ตอนที่แล้วตอนที่ 499 เพราะเจ้ารวย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 501 เป้าหมายเราคือพวกเซียน

ตอนที่ 500 นักโทษรอประหาร


โลกของเซียนกว้างขวางยิ่งใหญ่มากกว่าที่ถังเทียนจินตนาการไว้มาก เขารู้สึกได้ทันทีว่าเขาพรวดพราดเข้าสู่โลกใหม่  ทุกอย่างใหม่และมีหลายอย่างที่เขาไม่เข้าใจ

แต่เขาไม่กังวลหรือกลัวแม้แต่น้อย  เขาเต็มไปด้วยความสงสัย  ทุกอย่างมีความหมายมากมาย

สถานการณ์ในเมืองหานกู่สงบอย่างน่าทึ่ง  ทุกคนมีความกังวลบางอย่าง  แม้แต่กับผู้อาวุโสสำนักมู่หรือผู้อาวุโสสำนักหรงปัว ไม่มีใครประมาทแต่อย่างใด อย่างน้อยที่สุดก็ยังไม่เหมือนเมื่อคราวอยู่ในกลุ่มดาวหมาป่าที่ต้องอยู่อย่างหวาดกลัวหรือดูเหมือนมีการเข่นฆ่ากันได้ง่ายเหมือนผัก เหมือนปลา

ถังเทียนไม่รู้เหตุผลแต่เขาคร้านที่จะคิด

เขาวนอ้อมและกลับไปที่ค่าย  อาจกล่าวได้ว่าเป็นการเดินทางที่คุ้มค่า ผลเก็บเกี่ยวของเขามากมายเกินกว่าที่เขาคิด  เสี่ยวเอ้อกำลังกินจิตวิญญาณเซียน ขณะที่ถังเทียนกำลังอ่านหนังสือจิตวิญญาณที่เขาซื้อมาอย่างกระตือรือร้น

หลังจากเข้าสู่ขอบเขตเซียนแล้วมีความรู้ซึ่งอธิบายไม่ได้ ดังนั้นหนังสือจิตวิญญาณจึงมีขายอยู่ในตลาด  หนังสือจิตวิญญาณจะบันทึกวิธีการต่างๆโดยพวกเซียน

การสร้างหนังสือจิตวิญญาณไม่ใช่งานซับซ้อน  มีพลังจิตวิญญาณเป็นสื่อส่วนใหญ่ที่คนใช้ก็คือเศษเสี้ยวพลังวิญญาณที่ใช้ต่อสู้ เศษพลังวิญญาณทั้งหมดนี้ไม่ค่อยมีประโยชน์มากนัก  แต่สามารถเก็บรักษาข้อมูลไว้ได้จำนวนมาก

และหนังสือจิตวิญญาณก็ไม่ใช่วัตถุระดับสูงและเป็นความรู้ตื้นๆ ของพวกเซียน  แต่ในความเป็นจริงอุปกรณ์สมบัติเซียนไม่ใช่ราคาถูกๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลอย่างหนังสือพลังจิตวิญญาณ ราคาของมันก็สูงถึงร้อยล้านเหรียญดาว

แต่มันคือสิ่งที่ถังเทียนต้องการมากที่สุด

เขามีข้อสงสัยมากมายและสามารถมองหาคำตอบจากในหนังสือได้  ตัวอย่างเช่น เขารู้ว่าจิตวิญญาณเซียนคืออะไร และจากที่เซียนตายไปแล้ว  ส่วนใหญ่ของพวกเขาจะไม่เหลือจิตวิญญาณเซียนไว้ เพราะจิตวิญญาณยุทธของเซียนเปลี่ยนไปเป็นสนามพลังวิญญาณแล้ว  แค่เพียงอยู่ภายใต้สถานการณ์พิเศษสองสามอย่างเซียนถึงจะทิ้งจิตวิญญาณยุทธของพวกเขาไว้และนั่นก็คือจิตวิญญาณเซียน

ประโยชน์ของจิตวิญญาณเซียนที่มากที่สุดก็คือช่วยยกค่าจิตวิญญาณและขยายสนามพลังวิญญาณได้

สนามพลังวิญญาณเป็นเหมือนแปลงพื้นที่เพาะปลูกของเซียนและวิชาจิตวิญญาณเป็นเหมือนพืชที่ปลูกอยู่ในแปลง ยิ่งมีพื้นที่เพาะปลูกมาก เซียนก็สามารถเพาะปลูกได้มาก

เมื่อถังเทียนมาถึงระดับนี้แล้วจากนั้นเขาจึงค่อยเข้าใจความสำคัญของค่าจิตวิญญาณ อย่างนั้นนั่นก็คือพื้นที่ภายใต้การควบคุมของเซียน!

ไม่เพียงแต่การฝึกเคล็ดจิตวิญญาณจะต้องใช้ค่าจิตวิญญาณที่เพียงพอเท่านั้น แต่จำเป็นต้องเข้าใจวิชาจิตวิญญาณอย่างลึกซึ้งด้วย  วิชาจิตวิญญาณจะยังคงเติบโตและพัฒนาได้จำเป็นต้องมีค่าจิตวิญญาณมากขึ้น ถ้ามีค่าจิตวิญญาณไม่เพียงพอ แม้แต่วิชาจิตวิญญาณก็ยากจะก้าวหน้าได้ไกล

ค่าของจิตวิญญาณเสี่ยวเอ้อคราวก่อนก็แค่พอเรียนวิชาเคลื่อนย้ายพริบตาเท่านั้น

และนอกจากนั้นแล้วสมบัติจิตวิญญาณมีพลังที่น่ากลัว ของพวกนี้จะมีแตกต่างกันและประโยชน์ที่สุดก็คือไม่จำเป็นต้องใช้ค่าวิญญาณ  สำหรับเซียนคนหนึ่ง  ค่าวิญญาณทุกอย่างมีความสำคัญมาก

ท่าทางเจ็บปวดผุดขึ้นบนใบหน้าของเสี่ยวเอ้อ  ร่างของเขาสั่นอย่างควบคุมไม่ได้

ถังเทียนตกใจกลัวและรีบเชื่อมโยงกับเสี่ยวเอ้อทันที เขาสามารถรู้สึกถึงความเจ็บปวดของเสี่ยวเอ้อได้  ใบหน้าที่น่ารักของเสี่ยวเอ้อทรมานน่ากลัว  หมอกสายหนึ่งเริ่มคลุมรอบตัวเขาเขาเป็นเหมือนสัตว์ร้ายที่กำลังดิ้นทำให้หน้าของเขาเปลี่ยนไปมาไม่แน่นอน

“ฆ่า...”

เสียงที่ดังออกมาเต็มไปด้วยความโกรธและแค้นเสียงแหบแห้งเหมือนกับเป็นอีกคนหนึ่งที่แตกต่าง

ร่างของเสี่ยวเอ้อกลายเป็นหมอกควันและแสดงอาการโกรธอย่างรุนแรง

แย่แล้ว!

ถังเทียนยื่นมือเข้าไปในหมอกโดยไม่คิดอะไร

***************

เมื่อกลับมายังที่พักเย่เฉาเกอลังเลเล็กน้อยก่อนจะพูด “ผู้อาวุโส, เราต้อง...”

เขาเหยียดหัวแม่มือและทำท่าเป็นสัญลักษณ์ฆ่า วันนี้ผู้อาวุโสของเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมีแนวโน้มว่าหัวใจของเขาจะเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

หรงปัวหัวเราะและกล่าว  “เฉาเกอ, เอ่อ.. เจ้ายังอายุน้อยดังนั้นเจ้าคงอยากฆ่าคนโดยตรง แต่เจ้าต้องจำไว้ เมื่อเจ้าสามารถฆ่าคนได้โดยไม่ต้องใช้ดาบของเจ้าจงพยายามอย่างดีที่สุดอย่าใช้ดาบของเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเจ้าตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก

สีหน้าของเย่ว์เฉาเกอเปลี่ยน  เขาคิดย้อนไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นชั่วขณะ  “อย่าบอกข้าจะว่าผู้อาวุโส..”

“อย่าเชื่อสิ่งที่ตาเจ้าเห็น”  หลงปัวหัวเราะ “แสงอรุณสำคัญขนาดนั้นจริงๆ หรือ? ไม่ว่าเจ้าจะคิดยังไงก็ยังไม่คู่ควรเทียบเท่าจิตวิญญาณเซียนระดับห้า บางคนอาจจะคิดว่าข้าห้ามเอาไว้ไม่ให้ของตกไปในเงื้อมมือของพวกวิญญาณมืดและข้าคิดอะไรไม่ออก  แต่ในความจริง เมื่อข้ารู้ว่าเจ้าแพ้เขาข้าก็ตัดสินใจกำจัดเขาแล้ว”

เย่เฉาเกอใจสั่นสะท้าน

“ความล้มเหลวไม่มีอะไรต้องคิดมาก  เมื่อข้ายังอายุน้อย  ข้าก็แพ้มาหลายครั้ง”  หลงปัวยังคงยิ้มและกลายเป็นจริงจัง  “พรสวรรค์ของเจ้าและความเพียรพยายามของเจ้าไม่ได้ด้อยเลย พลังปัจจุบันของเจ้าแข็งแกร่งกว่าข้าในอดีตเสียอีก  เจ้าไม่ใช่คนที่ใครจะเอาชนะได้   คู่ต่อสู้ไม่ใช่คนที่จัดการง่ายๆและข้ามีความรู้สึกว่าเขาคือศัตรูของเรา”

“จิตวิญญาณเซียนจะเปลี่ยนเป็นศัตรูที่อันตรายและมีศักยภาพใครจะใส่ใจทันระวังได้ นั่นช่างคุ้มค่านัก” หลงปัวหัวเราะ และพูดอย่างเป็นกันเองว่า“จิตวิญญาณเซียนนั่นถูกดึงออกมาจากนักโทษรอประหาร”

“นักโทษรอประหาร?”  เย่เฉาเกอตะลึง

“เขาชื่อวิลเลียม!” หลงปัวเริ่มหัวเราะเมื่อคิดถึงเรื่องที่มีความสุขอย่างนั้น

เย่เฉาเกอตะลึง  หน้าของเขาซีดขาว  นัยน์ตาเต็มไปด้วยความตกใจ

***********

นอกเมืองอาเลียธการรบพุ่งดุเดือดไม่มีทีท่าสิ้นสุด

กองทัพใหญ่ของถังโฉ่วมีข้อได้เปรียบอย่างชัดเจน หลังจากประสบกับสงครามในเมืองมิซาร์ แม้ว่าพวกเขาจะสูญเสียค่อนข้างมาก แต่สงครามที่รุนแรงทำให้ทหารของเขาแข็งแกร่งขึ้น

กองทัพได้รับการปรับแต่งแล้ว นักสู้ชาวเจ็ดดาวเหนือเผชิญกับกองทัพใหญ่เช่นนั้นไม่สามารถขัดขืนได้

ถังโฉ่วเงยศีรษะขึ้นมองดูจุดดำทั้งสี่จุด

ในการต่อสู้ในเมืองมิซาร์เขาพบกับนักสู้ชั้นเซียนสองคน เซียนที่ไม่รู้วิธีเหาะถูกพวกเขาฆ่าตายอย่างรวดเร็ว ขณะที่เซียนอีกสองคนรู้วิธีเหาะทำให้พวกเขาสูญเสียค่อนข้างมาก  เซียนที่รู้วิธีเหาะมีความได้เปรียบในสงครามมาก  พวกเขาไปมาเหมือนสายลม  วิชาตัวเบาไม่สามารถไล่ตามพวกเขาได้และนั่นคือสิ่งที่ถังโฉ่วไม่ได้คาดการณ์ไว้

วิชาจิตวิญญาณทรงพลังมากแข็งแกร่งกว่าวิทยายุทธและในช่วงเวลาสั้นๆ ถังโฉ่วสูญเสียคนไปเกิน 500คนซึ่งทำให้เขาโกรธมาก

แต่ถังโฉ่วพบจุดอ่อนของเซียนได้อย่างรวดเร็วและนั่นก็คือการโจมตีระยะไกลของเขา

ศัตรูไม่สามารถโจมตีได้ไกลเกินกว่า300 เมตร และเมื่อเขาพบจุดอ่อนนี้ ถังโฉ่วรวบรวมสมาธิทันที กองทัพถอยและจัดระยะห่างของกองทัพ

เซียนชอบการต่อสู้แบบตัวต่อตัว  ดังนั้นเขาจึงมีทหารน้อยมาก  แต่นี่ก็เพียงพอให้ถังโฉ่วรู้สึกถึงแรงกดดันที่ยิ่งใหญ่

ถังโฉ่วรู้สึกยินดีในใจ พวกเซียนที่พวกเขาพบส่วนใหญ่เป็นเซียนทั่วไป เขาได้ยินว่าเจ้านายฝึกวิชาจิตวิญญาณที่สามารถเคลื่อนในพริบตาได้ ถังโฉ่วเห็นว่ายังมีวิชาจิตวิญญาณอื่นที่ดีกว่าวิชาเคลื่อนไหวในพริบตานั่นจะเอามาใช้ในสงครามได้หรือไม่?

คงจะไม่เหมือนกับที่ตำนานบอกกล่าวไว้  สิ่งที่คงอยู่ซึ่งสามารถระเบิดหินดวงดาวได้

สำหรับเซียนธรรมดามีข้อจำกัดบางประการ ตัวอย่างเช่นปราณแท้ไม่ว่าจะเป็นวิชาอะไร ก็ต้องใช้ปราณแท้ และปราณแท้ของเซียนคนหนึ่งมิใช่ว่าไม่มีขีดจำกัด

ข้อดีของกองทัพก็คือจำนวน  มดหลายตัวสามารถล้มช้างได้  และจะใช้ประโยชน์จากวิธีนี้ทำงานทางทหารได้อย่างไร

ถังโฉ่วมองดูเซียนในท้องฟ้า

กองทัพมีอำนาจเหนือกว่าในสนามรบอยู่แล้ว  ถ้าเซียนไม่เคลื่อนไหวอะไร  การรบก็จะยิ่งเข้าทางพวกเขามาก เซียนที่อยู่ในอากาศสามารถมองได้ทั่วสนามรบจากท้องฟ้าและสถานการณ์ในสนามรบก็ชัดเจนมากขึ้น

จุดดำทั้งสี่เริ่มเคลื่อนไหว

ทนไม่ได้อีกต่อไปหรือ?  ตาของถังโฉ่วเป็นประกายเยือกเย็น

ไม่มีอะไรสามารถขัดเกลาหัวหน้าทหารให้ดีขึ้นได้มากไปกว่าการรบอย่างต่อเนื่อง  ถังโฉ่วสั่งการทหารสี่กองทัพ  กองทัพหมาป่าของถังอี้  ทหารพรานข่ายของขลุ่ยวิเศษ กองพลทหารราบของทาร์ตันและกองทัพหมัดเหล็กของหวงฝู่หง

นอกจากกองทัพหมัดเหล็กของหวงฝู่หงซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ทั้งหมด กองทัพอีกสามกองทัพคงการรักษาไว้แบบเดิมได้โดยเพิ่มเลือดใหม่เข้าไป ความแข็งแกร่งของบุรุษทั้งสี่ไม่จำเป็นต้องอธิบายเพิ่มเติม  ถังอี้คือดาบที่คมที่สุดตลอดไป  สถานะขุนพลของขลุ่ยวิเศษก็อยู่ในสภาพดีที่สุดเขายังอายุเยาว์และมีศักยภาพสูงสุด ทาร์ตันมั่นคงไม่หวั่นไหว เขาเป็นคนมั่นคงไม่หวั่นไหวและพลังป้องกันของเขาก็แข็งแกร่งมาก  และหวงฝู่หงเป็นคนที่ระมัดระวังตัวมาก  หัวใจของเขาดูเหมือนมุ่งอยู่กับการรบและชอบจะเข้าปะทะ

กองทัพหมัดเหล็กถูกสร้างขึ้นจากนักสู้สายจักรกลจากค่ายบรอนซ์แห่งเมืองสามวิญญาณและนอกจากนี้ยังรวมถึงกลุ่มคนที่ถังโฉ่วได้ดูแลไว้ก่อนนั้น กองทัพเก่าของหวงฝู่หงซึ่งก็คือกองทัพเหล็กก็มีบางส่วนที่เป็นกองทัพจักรกล  หวงฝู่หงมักจะมาประจำการอยู่ที่เมืองสามวิญญาณได้ติดตามปิงเพื่อเรียนรู้ และอีกทางหนึ่งเขาร่วมช่วยร่างหลักสูตรฝึกฝนทุกแผนการอบรมทำให้ได้รับประสบการณ์มากมาย

ปิงกล้าปล่อยมือและตามถังเทียนไปกลุ่มดาวเซกซ์แทนส์เป็นเพราะพวกเขามีคนพอพึ่งพาอาศัยได้  กองพลทั้งสี่คือความเชื่อมั่นของเขา ขลุ่ยวิเศษอาจมีศักยภาพเป็นผู้บัญชาการที่มีชื่อได้  แต่อีกสามคนนั้นยังไม่พอ  แต่มาตรฐานของพวกเขานั้นโดดเด่นมั่นคงและน่าเชื่อถือ

เมื่อผ่านการสู้รบติดต่อกัน  แม้มีการบาดเจ็บบ้าง  แต่ความสัมพันธ์ของทุกคนก็เพิ่มขึ้น

“แถวหน้าถอยกลับ  ม่อจื่อหวี!”

เสียงมั่นคงของหวงฝู่หงดังผ่านสนามรบที่ยุ่งหยิงทำให้ม่อจื่อหวีสั่น

อาวุธจักรกลวิญญาณสองสามแถวหน้าถอยออกมาเหมือนคลื่นน้ำลด ฝ่ายตรงข้ามเริ่มดีใจและวิ่งเข้ามาเพื่อฆ่า  อาวุธจักรกลวิญญาณของม่อจื่อหวีเป็นผู้นำ การต้อนรับหน่วยของเขาดังกระหึ่มใส่เขา  เขาตะโกนเต็มเสียง  “กลยุทธหมายเลยห้า!”

ที่ด้านข้างทั้งสองของเขา อาวุธจักรกลวิญญาณสองร้อยชุดวิ่งตามเขาจนฝุ่นคละคลุ้ง  เสียงลมอื้ออึงผ่านหูพวกเขา  ลมหายใจของทุกคนหนักหน่วง พวกเขาตื่นเต้นและอาวุธจักรกลทั้งสองร้อยชุดบุกใส่พร้อมกัน  เสียงโห่ร้องเสียงกึกก้องของพวกเขาเปี่ยมไปด้วยพลังและความย่ามใจ เสียงสั่นสะเทือนเลือนลั่นเหมือนเสียงแผ่นดินไหว

ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายใกล้เข้ามาเหมือนกับจะเตรียมปะทะและประจัญบาน

ม่อจื่อหวีเห็นม่ออู๋เว่ยควบคุมอาวุธจักรกลวิญญาณถอยมาถึงด้านหน้าเขาก็หัวเราะลั่น “การปะทะหนักยังคงขึ้นอยู่กับเรา”

อาวุธจักรกลวิญญาณที่กำลังวิ่งเข้าใส่เริ่มส่งเสียงโห่ร้อง

ระยะระหว่างกองทัพทั้งสองใกล้เข้ามา90 เมตร... 75 เมตร.... 60 เมตร.... 45 เมตร!

ม่อจื่อหวีแสดงท่าทางเหี้ยมหาญทันทีและตะโกนลั่น  “ฆ่า!”

“ฆ่า!”

ทั้งสองฝ่ายส่งเสียงโห่ร้อง เสียงตะโกนของพวกเขาบรรจบรวมกันเหมือนน้ำเชี่ยวกราก

อาวุธจักรกลวิญญาณทั้งสองร้อยชุดกระโจนขึ้นไปในอากาศพร้อมกันทั้งหมด เฉียดผ่านเพื่อนร่วมหน่วยไปอย่างหวุดหวิด พวกเขาเป็นเหมือนกระสุนปืนใหญ่ที่ยิงขึ้นไปบนฟ้ามีแรงเหวี่ยงที่น่ากลัวกระแทกใส่พื้น

นักสู้ที่กำลังวิ่งไล่ตามหลังพวกเขาคาดไม่ถึงว่าท้องฟ้าเหนือศีรษะพวกเขาจะกลายเป็นสีเข้มและก่อนที่พวกเขาจะทันรู้ตัว รังสีที่แพรวพราวมากมายก็ระเบิดต่อหน้าพวกเขา  แสงระคายตาจนพวกเขาไม่สามารถลืมตาได้

อาวุธจักรกลวิญญาณทุกเครื่องยิงดาบออกมาสามเล่ม  รังสีดาบหกร้อยเล่มที่ยาวเกินกว่าเก้าเมตรเกิดเป็นข่ายใบมีด

ใบมีดเหล่านั้นกระแทกใส่ในคลื่นมนุษย์

ในทันใดนั้นเลือดเนื้อปลิวกระจายไปทุกที่ เสียงร้องโหยหวนที่น่าสยดสยองร้องดังพร้อมกัน

ปัง

อาวุธจักรกลทั้งสองร้อยเครื่องลงพื้นพร้อมกัน  เสียงเหมือนกับค้อนขนาดใหญ่หวดลงพื้นกระแทกกระทั้นหัวใจผู้คน นักสู้ชาวเจ็ดดาวเหนือแตกตื่นกันทุกคนไม่ทันสังเกตเห็นท่าทางที่อาวุธจักรกลวิญญาณกำลังลงสู่พื้น

พวกเขางอเข่า  ร่างของพวกเขาโน้มไปข้างหน้า

อาวุธจักรกลวิญญาณทั้งสองร้อยชุดที่เพิ่งลงมายืนที่พื้น  เป็นเหมือนลูกตุ้มบรอนซ์ 200ลูกพุ่งเข้าใส่ทันที

ข่ายรังสีดาบตัดใส่คลื่นมนุษย์อย่างโหดอำมหิต  โลหิตนับไม่ถ้วนฉีดพุ่งกระจาย  คลื่นมนุษย์ล้มลงกับพื้นในทันที

ปัง!

อาวุธจักรกลสองร้อยชุดลงมายังพื้นพร้อมกันอีกครั้งทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายเหมือนก้อนเมฆ

เวลาดูเหมือนหยุดนิ่งไปชั่วขณะ นักสู้เจ็ดดาวเหนือมองดูกลุ่มอสูรร้ายบรอนซ์ด้วยความหวาดผวา  ยักษ์บรอนซ์กำลังก้าวเข้ามาบนแม่น้ำโลหิต  ซากศพระเนระนาดอยู่พื้นกลายเป็นคำอธิบายของอสูรบรอนซ์ที่ดีที่สุด

ประหารหมู่อย่างโหดเหี้ยมและเยือกเย็น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด