ตอนที่แล้วตอนที่ 16-2 สิบปีของการเก็บเกี่ยว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 16-4 ออกทะเล

ตอนที่ 16-3 อิ่มตัว


แคว้นเรนโบว์ เมืองบลูเมเปิลนี่คือจุดที่อยู่ปลายสุดทางทิศอาคเนย์ของทวีปเรดบุด  จากเมืองบลูเมเปิลทุกคนบินต่ออีกชั่วขณะก่อนจะถึงเขตทะเลสตาร์มิสท์ที่กว้างใหญ่

ทุกคนมุ่งหน้ามาจากทวีปเรดบุดไปทางทิศตะวันออกจะมุ่งสู่ทวีปเจดโฟลทหรือทวีปบลัดริจทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จะต้องเดินทางผ่านจุดนี้  ขณะที่เมืองบลูเมเปิลอยู่ใกล้ที่สุด  สมาคมการค้าใหญ่บางแห่งจะมีสาขาอยู่ที่นี่ส่งผลให้เมืองบลูเมเปิลคึกคักมากกว่าในเมืองอื่นในทวีปเรดบุด!

“ประตูเมืองบลูเมเปิลมีทหารกองทัพเรดบุดยืนประจำการแปลกจริง” โอลิเวอร์หัวเราะและชื่นชมอย่างใจเย็น ขณะนี้เองกลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่คนเข้ามาในเมืองบลูเมเปิลแล้วและกำลังเดินไปตามถนนในเมืองบลูเมเปิล

“เมืองบลูเมเปิลเป็นเมืองที่พัฒนาไปมากและคึกคัก  การค้าขายทำให้สมาคมการค้าแยกขยายออกมาจากที่นี่  นอกจากนี้ยังมียอดฝีมือหลายคนผู้ต้องการเดินทางไปทวีปอื่นจะต้องเตรียมตัวที่นี่เช่นกันเป็นเรื่องสมเหตุผลแล้ว เพราะทหารเรดบุดจะต้องประจำการอยู่ในที่สำคัญอย่างนั้น”  ลินลี่ย์กล่าวขณะเดียวกันก็กวาดสายตามองดูรอบๆ

ลินลี่ย์อยู่ในอารมณ์ที่ดี เพราะเขาเพลิดเพลินกับภาพเมืองบลูเมเปิลซึ่งแตกต่างจากเมืองรอยัลวิง

ลินลี่ย์จะไม่อารมณ์ดีได้ยังไง?  ที่สำคัญพวกเขาได้ดำเนินการขั้นตอนใหญ่สำคัญกับการเดินทางเข้าสู่แคว้นอินดิโก

“ลินลี่ย์” เดเลียส่งสำนึกเทพกระตุ้นเตือน

“หือ?” ลินลี่ย์หันไปมองอย่างสงสัย เดเลียส่งสายตาไปทางบีบี และตอนนี้เองลินลี่ย์สังเกตว่าบีบีดูเหมือนค่อนข้างมีอารมณ์แปลก

เมื่อมาถึงเมืองบลูเมเปิล บีบีที่ปกติจะร่าเริงมีชีวิตชีวาไม่พูดอะไรสักคำ

เขาสวมหมวกฟางปิดบังใบหน้าครึ่งหนึ่ง  เขาไม่สนใจสิ่งก่อสร้างรอบด้านหรือผู้คน  บีบีแค่เดินเงียบๆ ยากจะบอกได้จากการมองดูสีหน้าว่าเขากำลังคิดอะไร  แต่เมื่อเห็นเช่นนี้ลินลี่ย์เริ่มเข้าใจ

เป็นไปได้ว่ามีแต่เรื่องของนีซทำให้บีบีเป็นเช่นนี้

“บีบี” ลินลี่ย์เรียก

บีบีสะดุ้งจากภวังค์ทันทีและจากนั้นหันมามองลินลี่ย์อย่างมึนงง “พี่ใหญ่, เรียกข้าทำไม?”

“เจ้ากำลังคิดถึงนีซใช่ไหม?”  ลินลี่ย์ก้มหน้ามองบีบี

“ใช่แล้ว” บีบีพยักหน้าเล็กน้อยมีอาการเศร้าอย่างชัดเจน “นินนี่ไปทวีปเจดโฟลท นางคงออกไปจากเมืองบลูเมเปิลเช่นกัน” เมื่อมาถึงเมืองบลูเมเปิล บีบีอดคิดถึงนีซไม่ได้ จากนั้นบีบีถอนหายใจเบาๆ“อย่างไรก็ตาม นางคงมาเมืองบลูเมเปิลเมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว”

บีบีเงยหน้าและหัวเราะอย่างเบื่อหน่าย  “พี่ใหญ่, ข้าไม่เป็นไป  นินนี่ไปทวีปเจดโฟลทหลายร้อยปีมาแล้ว  เป็นเรื่องยากที่จะหานาง  ในอนาคต เมื่อข้ามีโอกาส .... เอ่อ.. ไปกันเถอะไปปราสาทอสูรกัน” ขณะที่กล่าวบีบีเดินนำทาง

ลินลี่ย์กับเดเลียได้แต่มองหน้ากัน จากนั้นเดินตามเขา

โอลิเวอร์ลังเลเล็กน้อย ขณะคิดบางอย่างหลังจากลินลี่ย์และอีกสองคนเดินห่างออกไป “โอลิเวอร์, เจ้ากำลังคิดอะไร?” โอลิเวอร์ในตอนนี้ค่อยรู้สึกตัวและรีบตามเขาไป

“โอลิเวอร์” ลินลี่ย์กล่าว

“หือ?” โอลิเวอร์มองลินลี่ย์

“เจ้าตัดสินใจร่วมเดินทางกับเราไปทวีปบลัดริจหรือเปล่า?”  ลินลี่ย์หัวเราะ  ขณะที่เดินทางจากเมืองบลูเมเปิล  เขาคุยเรื่องนี้กับโอลิเวอร์  “ทะเลสตาร์มิสท์กว้างใหญ่ไพศาลและยากจะพูดได้ว่ามีอันตรายแบบไหนที่เราจะต้องเผชิญระหว่างเดินทาง”

โอลิเวอร์หัวเราะอย่างใจเย็น  “ลินลี่ย์! ในแดนนรกข้าไม่มีเป้าหมายหรือที่หมายโดยเฉพาะเจาะจง ข้าร่วมเดินทางกับเจ้าสักระยะหนึ่งได้ไม่มีปัญหา  นอกจากนี้แม้ว่าทะเลสตาร์มิสท์จะมีอันตรายอยู่ภายใน แต่เรามีเจ้า เป็นยอดฝีมือผู้ทรงพลังไม่ใช่หรือ?”

ยอดฝีมือผู้ทรงพลัง?

ขณะที่ลินลี่ย์และโอลิเวอร์คุยกันบนถนนเนื่องจากผู้คนในถนนเมืองบลูเมเปิลหนาแน่น คนที่ได้ยินพวกเขามีอยู่มากคนเหล่านั้นอดมองไปที่ลินลี่ย์ไม่ได้ บางคนถ้าไม่แยแสหรือไม่ก็ขำขันเห็นได้ชัดว่าไม่มีใครในพวกเขามองลินลี่ย์ว่าทรงพลัง

เพราะลินลี่ย์เป็นแค่เทพแท้!

ในแดนนรกเทพแท้จะถูกมองว่าเป็นพลเมืองธรรมดา  พวกเขาไม่ถูกมองว่าเป็นยอดฝีมือแม้แต่น้อย

ลินลี่ย์สังเกตแววตาคนที่อยู่ใกล้ๆ  เขาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้  “โอลิเวอร์! เจ้ากลายเป็นคนที่พูดเรื่องแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”  โอลิเวอร์น่าจะเป็นคนที่จริงจังและเย็นชาไม่ใช่คนที่ชอบหยอกล้อเล่นอย่างนี้ อย่างไรก็ตาม ลินลี่ย์เข้าใจว่าเหตุผลก็คือโอลิเวอร์ในตอนนี้มองเขาว่าเป็นสหายแท้จริง

ในดินแดนต่างถิ่นนั้น ผู้คนจากแผ่นดินเกิดเดียวกันจะสนิทและชอบพอกันมากกว่าธรรมดา

ในแดนนรก พวกเขาจึงสนิทกันมากกว่าเดิมแน่นอนเนื่องจากพวกเขาทั้งสองคนมาจากทวีปยูลาน

ปราสาทอสูร ปราสาทอสูรทุกแห่งจะเหมือนกันหมด

ตามมาตรฐาน กลุ่มของลินลี่ย์มาถึงที่ชั้นสองของปราสาทอสูร  มีแนวห้องอยู่ในชั้นที่สอง ซึ่งก็หมายความว่าเป็นที่ให้อสูรหนึ่งดาวดำเนินการรับภารกิจ  กลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่คนเดินเข้าไปในห้องที่ว่าง

ภายในห้องมีสตรีผมทองชุดม่วงอยู่คนเดียว

สตรีชุดม่วงเงยหน้าและมองคนทั้งสี่ จากนั้นพูดอย่างสงบ  “บอกมาเลย พวกเจ้าต้องการภารกิจแบบใด”

“เราสี่คนต้องการภารกิจสองดาวหวังว่าจะมีภารกิจที่เดินทางจากเมืองบลูเมเปิลไปเมืองนีซานของทวีปบลัดริจ”  ลินลี่ย์กล่าว

เมืองนีซานอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปบลัดริจ  จากทวีปเรดบุดจะต้องไปถึงเมืองนีซานก่อน

“ทวีปบลัดริจใช่ไหม? รอสักเดี๋ยว”  สตรีชุดม่วงมองดูลินลี่ย์ด้วยดวงตาสีฟ้าจากนั้นหลับตาสักครู่แล้วลืมตาในเวลาต่อมา เมื่อนางทำเช่นนั้นเสร็จ ม้วนข้อความปรากฏขึ้นในมือนาง นางกล่าวขณะพลิกเปิด“จากเมืองบลูเมเปิลไปถึงเมืองชายแดนนีซานของทวีปบลัดริจ ในเดือนหน้ามี 13,043ภารกิจ มี 1,836 งานเป็นภารกิจสองดาว เชิญเลือกตามสบาย”  ขณะที่นางกล่าว นางวางม้วนบันทึกภารกิจลงข้างหน้าลินลี่ย์

กลุ่มของลินลี่ย์ตะลึง

ตัวเลือกเกินกว่าหมื่น?

“ลินลี่ย์, เมื่อเรามาจากเมืองรอยัลวิง  มีเพียง 11 งานเอง  มี 3 งานเป็นภารกิจสองดาว”  เดเลียตกใจ

สตรีชุดม่วงพูดอย่างใจเย็น “ทุกๆ วันมีผู้คนมากมายเดินทางจากเมืองบลูเมเปิลไปทวีปบลัดริจ, ทวีปเจดโฟลทหรือไม่ก็ทะเลสตาร์มิสท์  อย่างไรก็ตามภารกิจเกือบทั้งหมดเป็นกองคาราวานของพ่อค้าเองนอกจากนี้ไม่ค่อยมีภารกิจที่เป็นปัญหามากนัก แม้ว่าจะมีภารกิจมากกว่าหมื่นงานก็ตาม

ลินลี่ย์พลิกไปที่ภารกิจสองดาว

“พี่ใหญ่, เราจะเลือกภารกิจไหนดี?”  บีบีมองดูเห็นรายการภารกิจมากมายเขาไม่รู้จะเลือกภารกิจไหน

ลินลี่ย์มองดูภารกิจอื่น “ครั้งนี้ข้าจะเลือกภารกิจง่ายๆ”

หลังจากได้รับประสบการณ์ลินลี่ย์ไม่กล้าเลือกภารกิจที่ต้องใช้อสูรจำนวนมาก  ยิ่งต้องการใช้นักสู้อสูรจำนวนมาก  ภารกิจจะมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น  อย่างไรก็ตาม ถ้ามีอสูรน้อยเกินไป  การเดินทางจะมีปัญหายุ่งยากมากขึ้นและมีอันตรายเพิ่มขึ้น

ดังนั้นลินลี่ย์เลือกภารกิจสองดาวที่มีการจ้างกลุ่มอสูรสองดาว

“เอาภารกิจนี้” ลินลี่ย์ตัดสินใจ

“ภารกิจนี้หรือ?” บีบีชะโงกหน้ามองดู จากนั้นพึมพำ  “เหมือนกับไม่ต้องจ่ายเงินเลยตลอดเส้นทางในทะเลสตาร์มิสท์แค่ห้าหมื่นศิลาดำเอง...” ภารกิจคุ้มครองครั้งก่อนมีผลตอบแทนถึงสองแสนศิลาดำ แต่แน่นอนว่า...

ในภารกิจนั้น ผู้ว่าจ้างก็คือบุรุษเขาขาวและบุรุษเขาดำซึ่งตายทั้งคู่กลุ่มของลินลี่ย์ทำภารกิจล้มเหลว ดังนั้นจึงไม่ได้รับค่าจ้างอะไร

“ถ้าเราไม่ได้รับค่าจ้าง แล้วจะมีประโยชน์อะไร?” ลินลี่ย์หัวเราะ

เดเลียหัวเราะเช่นกัน “บีบี!  เจ้าสนใจเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ?”

บีบีเก็บอะเมทิสต์มาสิบปีเต็ม โชคลาภที่เขาครอบครองแทบจะเทียบได้กับสมบัติทั้งหมดของตระกูลบอยด์

“ข้าก็พูดไปอย่างนั้นแหละ” บีบีบ่น

ความจริงลินลี่ย์ครุ่นคิดว่ายิ่งผลตอบแทนสูงมีแนวโน้มว่าจะมีอันตรายแฝงอยู่ในภารกิจที่เขารับทำนี้   เหมือนอย่างภารกิจคุ้มกันภัยครั้งล่าสุดจะถือว่าเป็นภารกิจสองดาวได้ยังไง? คนผู้ได้รับการว่าจ้างให้ทำภารกิจเหล่านั้นล้วนแต่เอาชีวิตไปทิ้งกันหมด นอกจากกลุ่มของลินลี่ย์ที่โชคดีพอไม่ถูกฟูโซ่ฆ่า อสูรรับจ้างอื่นๆ ล้วนตายกันหมด  มีแต่เพียงแลร์มองต์ที่สามารถหลบหนีได้  ต้องขอบคุณพลังของเขา

“ขอตราอสูรให้ข้าสักเดี๋ยว”  สตรีชุดม่วงกล่าว

หลังเสร็จงานเอกสารกลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่คนออกจากปราสาทอสูร  ขณะเดียวกันตอนนี้พวกเขารู้ว่าว่าจะออกเดินทางเมื่อใด อีกสามวันข้างหน้า!  หนึ่งในเหตุผลที่ลินลี่ย์เลือกเลือกภารกิจนี้  ว่ากันตรงๆ ก็คือเพราะภารกิจจะเริ่มในอีกสามวัน”

กลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่คนเพลิดเพลินกับอาหาร จากนั้นจ่ายเงินซื้อของเลิศรสและเหล้าดีเก็บสำรองไว้จากนั้นมุ่งหน้ากลับโรงแรม

สามวันต่อมา พวกเขาใช้เวลาอยู่ในลานว่างในโรงแรม

“หลังจากฝึกมาหกร้อยปี ข้าค่อนข้างก้าวหน้าในกฎธาตุดินและลมมีแต่ความก้าวหน้าของร่างแยกธาตุไฟของข้าช้าเหลือเกิน” ลินลี่ย์นั่งอยู่ในลานว่างไตร่ตรองถึงการฝึกฝนของตน

ช่วงระหว่างหกร้อยปี เขาใช้เวลาในภูเขาอะเมทิสต์  ร่างแยกธาตุดินได้รับความสำเร็จมากที่สุด ขณะที่ร่างแยกธาตุลมในที่สุดก็มีการหลอมรวมเคล็ดคลื่นเสียงและเคล็ดดนตรีได้ขณะที่การบรรลุระดับต่อไปคือแก่นธาตุลมจะทำได้ง่าย อย่างไรก็ตามกฎธาตุลมมีเคล็ดความรู้ถึงเก้าเคล็ดยิ่งเขาเดินหน้าฝึกต่อไปก็จะยิ่งช้ามากขึ้น

สำหรับร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ธาตุไฟ  ในช่วงหกร้อยปีเขาแค่เพิ่งทำความเข้าใจพื้นฐานของเคล็ด กายเพลิงได้และยังไม่ถึงระดับเทพแท้

ลินลี่ย์หลับตา

ภายในทะเลจิตสำนึกของเขา มีร่างสามร่างนั่งเข้าสมาธิอยู่เหนือทะเลจิตสำนึกพวกเขาคือร่างแยกธาตุดินสีเหลือง  ร่างแยกธาตุลมสีเขียวและร่างแยกธาตุไฟสีแดง ร่างลินลี่ย์ทั้งสามนั่งล้อมเป็นสามเหลี่ยมและเหนือวิญญาณนั้นเป็นวิญญาณรูปดาบสีรุ้ง

ภายใต้วิญญาณรูปดาบมีศิลาดำชิ้นหนึ่ง

ขณะเดียวกันสายหมอกทองถูกกลืนเข้าไปในวิญญาณรูปดาบเพียงแต่ความเร็วในการดูดกลืนนั้นช้าลงมาก

“หือ?” ลินลี่ย์ขมวดคิ้วลืมตา  “เป็นเวลาเกินกว่าหกร้อยปีแล้วข้าได้บรรจุพลังอะเมทิสต์เข้าไว้ในแหวนมังกรขนดและกลั่น จากนั้นดูดซับไว้  หลังจากหกศตวรรษดูดซับพลังมาตลอดไม่มีหยุด  ระดับความเร็วในการดูดซับในตอนนี้มีแต่ช้าลงๆ”

สถานการณ์เช่นนี้เริ่มขึ้นในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา  ในอดีตความเร็วในการดูดซับไม่เคยลดลงมาก่อน

“หรือว่าปริมาณแก่นวิญญาณที่จะรับไว้ได้มีขีดจำกัดเพียงเท่านี้?”  ลินลี่ย์ประหลาดใจ

และจากนั้น ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อยสมแล้วที่มีขีดจำกัด มิฉะนั้นถ้าวิญญาณสามารถเสริมพลังได้ต่อเนื่องไม่มีหยุด  สุดท้ายผลจะลงเอยยังไง?

ลินลี่ย์ไม่แน่ใจ

แม้ว่าแก่นวิญญาณจะเสริมพลังเข้าไปได้และดูเหมือนจะมีคุณภาพที่ก้าวหน้า ในความเป็นจริงนี่เป็นรูปแบบของคุณภาพที่มาจากปริมาณ  คล้ายกับขวดอย่างหนึ่ง  ถ้าท่านรู้สึกว่ามีแก๊สมากเกินไปแก๊สอาจจะบีบอัดจนกระทั่งกลายเป็นของเหลวไปได้

นี่คือตัวอย่างของคุณภาพที่เปลี่ยนแปลงมาจากปริมาณ

แต่ก็ยังมีขีดจำกัด เพราะถ้าท่านยังคงเติมแก๊สในขวด แม้หลังจากที่แก๊สกลายเป็นของเหลว  ถ้าของเหลวถึงขีดจำกัดขวดก็อาจจะระเบิด...และวิญญาณจะแตกสลาย

นี่คือสถานการณ์ที่เกิดกับลินลี่ย์ วิญญาณของเขาถึงขีดจำกัดและไม่สามารถดูดซับเพิ่มได้แต่อย่างใด

ถ้าเขาต้องการเสริมพลังวิญญาณต่อไปอีก  เขาต้องเพิ่มขนาดขวดและทำให้เสถียรขึ้นเหมือนกับเติมแก๊สในขวดและอัดแน่นจนเป็นของเหลว นี่คือรูปแบบการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพที่แท้จริงและมีวิธีเดียวที่ทำอย่างนี้ได้ คือบรรลุพลังเทพระดับต่อไป  จากเทียมเทพเป็นระดับเทพแท้และจากเทพแท้ไปเป็นเทพชั้นสูง!

แม้แต่โดยการหลอมรวมกับประกายเทพประกายเทพจะช่วยให้วิญญาณของผู้ฝึกเปลี่ยนแปลง

แต่แน่นอนการกลายเป็นเทพด้วยตัวเองจะส่งผลให้กฎธาตุธรรมชาติชะลอลงมาและเพิ่มคุณภาพให้กับจิตวิญญาณ

นี่คือสาเหตุที่เทพชั้นสูงหลายคนแม้ว่าจะไม่ได้ดูดซับแก่นวิญญาณก็ยังมีพลังมากกว่าเทพแท้!  ลินลี่ย์ดูดซับแก่นวิญญาณเอาไว้มาก แต่พลังวิญญาณของเขาถือได้ว่าเป็นแค่เทพแท้ระดับสูง เทียบกับเทพชั้นสูงเขายังขาดไปเล็กน้อย

สามวันต่อมาที่ประตูเมืองบลูเมเปิล  กลุ่มคนมากมายรวมตัวกัน มีคนมากมายรวมตัวกันอยู่ที่นี่เตรียมตัวเดินทาง และมีเจ้าหน้าที่จากปราสาทอสูรอยู่ที่นี่ค่อนข้างมากเช่นกัน  กลุ่มของลินลี่ย์แสดงตราอสูรให้ตรวจสอบและเจ้าหน้าที่ของปราสาทอสูรพากลุ่มลินลี่ย์ทั้งสี่คนไปที่อสูรโลหะ

“คนของพวกเจ้าอยู่ที่นี่” เจ้าหน้าที่ปราสาทอสูรพูดไม่กี่คำจากนั้นก็เดินจากไป

“พวกท่านทั้งสี่คน ข้าชื่อ..แอ็ชเป็นผู้ว่าจ้างท่าน”  บุรุษผมทองหยักศกหัวเราะ  “รออยู่ตรงนี้ก่อน ข้าจะไปพาคนทั้งหมดมาที่นี่  เมื่อเราพร้อมกันที่นี่ทั้งหมดแล้วเราจะออกทะเลกัน”  ทันใดนั้นแอ็ชจ้องมองเดเลียไม่กระพริบตา

เดเลียตกใจกับการจ้องดูของเขา

ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว ขณะที่บีบีพูดอย่างไม่พอใจ  “เฮ้,เด็กน้อย เจ้าจ้องอะไร? มองอย่างนั้นหมายความว่ายังไง?”

“เทพชั้นสูง ฮ่าฮ่า ท่านเป็นเทพชั้นสูงหรือนี่?”  แอ็ชยิ้ม “ฮ่าฮ่า คุ้มจริงๆ คุ้มจริงๆ คุ้มมาก!  ข้าไม่คาดเลยว่าในบรรดาอสูรสองดาวยี่สิบเอ็ดคนจะมีอสูรเทพชั้นสูงรวมอยู่ด้วย”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด