ตอนที่แล้วตอนที่ 518 - พลังเหนือชั้น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 520 - รีบด่วน

ตอนที่ 519 - คลั่งไคล้ไล่ล่าคะแนน


ปกติเย่ว์หยางรับรู้แล้วว่าราชาเฮยอวี้กำลังจ้องมองด้วยสายตาที่สื่อความหมายว่า “ข้าต้องทำลายล้างเจ้าให้ได้”

แต่เขาแกล้งทำเป็นไม่ทันสังเกต

เนื่องจากราชาเฮยอวี้เป็นศัตรูของเขาอยู่แล้ว เย่ว์หยางจึงไม่ให้ความสนใจ แม้ว่าเพลิงริษยาจะแผดเผาราชาเฮยอวี้เหมือนกับหญิงหม้ายก็ตาม และถ้าจะให้ดีให้ขึ้นก็ปล่อยให้เขาบ้าจนเลือดออกทวารทั้งเจ็ดไปเลยก็ยิ่งดี ในสังเวียนมรณะนี้ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพื่อนร่วมทีม แต่เย่ว์หยางกับราชาเฮยอวี้ถูกกำหนดมาว่าไม่มีทางอยู่ร่วมกัน ราชาเฮยอวี้ต้องการมีชีวิตหนีรอดไปได้หรือ? การตัดสินครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เพชรฆาตโบราณสามารถทำได้ แต่เป็นสิ่งที่ต้องถามเย่ว์หยางก่อน

สำหรับทุกคนที่เข้าร่วมแข่งจากตะวันออก, เหนือและใต้ เมื่อฆ่าได้ก็จะได้หนึ่งคะแนน ไม่ว่าศัตรูจะแข็งแกร่งเพียงไรก็ตาม

ต่อให้ราชาเฮยอวี้สามารถฆ่าคนได้ทุกคน เขาจะไม่มีทางทำคะแนนได้ถึงร้อย

เมื่อใดก็ตามที่เย่ว์หยางฆ่าเพชรฆาตโบราณได้สำเร็จเพียงลำพังคนเดีย เขาจะได้ 2 คะแนนสำหรับการฆ่า และเพิ่มอีก 5 คะแนนสำหรับการลงมือคนเดียว ขณะเดียวกัน เขาจะได้ข้อมูลลับตามแต่จะเลือกอย่างหนึ่ง ถ้าเขาสามารถทำคะแนนได้มากกว่า 100 คะแนน เขาสามารถยกคะแนนให้เพื่อนร่วมทีมที่คะแนนยังน้อยได้ถึงหนึ่งในสาม

เรื่องเช่นนี้ เย่ว์หยางจะไม่มีทางบอกราชาเฮยอวี้เลย ด้วยความหวาดระแวงของราชาเฮยอวี้ เขาจะไม่มีทางเชื่อใครเลย

เนื่องจากราชาเฮยอวี้จะไม่ได้รู้คะแนนของเขา เขาจะต้องบ้าในท้ายที่สุดแน่นอน

สำหรับเย่ว์หยางผู้รู้ข้อมูลลับทั้งหมด เขาจะทำทุกอย่างเพื่อขโมยคะแนนของคนอื่น

ยิ่งกว่านั้นผู้นำกลุ่มทั้งสามอย่างหวงฉวน, เฝินเทียนและหวิ่นซิงยังไม่ได้คะแนนเลย เนื่องจากพวกเขาไม่รู้ความมีอยู่ของมัน สังเวียนมรณะส่งเสริมการต่อสู้เดี่ยวอย่างแน่นอน ขณะที่รางวัลจากการสู้เดี่ยวมีมากกว่าพวกที่ร่วมมือฆ่ามากมายนัก ภายใต้รางวัลสำหรับการทุ่มเทในการสู้เดี่ยวและฆ่าคู่ต่อสู้ได้ เย่ว์หยางจะต้องฆ่าเพชรฆาตโบราณให้ 15 ตนเพื่อให้ได้รับรางวัล 150 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนเกินพอให้เขาอยู่รอดได้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง เย่ว์หยางยังขาดเพชรฆาตโบราณอีก 14 ตน ไม่ว่าผลสุดท้ายของสงครามจะเป็นอย่างไร เย่ว์หยางก็สามารถออกไปได้อย่างปลอดภัย

เหตุผลที่เย่ว์หยางเลือกจะเปิดเผยพลังแท้จริงของเขาบางส่วนก็เพราะเขาต้องการจัดการจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณและต้องการรู้ว่าเขาจะได้คะแนนมากเท่าใดเมื่อเขาฆ่ามัน

ระบบคะแนนนี้ต้องไม่ให้หวงฉวน เฝินเทียนและหวิ่นซิงรู้

ที่สำคัญยิ่งกว่า เย่ว์หยางต้องได้จ่าฝูงเพชรฆาตโบราณมายกระดับตัวเขาเองโดยเร็ว! เขาคาดไว้ว่าราชาเฮยอวี้จะไม่อดกลั้นตนเองนานนัก และคงลงมือต่อเขาในไม่ช้า ดังนั้นเย่ว์หยางต้องยกระดับความก้าวหน้าก่อน

อย่างน้อยที่สุด เขาต้องยกระดับอสูรของเขา เพื่อที่ว่าเขาจะได้มีพลังเพียงพอปกป้องตัวเขาเอง

“คุณชายสามตระกูลเย่ว์ เราจะปล่อยจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณให้เจ้าจัดการ ไม่ว่าเจ้าจะสามารถฆ่ามันได้หรือไม่ เราสามารถมาอยู่เคียงข้างเจ้าได้ตราบเท่าที่เจ้าจำกัดมันได้” เฝินเทียนและหวิ่นซิงพูดอย่างไม่เกรงใจ พวกเขารู้ว่ายากจะกำจัดจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณได้ ดังนั้นพวกเขาจึงดีใจเมื่อเย่ว์หยางยินดีรับจัดการ แม้แต่หวงฉวนก็รีบไปช่วยล้อมสังหารเพชรฆาตโบราณตนอื่น กลุ่มทั้งหมดได้รวมตัวกันใช้กลยุทธ์ฝูงหมาป่า พวกเขาหาเป้าหมายที่อ่อนแอก่อน แล้วค่อยคิดหาวิธีฆ่าจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณ

“…..” สีหน้าของราชาเฮยอวี้ไม่สามารถอ่านได้ เขาต้องการโจมตีเย่ว์หยางมาก แต่กังวลว่าเขาจะล้มเหลวเมื่อทำเช่นนั้น และอาจเป็นเหตุให้หวงฉวนและพวกรุมล้อมเล่นงานเขาก็เป็นได้

ถ้าขืนก่อความยุ่งยากในกลุ่มตอนนี้ เขาจะกลายเป็นศัตรูของทุกคน

เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเกลียด ขณะที่เขาตัดสินใจให้เย่ว์หยางมีชีวิตต่อไปได้อีกชั่วระยะหนึ่งก่อน แล้วค่อยหาโอกาสฆ่าเย่ว์หยาง

แน่นอนว่า สิ่งที่ทำให้ราชาเฮยอวี้กังวลที่สุดก็คือเขากลัวว่าหวงฉวน, เฝินเทียนและหวิ่นซิงจะฆ่าเพชรฆาตโบราณหมดและชิงคะแนนไปทั้งหมด จากนั้นก็จะทำให้เขาถูกกฎรหัสโบราณสังหารเนื่องจากคะแนนไม่พอ

หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ราชาเฮยอวี้ไล่ตามหวงฉวน, เฟิ่นเทียนและหวิ่นซิงไป

ผู้นำกลุ่มทั้งสามกำลังร่วมมือกันโจมตีใส่เพชรฆาตโบราณพร้อมกับมนุษย์สมิงสามตา มนุษย์แสงและคนอื่นๆ เพชรฆาตโบราณที่ถูกคนทั้งห้ารุมโจมตีเป็นเพียงตนเดียวที่ปรากฏว่าได้รับบาดเจ็บหนัก อาการบาดเจ็บอีกเจ็ดตนไม่หนักหนานัก แน่นอนว่าราชาเฮยอวี้ไม่ยอมแพ้ ขณะที่เขารีบเข้าร่วมทีมโจมตีใส่เพชรฆาตโบราณ พร้อมกับมองหาโอกาสฆ่าเย่ว์หยางไปด้วย….ไม่มีผู้ใดรู้ว่าคะแนนนั้นจะมอบให้ทุกคนที่เข้าร่วมโจมตีหรือว่าให้คนที่ลงมือทำร้ายได้หนักหน่วงกว่า แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือกำจัดเพชรฆาตโบราณนี้เสียก่อน

หกคนที่มีพลังมากที่สุดหันมาโจมตี

เพชรฆาตโบราณผู้โชคร้ายไม่สามารถจะทนได้ไม่ว่าผิวของมันจะทนได้แค่ไหนก็ตาม เนื่องจากมันได้รับบาดเจ็บหลายที่มากขึ้น แผลขนาดใหญ่ก็เกิดขึ้นบนผิวหนังที่เหมือนเหล็กกล้า ขณะที่เลือดพุ่งกระฉูดออกมา

แต่มันไม่ตายจากอาการบาดเจ็บของมัน ขณะที่มันยังคงโจมตีอย่างบ้าคลั่ง

อีกสิบนาทีต่อมา เพชรฆาตโบราณก็ล้มลงในที่สุด

หวงฉวน, เฝินเทียน หวิ่นซิงและราชาเฮยอวี้หยุดโจมตีพร้อมกัน มนุษย์สมิงสามตาตกใจขณะที่เขารีบโดดออกจากสนามต่อสู้ป้องกันไม่ให้ตนเองตกเป็นเป้าหมายโจมตี ส่วนมนุษย์แสง มองดูหวงฉวนที่อยู่ในค่ายเดียวกันกับเขาและมักนับถือเขาในฐานะเป็นผู้นำ

“เนื่องจากเราไม่มั่นใจว่าจะจัดสรรคะแนนได้อย่างไร ข้าขอแนะนำว่าเราควรร่วมมือกันโจมตีเพชรฆาตโบราณ” มนุษย์ไฟเฝินเทียนเสนอวิธีแก้ปัญหาที่สมเหตุผลมากที่สุด

“ข้าเห็นด้วย” มนุษย์เหล็กไหลหวิ่นซิงมองดูหวงฉวน

“…..” ราชาเฮยอวี้ลอบไม่สบายใจ เขาที่มักจะคุ้นเคยกับการเป็นผู้นำอยู่เสมอกลับถูกคนส่วนมากละเลย เหตุผลก็คือเขาไม่ใช่นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด คนแข็งแกร่งที่สุดก็คือหวงฉวนบุรุษผมเงินผู้หลับตาอยู่ตลอด

“ก็ได้, ตกลงตามนั้น” หวงฉวนพึมพำสักครู่ก่อนที่จะยอมรับข้อเสนอ

อีกห้าคนลอบยินดีเมื่อพวกเขาได้ยินเช่นนั้น

ไม่ว่ายังไงก็ตาม ในที่สุดพวกเขาก็จะได้รับคะแนนสำหรับการฆ่าเพชรฆาตโบราณ ด้วยความเร็วระดับนี้ พวกเขาจะสามารถฆ่าได้อย่างน้อยสี่ตนหรือมากกว่าก่อนที่เพชรฆาตโบราณชุดที่สองจะมาถึง เป็นเพราะเพชรฆาตโบราณหลายตนเริ่มได้รับบาดเจ็บหลังจากการต่อสู้ผ่านไปยี่สิบนาที ตราบใดที่ทุกคนทุ่มเทกำลัง ก็มีโอกาสที่พวกเขาจะสามารถฆ่าเพชรฆาตโบราณได้หมดภายในสี่สิบนาที…

เมื่อคนทั้งหกเตรียมตัวจะใช้พลังโจมตีที่ใหญ่ที่สุดเพื่อฆ่าเพชรฆาตโบราณที่ล้มอยู่กับพื้นตนนี้เสียงครางก็ดังขึ้น

มีพลังกดดันทั่วทั้งสมรภูมิรบทั้งหมด

นี่คือพลังของผนึกเทพจักรพรรดิอวี้! หวงฉวน เฝินเทียนและหวิ่นซิงสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เป็นไปได้ไหมที่เย่ว์หยางต้องการสังหารจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณ? พวกเขาขยายสำนึกค้นหาทันที พวกเขารู้สึกได้ว่ามีการปรากฏตัวของเย่ว์หยางที่ทางผ่านแก้วผลึกตรงด้านทางเดินทิศตะวันตก พลังของเขาพุ่งถึงขีดสูงสุดทันที ความห้าวหาญของเขาไม่มีผู้ใดเทียบได้ และทำให้คนอื่นสะท้าน

จากนั้นเสียงโห่ร้องดังขึ้นเป็นครั้งที่สองที่ทางผ่านแก้วผลึก ครั้งแรกก็คือเมื่อเย่ว์หยางฆ่าเพชรฆาตโบราณตนแรกได้

เป็นไปได้หรือว่าเขาฆ่าจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณได้?

เป็นไปได้อย่างไร?

เขาเป็นแค่เพียงนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสิบ แม้ว่าเขาจะมีเพลิงอมฤตและวงจักรล้างโลกก็ตาม แต่พลังของเขาไม่ควรจะมากกว่านักสูปราณก่อกำเนิดฟ้าระดับสอง ซึ่งมีคุณสมบัติพอจะฆ่าจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณที่มีพลังเทียบเท่านักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าระดับสอง ไม่ใช่หรือ? ต่อให้นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด หวงฉวน, เฝินเทียน หวิ่นซิงและราชาเฮยอวี้ก็ยังไม่สามารถทำได้ ทั้งที่พวกเขาร่วมมือกัน!

“เป็นไปไม่ได้! เขาคงต้องทำร้ายมันบาดเจ็บ แล้วฉวยโอกาสที่ได้เปรียบ” มนุษย์สมิงสามตาโบกมือ

ทุกคนรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่เย่ว์หยางจะฆ่าจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณได้ แค่ทำร้ายมันให้ได้รับบาดเจ็บได้ก็น่าประทับใจเหลือเฟือแล้ว

ใครกันจะคิดว่าภายในไม่กี่วินาที การปรากฏตัวและวิญญาณของจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณจะหายไปไม่เหลือร่องรอย

แม้ว่าพวกเขาจะไม่เห็นกับตาตนเอง แต่ความรู้สึกที่คมชัดของพวกเขาไม่มีทางโกหกพวกเขา

สีหน้าของหวงฉวน, เฝินเทียนและหวิ่นซิงซีดขาว ขณะที่ราชาเฮยอวี้กัดฟันกรอดๆ เขาไม่อาจทนได้อีกต่อไป เนื่องจากอกของเขากำลังจะระเบิด เขาไม่สบายใจอย่างมากเรื่องที่เย่ว์หยางฆ่าเพชรฆาตโบราณได้ครั้งแรก ยอดฝีมือทั้งหกคนทำร้ายเพชรฆาตโบราณอาการสาหัส แต่ยังไม่ทันได้ฆ่า เย่ว์หยางก็กำจัดเพชรฆาตโบราณได้อีกตนแล้ว… ถ้าขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาสามารถชิงคะแนนทั้งหมดไปได้ง่ายๆ แล้วจะเป็นยังไงต่อไป? ที่สำคัญที่สุด ถ้าเขายังคงพัฒนาเติบโตต่อเนื่องอย่างนี้ ราชาเฮยอวี้ยังจะมีที่ยืนในอนาคตอีกหรือ?

“อา..ฮู้ววววว!” มนุษย์เพลิงเฝินเทียนถึงกับบ้าคลั่งทันทีขณะที่เขาคว้าร่างเพชรฆาตโบราณที่ล้มอยู่และโจมตีใส่มัน

หวงฉวนและยอดฝีมือที่เหลือมีปฏิกิริยาตอบสนองไม่ช้า พวกเขาโจมตีใส่มันพร้อมกัน

มีเพียงมนุษย์สมิงสามตาที่ลงมือช้าขณะที่เพชรฆาตโบราณตายแล้วเมื่อเขาลงมือ

หลังจากฆ่าเพชรฆาตโบราณแล้ว หัวหน้ากลุ่มทั้งสามคือหวงฉวน, เฝินเทียนและหวิ่นซิงก็ได้คะแนนเท่าเทียมกันแต่ละคนได้ 0.4 คะแนน กล่าวอีกนัยหนึ่ง มีเพียง 2 คะแนนเท่านั้นสำหรับการฆ่าเพชรฆาตโบราณ ทำให้พวกเขาต้องแบ่งคะแนนกัน

คนที่น่าสมเพชที่สุดก็คือมนุษย์สมิงสามตาที่เสียพลังงานไปเปล่าๆ

แน่นอนว่าหวงฉวนและหัวหน้ากลุ่มที่เหลือคงไม่บอกกับเขาเช่นนั้น

“เพชรฆาตโบราณหนึ่งตนได้สองคะแนน ดังนั้นพวกเขาแต่ละคนจึงได้กันคนละ 0.3 คะแนน” เฝินเทียนกลัวว่าหวงฉวนจะเปิดเผยระบบคะแนนให้มนุษย์สมิงสามตา ดังนั้นเขาจึงลงมือก่อนที่หวงฉวนจะทำ

“เมื่อไหร่เราถึงจะรวมคะแนนได้ถึงร้อย..” มนุษย์สมิงสามตาตกใจ ระบบคะแนนแบบนี้สูบเลือดกันชัดๆ

ราชาเฮยอวี้ลอบหัวเราะในใจ

พวกเขาจะไม่มีทางได้คะแนนร้อยคะแนนจากการฆ่าเพชรฆาตโบราณอย่างเดียว วิธีดีที่สุดก็คือฆ่าคน

เขาจะตัดสินใจลงมือต่อเมื่อเวลาสุกงอมและจะฆ่านักสู้ที่เข้าร่วมซึ่งมีระดับต่ำกว่าปราณก่อกำเนิดฟ้าให้หมด เมื่อเขารวบรวมคะแนนได้ถึงร้อยแล้ว เย่ว์หยาง, หวงฉวนและคนที่เหลือก็จะต้องดิ้นรนต่อสู้และตายอย่างน่าเวทนา ด้วยทักษะแฝงเร้นของเขา ราชาเฮยอวี้มั่นใจว่าเขาสามารถทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ แน่นอนว่าเขาต้องการชิงคะแนนให้ได้มากที่สุด เพราะคะแนนทุกคนสามารถชิงได้ ถึงตอนนี้คนอื่นก็จะได้คะแนนน้อย

ราชาเฮยอวี้มองดูหวงฉวน คนเพียงคนเดียวที่เขาเกรงกลัวก็คือบุรุษผมเงินผู้หลับตาคนนี้

แต่คนผู้นี้จดจ่ออยู่กับเย่ว์หยาง และราชาเฮยอวี้จะใช้ประโยชน์ตรงนี้กำหนดวางแผนต่อพวกเขา

มนุษย์สมิงสามตาและมนุษย์แสงวิ่งหาเป้าหมายต่อไป

หวงฉวน เฝินเทียนและหวิ่นซิงวิ่งไปที่ทางเดินแก้ว เนื่องจากพวกเขาต้องการเห็นด้วยตาตนเองว่าเย่ว์หยางฆ่าจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณได้อย่างไร

พวกเขามองเห็นสระน้ำมหึมาใหญ่เกือบเท่าทะเลสาบแต่ไกล นางเงือกวายุและอสูรบางตนยังคงเรียกพายุขณะที่พวกทหารโบราณกำลังผ่าศพของจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณที่ลอยอยู่ในทะเลสาบอย่างกระหาย เย่ว์หยางไม่อยู่แถวนั้น แม้แต่ผู้เฒ่าหนานกง, ราชันย์ปีศาจใต้และจักรพรรดิใต้พิภพไม่ทราบว่าไปอยู่ไหน มีแต่เพียงจักรพรรดิฟ้าที่ยังอยู่และมีท่าทีไม่ถูกต้อง

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ราชาเฮยอวี้เหาะลงมาอยู่ต่อหน้าจักรพรรดิฟ้า

“เจ้าหมอนั่น มีพลังซ่อนเร้น น่ากลัวเหลือเกิน…” จักรพรรดิฟ้ามองดูหวงฉวนและคนที่เหลือ เขาต้องการพูดแต่กล้ำกลืนไว้ เมื่อระลึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เขาถึงสั่นอย่างมิอาจระงับได้

“ยักษ์ทองตนหนึ่งปรากฏอยู่บนร่างของคุณชายสาม มันสูงราวสองสามร้อยเมตร และฆ่าจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณตายทันที” จ้านหู่รายงานปากคอสั่น

“นั่นอาจเป็นทักษะที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียว และคงอยู่ได้ระยะเวลาสั้นๆ แต่ความเสียหายที่มันสร้างขึ้นช่างน่าสยดสยอง” เป่ยเหลียวหยาก็หน้าซีดเช่นกัน

“ยักษ์ทองตัดศีรษะจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณใช่หรือเปล่า?” หวงฉวนถามขึ้นทันที

“ข้าไม่แน่ใจเพราะเราถูกยักษ์ทองกดดันอยู่แทบเท้าของมัน เราจมอยู่ในน้ำ แต่เท้าของมันครอบคลุมท้องฟ้า เราไม่อาจเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นด้านบนได้” จ้านหู่กลืนน้ำลายขณะที่เขาพยายามอย่างหนักเพื่อระงับความวิตกกังวล “เมื่อเราเงยหน้าขึ้นมาได้ จ่าฝูงเพชรฆาตโบราณก็ถูกฆ่าเรียบและศีรษะของมันร่วงลงมา มันเกิดขึ้นเร็วมาก ใช้เวลาไม่กี่วินาที”

“การพิชิตของเขาไม่ได้เกิดจากผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ แต่เป็นยักษ์ทอง เป็นอสูรของคุณชายสามหรือว่าคุณชายสามเป็นผู้ที่ได้รับเลือกจากเทพจริงๆ?” คำพูดของเฝินเทียนทำให้หวงฉวนและหวิ่นซิงรู้สึกถูกคุกคาม ผู้ที่สามารถเปิดสมรภูมิโบราณได้ต้องเป็นผู้ได้รับเลือกแน่นอน เย่ว์หยางไม่ใช่ผู้นำทีมตัวจริง ดังนั้นหัวหน้าทีมตัวจริงน่าจะซุ่มซ่อนอยู่รอบๆ ตัวเขา เป็นไปได้สูงที่คนผู้นั้นจะร่วมมือกับเย่ว์หยาง

“ถ้าอย่างนั้นก็มีความเป็นไปได้” ราชาเฮยอวี้รู้สึกหนาวจับใจ มิน่าเล่าเย่ว์หยางถึงได้ยโสลำพองมาตลอด และไม่ให้ความสนใจเขา เขามีผู้หนุนหลังที่แข็งแกร่ง

จะเป็นจื้อจุนหรือเปล่า?

ราชาเฮยอวี้ไม่แน่ใจ เนื่องจากในหอทงเทียนมีคนไม่มากนักที่สามารถฆ่าจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณได้ในกระบวนท่าเดียว

นอกจื้อจุนผู้ลึกลับและแข็งแกร่งที่สุดแล้ว ใครอื่นจะทำได้?

แต่ถ้าจื้อจุนอยู่ที่นี่ นางจะซ่อนตัวอยู่หรือ? ถ้านางทรงพลังขนาดนั้น ทำไมนางถึงปล่อยให้หวงฉวนควบคุมสมรภูมิโดยตรงเล่า? ทำไมนางไม่ก้าวออกมานำ?

ไม่มีใครสามารถเข้าใจเหตุผลได้… พวกเขาไม่เหลือเวลาจะให้คิดอีกต่อไป

เวลาผ่านไปเร็ว เหลืออีกครึ่งชั่วโมงเพชรฆาตโบราณชุดที่สองจะถูกส่งเข้ามา แต่พวกเขาเพิ่งฆ่าคู่ต่อสู้ไปได้แค่สาม

เมื่อพูดถึงเรื่องคะแนนอีกครั้ง ถ้าพวกเขาไม่ได้คะแนนทั้งหมด พวกเขาจะถูกเย่ว์หยางชิงคะแนนไป ด้วยเหตุนี้ทุกคนจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ หวงฉวนและพวกที่เหลือรีบจากไปทันทีขณะที่พวกเขามองหาเป้าหมายต่อไป พวกเขาแค่ยืนยันได้ว่า ถ้ามีเพียงสองคะแนนเป็นรางวัลสำหรับการฆ่าจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณ เย่ว์หยางก็ต้องมีคะแนนอย่างน้อยสี่คะแนนซึ่งมากกว่าที่พวกเขามีถึงสิบเท่า

แน่นอนว่า แม้แต่หัวหน้ากลุ่มทั้งสาม หวงฉวน เฝินเทียนและหวิ่นซิงก็ไม่รู้ว่ามีคะแนนอยู่ห้าคะแนนเป็นรางวัลสำหรับคนลุยเดี่ยวฆ่าเพชรฆาตโบราณได้ ขณะที่ฆ่าจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณจะได้ถึงสิบคะแนนเลยทีเดียว

เย่ว์หยางได้รับรางวัลอย่างนั้นถึงกับคลั่งไคล้

เขาตัดสินใจชิงคะแนนมาให้ได้ทั้งหมด

ที่สำคัญที่สุดก็คือ เขาต้องรักษาความลับที่มีค่านี้ไว้ทั้งหมด จะดีที่สุดถ้าเขาสามารถรักษาความลับนี้ไว้ได้จนถึงการต่อสู้สุดท้ายในสังเวียนมรณะ

ถือว่าเป็นการเห็นแก่ตัวมากที่ทำเช่นนี้ แต่เย่ว์หยางไม่ได้คิดว่าตนเองเป็นพ่อพระอยู่แล้ว ยิ่งกว่านั้นการแสดงความใจกว้างต่อราชาเฮยอวี้และพวกที่เหลือก็เหมือนกับการทำร้ายตัวเอง เย่ว์หยางไม่โง่ ดังนั้นเขาไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน

คนเลว, ใช่แล้ว เย่ว์หยางเกิดมาเป็นคนเลวอยู่แล้ว

“อย่านึกว่าข้าไม่ซ่อนพลังที่แท้จริงไว้นะ” เย่ว์หยางตัดสินใจจะบอกเรื่องนี้กับราชาเฮยอวี้ในเวลาที่จะฆ่าเขา

*************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด