ตอนที่แล้วตอนที่ 15-29 เทือกเขาอะเมทิสต์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 15-32 แสงม่วงสู่สวรรค์

ตอนที่ 15-31 ดีหรือร้าย


กลุ่มของโอลิเวอร์มีทั้งหมด 12 คน พวกเขาเดินเข้าไปในร้านอาหารแล้วมุ่งหน้าไปยังมุมหนึ่งของร้านอาหารนั่งลงที่โต๊ะกลมสามตัว

“หัวหน้า ท่านพบอะเมทิสต์ อย่าขี้เหนียวนักเลย” ใครบางคนร้องขึ้น

"ตามกฎเดิม !" ผู้นำคนหนึ่งที่มีหนวดเคราดกหัวเราะเสียงดัง "แต่ละคนจะได้เหล้านอร์ชาคนละขวด ถ้าเจ้าต้องการดื่มมากกว่านี้ก็ออกเงินเอง" หัวหน้าเคราดกส่งเสียงเรียก “เฮ้, ขอเหล้านอร์ชา 12 ขวด!”

นอร์ชาเป็นยี่ห้อเหล้าที่ค่อนข้างดี ราคาขวดละสิบศิลาดำ สรุปแล้วสิบสองคนราคารวมร้อยยี่สิบเหรียญ

โดยทั่วไปแล้วใครก็ตามในกลุ่มพวกเขาพบอะเมทิสต์จะต้องเชิญคนอื่นๆ มาร่วมฉลองกับพวกเขา ที่สำคัญการทำเหมืองอะเมทิสต์เป็นเรื่องของโชค ถ้าโชคของท่านดี ท่านอาจพบอะเมทิสต์ทุกสองสามวัน ถ้าโชคของท่านไม่ดี บางทีอาจผ่านไปพันปีโดยไม่ได้อะไร

โอลิเวอร์จับขวดเหล้ากระดกขึ้นดื่ม แต่หน้าผากของเขาขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด

“เกือบสามสิบปีมานี้ ข้ายังไม่พบอะเมทิสต์แม้แต่ชิ้นเดียว!” โอลิเวอร์รู้สึกหงุดหงิดมาก เขาเงยหน้าและกระดกดื่มเหล้าอึกใหญ่

หลังจากมาถึงแดนนรก โชคของโอลิเวอร์ค่อนข้างดีในตอนแรกเริ่ม หลังจากถึงระดับเทพแท้แล้ว เขารวบรวมเงินจนได้หมื่นศิลาดำเพื่อเข้าสอบเป็นอสูร และโชคดีพอที่จะสอบผ่านได้ กลายเป็นอสูรหนึ่งดาว แต่ใครจะคิดกันว่าเขากลับล้มเหลวในภารกิจแรก?

นอกจากนี้ขณะที่หลบหนีอย่างบ้าคลั่งเขากลับพลัดพรากจากกลุ่มสหายที่ดีของเขา

โอลิเวอร์ตอนแรกเริ่มเดินทางร่วมกับบัณฑิตผู้หนึ่ง หลังจากทำงานอย่างหนักรวบรวมทรัพย์ได้อีกหมื่นศิลาดำเขาสอบเป็นอสูร เขาต้องการรับภารกิจ แต่เขากลับล้มเหลวในภารกิจครั้งแรก ดังนั้นในความเป็นจริง โอลิเวอร์ไม่มีเงินเลย หลังจากล้มเหลวแล้วสมบัติในตัวทั้งหมดของเขามีอยู่เพียงสองสามร้อยศิลาดำเท่านั้น

จะใช้เงินไม่กี่ร้อยศิลาดำกลับไปยังเมืองหรือ? เป็นไปไม่ได้!”

โชคดีที่เวลานั้นจุดรับภารกิจของเขาค่อนข้างอยู่ใกล้เทือกเขาอะเมทิสต์ และเขาได้ยินชื่อสถานที่นี้มาก่อน เนื่องจากเขาไม่สามารถจ่ายค่าธรรมเนียมห้าพันศิลาดำได้ เขาจึงต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเป็นอะเมทิสต์สามชิ้นก่อนจึงจะแยกจากไปได้

“อย่าว่าแต่อะเมทิสต์สามชิ้นเลย ข้าไม่พบเลยแม้แต่ชิ้นเดียว นี่เกือบจะสามสิบปีแล้ว” ยิ่งโอลิเวอร์คิดเรื่องนี้มากขึ้น ก็ยิ่งรู้สึกทุกข์ใจ เขาเงยหน้ากระดกเหล้าอึกใหญ่รวดเดียวครึ่งขวด “ไอ้ที่บ้าๆ นี่.. ไม่มีทางจะรับภารกิจที่นี่ได้เลย”

ถ้าเขาต้องการกลับไปโดยปลอดภัย เขาจะต้องมีเงินเพียงพอ

เพื่อจะรวบรวมเงินให้พอสำหรับโอลิเวอร์ที่เป็นเพียงเทพแท้ ทางเลือกมีอย่างเดียวคือเก็บเกี่ยวอะเมทิสต์

“โอลิเวอร์, เฮ้, เจ้ายังหาอะเมทิสต์ไม่ได้เลยแม้แต่ชิ้นเดียวนะ เจ้าก็รู้” ใครบางคนที่อยู่ใกล้ๆ พูด “อย่าเพิ่งท้อ ครั้งล่าสุดเราเพิ่งไปเจอกับกลุ่มคนไม่มีโชคที่อยู่มาหมื่นปีโดยหาอะเมทิสต์ไม่พบเลยไม่ใช่หรือ?”

โอลิเวอร์ฝืนยิ้ม

เขาต้องอยู่อย่างมีกติกาที่ดีกับคนเหล่านี้

การเก็บเกี่ยวอะเมทิสต์ในภูเขาอะเมทิสต์ไม่จำเป็นว่าจะต้องปลอดภัย ที่สำคัญนี่ไม่ใช่เมือง

ในเทือกเขาอะเมทิสต์ ถ้าคนมีโชคที่ดีพอ เขาอาจได้พบกองอะเมทิสต์ในคราวเดียว แต่หลายคนเมื่อเห็นโชคลาภนี้อาจจะฆ่าคนที่ได้ไว้และปล้นอะเมทิสต์ไปทั้งหมด นี่เป็นเรื่องธรรมดามาก ดังนั้นเทพแท้หลายคนจึงรวมตัวเป็นกลุ่มเล็ก

กลุ่มของโอลิเวอร์มีกันสิบสองคน อย่างน้อยที่สุดพวกเขาจะได้ช่วยปกป้องกันและกัน

ห่างจากกลุ่มของโอลิเวอร์หลายหมื่นกิโลเมตร กลุ่มของลินลี่ย์สี่คนเที่ยวไปตามชายขอบทะเลหมอก กลุ่มของลินลี่ย์ไม่ได้มาที่นี่เพื่อเก็บเกี่ยวอะเมทิสต์ พวกเขาแค่มาเที่ยวชมทัศนียภาพ

“เจนกิน! เจ้าไม่ต้องติดตามเราต่อไปแล้ว เจ้าสามารถเก็บเกี่ยวอะเมทิสต์ของเจ้าได้เลย เราแค่จะเดินสำรวจรอบๆ ภูเขาอะเมทิสต์สักพักหนึ่ง อีกวันหรือสองวันก็จะจากไปแล้ว” ลินลี่ย์หันไปมองเจนกินและพูดตามปกติ

เจนกินรู้สึกขอบคุณกลุ่มลินลี่ย์อยู่ในใจ

“ท่านลินลี่ย์! ท่านทั้งสามคนให้ความกรุณากับข้ามากถึงเพียงนี้ ความจริงข้าไม่รู้จะตอบแทนพวกท่านได้ยังไง นอกจากนี้หลังจากที่พวกท่านจากไปแล้ว ใครจะรู้กันว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าใดกว่าเราจะพบกันอีก? ยิ่งกว่านั้นการทำเหมืองอะเมทิสต์เป็นเรื่องของโชคล้วนๆ บางทีอยู่ใกล้ๆ ท่านลินลี่ย์ข้าอาจจะพบเจออะเมทิสต์ก็ได้” เจนกินล้อเล่น

“ไม่เลว เด็กน้อย, เจ้าเป็นสหายที่ดีจริงๆ” บีบีตบไหล่เจนกิน ทำท่าเหมือนเป็นผู้มากประสบการณ์

ลินลี่ย์หัวเราะและพยักหน้า “เอาอย่างนั้นก็ได้ เราจะร่วมทำเหมืองอะเมทิสต์กับเจ้า ข้าอยากจะดูว่าช่วงเวลาวันสองวันนี้ เราจะโชคดีพอได้เจอสักชิ้นหรือไม่”

หมอกขาวแผ่ออกไปไม่สิ้นสุด และลินลี่ย์มองดูหมอกขาวที่กว้างไกล “ไปกันเถอะ เข้าไปข้างในหมอกขาวกัน จำไว้ทุกคน ไม่ว่ายังไงพวกเจ้าต้องแน่ใจว่ามองเห็นด้านนอกได้” ขณะที่กล่าวลินลี่ย์ เดเลีย บีบีและเจนกินเข้าไปในหมอกขาวทุกคน

ลินลี่ย์จ้องมองเข้าไปในหมอกขาวอย่างประหลาดใจ “หมอกขาวนี้เย็นและสดชื่นจริงๆ” อุณหภูมิในหมอกต่ำมาก เมื่อมันกระทบผิวจะให้ความรู้สึกเหมือนก้อนน้ำแข็ง

แต่กลุ่มของลินลี่ย์ไม่คิดอะไร

“พี่ใหญ่! เร็วเข้า” บีบีเดินถอยเข้าไปในหมอก ตาของเขาเพ่งมองดูข้างนอก “ข้ายังสามารถมองเห็นข้างนอกอยู่ เข้ามาเถอะ...” บีบีหัวเราะขณะที่บินถอยหลังและลินลี่ย์กับอีกสองคนตามเขาเข้าไปตามปกติ

ทุกคนบินช้ามาก หลังจากบินเข้ามาได้แปดสิบเมตร กลุ่มของลินลี่ย์หยุดโดยไม่รู้ตัว

“หือ? แปลกจริงๆ!”

ลินลี่ย์อดขมวดคิ้วไม่ได้

“ควั่บบ” ในหมอกไร้ที่สิ้นสุดนี้มีเสียงลมพัดเบาๆ แต่แม้ว่าเสียงลมพัดจะเงียบมาก แต่ลินลี่ย์ก็ยังรู้สึกว่าศีรษะของเขาเริ่มมึนงง ลินลี่ย์สะบัดศีรษะแรกๆ เขาบังคับตนเองให้สมองโล่ง

เดเลียและบีบีพยายาอย่างหนักในการเรียกสติกลับคืน

ขณะที่เจนกินเริ่มมึนงงมากขึ้นและไม่สามารถจำแนกทิศทางได้ ลินลี่ย์รีบคว้าตัวเขาไว้ทันทีและฉุดเขาออกมาเล็กน้อย

ถึงตอนนี้เจนกินค่อยมีความรู้สึกปลอดโปร่ง เมื่อเขาสมองปลอดโปร่ง เจนกินตกใจ “มันเกิดอะไรขึ้น?” เจนกินรู้สึกตกใจและหวาดกลัว

“ทะเลหมอกนี้แปลกประหลาดเป็นพิเศษ” บีบีพึมพำยกย่อง

“ลินลี่ย์! ระวังตัวไว้เป็นดีที่สุด เราแค่มาเที่ยวดูเท่านั้น ไม่ได้มาเก็บเกี่ยวอะเมทิสต์ อย่าปล่อยให้มีอะไรเกิดขึ้น” เดเลียฉุดมือลินลี่ย์ขณะกล่าว

ลินลี่ย์จับมือเดเลียและมองเห็นความกังวลในดวงตาของเดเลีย หลังจากผ่านประสบการณ์บ่อแมกมาทองแล้ว ลินลี่ย์ไม่ต้องการให้เดเลียตกอยู่ในอันตรายอีกต่อไป ดังนั้นเขาหัวเราะทันทีและพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง เราจะไม่เข้าลึกไปในทะเลหมอก”

“เฮ้, พวกเจ้า” ทันใดนั้นบุรุษร่างกำยำคนหนึ่งผมเขียวสั้นบินเข้ามาหา เขาหัวเราะพลางกล่าว “พวกเจ้าต้องระวังเอาไว้ อย่าติดเข้าไปข้างในล่ะ พวกเจ้าจะออกมาไม่ได้”

“ขอโทษที สหาย” เจนกินยิ้มขณะกล่าว “ข้าสงสัยอยู่เรื่องหนึ่ง ทำไมถ้ามีคนล่วงลึกเข้าไปในทะเลหมอกขาวถึงออกมาไม่ได้? ถ้าข้าปล่อยร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ไว้ข้างนอกขณะข้าเข้าไป ข้าก็สามารถรู้สึกถึงตำแหน่งของร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ภายในได้ ก็น่าจะออกมาได้ไม่ใช่หรือ?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้อดนัยน์ตาเป็นประกายไม่ได้

คำพูดของเขามีเหตุผล

ถ้าร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของเขาอยู่ข้างนอก เขาจะสูญเสียความรู้สึกในเส้นทางไหม ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

“เฮ้, อย่าถามข้า ข้าไม่รู้อะไรอื่น เจ้าสามารถพูดทุกอย่างที่เจ้าต้องการได้ แต่ความจริงต้องเป็นเรื่องสำคัญ” บุรุษผมเขียวเม้มปากและหัวเราะ “ถ้าเจ้าไม่กลัว เจ้าก็แค่พักร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าไว้ข้างนอก และใช้ร่างตัวเองเข้าไปข้างในเพื่อทดสอบได้ แต่ทุกกรณีข้าไม่เคยได้ยินว่ามีคนที่เข้าไปแล้วรอดชีวิตออกมาได้ ไม่ว่าจะใช้วิธีใด”

เด็กหนุ่มผมเขียวจบด้วยคำพูด “ดีละ, ขอให้พวกเจ้าโชคดี” หลังจากพูดจบเด็กหนุ่มผมเขียวบินออกไปไกล

ลินลี่ย์หันหน้าไปมองหมอกขาวกว้างไม่มีสิ้นสุดอีกครั้งหนึ่ง

ทันใดนั้นลินลี่ย์ตกใจ “เฮ้ นั่นคือ...” จากระยะไกลแสงสีม่วงฉายประกาย และลินลี่ย์เคลื่อนตัวไปที่นั่นทันที เมื่อเขากวาดมือออก เขาคว้าแสงรัศมีสีม่วงไว้ได้ เป็นอะเมทิสต์ชิ้นหนึ่ง ลินลี่ย์อดหัวเราะไม่ได้

เขาคาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมีโชคดีมาก

“พี่ใหญ่ นี่คืออะเมทิสต์หรือ?” บีบีเข้ามาใกล้ทันทีเช่นกัน

“ถูกแล้ว เจนกิน รับนี่ไป” ลินลี่ย์ตวัดมือยืนอะเมทิสต์ไปให้เจนกิน ลินลี่ย์มีอะเมทิสต์อยู่มากมายแล้ว เขาไม่สนใจแค่ชิ้นหรือสองชิ้น

เจนกินรู้วาลินลี่ย์ร่ำรวยมาก คนธรรมดาจะซื้ออสูรโลหะได้อย่างไร?

เจนกินไม่เสียเวลาพูด เขาเก็บอะเมทิสต์ทันทีจากนั้นหัวเราะ “ท่านลินลี่ย์! โชคของท่านยอดเยี่ยมจริงๆ ทันทีที่มาถึงไม่นานท่านได้รับอะเมทิสต์เสียแล้ว ข้าได้ยินมาว่าบางคนใช้เวลาไปถึงพันปีโดยไม่พบอะไรเลย”

“นั่นเป็นเพียงคนที่โชคร้าย สำหรับคนที่โชคดี พวกเขาจะพบได้ในไม่กี่วัน” ลินลี่ย์พูดอย่างรังเกียจ

“พี่ใหญ่, เนื่องจากท่านโชคดี ข้าไม่ขอเชื่อว่าโชคของข้าจะแย่ไปด้วย” ตาของบีบีฉายประกายขณะเขาจ้องมองรอบๆ “ข้าจะลองเก็บเกี่ยวอะเมทิสต์ดูเหมือนกัน!”

“ข้าจะลองเสี่ยงโชคดูด้วย” เดเลียหัวเราะ

ขณะที่กลุ่มของลินลี่ย์เริ่มเที่ยวและสำรวจทะเลหมอก กลุ่มของโอลิเวอร์กลับที่ที่ชายขอบทะเลหมอกอีกครั้ง ทุกคนรออย่างเงียบงัน รอให้อะเมทิสต์บินออกมา

“อะเมทิสต์? ใครจะรู้ได้ว่าต้องใช้เวลาอีกนานเท่าใดก่อนข้าจะได้มาสักชิ้น”

โอลิเวอร์ตอนนี้กำลังควบคุมาร่างแยกธาตุมืดโดยการฝึกฝน ร่างแยกธาตุแสงของเขาถึงระดับเทพแท้แล้ว แต่ร่างแยกธาตุมืดยังคงเป็นระดับเทียมเทพ โอลิเวอร์พยายามเพิ่มพลังให้กับพลังเทพของร่างแยกธาตุมืด

“ระดับปัจจุบันของพลังเทพสายธาตุมืดที่ข้ามีพลังต่ำมาก เมื่อมันยกระดับได้จนเท่ากับพลังเทพธาตุแสงได้ ด้วยการหลอมรวมแสงและความมืดได้ เทพแท้ธรรมดาจะเป็นคู่ต่อสู้ของข้าได้ยังไง?” โอลิเวอร์คิดถึงตนเอง ขณะเดียวกันเขาตรวจสอบทะเลหมอกอย่างระมัดระวัง

พระอาทิตย์สีเลือด พระจันทร์สีม่วงลอยขึ้นในท้องฟ้า

เมื่อราตรีผ่านไปพระอาทิตย์สีเลือดฉายแสงในท้องฟ้า วันใหม่มาเยือนอีกครั้ง

ระหว่างทั้งวันนี้ กลุ่มของโอลิเวอร์สิบสองคนอยู่ในตำแหน่งเดิมแทบจะไม่ได้โยกย้ายไปเลย พวกที่มาเก็บเกี่ยวอะเมทิสต์จะมีความอดทนกันมาก เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขารอกันได้ถึงร้อยปี หรือพันปีในตำแหน่งเดิม

“หือ?” โอลิเวอร์มองดูจุดแสงสีม่วงไกลๆ ด้วยความสงสัย

“ควั่บ!” รัศมีสีม่วงพุ่งผ่านโอลิเวอร์ โอลิเวอร์ดีใจทันทีและแทบจะทันทีเขาพุ่งไปข้างหน้า หลังจากอยู่ในทะเลหมอกมาเกือบสามสิบปี โอลิเวอร์รู้ว่าระยะใดปลอดภัย

คนอื่นๆ อยู่ห่างจากอะเมทิสต์สีม่วง เป็นไปได้ยังไงที่พวกเขาจะไวกว่าโอลิเวอร์?

“นั่น?”

ขณะที่เข้าไปใกล้, โอลิเวอร์ถึงกับตะลึง ไม่ใช่แค่อะเมทิสต์ชิ้นเดียวที่บินเข้าหาเขา แต่เป็นกลุ่มของอะเมทิสต์ รวมกันเป็นฝูงหนาแน่น เป็นกองอะเมทิสต์เล็กๆ!

“ต้องมีอย่างน้อยเป็นหมื่นที่นี่!” โอลิเวอร์ตะลึง

ในทะเลหมอกเป็นเรื่องจริงที่ว่าบางครั้งกองอะเมทิสต์จะบินออกมา มีบางกรณีบินออกมาเป็นล้านในกลุ่มเดียวกัน อย่างไรก็ตามนี่เป็นสาเหตุให้เกิดการฆ่าฟันขนานใหญ่ ที่สำคัญคืออะเมทิสต์ล้านหนึ่งเปลี่ยนเป็นศิลาดำได้นับพันล้าน

สำหรับเทพแท้แค่นี้นับเป็นโชคลาภมหาศาล

“อะเมทิสต์มากมายนักหรือ?” แค่เพียงกวาดมือครั้งเดียว โอลิเวอร์ก็รวบรวมอะเมทิสต์ทั้งหมดเข้าไปไว้ในแหวนเก็บสมบัติ ในขณะที่เขาเก็บอะเมทิสต์นั้น เขารู้ชัดเจนถึงปริมาณ มีอะเมทิสต์ถึงหนึ่งหมื่นแปดพัน มูลค่าเกินร้อยล้านศิลาดำ! นี่คือโชคลาภที่แท้จริง!

“ข้าหวังว่าจะไม่มีคนอื่นสังเกต” โอลิเวอร์ภาวนาเงียบๆ

แต่เมื่อโอลิเวอร์หันหน้าไป เขารู้สึกตกใจ เพราะคนทั้งสิบคนกำลังจ้องมองมาทางเขา!

“โอลิเวอร์, โชคของเจ้าไม่เลว” หัวหน้าแสยะยิ้ม “แม้ว่าข้าไม่เห็นว่ามีอยู่เท่าใดแน่ แต่ข้าคาดว่าจะต้องมีอย่างน้อยหนึ่งหมื่น ผู้พบเห็นมีส่วนแบ่ง เจ้าเอาออกมา เราพี่น้องสิบสองคนจะแบ่งปันเท่ากันจะไม่ควรหรือ?”

โอลิเวอร์สีหน้าเปลี่ยน แบ่งสิบสองคนเท่ากัน?

นี่เป็นสิ่งที่เขาได้มาด้วยตัวเอง

โอลิเวอร์กัดฟัน “เอาอย่างนี้เป็นไง พวกเจ้ารับไปคนละแปดร้อยชิ้น! ที่เหลือเป็นของข้า เจ้าก็รู้ว่ามีจำนวนหมื่นเดียว กับคนสิบสองคน ข้าแค่แบ่งเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย

“ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าแบ่ง ถอนสัญญาเลือดกับแหวนเก็บสมบัติเจ้าซะและให้เราตรวจดู จากนั้นเราจะได้แบ่งกัน” บางคนพูดขึ้นทันที

“ถอนสัญญาเลือด?” โอลิเวอร์เข้าใจทันที

คนในแดนนรกไม่มีความยุติธรรมอย่างแท้จริง

“เอาละ เจนกิน ไม่ต้องร่วมทางกับเราต่อไปอีกแล้ว เจ้าติดตามเรามาไกลมากพอแล้ว เจ้าเก็บเกี่ยวอะเมทิสต์ของเจ้าต่อไปเถอะ เราจะจากไปเดี๋ยวนี้” จากในที่ไกลมีเสียงหนึ่งดังขึ้น เมื่อเสียงนั้นกระทบโสตของโอลิเวอร์ เขารู้สึว่าเป็นเสียงที่คุ้นหูมาก

นี่คือเสียงของคนคุ้นเคย!

“ท่านลินลี่ย์! โปรดเดินทางอย่างระมัดระวัง” มีอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น

โอลิเวอร์ตกใจทันที “ลินลี่ย์?” โอลิเวอร์หันไปมองแหล่งเสียงและภายในหมอกขาวเลือนราง ลินลี่ย์ เดเลียและบีบีกำลังบินอยู่ด้วยกัน บีบีชำเลืองมองมาทางเขาเช่นกัน จากนั้นหัวเราะ “พี่ใหญ่ดูสิ, กลุ่มคนกำลังรุมล้อมคนผู้หนึ่ง แต่ เฮ้... หมอนั่น.. พี่ใหญ่...นั่นโอลิเวอร์!!!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด