ตอนที่แล้วตอนที่ 16 : ความคิดชั่วร้าย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 18 : เตรียมการ

ตอนที่ 17 : ทะลวงพลัง ขั้นก่อวิญญาณระดับกลาง


ณ หอไถ่ถอน ชั้นสาม

ดาวิสที่กำลังบ่มเพาะหมอกแสงศักดิ์สิทธิ์ตัวสั่นเบา ๆ

แสงสีทองส่องสว่างรอบตัวเขาเมื่อเขาทะลวงพลังเป็นขั้นก่อวิญญาณระดับกลาง พลังบ่มเพาะของเขาปีนสูงขึ้นจนกระทั่งหยุดลงเมื่อถึงจุดที่มั่นคงในระดับนั้น เขาลืมตาและรู้สึกด้วยวิญญาณว่ามันผ่านมาเพียงหกชั่วโมงขณะที่เขาใช้เวลาสิบปีในนรกนั่น

“เป็นอสูรดวงใจที่น่ากลัวจริง ๆ! มันให้เราดิ้นอยู่ในฝ่ามือถึงสิบปี และค่อย ๆ เชื่อมโยงตัวข้ากับตัวตนในอดีต”

“อย่างแรก ความเจ็บปวด”

“อย่างที่สอง ความรู้สึก”

“สาม สภาวะที่ทำได้แค่มองและทำอะไรไม่ได้…”

‘ถ้าไม่รู้ตัวในจังหวะสุดท้าย…ถ้าได้ทรมานและฆ่าเด็กคนนั้น ข้าจะเป็นคนนี้ที่ได้กลับมาจริง ๆ น่ะหรือ?’

ดาวิสตัวสั่น

เขารู้สึกว่าคำถามนี้ควรไม่ได้รับคำตอบไปสักระยะ อย่างไรเขาก็รู้สึกว่ามันเหมือนเดิมอย่างเคย ไม่มีอะไรต่างจากเวลาที่เขาเข้าสู่บททดสอบอสูรดวงใจ

แต่ถึงอย่างนั้นก็มีสิ่งที่ต่างออกไปที่เขามิอาจแตะต้องได้

เขาไม่ได้คิดมากนัก เขารีบลุกขึ้นออกจากหอไถ่ถอน

เมื่อออกมาจากหอ เขาเห็นคนหนึ่งที่วิ่งมาหาเขาด้วยความเร็วสูงมาก ร่างนั้นเข้าใกล้ก่อนที่เขาจะได้ตอบสนองและกอดเขาด้วยความอบอุ่นอันบริสุทธิ์

เขายิ้ม

“ข้ากลับมาแล้ว ท่านแม่”

“...เจ้าโง่เอ้ย”

แคลร์ปล่อยและมองเขา

ดาวิสเห็นว่าดวงตาของนางบวมแดง ราวกับร้องไห้มานาน

โลแกนเดินเข้ามาช้า ๆ เขามองดาวิสด้วยความโมโห แต่นั่นทำให้ดาวิสแอบดีใจ

“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมแม่ถึงตาแดงนักล่ะ?”

ดาวิสรู้สึกว่าเขาควรจะเป็นคนที่โกรธในรอบนี้ต่างหาก

“ดาวิส เจ้าโง่! เวลาของอสูรดวงใจน่ะไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ แต่เจ้าก็อยู่ในนั้นมาเกินหกชั่วโมง! ดูแม่เจ้าสิว่าเป็นห่วงเจ้าขนาดไหน ฮื่ม! ถ้าเจ้าไม่ออกมาข้านี่แหละจะไปฆ่าเจ้าเอง!”

โลแกนอธบิายด้วยใบหน้าโมโห แต่เขาไม่ได้หมายความแบบนั้นแน่นอน

เพราะในเวลานั้น เขาเป็นคนที่ไม่เด็ดขาดว่าจะหยุดค่ายกลและไปช่วยดาวิสดีหรือไม่

แต่ถ้าหากเขาทำแบบนั้น เขาเชื่อว่าจะต้องเกิดผลตามมาที่มิอาจจินตนาการได้ เขาจึงเลือกที่จะศรัทธาในตัวลูกชาย

เคราะห์ดีที่เขาเห็นลูกชายออกมาหลังจากหกชั่วโมง มิเช่นนั้นเขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากหยุดค่ายกล

“พอเจ้าไปที่หอไถ่ถอนเกินหนึ่งชั่วโมง แม่เจ้าก็ออกจากปราสาทมาแล้ว! แม่รอเจ้าอีกสองชั่วโมงเพราะเป็นห่วง แต่หลังจากนั้นก็ร้องไห้ไปหนึ่งชั่วโมงแล้วก็เป็นลม แม่เจ้าเพิ่งจะตื่นมาไม่นาน เจ้านี่มันอัปยศจริง ๆ! ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับแม่และลูกในท้องจะทำยังไงหา!?”

เมื่อเห็นว่าลูกชายไม่เป็นอะไร โลแกนจึงอยากจะตำหนิลูกชายแรง ๆ

“ท่านแม่ ข้าขอโทษ ข้าขอโทษที่ทำท่านแม่เป็นห่วง ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำให้แม่…”

ดาวิสรู้ตัวว่าทำผิดและรีบขอโทษแต่ก็ถูกขัดเสียก่อน

“ลูกโง่ เจ้าจะสัญญาแบบนั้นไม่ได้ อนาคตข้างหน้าเจ้าต้องสยายปีกโบยบินไป ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ไหน แม่ก็จะเป็นห่วงลูกเสมอ”

แคลร์รู้ว่าลูกชายจะทะยานขึ้นไปสูงกว่าใครในภายภาคหน้า นี่คือความมั่นใจที่นางมีต่อลูกชายผู้เป็นความภาคภูมิใจของนาง

ดาวิสรู้สึกหวั่นไหว

แม้ว่าจะไม่ใช่ความผิดเขาโดยตรง เขารู้สึกว่าดีกว่าถ้าเขาจะขอโทษและปลอบแม่ด้วยคำพูดแบบนั้นเพราะเขารู้ว่าการตั้งครรภ์นั้นมีความอันตรายต่อสตรีที่บ่มเพาะพลังยิ่งกว่าสตรีธรรมดา

มันมีความซับซ้อนมากมายที่จะทำให้ทารกในครรภ์เป็นอันตรายถ้าหากผู้ตั้งครรภ์ไม่ดูแลให้ดี…และเขา ดาวิส ก็ทำให้แม่ที่กำลังตั้งครรภ์ร้องไห้จนเป็นลมไป

นี่อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายขึ้น ดังนั้นเขาจึงอดรู้สึกผิดอย่างมากไม่ไหวในเวลาเดียวกัน

“เอาล่ะ กลับปราสาทกันเถอะ…”

โลแกนส่ายหน้าพูด

“อืม…”

ทั้งสองพยักหน้า

=====

ณ ที่พำนักจักรพรรดิ

“ว่าไงล่ะ? เจ้าทะลวงพลังมาใช่ไหม?”

โลแกนถามด้วยความสงสัย

จี้ที่ดาวิสสวมนั้นทำให้เขาปกปิดพลังบ่มเพาะวิญญาณได้ โลแกนจึงบอกได้ยาก

“ใช่ ข้าเป็นขั้นก่อวิญญาณระดับกลางแล้ว”

ดาวิสตอบด้วยรอยยิ้ม

“ดี!”

โลแกนพยักหน้าด้วยความพอใจ

“ดาวิส ใช้สัมผัสวิญญาณสิ”

แคลร์พูดและแตะระหว่างคิ้วของนาง

ดาวิสใช้สัมผัสวิญญาณในทันทีเพราะเขารู้วิธีปล่อยสัมผัสวิญญาณจากการอ่านพื้นฐานมาแล้ว

พลังงานโปร่งใสที่มีแสงสีทองอ่อนกระจายไปทั่วห้าสิบเมตรจากตัวเขาเป็นทรงกลม ในพื้นที่นี้เขาสามารถรับรู้ทุกสิ่งในระยะได้ มันเป็นความรู้สึกแปลกที่ทำให้เขาอึ้งไปชั่วขณะ

ดาวิสตกอยู่ในภวังค์นั้น เขาเชื่อมโยงกับสิ่งรอบข้างขณะที่โลแกนและแคลร์อ้าปากค้าง

“ข้ารู้ว่าวิญญาณของเขาแข็งแกร่ง แต่ไม่น่าจะแข็งแกร่งขนาดนี้…”

แคลร์พูดเบา ๆ

ดาวิสสับสน ส่วนใดกันที่ทำให้พวกเขาพูดว่าวิญญาณของเขาแข็งแกร่งมาก แต่เขาก็รู้ตัวในทันที

“คนทั่วไปที่มีพลังบ่มเพาะขั้นก่อวิญญาณระดับกลางจะปล่อยสัมผัสวิญญาณได้แค่สิบเมตร แต่เจ้ากลับขยายไปได้ถึงห้าสิบเมตร”

“มันพอจะบอกได้ว่าวิญญาณเจ้าแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปที่บ่มเพาะวิญญาณห้าเท่า”

แคลร์อธิบาย

“แต่ทำไมข้าถึงปล่อยสัมผัสวิญญาณไม่ได้ถึงห้าเมตรตอนที่ข้าเป็นขั้นก่อวิญญาณระดับต่ำล่ะ?”

ดาวิสถามสิ่งที่สงสัย

“เจ้าโง่”

แคลร์หัวเราะเบา ๆ

“มันไม่ได้ทำงานแบบนั้น ผู้บ่มเพาะทั่วไปในขั้นก่อวิญญาณระดับต่ำทำได้แค่นำวิญญาณออกจากร่างเมื่อร่างกายถูกทำลาย แต่ถึงอย่างนั้นดวงวิญญาณก็จะระเหยไปอย่างรวดเร็วถ้าหาสมบัติที่เข้ากันเพื่อเก็บวิญญาณไม่ได้”

“ผู้บ่มเพาะระดับก่อวิญญาณระดับต่ำที่อ่อนแอมักจะใช้สัมผัสวิญญาณได้อยู่แล้ว มีแค่คนที่มีดวงวิญญาณแข็งแกร่งเท่านั้นที่จะใช้สัมผัสวิญญาณมองดูร่างกายตัวเองได้สองหรือสามครั้งในตอนที่เป็นขั้นก่อวิญญาณระดับต่ำ เหมือนกับพ่อเจ้า”

แคลร์อธิบายอย่างอดทน

โลแกนทำหน้าภูมิใจเมื่อได้ยินนางพูดอย่างนั้น แต่เขาก็เศร้าใจเมื่อคิดว่าลูกชายได้เอาชนะเขาไปแล้ว

“ดาวิส เจ้าน่าจะปลดชั้นแรกของหมอกแสงศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว ใช้ให้แม่ดูหน่อยสิ”

“ชั้นแรกเหรอ? ได้เลย”

ดาวิสพยักหน้าและหมุนเวียนวิญญาณเพื่อใช้หมอกแสงศักดิ์สิทธิ์ชั้นแรก

ชั้นของวิชาบ่มเพาะนั้นเข้าใจได้ง่ายไม่เหมือนกับวิชาต่อสู้ที่ต้องใช้การทำความเข้าใจ ข้อกำหนดเบื้องต้นคือการไปถึงขั้นพลังที่ต้องการเพื่อที่จะฝึกวิชาบ่มเพาะนั้น

แน่นอนว่าถ้าหากโง่เขลาและไร้พรสวรรค์ ก็จะพบว่ายากที่จะเข้าใจชั้นของวิชาบ่มเพาะแม้จะมีขั้นพลังเพียงพอแล้ว

พลังสีทองสว่างจ้ากระจายไปสิบเมตรจากตัวดาวิส ดาวิสรู้สึกราวกับว่าไม่มีสิ่งใดสามารถทำอะไรดวงวิญญาณเขาได้ในพื้นที่นี้

“เกราะวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่เจ้าสร้างขึ้นมาก็แข็งแกร่งด้วย”

ทั้งสองไม่ได้ตกใจในตอนนี้อีกแล้ว

“แม้แต่ผู้บ่มเพาะขั้นก่อวิญญาณระดับสูงสุดก็ยากมากที่จะทำลายมัน”

โลแกนถอนหายใจยอมรับ เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังคิดแข่งกับลูกชายอยู่

“งั้นเหรอ?”

ดาวิสคาดหวังมากกว่านั้น เขาอยากจะอัดใครก็ตามที่อยู่รอบ ๆ เขาให้ได้

*แค่ก*  *แค่ก*

“หึ ถ้ามันจบแค่นี้ก็ไม่ต่างจากวิชาบ่มเพาะวิญญาณทั่วไปที่สร้างเกราะวิญญาณได้น่ะสิ”

แคลร์พูดอย่างมั่นใจ

“ลองลดขนาดของมันลงให้คลุมแค่ร่างกายเจ้าไว้สิ”

ดาวิสพยักหน้าและลองลดขนาดพื้นที่พลังสีทอง

จากนั้นพื้นที่พลังสีทองก็ลดขนาดลงจนปกคลุมแค่ร่างกายเขาเท่านั้น

โลแกนและแคลร์มองวิญญาณที่ไม่ใช่แค่แข็งแกร่งแต่ยังบริสุทธิ์

“น่ะ…นี่มันไม่ใช่ว่าผู้บ่มเพาะขั้นวิญญาณทารกยังทำลายเกราะวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ได้ยากเลยหรือ?”

โลแกนพูดเบา ๆ

แคลร์เองก็อึ้งไปเช่นกัน

นางตอบออกมาโดยไม่รู้ตัว

“ใช่แล้ว”

ขั้นวิญญาณทารกคือขั้นที่สองของการบ่มเพาะวิญญาณ

ดาวิสดูดีจ แต่ขณะเดียวกันก็ผิดหวังที่คิดว่าเกราะนั้นใช้กับผู้บ่มเพาะขั้นวิญญาณอ่อนไม่ได้ เขาไม่รู้ว่าพ่อแม่เปรียบเทียมเขาโดยไม่รู้ตัวกับผู้บ่มเพาะอื่นที่บ่มเพาะวิชาบ่มเพาะวิญญาณชั้นนภา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด