ตอนที่แล้วตอนที่ 536 ยินดีต้อนรับศัตรู
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 538 สู้ระยะประชิด

ตอนที่ 537 อาญาจอมราชันย์


ร่มบัวแดงถูกเจาะทะลุผ่านได้ง่ายๆ  เซียนจากวิหารเซียนพอไร้การป้องกันก็มีเซียนสามคนถูกเพลิงกลืนวิญญาณสังหาร ตั้งแต่แรกเริ่มพวกเขายังคงไม่รู้ตัวขณะที่เพลิงกลืนวิญญาณมีลักษณะที่หลอกตามากทำให้พวกเขาประมาทพลังสังหารของมันอย่างมาก

คนที่ตั้งตัวได้เร็วที่สุดคือซูอี้  เขาสังเกตเห็นฉากภาพที่เพลิงกลืนวิญญาณเผาผลาญพลังงาน  หน้าของเขาเปลี่ยนและเขาเตือนเซียนที่เหลือ“หลบหลีกเปลวเพลิง”

เซียนสองสามคนกำลังเตรียมใช้ม่านพลังงานเพื่อเบี่ยงเบนเปลวเพลิงก็หมุนร่างหลบทันที

แต่ตำแหน่งของเพลิงวิญญาณถูกจัดการโดยคิดมาเป็นอย่างดีเพื่อประโยชน์ในการแสดงพลังในตอนแรกกับฝ่ายตรงข้ามของเขา ถังเทียนทำให้เพลิงกลืนวิญญาณของทุกคนเรียงตัวในลักษณะแคบมากทำให้ไม่มีพื้นที่สำหรับหลบ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งซูอี้และเซียนที่เหลือที่ยังคงเร่งความเร็ว

พวกเขาเร่งเข้ามาในฝนเพลิง  ในขณะนั้นเองความเร็วของพวกเขาถึงขีดจำกัดแล้วและไม่สามารถหลบได้มากนัก ชี่ชี่  มีอีกสองคนถูกเพลิงกลืนวิญญาณสังหาร

ซูอี้แสดงพลังยิ่งใหญ่ของเขาได้อย่างไม่ต้องสงสัย  แม้ว่าเขาจะใช้ความเร็วสูง  แต่เขาก็ยังคล่องแคล่วเหมือนปลาเดี๋ยวตัดวนผ่านฝนเพลิง แม้ว่าเซียนห้าคนจะถูกเพลิงกลืนวิญญาณสังหารไป  แต่เซียนที่เหลือก็สามารถผ่านฝนเปลวเพลิงมาได้

ซูอี้และพวกที่เหลือโกรธ  พวกเขามักจะเป็นฝ่ายที่โจมตีก่อนเสมอ ตั้งแต่เมื่อใดกันที่พวกเขาต้องทนเจ็บปวดและเสียเปรียบอย่างนั้น?   หน้าของซูอี้เต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน  เขาคำราม ร่างของเขามีพลังทะลักเข้ามาทันที  เขาปลดปล่อยแสงออกไปราวกับเทพศึก  ความเร็วของเขาไวขึ้นเสียงแหวกอากาศเหมือนกับกระบี่แหลม  เขาฝ่าเข้าไปในขบวนของศัตรูทันที

ศัตรูข้างหน้าเขาถอยกลับไปเหมือนกับน้ำลด

ต้องการถอยหรือ?  ไร้เดียงสาเกินไปแล้ว

ซูอี้แค่นเสียงทันที  ตาของเขากลายเป็นมืดดำ  บุรุษคนหนึ่งถือโล่วิ่งผ่านมาตลอดแนว  กลุ่มคนถอยกลับไปด้านหลัง  ขณะเดียวกันแนวหลังก็เข้ามาใกล้ขึ้น

ในพริบตาขบวนของศัตรูกลายเป็นรูปกรวยและตำแหน่งที่แหลมที่สุดก็คือบุรุษที่ถือโล่!

รูปทรงกรวยโดยปกติมักจะใช้สำหรับการโจมตีและนักสู้ที่อยู่ปลายแหลมสุดของกรวยจะต้องเป็นส่วนของรูปทรงที่แข็งแกร่งที่สุด  เพื่อที่ว่าทรงกรวยจะสามารถทำลายแนวของศัตรูได้

แต่ศัตรูมักจะตั้งรับเป็นส่วนใหญ่

ซูอี้เข้าใจความคิดของฝ่ายตรงข้ามของเขาทันทีวางแนวป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดไว้ที่ปลายแหลมโดยปกติจะสร้างพื้นที่รูปพัดเพื่อปกป้องทุกคน นับว่าฉลาดมาก ตามทฤษฎีตราบที่ป้องกันด้านหน้าสุด  คนข้างหน้าต้องมีความแข็งแกร่งเพียงพอ  จากนั้นพวกเขาจะอาศัยเขาปกป้องคนอื่นทุกคน

และซูอี้สามารถเห็นได้ชัดว่าทั้งสองด้านที่หดตัวได้ไวเหมือนคมมีดสองเล่มเมื่อเขาวิ่งเข้ามาโจมตีพวกเขาจะสะท้อนออกมาด้านนอกและโจมตีพวกเขา

แต่พวกเจ้าต้องการขวางการโจมตีของข้าหรือ?ฮึ ข้าสงสัยว่าพวกเจ้าไปเอาความมั่นใจมาจากไหน!

ซูอี้กระตุ้นปราณแท้แสงรังสีเพิ่มความหนาแน่นยิ่งขึ้น เขามักจะฝึกวิชาแสงสาง แต่สภาพแสงสางของเขาจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเย่เฉาเกอหลายเท่า!  ทุกๆ รังสีสว่างรอบตัวของเขาเป็นเหมือนกับเข็มแสง  เข็มแสงเหล่านั้นเจิดจ้าแพรวพราว  รอบตัวเขามีแสงครอบคลุมรอบจนมองไม่เห็นตัวเขาเหมือนกับตัวเขาเป็นแสงอาทิตย์ แสงสางซึ่งไม่มีใครรู้ถึงอำนาจข่มขวัญของมันอยู่ในมือของซูอี้  สามารถปลดปล่อยพลังกดขี่ที่มิอาจอธิบายได้

เจิดจ้าเหมือนกับดวงอาทิตย์

เหมือนกับดวงอาทิตย์แผดเผาแหวกผ่านท้องฟ้าระหว่างที่แสงกวาดผ่านอย่างรวดเร็วจะมีประกายระยิบระยับ  ซูอี้ชูฝ่ามือแสงเหมือนจอมราชันย์ถือดาบของเขา

ความตั้งใจต่อสู้ของเซียนจากวิหารเซียนถูกแทนที่ด้วยพลังข่มขวัญและบุกโจมตีอย่างป่าเถื่อนของซูอี้  พวกเขาทุกคนรู้จักซูอี้มานานพอ  แต่นี่ยังคงเป็นครั้งแรกที่หลายคนต่อสู้เคียงข้างเขา  เมื่อเห็นประจักษ์ถึงความสามารถของเขา  พวกเขารู้สึกเลือดลมพลุกพล่าน ขวัญกำลังใจของพวกเขาซึ่งถูกฝนเพลิงก่อนนั้นล้างไปได้รับการเติมเต็มสนับสนุนอย่างรวดเร็ว

และพวกที่ได้ต่อสู้เคียงข้างซูอี้มาก่อนก็ยิ่งเพิ่มกำลังใจมากขึ้น  ทุกครั้งที่ซูอี้ปลดปล่อยพลังโจมตีที่รุนแรงของเขา  จะต้องได้ชัยชนะแน่นอน!

พลังโจมตีของซูอี้ไม่ใช่แค่วิชาจิตวิญญาณเท่านั้น แต่เป็นการควบผสานวิชาแสงสางและแสงบุปผาความเร็วสูงซึ่งเป็นวิธีโจมตีดั้งเดิมที่สร้างขึ้นเอง

แสงสางตัวมันเองไม่มีพลังโจมตีมากนัก  แต่ก็ยังเป็นวิชาจิตวิญญาณชั้นบรอนซ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในสมาพันธ์ชาวยุทธเพราะมันสามารถเผาไหม้ปราณแท้ได้ ปราณแท้ที่ถูกเผาผลาญจะมีพลังขยายตัวอีกหลายเท่าและแม้แต่พลังโจมตีที่ง่ายที่สุดก็ยังเต็มไปด้วยพลังที่น่าทึ่ง

และแสงบุปผาเป็นวิชาจิตวิญญาณหลักของซูอี้มันเร็วเท่ากับการไหลของแสง ความเร็วของมันเทียบกันไม่ได้ ซูอี้ค้นพบขณะฝึกว่าภายในวิชาแสงบุปผานั้น มีการเคลื่อนไหวหลายอย่างที่มีประโยชน์ต่อการรวบรวมพลังการใช้พลังงานที่เก็บสะสมโจมตีอย่างรวดเร็วผสานใช้กับแสงสางสามารถสร้างรังสีดาบที่มีความเร็วไร้สิ่งเปรียบปาน

นี่คือพลังโจมตีที่เป็นของเขาแต่ผู้เดียวและมีชื่อข่มขวัญอย่างมากคือ

อาญาราชันย์

โล่เงินที่ดูเรียบง่ายเผชิญหน้ากับดาบแสงที่ข่มขวัญและหนาแน่นมองดูอ่อนแอมาก อ่อนแอจนถึงจุดที่ผู้คนสงสัยว่าตราบใดที่ลำแสงสัมผัสเข้ากับโล่เงินโล่เงินอาจถูกตัดขาดเหมือนโล่กระดาษก็เป็นได้

แม้แต่มอนตาและเซียนที่เหลือซึ่งอยู่ด้านหลังถังเทียน พวกเขาถูกพลังโจมตีที่น่ากลัวซึ่งกำลังใกล้เข้ามาของซูอี้ข่มขวัญ  หน้าของทุกคนบิดเบี้ยวน่าเกลียด  พวกเขาไม่เคยเห็นแรงฟันที่ดุดันและรุนแรงอย่างนั้นมาก่อน พวกเขารู้สึกว่าแรงฟันสามารถตัดหน่วยพวกเขาออกเป็นสองส่วน

หัวใจเสี่ยวเอ้อสั่นสะท้าน แต่เมื่อเห็นมอนตาและเซียนอื่นมองดูหวาดผวาเมื่อมองจากมุมนัยน์ตาของเขา  ความรังเกียจในใจกลายเป็นความโกรธ สมบัติลึกลับตกอยู่ในมือสวะพวกนี้เป็นได้เพียงสมบัติอัปยศ และเป็นการไม่เคารพต่อบรรพบุรุษ  นี่มันเป็นของข้า  ของข้า ของข้าทั้งนั้น!

ถังเทียนสะดุ้งตกใจจากพลังโจมตีของซูอี้ มันไวมาก

เขาเพิ่งวิ่งเข้ามาต่อหน้าขบวน  และซูอี้ก็วิ่งเข้ามาหน้าเขาด้วยความเร็วนั้นเขาไม่สามรถมองเห็นได้ชัด แต่รู้สึกถึงปราณดาบที่มีพลังกดดันฟันลงมาที่เขา

ถังเทียนไม่อาจคิดเรื่องอะไรอื่นได้และคว้าโล่หนักลายเงินออกมาทันที

ซูอี้ตวัดสันมือฟัน  เสียงกระหึ่มดังกังวานทำให้คนได้ยินขนลุกชูชันและสันมือของเขาฟันลงที่โล่เงินอย่างแรง

ปัง!

แสงแพรวพราวระเบิดขึ้นทันที

ระลอกพลังโจมตีที่รุนแรงเหมือนกับพายุสลาตันกวาดทุกสิ่งทุกอย่าง  เซียนที่อยู่ใกล้รู้สีกเหมือนตกอยู่ในพายุ  พวกเขาไม่สามารถยืนหยัดมั่นได้  หน้าของเขาเต็มไปด้วยอาการตกใจ

ถังเทียนเพียงแต่รู้สึกแต่แรงระเบิดทะลักออกมาจากตัวโล่  พลังงานที่ทรงพลังแทบทำให้เขาลื่นไถล  ในทันทีนั้นร่างของเขามีปฏิกิริยาตอบโต้ตามสัญชาตญาณเขาย่อเอวลงเร็วเหมือนสายฟ้า เอนโล่มาอิงไหล่ของเขา จากเดิมที่ถือสองมือ กลับกลายเป็นโล่สองแขนและทั่วทั้งร่างต้องใช้พลังถึกเหมือนวัวใช้พลังต้นขายันไว้กับโล่

เสียงระเบิดต้านทานดังขึ้นจากตัวโล่  แก้วหูของถังเทียนอื้อสะเทือน  เขาไม่สามารถได้ยินเสียงตะโกนของเขา  ในสถานการณ์ความเป็นความตายเขาเป็นเหมือนสัตว์ป่าที่ดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง

โล่หนักลายเงินสั่นสะเทือนรุนแรงขณะที่ถังเทียนใช้แขนเกาะมือจับของโล่  หน้าของเขาบิดเบี้ยวเหยเก

ทั่วทั้งตัวของถังเทียนเกร็งเครียดจนแทบจะฉีกขาด  ตาของเขาเป็นสีแดงปากของเขาส่งเสียงคำรามเหมือนสัตว์ร้าย “เฮ้ เฮ้ เฮ้..”

แสงหายไปแล้ว

ทุกคนมองดูถังเทียนอย่างเหลือเชื่อ เขากำลังเกาะโล่เหมือนกับว่าเป็นคนเมาหมุนตัวอยู่กับที่ช้าๆ

เป็น..เป็นแบบนั้นไปได้ยังไง...

ซูอี้ก็ยากจะเชื่อด้วยตาตนเองเหมือนกัน ความสามารถในการทำลายล้างของอาญาจอมราชันย์ไม่มีใครรู้ชัดดีเท่ากับเขา หากมีการแปลงค่าพลังวิญญาณที่ใช้ไป  อาญาจอมราชันย์จะมีค่าพลังวิญญาณเกินว่า 400 จุดแน่นอน! แม้แต่ผู้อาวุโสระดับเซียนเงินก็ยังยกย่องวิชาของเขากันทุกคนเหตุผลก็คือแม้แต่เซียนชั้นเงินก็ไม่สามารถป้องกันการโจมตีนั้นได้

ความสำเร็จในการต่อสู้ของเขาพิสูจน์แล้วว่าการตัดสินของผู้อาวุโสนั้นเป็นความจริง อาญาจอมราชันย์ไม่เคยถูกขัดขวางมาก่อนหลังจากที่ถูกสร้างขึ้นมา

จนกระทั่งวันนี้!

มีบางคนขัดขวางเขาได้

สายตาที่ซูอี้มองดูถังเทียนเหมือนกับว่าเขากำลังมองดูสัตว์ประหลาด  และสัตว์ประหลาดนั้นกำลังเคลื่อนไหวอย่างน่าตลก

ถังเทียนถูกเขย่าจนเหมือนคนโง่  ใจของเขาว่างเปล่า  ทั่วทั้งตัวแดงเหมือนกุ้งที่โดนน้ำร้อนและเขายังมึนอยู่เขายังถือโล่หนักลายเงินเดินหมุนโคลงเคลงอย่างมึนงง

ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก  จนถึงจุดที่เขาไม่มีเวลาคิด

พวกเซียนจากวิหารเซียนเตรียมจะฉวยโอกาสโจมตีซ้ำเติม  พวกเขามั่นใจมากหลังจากการโจมตีของซูอี้ซึ่งเหมือนกับมีดร้อนที่ตัดลงไปบนเนย  กระบวนของศัตรูสับสนวุ่นวายไม่เป็นระเบียบ

พวกเขาติดตามแสงรังสีมาอยู่ข้างหน้ากระบวนด้วยอารมณ์เดือดพล่าน  แต่พวกเขาก็ได้ตระหนักว่าศัตรูของพวกเขาป้องกันไว้ได้

พวกเขาคิดถึงความเป็นไปได้ทุกอย่างแล้ว แต่ไม่มีใครในพวกเขาที่คิดว่าศัตรูจะสามารถป้องกันไว้ได้  ดังนั้นเมื่อพวกเขาถึงข้างหน้า  พวกเขาไม่สามารถเชื่อตาตนเองได้

ในทางตรงกันข้ามมอนตาและเซียนอิสระซึ่งตกใจตอนแรกกับอาญาจอมราชันย์แต่หลังจากเห็นถังเทียนต้านรับพลังโจมตีที่น่ากลัว  พวกเขาแทบไม่เชื่อสายตา  แต่เลือดลมพวกเขาเริ่มเดือดเช่นกันถึงกับแสดงความบ้าระห่ำออกมาอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ทั้งสองฝ่ายตกตะลึงพอกัน แต่กำลังใจของทั้งสองฝ่ายเปลี่ยนแปลงกันในเรื่องคุณภาพ

ซูอี้มองดูโล่เงินในมือถังเทียนบนผิวมีลวดลายที่งดงามมากและแสงเงินที่กระพริบอยู่บนผิวโล่ก็ดูง่ายๆชื่อในตำนานปรากฏออกมาในใจของเขา  ตาของเขาหดและขยายทันที

โล่หนักลายเงิน!

โล่หนักลายเงินในตำนาน!

ได้รับการยกย่องว่าเป็นโล่ที่แม้แต่พลังโจมตีของวิชาจิตวิญญาณระดับทองก็ยังทำลายไม่ได้  โล่หนักลายเงิน

แย่แล้ว

พวกมันไปได้สมบัติอย่างนั้นมาได้ยังไง!

ทันใดนั้นซูอี้คิดถึงการโจมตีสกัดกั้นที่เพิ่งเกิดขึ้นก่อนนั้นลูกดอกสามเหลี่ยมดาวตกและชื่อในตำนานผุดขึ้นมาในใจ  ทำให้ใจเขาสั่นสะท้าน

ลูกดอกดาราแห่งกลุ่มดาวสามเหลี่ยม

ลูกดอกดาราแห่งกลุ่มดาวสามเหลี่ยมที่ขึ้นชื่อในพลังที่รุนแรง

เขาจำได้ถึงกลุ่มลูกดอกสามเหลี่ยมที่ถูกซัดออกมาจากศัตรูที่ดูเหมือนธรรมดา  เป็นไปไม่ได้!  เขาเลิกคาดเดาทันที  ถ้าขนาดยังมีโล่หนักลายเงินได้  อย่างอื่นก็เป็นไปได้

สำหรับโล่หนักลายเงินและลูกดอกดาราแห่งดาวสามเหลี่ยมปรากฏออกมาโดยพร้อมเพรียงกัน  ความเป็นไปได้เช่นนั้น.... อย่าล้อเล่นน่ะ!

สายตาของเขากวาดผ่านไปที่ศัตรูของเขา

บุรุษที่ถือหอกอยู่ในมือหอกดูรูปร่างแปลกประหลาดเหมือนมีใบไม้แห้งพันอยู่รอบตัวหอก ดูน่าเกลียดมากจากลักษณะที่เห็นดูคล้ายกับหอกใบไม้ร่วงในตำนาน ทำให้จิตใจซูอี้สั่นสะท้าน

สมบัติวิญญาณฝ่ายศัตรูที่อยู่รอบๆบุรุษถือหอกก็แปลกเช่นกัน มีคนหนึ่งถือแส้เขียว หางแส้สีเขียว ทำไมข้ายังจำได้ว่ามีคำอธิบายจากที่ไหนมาก่อน.. เอ..ดูเหมือนจะคล้ายกับจะเป็นผมเขียวเบเรนิสในตำนาน หัวใจของซูอี้สั่นสะท้านอีกครั้ง

และศัตรูอีกคนหนึ่งดูเหมือนจะมีบางอย่างปั่นหมุนอยู่รอบตัวของเขา ตาของซูอี้คมมาก และเขาสังเกตได้ทันทีว่าเป็นกงจักรบินใสสีฟ้าซึ่งยากจะตรวจสอบได้  ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซูอี้นึกถึงสมบัติที่ขึ้นชื่อในเรื่องพลังรุนแรงชิ้นหนึ่งได้ทันที  กงจักรฟ้า ในใจเขาสั่นสะท้านอีกครั้ง

ซูอี้กวาดตาไปโดยไม่รู้ตัวอีกครั้ง

ใจของเขาไม่สั่นแล้ว  แต่เขาตะลึงไปอย่างสิ้นเชิง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด