ตอนที่แล้วChapter 81 : แผ่นดินไหว – หิมะถล่ม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 83 : หลุมศพ

Chapter 82 : คาถาไฟ - วิชาเพลิงมังกร


ภายในแดนทุรกันดานแห่งนี้สภาพอากาศค่อนข้างสดชื่น แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าสาดส่องลงมายังพื้นดินหากแต่อุณหภูมิกลับยังต่ำอยู่เหมือนเดิม โจวเฉินและหญิงสาวร่างสูงเดินอยู่บนถนนที่ถูกปกคลุมเอาไว้ด้วยหิมะตรงไปยังทิศทางที่ตั้งของเมืองซีดาร์

คนทั้งสองใช้เวลาในการกลับมาเร็วกว่าตอนขาไปมากนักและกลับมาถึงเมืองซีดาร์ก่อนที่ราตรีจะมาเยือน

ทันทีที่พวกเขามาถึงเมืองซีดาร์ พวกเขาก็พบว่าสถานที่แห่งนี้เองก็ถูกแผ่นดินไหวทำลายไปเช่นกัน ทั่วทั้งเมืองนั้นไม่เหลือบ้านที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์เลยซักหลังและจำนวนผู้เสียชีวิตเองก็มีเป็นจำนวนมาก ผู้คนที่ยังรอดอยู่ต่างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส กระทั่งเดฟที่หนังค่อนข้างหนาก็ยังมีบาดแผลเกลื่อนร่าง

“จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์! เหตุใดท่านถึงได้ลงทัณฑ์ข้าเช่นนี้?”

ภายในซากปรักหักพังของเมืองซีดาร์ เดฟผู้มีร่างกายกำยำคำรามออกมาด้วยความเจ็บปวดขณะลงมือขุดซากของบ้านของเขา

สีหน้าของโจวเฉินที่มองภาพนี้อยู่ไกลๆเปลี่ยนไปทันที เขาคิดว่าตอนนี้ต่อให้เอ่ยปลอบอะไรไปก็คงไร้ประโยชน์ดังนั้นเขาจึงหมุนกายจากมา

“พวกเราจะเอายังไงต่อ?”

หญิงสาวร่างสูงเอ่ยถามเมื่อเห็นโจวเฉินเดินเข้ามา

“ฉันเองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้มุ่งหน้าลงใต้กันเถอะ เมืองส่วนใหญ่ทางเหนือน่าจะถูกทำลายไปจนหมดแล้ว ถ้าพวกเราหาที่เหมาะๆสำหรับอยู่อาศัยไม่ได้ก็คงต้องหาที่ที่ไม่มีใครอยู่เพื่อไม่ให้หายนะที่เกิดขึ้นมันส่งผลต่อคนบริสุทธิ์”

โจวเฉินตอบเสียงเรียบ

“ฉันคิดว่า...แผ่นดินไหวหนนี้น่าจะไม่ใช่ฝีมือของระบบ”

หญิงสาวร่างสูงเงียบไปซักพักก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเบา

“ใครจะรู้กันล่ะ? ยังไงซะจากนี้ไปพวกเราก็คงต้องเอาชีวิตรอดอยู่ด้านนอกเมืองแล้ว ดูสิว่าพระจันทร์กับท้องฟ้ายามกลางคืนมันสวยงามขนาดไหน”

เมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามราตรีที่ส่องสว่างโจวเฉินก็พบว่าโลกใบนี้เองก็มีดวงจันทร์อยู่ดวงเดียวเช่นกันแต่ดวงจันทร์นั้นใหญ่กว่าดวงจันทร์บนดาวขั้วฟ้ามากนัก ดูไปแล้วราวกับพล็อตหนังในหนังเก่าที่เคยเห็นผ่านตา

คนทั้งสองมุ่งหน้าลงใต้ไปเรื่อยๆ ราวๆหนึ่งชั่วโมงให้หลังจุดแสงสีเขียวอมฟ้ามากมายก็เผยให้เห็นอยู่ไกลๆ

“พวกนั้นมัน...ฝูงหมาป่างั้นหรอ?”

หญิงสาวร่างสูงลดความเร็วลงในทันทีก่อนจะเอ่ยถามออกมาด้วยความไม่มั่นใจ

“อืม...มีหมาป่าหิมะอยู่ราวๆสี่สิบถึงห้าสิบตัวได้”

ด้วยการสนับสนุนจากสกิลมองเห็นในที่สลัวทำให้โจวเฉินสังเกตเห็นพวกมันนานแล้วเขาจึงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจ

“สี่สิบห้าสิบตัว? เยอะเหมือนกันนะ เปลี่ยนเส้นทางกันเร็วเข้าเถอะ”

หญิงสาวร่างสูงตื่นตระหนกขึ้นมาทันใด

“ไม่ต้องห่วง จำนวนแค่นี้ฉันจัดการได้”

โจวเฉินไม่สนใจและเดินหน้าต่อ

หญิงสาวร่างสูงลังเลอยู่ซักพักแต่ท้ายที่สุดก็เลือกที่จะตามเขาไป

คนทั้งสองเดินอยู่บนพื้นหิมะอยู่ราวหนึ่งนาทีก่อนจะได้ยินเสียงหอนของหมาป่าชัดเจนยิ่งขึ้นพร้อมกับเสียงลางๆจากฝีเท้าของหมาป่าที่ย่ำลงบนหิมะ

โจวเฉินยังคงเดินหน้าต่ออย่างมั่นคง

หญิงสาวร่างสูงที่ตามมาจากด้านหลังเห็นได้ชัดเลยว่าไม่สามารถผ่อนคลายได้อย่างเขา เจ้าหล่อนดึงกระบี่ออกมาเตรียมสู้เต็มคำรบ

โจวเฉินมองไปยังฝูงหมาป่าที่กำลังพุ่งตรงเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบเฉย

‘ยังไกลไปหน่อย’

เขาคิดกับตัวเอง

หลังจากก้าวไปอีกหลายก้าว...

‘ระยะนี้น่าจะเพียงพอแล้ว’

เขาคิดกับตัวเองอีกครั้ง

เขาคิดว่าระยะห่างระหว่างเขากับฝูงหมาป่าตอนนี้ดีพอแล้ว จู่ๆเขาจึงหยุดเคลื่อนไหว เขายืนกางขาและเอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อย  จากนั้นเขาจึงดึงหน้ากากลงมาที่ลำคอก่อนจะยกมือขึ้นมาผสานอินอย่างรวดเร็ว

“คาถาไฟ - วิชามังกรเพลิง!”

หลังจากผสานอินเสร็จสิ้น โจวเฉินก็คำรามออกมาเสียงดังสนั่น จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยก่อนจะอ้าปากพ่นเปลวเพลิงร้อนระอุเข้าใส่ฝูงหมาป่า!

ฝูงหมาป่าพวกนั้นเห็นได้ชัดเลยว่าโจวเฉินจะมีท่าโจมตีเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเปลวเพลิงที่โจวเฉินพ่นออกมายังรวดเร็วยิ่งนัก หมาป่าหิมะจำนวนมากถูกเปลวเพลิงกลืนจนหายไปจนหลงเหลือเพียงเสียงกรีดร้องน่าสังเวช

หญิงสาวร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านหลังโจวเฉินเองก็เผยสีหน้าประหลาดออกมาเช่นเดียวกัน เจ้าหล่อนมองมาที่โจวเฉินก่อนจะรีบพุ่งเข้าไปแทงหมาป่าหิมะที่หลุดรอดเข้ามาและกำลังพุ่งเข้าโจมตีเขา

โจวเฉินพ่นไฟอยู่เช่นนั้นราวๆเจ็ดวินาที ในระหว่างนี้ตัวเขาก็ยังคงปรับเปลี่ยนทิศทางของเปลวเพลิงเพื่อให้เปลวเพลิงเผาหมาป่าหิมะให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

หมาป่าหิมะตกตายลงเป็นจำนวนมากภายใต้การโจมตีด้วยเปลวเพลิงหนนี้ พวกมันกว่าครึ่งถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่านหรือไม่ก็ถูกย่างทั้งเป็น พวกที่โชคดีรอดมาได้และไม่โดนเผาจนตายต่างก็ถูกเผาจนขนไหม้เกรียมทำให้สภาพของพวกมันดูแล้วน่าสังเวชไม่น้อย

หมาป่าหิมะที่รอดชีวิตไม่เหลือความกล้าที่จะโจมตีพวกเขาอีกต่อไปและรีบแยกย้ายกันหลบหนีไปทันทีหลังจากส่งเสียงครวญครางออกมา

‘ระยะทำการสูงสุดคือ25เมตรและปกคลุมพื้นที่ราวๆสามตารางเมตร พลังทำลายเองก็ไม่เลว สามารถเผาอสูรทั่วๆไปให้ตายได้ในสองวินาที การโจมตีนี้โจมตีต่อเนื่องได้เจ็ดถึงแปดวิแต่จำเป็นต้องรวบรวมพลังธาตุไฟอย่างน้อยครึ่งวันซึ่งถือว่ากินพลังงานไม่น้อย’

หลังจากพ่นไฟออกไปด้วยสกิลติดตัวอย่าง ‘แหล่งกำเนิดเปลวเพลิง’ โจวเฉินก็บันทึกรายละเอียดของมันอย่างเงียบๆ ดูเหมือนมันจะทรงพลังก็จริงอยู่แต่การเผาผลาญพลังธาตุเองก็ค่อนข้างสูงไม่แพ้กัน ถ้าเขาใช้การโจมตีแบบเมื่อครู่อีกซักครั้งพลังธาตุไฟในตัวก็คงจะถูกใช้จนเกลี้ยงไม่เหลือหลอ

‘ไวเวิร์นพ่นไฟตัวนั้นดูเหมือนจะพ่นไฟได้นานกว่านี้ ดูเหมือนสกิลติดตัวพอมาอยู่กับเราจะรีดเค้นพลังออกมาได้ไม่เหมือนกัน’

โจวเฉินคิดกับตัวเอง

ในเวลานี้เมื่อเห็นว่าหมาป่าพวกนั้นไม่ใช่ภัยคุกคามอีกต่อไป หญิงสาวร่างสูงจึงเก็บกระบี่เข้าฝักและกลับมาอยู่ในสภาวะเงียบงันอีกครั้ง

“อย่าอยู่เฉยๆสิ ได้เวลากินเนื้อหมาป่าย่างกันแล้ว”

โจวเฉินไม่สนใจสิ่งที่เจ้าหล่อนคิดจากการได้เห็นการทดสอบใช้งานสกิลของเขานัก เขาเดินตรงไปยังซากของพวกหมาป่าและเริ่มเลือกเนื้อหมาป่าย่างในทันที

“ชิ้นนี้ไหม้เกรียมเลยแฮะ อันนี้ก็เกรียมไปนิด...ขาอันนี้ดูดีอยู่”

หลังจากหาอยู่ซักพักโจวเฉินก็พบขาหมาป่าข้างหนึ่งที่ยังไม่ถูกเผาจนเกรียม เขาหยิบขวานออกมาและสับมันออกมา จากนั้นเขาเริ่มกินโดยไม่รีรอ

รสชาติของเนื้อหมาป่าย่างพวกนี้ไม่ได้ดีนักออกจะค่อนข้างขมและมีบางส่วนที่ยังไม่สุกดีเสียด้วยซ้ำแต่โจวเฉินก็ยังเลือกที่จะกินลงไปอยู่ดี

ตั้งแต่มายังโลกใบนี้เขาได้กินมันฝรั่งไปไม่กี่หัวเท่านั้น ตอนนี้เขาจึงหิวมากและต้องการอาหารที่ให้พลังงานสูง

เขากัดเนื้อไปได้ไม่กี่คำหญิงสาวร่างสูงก็เดินเข้ามาร่วมวงอย่างเงียบๆ เจ้าหล่อนใช้กระบี่ในมือตัดเนื้อจากหมาป่าที่ถูกย่างสดออกมาและหย่อนมันเข้าไปในปากก่อนจะเคี้ยวไปขมวดคิ้วไป

“อย่าจู้จี้จุกจิกนักเลย กินอีกหน่อยเถอะ”

โจวเฉินกล่าวกับเธอ

หญิงสาวส่ายหัว

“พวกเราต้องจุดไฟเพื่อจัดการกับเนื้อพวกนี้..ไม่อย่างนั้นพวกเราคงได้ป่วยแน่ๆ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด