ตอนที่แล้วตอนที่ 16-15 เกาะมิลัวร์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 16-17 เผชิญหน้า

ตอนที่ 16-16 ใบหน้าที่คุ้นเคย


สนามต่อสู้ถูกแบ่งออกเป็นสามระดับ  สนามต่อสู้ของเทพชั้นสูง สนามต่อสู้ของเทพแท้  สนามต่อสู้ของเทียมเทพ  มีสนามต่อสู้ของเทพชั้นสูงเพียงแห่งเดียว  เทพแท้สามแห่ง และเทียมเทพก็สามแห่งเช่นกัน

“พี่ใหญ่, เราจะชมดูที่ไหนก่อน?”  บีบีรีบถาม

“การต่อสู้ของเทพชั้นสูงน่าจะตื่นเต้นมากที่สุด  เราจะไปดูที่นั่นอยู่แล้ว”  ลินลี่ย์หัวเราะ   ส่วนคนอื่นๆค่อนข้างจะให้ความสนใจเวทีต่อสู้ของเทพชั้นสูง และทุกคนเดินตามกันไปในเส้นทางที่ไปยังสนามต่อสู้ของเทพชั้นสูง

ชั่วเวลาต่อมากลุ่มของลินลี่ย์ก็มาถึงสนามต่อสู้ที่กว้างใหญ่

สนามต่อสู้ของเทพชั้นสูงใจกลางสนามประลองเป็นสนามกลมมีพื้นที่ว่างเปล่าขยายออกไปเส้นผ่าศูนย์กลางห้ากิโลเมตร

“สนามต่อสู้ของเทพชั้นสูงใหญ่โตจริงๆ สนามต่อสู้ของเทพอีกสองระดับยังไม่ใหญ่ใกล้เคียงด้วยซ้ำ”  เบสกล่าว กลุ่มของลินลี่ย์เดินตรงไปตามทางพอพบเจอที่ว่างจึงนั่งลง

นักสู้ระดับเทพสามารถเห็นได้จากระยะไกลมากดังนั้นทุกคนสามารถเห็นภาพการต่อสู้ของสองคนตรงกลางสนามต่อสู้ได้ชัดในระยะหลายกิโลเมตร

ตอนนี้ในอากาศมีร่างของสองคนลอยตัวอยู่ขณะจ้องมองกันและกัน คนหนึ่งเป็นคนกำยำล่ำสันมีเขาข้างเดียว อีกคนหนึ่งเป็นสตรีผมแดงมีเสน่ห์แต่น่ากลัว สิ่งที่ดึงดูดความสนใจลินลี่ย์ไม่ใช่คนทั้งสองที่กำลังเตรียมตัวต่อสู้  แต่เป็นที่ขอบเวทีในกลางพื้นที่ ข้างแท่นคนชมดูมีนักรบเกราะแดงเดินตามกันมาทีละคน!

ที่ขอบแท่นชมดูรูปวงกลมทุกระยะสองสามเมตรจะมีทหารของเกาะประจำพื้นที่อยู่

“มีทหารประจำเกาะที่นี่เกินกว่าพันคนจริงๆ!” ลินลี่ย์ตรวจสอบพวกเขาอย่างระมัดระวัง คนพวกนี้เป็นตัวแทนของเทพชั้นสูงพันคน นอกจากนี้ คนพวกนี้ยังสามารถยืนอยู่ได้ที่ริมเวที  ต้องเข้าใจก่อนว่าพื้นที่อื่นก็มีการเดินลาดตะเวณอย่างนั้นเหมือนกัน มีทหารค่อนข้างมากเช่นกัน

จำนวนของทหารประจำเกาะที่สนามต่อสู้ในตอนนี้มากจนน่าประหลาดใจ

“ว้าว, มีทหารประจำเกาะค่อนข้างมากทีเดียว”  บีบีถอนหายใจทึ่ง

แอ็ชหัวเราะ  “นี่เป็นสนามต่อสู้เทพชั้นสูง พวกเขาอยู่ที่นี่เพื่อป้องกันคลื่นระเบิดจากการต่อสู้ไม่ให้ทำอันตรายคนดู  ดังนั้นพวกเขาจึงจัดทหารประจำเกาะมาประจำไว้มากมาย  จำนวนของทหารประจำเกาะที่สนามต่อสู้ของเทพแท้ยังน้อยกว่ามาก ขณะที่เวทีต่อสู้ของเทียมเทพไม่มีทหารประจำเกาะเลย”

“ความเสียหายจากแรงระเบิดจากการสู้ของเทียมเทพจะมากแค่ไหนกันเชียว?”  เบสหัวเราะเช่นกัน

ขณะที่กลุ่มของลินลี่ย์กำลังคุยกันพวกเขามองดูการต่อสู้ที่กลางเวทีไปด้วย ร่างทั้งสองกลายเป็นภาพเลือนรางสู้กันด้วยความรวดเร็วดุจสายฟ้า  ในกลางอากาศมีประกายแสงมากมาย ขณะที่กลุ่มของลินลี่ย์ยังคงดูอย่างระมัดระวัง

“ครืนนน...”

สาวงามผมแดงผู้ร้ายกาจควงไม้เท้าสีแดงหวดใส่บุรุษที่มีเขารวดเร็วราวกับสายฟ้า  “อ๊า...” เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นและบุรุษเขาเดียวถูกกระแทกกระเด็น  จากนั้นร่างของเขาสั่นและระเบิดดังบึ้ม

“คลารินดา ชนะรอบที่สอง!”  เสียงหนึ่งดังขึ้น

สตรีงามผมแดงบินลงมาตรงเข้าไปที่ทางเดินด้านล่างเวที

“อ่อนแอเกินไป!”  เมื่อเห็นการต่อสู้นี้แล้ว  ลินลี่ย์ได้แต่ส่ายศีรษะ “แค่ใช้เคล็ดความรู้ลึกลับระเบิดซึ่งเป็นกฎธาตุไฟเพียงเล็กน้อยนางก็สามารถเอาชนะได้สองรอบแล้ว  คุณภาพของนักสู้ในสนามต่อสู้ต่ำจริงๆ”  ลินลี่ย์เห็นยอดฝีมือที่ทรงพลังมามาก

ไม่ว่าจะเป็นบลูไฟร์เบรุต แลร์มองต์ รอยัลวิง เอลควิน ฟูโซ่...

แม้แกนมอร์ตินที่เขาเอาชนะได้ก็ยังเหนือกว่าคนพวกนี้มากมายนัก

เบสที่นั่งอยู่ใกล้กับลินลี่ย์พูดเบาๆ“ลินลี่ย์, เทพชั้นสูงทุกคนที่ต้องการเข้าร่วมสู้ในสนามต่อสู้แน่นอนว่าจะต้องมีคุณภาพแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตามยอดฝีมือที่แท้จริงก็ปรากฏให้เห็นอยู่บ้างซึ่งเป็นเหตุให้การต่อสู้ธรรมดาเจ้าจึงถูกมองว่าไม่น่าสนใจ”

“ปรากฏเป็นครั้งคราว?”  ลินลี่ย์ส่ายศีรษะและถอนหายใจ

เหตุผลที่เขามาดูยอดฝีมือสู้กัน  ตามแผนของพวกเขา พวกเขาจะอยู่ที่เกาะมิลัวร์เพียงวันเดียวหรือสองวัน  หลังจากซื้อของที่ปราสาทเสรีแล้ว  พวกเขาจะจากไป เขาไม่มีเวลารออยู่ที่นี่เพื่อให้ยอดฝีมือปรากฏตัว

“โชคไม่ดี” ลินลี่ย์ถอนหายใจ

“ยอดฝีมือที่สนามต่อสู้นี้ค่อนข้างธรรมดาจริงๆ”เบสพูดเบาๆ  “สนามต่อสู้ของเทพชั้นสูงมีกฎอยู่  ถ้านักสู้สามารถชนะได้สิบคนรวด  อย่างนั้นจะได้ส่วนลดราคาของทั้งหมดที่ปราสาทเสรี10%  ถ้าได้ชัยชนะถึงห้าสิบครั้งทุกอย่างในปราสาทเสรีจะลดราคาให้ 20%แต่ถ้าท่านชนะได้ร้อยรอบ ของทั้งหมดในปราสาทเสรีจะลดราคาให้ครึ่งหนึ่งและนอกจากนี้จะได้รับรางวัลถึงหมื่นล้านศิลาดำ! ขณะเดียวกันเขาจะมีคุณสมบัติได้เข้าพื้นที่ลับของเกาะตะวันตกเพื่อเข้าไปดูเป็นพิเศษ!”

ลดราคาครึ่งหนึ่งและได้รางวัลหมื่นล้านศิลาดำ?  ลินลี่ย์ไม่สนใจเรื่องนี้เท่าใดนั้น  แต่...

“ไปดูพื้นที่ลับเกาะตะวันตกเป็นพิเศษน่ะหรือ?  หมายความว่ายังไง?”  ลินลี่ย์ค่อนข้างงง

ส่วนของเกาะตะวันออกเป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับทุกคน  แต่ส่วนตะวันตกของเกาะเป็นที่ต้องห้ามสำหรับคนภายนอก  อย่างไรก็ตามลินลี่ย์ไม่เคยได้ยินถึงพื้นที่ลับในเกาะด้านตะวันตกมาก่อน

“เกาะมิลัวร์ถูกควบคุมและดำเนินงานโดยห้าตระกูลใหญ่ ศิษย์ของห้าตะกูลเหล่านี้ก็เป็นทหารประจำเกาะด้วยเช่นกัน  ทุกชีวิตบนเกาะด้านตะวันออก   อย่างไรก็ตามทางด้านตะวันตกของเกาะมีพื้นที่ลับสำคัญซ่อนอยู่  บางคนก็เข้าร่วมตามคำเชิญจากห้าตระกูลใหญ่หรือคนที่ชนะการต่อสู้ร้อยรอบก็จะมีคุณสมบัติเข้าไปเยี่ยมเยือนได้”  เบสถอนหายใจ

ลินลี่ย์อดสงสัยไม่ได้

ห้าตระกูลใหญ่ร่วมกันดูแลเกาะมิลัวร์  จากนั้นพื้นที่ลับทางด้านตะวันตกของเกาะมีความลับอะไร?

“เบส, เจ้าไม่เคยไปดูเลยหรือ?”  ลินลี่ย์มองดูเขา

“ข้าก็อยากไปดูเหมือนกัน”  เบสสั่นศีรษะและหัวเราะ  “เพียงแต่, ข้าให้ความสำคัญกับชีวิตค่อนข้างสูงเอาชนะแค่สิบรอบสำหรับข้าไม่ใช่เรื่องยากเกินไป แต่ร้อยรอบเล่า? ที่สำคัญนักสู้ทุกคนไม่ได้อ่อนแอ ถ้าหากมียอดฝือที่แท้จริงปรากฏขึ้นมา ข้ามิจบสิ้นหรอกหรือ?”

“เป็นไปได้ไหมที่ไม่มีคนโชคดีมากพอจะเจอกับคนฝีมืออ่อนระหว่างการต่อสู้ร้อยรอบ?”  ลินลี่ย์ถาม

“เป็นไปไม่ได้” เบสส่ายศีรษะ  “ต่อให้ท่านโชคดีและพบเจอแต่เทพชั้นสูงฝีมืออ่อนในช่วงต่อสู้99 รอบก่อนนั้นโดยท่านเอาชนะได้ก็ตาม แต่ในรอบที่ร้อย ห้าตระกูลจะจัดส่งยอดฝีมือของตนเองออกมาท้าทาย!  ทุกคนที่เอาชนะในการต่อสู้ร้อยศึกจะต้องเป็นยอดฝีมือที่แท้จริง  และอย่างน้อยก็ต้องมีพลังระดับเดียวกับข้า”

ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย

ค่อยสมเหตุผล ห้าตระกูลจะไม่โยนเงินหมื่นล้านศิลาดำให้คนที่โชคดีแต่อ่อนแอแน่

“รางวัลอย่างเดียวก็มากถึงหมื่นศิลาดำ  ห้าตระกูลความจริงก็ร่ำรวยและฟุ่มเฟือยมาก”  ลินลี่ย์บอกตัวเอง

“ลินลี่ย์, ถ้าเจ้าลองด้วยตัวเองชัยชนะร้อยศึกคงตกเป็นของเจ้าอย่างง่ายดาย” เบสพูดหลอกล่อ  “บอกตรงๆเลยว่าคนระดับอสูรหกดาวสามารถเอาชนะร้อยศึกได้ อสูรห้าดาวผู้โชคดีก็ยังมีสะดุด ที่สำคัญ กล่าวโดยทั่วไปแล้ว เจ้าอาจไม่พบกับอสูรเจ็ดดาวเข้าร่วมในการต่อสู้แม้แต่ครั้งเดียวในรอบหมื่นปี”

ลินลี่ย์หัวเราะ  นั่นเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว

อสูรเจ็ดดาวจะให้ความสนใจเงินหมื่นล้านได้ยังไง?  แต่แน่นอน ขณะที่เวลาผ่านไปเกินหมื่นปีบางทีอสูรเจ็ดดาวอาจปรากฏตัวเข้าร่วมประลองก็ได้

“พี่ใหญ่ รีบดู!”  บีบีพูดขัดกลางครัน

“เอ๊ะ?” ลินลี่ย์มองดูบีบีอย่างสงสัย ไม่ใช่แค่บีบี  แม้แต่เดเลียและคนอื่นก็อุทานออกมาด้วย  “ลินลี่ย์!  รีบดู คนที่ปรากฏอยู่ในกลางอากาศ  นั่นเป็นคนที่เราพบเจอตอนนั้น!”

หลังจากเห็นการต่อสู้ครั้งแรก  ลินลี่ย์ไม่ให้ความสนใจสนามต่อสู้อีกต่อไป

แต่ในขณะนั้นลินลี่ย์หันไปมองทันที  และตกใจกับสิ่งที่เขาเห็น

ในพื้นที่กว้างว่างเปล่ามีร่างที่คุ้นเคยร่างหนึ่ง!

“หืม?” ลินลี่ย์มีสีหน้าทึ่งทันที “ใครจะคาดกันเล่าว่าเหตุการณ์ที่หมื่นปีจะปรากฏครั้งหนึ่งตอนนี้ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาแล้วยอดฝีมือที่ทรงพลังขนาดนั้นเข้าร่วมต่อสู้ด้วยจริงๆ”

เวทีต่อสู้ที่ว่างเปล่ามีบุรุษเย็นชาอยู่ในชุดยาวดำและสะพายดาบศึกบนหลังยืนอยู่กับที่  ผมยาวดำของเขาพลิ้วสะบัดตามสายลม  เขายืนนิ่งเหมือนธารน้ำแข็งที่มีมานานนับปีไม่ถ้วนเย็นชา เข้าถึงไม่ได้

ในดวงตาของเขามีประกายไฟฟ้าเต้นระริก

“เขานั่นเอง” เบสกระแอมก่อนพูดด้วยความทึ่ง “ถ้าเขาเข้าร่วมสู้ เท่ากับว่าเขารับประกันชัยชนะร้อยศึกไว้แน่นอนแล้วไม่ใช่หรือ?”

บีบีที่อยู่ใกล้ๆสงสัย “เอ่? ข้าจำได้ว่าเขาเดินทางได้เร็วกว่าเรา ตามเหตุผลแล้วเขาควรจะมาถึงเกาะมิลัวร์ก่อนเรานานแล้วไม่ใช่หรือเขาไม่ควรจะอยู่ที่นี่พร้อมกับเราในเวลาเดียวกัน”

บุรุษผมดำที่เดินทางด้วยตนเองมีความรวดเร็วแน่นอน

แต่ลินลี่ย์นึกย้อนทบทวนคำสนทนาของคนอื่นในร้านอาหารก่อนนี้

จากเมืองบลูเมเปิลถึงเกาะมิลัวร์โจรกลุ่มใหญ่ถูกทำลายเรียบ

“บางทีเป็นเพราะเขาทำลายกลุ่มกองทัพโจรมากมายตลอดเส้นทาง  หรือบางทีเขากำลังฝึกในระหว่างทางก็ได้”  ลินลี่ย์พูดกับตนเอง

ลินลี่ย์เริ่มมองดูเวทีต่อสู้อย่างระมัดระวัง  ที่สำคัญคนที่กำลังจะสู้เป็นบุรุษผมดำที่ทรงพลัง

“เจ้าอ่อนแอเกินไป ไสหัวไปซะ!”  เสียงเยือกเย็นดังก้องในอากาศเหนือสนามนักสู้  คนพูดคือบุรุษผมดำ  คู่ต่อสู้ของเขาอยู่ในชุดขาวยาว  บุรุษหนุ่มรูปงามผมสีม่วงควงคทาที่เปล่งประกายแสงสีขาว

พื้นที่ชมดูโกลาหลทันที เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่พวกเขาไม่ได้เห็นคนหยิ่งยโสที่สั่งให้คู่ต่อสู้ข้างหน้าหนีไปก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้น

บุรุษหนุ่มผมม่วงได้ยินคำพูดนี้อดโกรธไม่ได้  “เจ้ารู้แต่เพียงต่อสู้เท่านั้นหรือ!”

บุรุษผมดำอดจ้องมองเขาไม่ได้

“เปรี๊ยะ!”

ทันใดนั้นสายฟ้าสองสายยิงออกมาจากดวงตาของบุรุษผมดำ  เร็วจนบุรุษหนุ่มผมม่วงไม่สามารถหลบได้แม้แต่น้อย  พลังโจมตีพุ่งใส่ร่างของบุรุษผมม่วง เขาสั่นเล็กน้อยจากนั้นทรุดตัวลงไม่ลุกขึ้นมาอีกเลย

ผู้ชมนับแสนตะลึงกันไปหมดในขณะนั้น

พื้นที่ผู้ชมนิ่งเงียบ

“เมื่ออ่อนแอก็ไม่ควรออกมา  ถ้าเจ้ายังขืนทำ ก็เท่ากับแส่หาเรื่องตาย  คู่แข่งคนต่อไปจะแข็งแกร่งมากขึ้นข้ามาที่นี่เพื่อต่อสู้!”  บุรุษผมดำพูดอย่างเยือกเย็น

สู้รบอย่างต่อเนื่อง!

นี่เป็นการแสดงออกถึงความหยิ่งยโส  เพราะถ้ามีคนเข้าร่วมต่อสู้อย่างต่อเนื่องเขาจะไม่มีโอกาสเลือกคู่ต่อสู้ ไม่ว่าคู่ต่อสู้คนต่อไปจะเป็นใครก็ตาม เขาจะต้องสู้!  แม้ว่าคู่ต่อสู้คนต่อไปจะเป็นเทพอสูรก็ตาม  เขาก็ยังจะต้องสู้

แต่ว่าแน่นอนไม่มีทางที่เทพอสูรจะเข้าร่วมต่อสู้

ดังนั้นตราบใดที่การต่อสู้ยังไม่ร้อนแรงสุดขีด กล่าวโดยทั่วไปก็คือมีแต่ยอดฝีมือแท้จริงจึงกล้าสู้อย่างต่อเนื่อง

“โรมิโอ, ชนะหนึ่ง!”  เสียงดังขึ้นจากภายในเวที  “ทุกท่าน!  บัดนี้ท่านโรมิโอเลือกในการสู้ต่อเนื่องกัน เทพชั้นสูงคนใด ไม่ว่าเป็นใครจะได้รับอนุญาตให้เข้าต่อสู้  ใครสนใจก็ให้ลงมาสมัครได้ที่ข้างล่าง บัดนี้ได้เวลาต่อสู้รอบที่สอง!”

ลินลี่ย์จ้องมองตาไม่กระพริบ

เขาจ้องมองตรงๆจากรอบแรกจนถึงรอบที่สิบ!

สำหรับการต่อสู้รอบที่สิบเอ็ด...ไม่ใช่ว่าลินลี่ย์ไม่ต้องการดูต่อ แต่เป็นเพราะไม่มีโอกาสได้ดูต่อไป

ทั้งนี้เป็นเพราะทุกคนที่ต้องการสู้ในเวทีนี้สามารถสู้ได้วันละสิบรอบเท่านั้น ต่อให้นักสู้ต้องการสู้ในร้อยศึกแต่ก็ต้องขยายออกไปเกินกว่าสิบวัน  โรมิโอสู้ต่อเนื่องสิบศึกได้รับชนะง่ายดายในการสู้แต่ละครั้ง พลังของเขายิ่งใหญ่จนผู้ชมทุกคนพบว่ายากจะผ่อนลมหายใจได้ขณะที่พวกมองดู

“ทรงพลังมาก” หัวใจของลินลี่ย์สั่นสะท้าน “คนผู้นี้เชี่ยวชาญทั้งในการโจมตีพลังธาตุหยาบและโจมตีวิญญาณ  นอกจากนี้ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ  เขาไม่เคยชักดาบออกมาด้วยซ้ำ”

“โรมิโอ” ลินลี่ย์จดจำชื่อนี้ไว้

พวกเขาไปดูการต่อสู้ที่เวทีต่อสู้ของเทพแท้และเวทีเทียมเทพสองสามศึกบีบียังเข้าร่วมในเวทีเทพแท้และต่อสู้รวดเดียวสิบรอบ  เนื่องจากพลังของบีบีเขาแค่ใช้พลังออกไปเล็กน้อย ก็เอาชนะการต่อสู้สิบรอบรวดเดียวได้อย่างง่ายดาย!

หลังจากออกมาจากสนามต่อสู้กลุ่มของลินลี่ย์มุ่งหน้าไปยังปราสาทเสรี

“บีบี!  เจ้าเบื่อนักหรือ?  ถึงได้ลงไปแข่งกับพวกเขา”  ลินลี่ย์หัวเราะ

“ชนะตั้งสิบรอบ พี่ใหญ่ก็รู้  อย่างน้อยข้าก็ได้เหรียญพิเศษนี้มา  ข้าจะได้ส่วนลด 10%ขณะซื้อสินค้า”  บีบีพูดอย่างดีใจ

ลินลี่ย์พูดไม่ออก จับจ่ายซื้อสินค้าจะต้องใช้เงินมากมายเพียงไหน?  10% เท่ากับไม่มีอะไร เนื่องจากสมบัติที่ลินลี่ย์และบีบีมีอยู่ในตอนนี้ ส่วนลด 10% ไม่มีความหมายอะไร

“ปราสาทเสรีเป็นอาคารที่สวยงามจริงๆ”  ลินลี่ย์มองดูระยะไกล  กำแพงสีเขียวแก่และปราสาทเก่าแก่ยอดสีแดง  ทางเข้าปราสาทดูเหมือนจะมีผู้หลั่งไหลเข้าไปมิได้ขาด

“นี่นี่มีสินค้าขายอยู่มากมายบางส่วนเป็นของทะเลสตาร์มิสท์ บางส่วนมาจากทวีปต่างๆ มีของหลายอย่างที่ปราสาทดำและปราสาทเรดบุดไม่มีขาย” แอ็ชถอนหายใจทึ่ง

กลุ่มของลินลี่ย์เดินผ่านประตูใหญ่เข้าไปทันที

ด้านข้างประตูทางเข้าปราสาทเสรี มีบุรุษผมดำคนหนึ่งอยู่ในชุดยาวหลวมนอนอยู่บนสนามหญ้าอย่างเกียจคร้านในมือถือเหล้าอยู่ขวดหนึ่ง  ถ้าลินลี่ย์เห็นเขา ก็คงจำเขาได้ทันทีนี่เป็นสหายเก่าผู้มาจากทวีปยูลานเหมือนพวกเขา ซีซาร์!

ตอนนี้ซีซาร์ดูเหมือนคนไร้จิตวิญญาณ

“ครั้งสุดท้ายหรือ?  ฮ่าฮ่า ครั้งสุดท้าย?”  ซีซาร์เงยหน้าหัวเราะลั่น หลั่งน้ำตา

คนมากมายบนถนนมองดูเขา  แต่ไม่มีใครเข้าไปยุ่งรบกวนเขาแม้แต่คนเดียว

“เอ๊ะ?” ลินลี่ย์อยู่ที่ประตูทางเข้าหันไปมองไกลๆ ทันทีเขาจ้องมองอย่างระมัดระวัง   แต่รอบๆเขามีแต่คลื่นฝูงชน  “หรือว่าข้าได้ยินผิด?”  ลินลี่ย์ตอนนี้คิดว่าเขาได้ยินเสียงของซีซาร์

แต่มีคนมากมายที่มีเสียงคลับคล้ายกัน  และแม้ว่าลินลี่ย์จะมองดูอย่างระมัดระวัง  แต่เขาไม่เห็นซีซาร์

“คงหูแว่วไปเอง”  ลินลี่ย์ส่ายศีรษะและถอนหายใจ

“พี่ใหญ่ ไปกันต่อเถอะ  มองหาอะไรอยู่เหรอ?”  บีบีกล่าว และเดเลียมองดูลินลี่ย์เช่นกัน

“เข้าไปเถอะ” ลินลี่ย์หัวเราะ  เขาเข้าไปในปราสาทเสรีพร้อมกับเดเลีย

แต่สิ่งที่ลินลี่ย์ไม่รู้ก็คือซีซาร์กำลังนอนอยู่บนพื้นหญ้าข้างถนน  ถ้าซีซาร์ยืนขึ้น บางทีลินลี่ย์อาจมองเห็นเขา  แต่เขากำลังนอน  ลินลี่ย์จะเห็นเขาได้ยังไง?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด