน  มันน่ารำคาญมาก  เป็นเพื่อนกับขุนพลวิญญาณน้อย  มันช่างตลกเสียจริง!

แต่ทำไมเขารู้สึกหวาดกลัวนักเล่า? หน้าที่หวาดกลัวของหยาหยาปรากฏในดวงตาเขาทันที  ถึงมันยกหมัดใส่รังสีดาบแสงสางแต่มันก็ยังรู้สึกกลัว...

เสี่ยวเอ้อมองดูซูอี้อย่างเฉยชา  เขาต้องการฆ่าบุรุษผู้นี้

ใครจะกลัวตายกันเล่า

ทันใดนั้นเขามีความรู้สึก  เขาหันศีรษะไปมองดู  ตาของถังเทียนมีประกายแสงเจิดจ้า

เอ๋,เจ้าไม่พอใจงั้นหรือ?

หือ..เจ้ายังคงมุ่งมั่นจะมีชีวิตต่อไปใช่ไหม?

เสี่ยวเอ้อหันหน้าไปที่ซูอี้  ร่างของเขาหายไปจากอากาศทันที

ในโลกที่ระเบิดสั่นสะเทือนและเดือดพล่าน  ถังเทียนกำลังพึมพำกับตนเองไม่มีจบ

เจ้าลืมไปแล้วหรือ?  เจ้ากลับคำพูดหรือ?  เจ้าขี้ขลาดหรือ? เจ้าท้อถอย?  เจ้ายอมแพ้?

ไม่!

เขาตะโกนอย่างบ้าคลั่ง  ไม่ทำอะไรอย่างอื่น หัวใจของบุรุษหนุ่มกำลังสั่นสะเทือน

ข้าไม่ได้ลืม!ข้าจะไม่กลับคำแน่นอน!  ข้าไม่ได้ขลาดกลัว!  ข้าจะไม่ท้อถอย!

ข้า จะ ไม่ ยอมแพ้แน่นอน!

เขาใช้ลมหายใจเฮือกใหญ่เพื่อตะโกนทุกคำพูดเพื่อให้ตัวเขาได้ยิน

ควาก!

ภายในร่างของเขาบางอย่างดูเหมือนจะฉีกเปิด

ปัง ปัง ปัง!

เสียงระเบิดดังมาจากภายในร่างของเขาอย่างต่อเนื่องไม่มีสิ้นสุด  เหมือนข้าวตอกแตก  ร่างของเขายังคงสั่น  ทุกเสียงระเบิดจะทำให้ร่างของถังเทียนพองออกมา เหมือนกับว่าบางอย่างภายในร่างของเขาต้องการระเบิดออกมา

เสียงระเบิดปานจะฉีกแก้วหูทำให้ตัวถังเทียนดูเหมือนน้ำที่กำลังเดือดมีฟองผุดขึ้นแล้วแตกหายไป

เสี่ยวเอ้อปรากฎตัวอยู่ต่อหน้าถังเทียน  เขามองหน้าถังเทียนด้วยอารมณ์ซับซ้อนพูดกระซิบด้วยเสียงที่เบา เหมือนกับจะรำพึงกับตนเอง  “เจ้าสามารถเดินไปตามขั้นตอนของเขาได้จริงๆ  น่าแปลกใจจริงๆ เจ้ายึดติดกับชัยชนะรุนแรงแบบนั้นได้อย่างไร?  แม้ในสถานการณ์อย่างนี้ เจ้าก็ยังไม่ยอมแพ้?”

“ผนึกหลวมแล้วหรือนี่?  นั่นน่าประหลาดใจจริง”

“เมื่อเป็นอย่างนั้นก็..”

เขายกนิ้วและชี้ไปที่จุดระหว่างคิ้วของถังเทียน

“ครั้งนี้ข้าจะช่วยเจ้า  เพื่อหยาหยา”

ปลายนิ้วเสี่ยวเอ้อมีรังสีเจิดจ้าซึ่งฉายเข้าไปในจุดระหว่างคิ้วของถังเทียน ร่างของเสี่ยวเอ้อหมองลงขณะที่เขาเข้าไปในร่างของถังเทียนและหายไป

เมื่อแสงฉายเข้าไปในตัวเทียน  ร่างของถังเทียนก็ลดอาการสั่นลง

เสียงระเบิดดังแสบแก้วหูหายไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด