ตอนที่แล้วตอนที่ 528 ซุ่มโจมตี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 530 ระเบิด

ตอนที่ 529 ชัยชนะเด็ดขาด


ภูเขาทะลุเมฆเป็นเทือกเขาที่สูงที่สุดในกลุ่มดาวหมีใหญ่  ความสูงเกิน 12 กิโลเมตรมีครึ่งหนึ่งที่อยู่ต่ำกว่าเมฆ

หลังแนวเขาทะลุเมฆมีกองทัพจักรกลเดินทางและไต่ไปตามแนวเขาอย่างรวดเร็ว

พวกเขาเข้าไปในกลุ่มเมฆอย่างรวดเร็ว

พวกเขาไต่ระดับสูงขึ้นไปในชั้นที่มีเมฆปกคลุมและเลี้ยวลงที่สันเขา  กองกำลังระมัดระวังและเคร่งขรึมทันที ความเร็วของพวกเขาลดลงเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความผันผวนของพลังงานขนาดใหญ่   ขณะที่บินช้าๆ ความผันผวนของพลังงานจะลดลงมาก

สภาพอากาศในตอนนี้นับว่าดี มีชั้นเมฆที่หนาทึบสามารถช่วยกรองความผันผวนของพลังงานจากกองทัพจักรกลได้

ในเวลาอันรวดเร็วกองทัพจักรกลก็เข้าประจำตำแหน่งจู่โจม ขณะที่กองพลแสงอุทัยยังไม่ทันได้รู้ตัว

ท้องฟ้าเป็นของเซียน

คำพูดเหล่านี้ถ่ายทอดวนเวียนมาเกินกว่าหมื่นปีแล้ว  ใบหน้าไพ่ของปิงสงบเหมือนเคย  อย่างไรก็ตามอารมณ์ของเขากำลังปั่นป่วนเหมือนถูกไฟรุมล้อม  เขาต้องการบอกโลกว่านอกจากเซียนที่อยู่ในท้องฟ้าแล้ว  ท้องฟ้ายังเป็นของคนกลุ่มหนึ่งอีกด้วย

นักสู้จักรกลผู้ที่ถูกโลกลืมเลือนมานานเกินไปแล้ว

เราอยู่ที่นี่ ณที่นี้เราจะเอาท้องฟ้ากลับมาเป็นของเรา!

ปิงข่มโทสะในใจของเขาเต็มที่เขาเปลี่ยนทีท่าเคร่งขรึมกล่าวเสียงทุ้ม “ทุกคน เตรียมตัวบุก!”

กองทัพจักรกลปรับตัวเข้าประจำตำแหน่งนานแล้วเหมือนกับฝูงปลาพวกเขาทะลุผ่านเมฆ

กองพลแสงอุทัยเป็นของสาขาระดับทองที่สิบเอ็ดในสมาพันธ์ชาวยุทธ  สาขาระดับทองที่สิบเอ็ดไม่ถือว่าเป็นสาขาที่แข็งแกร่ง  แต่พวกเขามีคุณลักษณะที่ไม่เหมือนใคร วิชาแพทย์ของสาขาทองที่สิบเอ็ดลึกล้ำที่สุด  นักสู้ชั้นทองของพวกเขาส่วนใหญ่เป็นผู้เชี่ยวชาญในวิชาแพทย์  วิชาแพทย์ไม่เหมาะกับการรบและเพื่อไล่ตามความสามารถในการต่อสู้พวกเขาเดินตามเส้นทางพิเศษ

ใช้วิชาแพทย์เพื่อแก้ไขและยกระดับร่างกายพวกเขา

นี่เองทำให้นักสู้ระดับทองในสาขาทองที่สิบเอ็ดไม่เหมือนกับหน่วยอื่น   ในช่วงซ้อมรบของกองทัพสมาพันธ์ชาวยุทธ กองพลแสงอุทัยเป็นคู่ต่อสู้ที่ทุกคนไม่ยินดีพบเจอ  ความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาไม่นับว่าแข็งแกร่งทรงพลัง  แต่พวกเขามีพลังชีวิตที่แข็งแกร่งมาก  ในสนามต่อสู้ นี่คือข้อได้เปรียบใหญ่  ตัวอย่างเช่น เมื่อพวกเขาได้รับบาดแผลชั่วคราวก็ยังดำเนินการต่อสู้ได้ต่อไปเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ด้วยหลักประกันวิทยายุทธสำหรับการรักษาที่แกร่งกล้า  ตราบใดที่ทหารยังไม่ตายระหว่างสู้รบ  พวกเขาก็จะไม่เป็นอะไร  นี่ทำให้พวกทหารไม่กลัวต่อการบาดเจ็บ เพราะพวกเขาได้ค้นคว้าและเชี่ยวชาญวิชารักษาบาดแผลได้

กองพลแสงอรุณเชี่ยวชาญในการต่อสู้ยืดเยื้อตราบใดที่พวกเขาเข้าสู่สภาวะที่ยันกัน พวกเขามักจะเป็นฝ่ายชนะ  เมื่อเห็นศัตรูของพวกเขาแขนขาใช้ไม่ได้แต่พวกเขาก็ยังโถมตัวเองไปข้างหน้าโดยไม่กลัวตายภาพเช่นนั้นถือเป็นฝันร้ายของศัตรู

“เราอยู่ห่างจากเมืองศีรษะหมีเท่าไหร่?”  เลสเตอร์ถาม

“ตัดสินจากความเร็วในปัจจุบันของเรา  เราจะไปถึงเมืองศีรษะหมีราวบ่ายของวันพรุ่งนี้”นายทหารผู้ช่วยของเขาคำนวณคำตอบอย่างมืออาชีพ

เลสเตอร์ขมวดคิ้ว  “เราต้องรอจนถึงบ่ายวันพรุ่งนี้เชียวหรือ?”

“ใช่”  นายทหารผู้ช่วยมองดูผู้บัญชาการอย่างระมัดระวัง  ผู้บัญชาการของเขาอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก  ดังนั้นเขาอธิบายอย่างรวดเร็ว  “เราใช้เส้นทางที่ใกล้ที่สุดแล้ว  ถ้าเราต้องการไปให้ถึงเร็วขึ้น  เราจะต้องเพิ่มความเร็ว”

เลสเตอร์ไม่ใช่ผู้นำทหารระดับอาชีพ  แต่เขาค่อนข้างเชี่ยวชาญในการศึกษากลยุทธ์สู้รบโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับกลุ่มที่เท่าเทียมกันในอดีตเขาสามารถสร้างความประหลาดใจให้กับผู้คนได้ เมื่อสาขาทองที่สิบเอ็ดกำลังเตรียมตัวสร้างกองพลแสงอรุณ เขาเสนอบริการของเขาเพิ่มขึ้นจากรูปลักษณ์ที่ดูลึกซึ้งของเขา  เขาได้รับตำแหน่งอย่างประสบความสำเร็จ

เลสเตอร์ค่อนข้างเจ้าอารมณ์  นิสัยของเขาใจร้อนเหมือนไฟและกลยุทธ์สู้ยอมสละชีวิตทำให้กองทัพอื่นปวดหัวจากน้ำมือของเขา

เลสเตอร์มองดูทหารที่ดูเหนื่อยอ่อนทุกคนและส่ายศีรษะ  “จัดสรรเวลาพักไว้ปล่อยทีมเล็กสามทีมคอยคุ้มกัน ส่วนที่เหลือจะใช้พลังแสงอรุณ”

พลังแสงอรุณคือวิชายุทธที่ใช้ในการรักษาที่สำคัญที่สุดของกองพลแสงอรุณ มันจะช่วยทำให้ทหารฟื้นคืนความแข็งแรงและปราณแท้ในช่วงเวลาสั้นๆ ผลกระทบของมันเกินกว่าวิชาแพทย์ที่กองทัพใช้โดยปกติ  ต้องใช้เวลาสามชั่วโมงเพื่อให้ทหารฟื้นคืนความแข็งแรงตามปกติของพวกเขา   ข้อเสียเปรียบเพียงประการเดียวก็คือเมื่อพวกเขาใช้พลังแสงอรุณ  พลังป้องกันของกองพลจะอ่อนลง

ขณะที่ใช้พลังแสงอรุณรักษานักสู้จะอยู่ในสภาวะไร้ความรู้สึกและถ้าพวกเขารักษายังไม่สำเร็จก็ยากที่จะออกไปได้

“หน่วยย่อยสามหน่วยน้อยเกินไปหรือเปล่า?” นายทหารผู้ช่วยถามอย่างระมัดระวัง

“ก็แค่หน่วยย่อยสามหน่วย!”  เลสเตอร์พูดอย่างตัดสินใจ  “เลือกนักสู้ระดับทองทุกคนเลย  นักสู้ระดับทอง 30 คน  ข้าไม่เชื่อเลยว่ากลุ่มดาวหมีใหญ่หรือใครอื่นจะสามารถคุกคามเราได้”

นายทหารผู้ช่วยของเขาเตือน  “ศัตรูมีกองทัพจักรกล....”

เลสเตอร์หัวเราะลั่น  “พวกเขาถูกส่งไปไกลแล้ว  เมื่อเราเคลื่อนไหว  พวกเขายังคงอยู่ในกลุ่มดาวเซกซ์แทนส์  เรามีพลังแสงอรุณคอยเพิ่มความเร็วให้เราอย่างเต็มที่  และพวกเขาจะเร็วกว่าเราได้ยังไง?  มันเป็นไปไม่ได้นอกจากพวกเขามีมากกว่าสองขา”

นายทหารผู้ช่วยของเขาคิดอีก  ผู้บัญชาการของเขาพูดถูก  พวกเขาวิ่งผ่านไปตามถนนนอกจากจะฟื้นฟูด้วยพลังของแสงอรุณในระหว่างทางแล้ว  พวกเขาไม่ต้องเสียเวลาเพิ่มขึ้นเลย  ศัตรูของพวกเขาจะไวกว่าพวกเขาได้ยังไง?เป็นไปไม่ได้เลย

ในเวลาอันรวดเร็ว ค่ายก็สว่างไสวไปด้วยไฟอบอุ่น ในแสงสว่างหน้าของทหารเต็มไปด้วยความพึงพอใจ  เลสเตอร์เข้าไปในแสงสว่าง  เขาเดินหน้าอย่างต่อเนื่องทำให้เขาเหนื่อยหนัก  นายทหารผู้ช่วยของเขาเดินตามเข้ามาข้างใน  เขารู้ว่าการเดินทางยังต้องไปอีกไกล  ถ้าไม่ใช่เพราะพลังแสงอรุณคอยช่วยฟื้นฟู  เขาไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถติดตามกองทัพใหญ่ไปได้หรือไม่

นักสู้ระดับทอง 30 คนที่ได้รับเลือกแยกกระจายอยู่รอบๆ ค่าย

“นี่เป็นชีวิตที่ลำบากอย่างแท้จริงข้าเองก็เหนื่อยมากอยู่เหมือนกัน กลุ่มเจ้าบ้าพวกนี้รู้จักเสพสุขนัก รอบต่อไปข้าจะขอเพลิดเพลินกับพลังแสงอรุณบ้าง”

“หยุดบ่นเถอะน่า  ถ้านายได้ยิน เจ้าเป็นได้เจอดีแน่”

“ฮ่าฮ่า  ข้าเพียงแต่พูดเฉพาะต่อหน้าเจ้าเท่านั้น  ข้าไม่อาจรอให้เราไปโผล่ที่เมืองศีรษะหมีในทันใดแล้วมองดูหน้าเจ้าพวกคนบ้านอก ฮ่าฮ่า คงเป็นภาพที่น่าทึ่ง!”

“ฮ่าฮ่าด้วยวิธีที่เจ้าพูด  เจ้าก็มองไปข้างหน้าเหมือนสินะ... เอ่... นั่นเสียงอะไร?”

“เสียง?  เจ้าประสาทหลอนไปแล้ว  นี่คือที่แม้แต่นกก็ไม่กล้าวางไข่  แล้วยังจะมีเสียงอะไรอีก?”

“ไม่,ฟังดูสิ!”

“เอ่! มีจริงๆ ด้วย... เดี๋ยวก่อน... นั่นอะไร?”

นักสู้ชั้นทองนี้เหม่อมองจ้องท้องฟ้าจุดดำเล็กๆ พุ่งออกมาจากเมฆด้วยความเร็วน่าตื่นตระหนกขณะที่พวกเขาลงสู่พื้นจุดดำเหล่านั้นลงมาด้วยความเร็วสูง ในพริบตาพวกเขาก็ขยายขึ้นหลายเท่าต่อหน้าต่อตานักสู้ระดับทองทำให้พวกเขามองเห็นชัดขึ้น

อาวุธจักรกลวิญญาณ!

เป็นรูปแบบของอาวุธจักรกลวิญญาณที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน!

ลอบจู่โจม!

สีหน้าของนักสู้ระดับทองทั้ง 30คนเปลี่ยน ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเสียงหวีดหวิว ฝ่ายตรงข้ามกำลังเร่งเข้ามา

อาวุธจักรกลวิญญาณ 1000 ชุดคลุมเต็มท้องฟ้าและฉากภาพที่อาวุธจักรกลพันชุดบุกเข้ามาพร้อมกันเหมือนกับภูเขาไท้ซานถล่มลงมาต่อหน้าต่อตาทุกคน

นักสู้ระดับทอง 30คนเผชิญกับการโจมตีที่กำลังจะมาถึงอ่อนแอเป็นเหมือนกิ่งไม้แห้งในพายุ  ทุกคนหน้าซีดขาว จิตใจว่างเปล่านัยน์ตาสับสนเต็มไปด้วยความกลัว

ในสายตาของพวกเขากลุ่มสีดำหนาแน่นก็คืออาวุธจักรกลวิญญาณทั้งหมด

อาวุธจักรกลวิญญาณที่เยือกเย็นดุจน้ำแข็งแต่ละเครื่องมีลักษณะที่น่ากลัว ทำให้ดูเหมือนบ้านน้ำแข็งถล่ม

ถ้ามีผู้นำทหารที่โดดเด่นเมื่อเห็นประจักษ์การระดมโจมตี เขาอาจจะหันหลังและวิ่งหนีโดยไม่ลังเล

อาวุธจักรกลวิญญาณ 1000 เครื่องที่พุ่งลงมาในขณะที่พวกเขาโฉบลงมาด้วยความเร็วสูงสุด ก็ยังคงตั้งขบวนได้เป็นชั้นๆ  ถ้าผู้นำทหารคนหนึ่งมีความโดดเด่นพอเขาจะตระหนักได้ถึงสิ่งที่ปิงพยายามทำ

“ฆ่า!”

เสียงเยือกเย็นดังขึ้นจากจากอาวุธจักรกลวิญญาณแถวหน้าที่เยือกเย็นดุจน้ำแข็ง  แม้แต่ท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยเสียงหวีดหวิว  ไม่สามารถทำลายน้ำแข็งได้ด้วยเสียงหวีดหวิวไม่สามารถทำลายได้ด้วยเสียงตะโกน

เมฆครึ้มม้วนตัวแต่ไกล พร้อมกับเปล่งแสงสว่างมาก

อาวุธจักรกลทั้งหมดตาสว่างเป็นประกาย

“ฆ่า!”

นักสู้พันคนในชุดอาวุธจักรกลวิญญาณตะโกนกราดเกรี้ยว  ท้องฟ้าระเบิดเหมือนกับมีสายฟ้า  นักสู้ชั้นทองตกใจมึนงงหูอื้อ

อาวุธจักรกลพันชุดปลดปล่อยรังสีมีดพร้อมกัน

รังสีมีดกระบี่นับไม่ถ้วนเหมือนกับฝูงปลาขนาดใหญ่ถาโถมใส่ปิงอย่างบ้าคลั่ง

นักสู้ชั้นทองมองดูท้องฟ้าด้วยสีหน้าว่างเปล่าแสงเจิดจ้าทำให้พวกเขานัยน์ตาพร่า

แต่เมื่อแสงสลัวลงทันที การมองเห็นของนักสู้ชั้นทองกลับคืนสู่สภาพปกติทันที  ขณะที่พวกเขาพยายามมองให้ชัด  หน้าของเขาว่างเปล่า  ความตั้งใจจะป้องกันหายไปหมดไม่มีเหลือขณะที่พวกเขาทุกคนหันหลังและวิ่งหนีโดยไม่ลังเล

บอลแสงขนาดมหึมาเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่าสามสิบเมตรปรากฏอยู่ต่อหน้าอาวุธจักรกลวิญญาณสีฟ้า

บอลแสงไม่ได้สว่างเจิดจ้า แต่ค่อนข้างจะสลัวแต่มันปล่อยปราณที่น่ากลัวและนักสู้ระดับทองทั้งสามสิบคนไม่สามารถรวบรวมความกล้าเพื่อต่อต้านได้

ลูกกลมแสงสีคล้ำคลุมไปด้วยรังสีดาบจากอาวุธจักรกลทั้งพันชุด

พลังของรังสีดาบที่อาวุธจักรกลวิญญาณปล่อยออกมาทรงพลังมากกว่าวิทยายุทธของนักสู้ในขอบเขตชั้นเดียวกัน  เพราะผ่านการเติมพลังหินดวงดาวแล้วจึงปล่อยออกมา ความคล่องแคล่วของอาวุธจักรกลวิญญาณไม่สามารถเทียบได้กับนักสู้ ดังนั้นนักสู้จักรกลผู้ขัดขวางจึงใช้ความได้เปรียบในการสู้ตัวต่อตัว

อย่างไรก็ตาม,  เมื่อรังสีดาบพันสายถูกปลดปล่อย  จากนั้นรวมตัวและสร้างเป็นบอลแสงขนาด 30 เมตร....

พลังที่บอลแสงบรรจุไว้นับว่าน่ากลัวจริงๆ

หลังจากผ่านการเพิ่มขนาดจากอาวุธจักรกลวิญญาณ  พลังของรังสีดาบกร้าวแกร่งขึ้น  แต่ในเวลาเดียวกันก็ควบคุมยากขึ้น ดังนั้นสำหรับผู้นำทหารจึงสามารถใช้รังสีควบคุมของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

อาวุธจักรกลวิญญาณสีฟ้าที่จะควบคุมรังสีดาบได้นั้นแทบจะนึกภาพไม่ออก แม้แต่ผู้นำทหารชั้นยอดสองสามคนก็ยังไม่สามารถทำได้

เมื่อเห็นด้วยตาตนเอง  พวกเขาคงไม่อยากจะเชื่อ  แต่ตอนนี้ในหัวของพวกเขามีความคิดเดียว “หนี”

ออกไปจากที่นี่  รีบออกไปจากที่นี่...

ปัง!

บอลแสงขยายขนาดตามหลังพวกเขา  ความผันผวนของพลังงานนั้นน่ากลัวราวกับโลกถึงกาลอวสานจนทำให้พวกเขาแทบลืมหายใจ นักสู้ระดับทองสองสามคนที่วิ่งช้ากว่าถูกแสงกลืนเข้าไป ไม่มีอะไรเหลือ

คลื่นกระแทกที่น่ากลัวกระแทกออกไปฉับพลัน  เหมือนกับกระแสอากาศที่คล้ายกำแพงเหล็กแรงปะทะหนักหน่วงกระแทกไล่หลังนักสู้ระดับทอง

ขณะที่พวกเขาถูกกระแทกอย่างหนัก  พวกเขากระอักโลหิตแทบจะทันทีร่างปลิวกระเด็นออกไป

ใจของพวกเขาว่างเปล่หลังจากพวกเขากระแทกลงพื้น พวกเขาตะเกียกตะกายลุกขึ้นปากพวกเขาร้องโหยหวนอย่างบ้าคลั่งและพวกเขาวิ่งต่อไปข้างหน้าเมื่อตกอยู่ในสภาพบ้าคลั่งไปแล้ว พวกเขาไม่รู้ตัวเลยว่าอาวุธจักรกลวิญญาณไล่กวาดล้างตามหลังมาอย่างเงียบๆ

อาวุธจักรกลวิญญาณเหล่านี้ลอยตัวมีโลหะที่สีเข้มมันเงา ร่างขนาดใหญ่ของพวกมันคล่องแคล่วเหมือนกับนักล่าที่แฝงตัวอยู่ในความมืด  เข้ามาใกล้เป้าหมายของพวกมันทุกที

พวกมันเงื้อมือขึ้นและสับดาบลงทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด