ตอนที่แล้วตอนที่ 98 การจู่โจมอีกครั้ง? (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 100 ผู้จัดการประมูลกับผู้เข้าร่วมการประมูล (อ่านฟรี)

ตอนที่ 99 ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน (อ่านฟรี)


แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร

ตอนที่ 99 ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน

[ผู้แปล : ขออนุญาติแก้ชื่อจาก ‘แร็กนาร์’ เป็น ‘รักนาร์’ นะครับ ถ้ามีเวลาผมจะกลับไปไล่แก้ชื่อตอนเก่าๆ ทุกตอนนะครับ]

"นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่?"รักนาร์ออกมาจากร้านด้วยแขนที่เต็มไปด้วยกล่องบรรจุภัณฑ์และข้าวของที่ซื้อมา การได้เห็นฝูงชนมารวมตัวกันข้างนอกทำให้เขาตกตะลึง แต่พอได้เห็นแม็กนัสอยู่ตรงกลางทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายขึ้น

เขาไปหาแม็กนัสอย่างใจเย็นและถามว่า "เกิดอะไรขึ้น?"

"ฉันก็ไม่รู้ จู่ๆ พวกนั้นก็โผลเข้ามาหาฉันจากด้านหลัง" แม็กนัสกล่าวตอบ

"เปล่านะ... เราไม่ได้ตั้งใจจะจู่โจมพระองค์นะพะย่ะค่ะ เราแค่อยากจะคุยกับฝ่าบาท" หนึ่งในนั้นตะโกนมา

เมื่อเห็นความจริงใจในน้ำเสียงของเขา แม็กนัสลดดาบและไม้กายสิทธิ์ลง

"แล้วพวกคุณอยากพูดเรื่องอะไรครับ? แล้วทำไมถึงได้โผล่มาพลวดพลาดแบบนี้” แม็กนัสถามพวกเขา

"เรา... เราเป็นสมาชิกระดับบริหารของกองทัพแห่งเมอร์ลิน ส่วนใหญ่เป็นพวกมักเกิ้ลบอร์น สควิบส์ และพ่อมดชายขอบคนอื่นๆ ตั้งกลุ่มนี้ขึ้นหลังจากได้ยินเรื่องเกี่ยวกับฝ่าบาท เราถือว่าพระองค์เป็นผู้นำของเราพะย่ะค่ะ” พวกเขากล่าว

แม็กนัสถอนหายใจ “แล้วเป้าหมายของกลุ่มคุณคืออะไรกันแน่?”

"เพื่อความอยู่รอดพะย่ะค่ะ การไม่ถูกเลือกปฏิบัติจากพวกเลือดบริสุทธิ์และพวกผู้ก่อการร้าย เพื่อจะได้มีปากเสียงต่อรองกับกระทรวง” พวกเขาทูลตอบว่า

แม็กนัสส่ายหัว "งั้นพวกคุณก็มาผิดคนแล้วครับ ถ้าคุณมาอยู่กับผม คุณจะตกเป็นเป้ามากขึ้นจากคนที่คุณต้องการปกป้อง"

"เราจะสู้..." พวกเขายืนกราน

"ไปหางานทำเถอะครับและสร้างรายได้ แต่งงานกับใครสักคนถ้าคุณยังไม่มีและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ทำไมคุณถึงต้องมาเสียเวลาและพลังงานไปกับสิ่งเหล่านี้ด้วย?” แม็กนัสถาม

“แต่งงานกับใครหรือพะย่ะค่ะ? ทำไมเราต้องแต่งงานกับมักเกิ้ลที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่และปล่อยให้พวกเขาถูกพวกเลือดบริสุทธิ์ตั้งเป็นเป้าหมายด้วยล่ะพะย่ะค่ะ? ทำไมกระหม่อมถึงควรมีลูก ทั้งๆ ที่กระหม่อมรู้ว่าพวกเขาจะถูกเลือกปฏิบัติแน่ๆ ? เราต้องการยุติความบ้าคลั่งพวกนี้เสียทีพะย่ะค่ะ และเพื่อสิ่งนี้เราก็พร้อมที่จะต่อสู้ เรารู้ว่าฝ่าบาททรงทำอะไรเมื่อสองสามวันก่อน พระองค์ทรงสังหารผู้เสพความตาย 4 คนด้วยพระองค์เองได้อย่างไร เราทุกคนกำลังพูดถึงเรื่องนี้อย่างเงียบๆ

โปรดชี้ทางสว่างให้กับพวกกระหม่อมที ถ้าขนาดฝ่าบาท ผู้ซึ่งมีสายเลือดบริสุทธิ์จากทั้งกษัตริย์อาเธอร์และสายเลือดอันทรงพลังแห่งเมอร์ลินยังถูกเรียกว่าเลือดสีโคลน และถูกจู่โจม เช่นนั้นเราจะเป็นอะไรไปได้อีก ต่ำต้อยยิ่งกว่าเศษธุรีดินด้วยซ้ำ?”   ไม่นานมานี้คนที่อยู่ภายใต้มนต์เสน่ห์ผูกมัดเต็มตัวก็ถามขึ้น

แม็กนัส ไม่มีคำตอบสำหรับเรื่องนี้จริงๆ และสิ่งที่ชายคนนั้นพูดก็กระทบใจเขาเช่นกัน ~ อันที่จริงถ้าขนาดกษัตริย์ก็ยังถูกมองว่าเป็นพวกเลือดสีโคลน แล้วคนทั่วไปจะเป็นยังไง ~

แม็กนัสถอนหายใจ "ตกลงครับ ให้ข้อมูลติดต่อของคุณแก่ผม ผมจะติดต่อคุณกลับไปเมื่อผมพร้อมที่จะทำบางอย่าง”

ชายทั้งสามรีบส่งที่อยู่ให้เขาอย่างรวดเร็วและขอบคุณเขาหลายครั้ง หลังจากนั้น แม็กนัส ก็ผลักพวกเขาไปที่บ้าน ยิ่งพวกเขาอยู่ที่นั่นนานเท่าไหร่ ก็ยิ่งตกเป็นเป้าหมายพวกเลือดบริสุทธิ์ได้ง่ายขึ้นเท่านั้น

จากนั้นเขาก็กลับไปที่บ้านเพื่อบอกพ่อแม่ของเขาเกี่ยวกับแผนการเดินทางไปซาอุดีอาระเบียที่กำลังจะมาถึง

"แม่ฮะ พ่อฮะ เราจะไปริยาดในช่วงปีใหม่นี้นะฮะ รีบไปเก็บของกันเถอะฮะ" แม็กนัสตะโกนทันทีที่เขาเข้าไปในบ้าน

อดัมตัวแข็งค้างกลางคัน ปีกไก่ที่เขากินก็ยกค้างใกล้กับปากของเขาที่กำลังอ้าปากกว้าง เกรซก็มีปฏิกิริยาเช่นเดียวกันเมื่อเธอมองไปที่แม็กนัสจากโซฟาหลังทีวี

"ทำไมทุกครั้งที่ลูกเข้าบ้านก็มักจะมีระเบิดลงตลอดเลยล่ะจ๊ะ? แผนนี้มาจากไหนอีกหือ?” เกรซถาม

แม็กนัสยิ้มเหมือนเด็กไร้เดียงสาบริสุทธิ์ และวิ่งเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของแม่เพื่อปลอบประโลม อันที่จริงเขาแค่กำลังทำให้เธอแทบคลั่งอยู่แล้ว แต่ถึงกระนั้น

"แม่จ๋าจำตอนที่เราซื้อบ้านใหม่ได้ไหมฮะ?” เขาถาม

“จ่ะ แล้วไงล่ะ?” เธอถามกลับ

"อันที่จริงผมไม่มีเงินจ่ายฮะ ผมหมายถึงความมั่งคั่งทั้งหมดของผมอยู่ในรูปของทองคำและพวกอัญมณี ถ้าผมใช้ทองคำโดยตรง มันจะทำลายราคาทองคำทั่วโลก และอาจทำให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจที่สำคัญกับโลก ดังนั้น ผมจึงตัดสินใจขายเพชรสีน้ำเงินเม็ดใหญ่ในการประมูลที่กำลังจะมีขึ้นสำหรับผู้ที่ร่ำรวยมหาศาลในซาอุดีอาระเบียฮะ" แม็กนัสเปิดเผย

เกรซหยุดลูบหัว "อืม... ตอนนี้ลูกฉลาดเกินอายุไปไกลแล้วนะจ๊ะ ลูกบอกเราเพราะลูกรู้ว่าเราไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากยอมรับมันสินะจ๊ะ แต่ลูกจ๋าลืมไปหรือเปล่า… ว่าเราได้ 2 ล้านจากพวกราชสำนักน่ะหืม?”

"ไม่ฮะ! เราจะไม่ใช้เงินนั้น นั่นคือเงินส่วนตัวของพ่อกับแม่ และที่ผมบอกแม่เพราะผมรู้ว่าพ่อแม่จะไม่ปล่อยให้ผมไปคนเดียว แม้ว่าผมจะทำได้ก็ตาม” แม็กนัสอธิบาย

"ไม่! ไม่มีทาง! ลูกยังเล็กเกินไปที่จะเดินทางไปยังสถานที่เหล่านั้นเพียงลำพัง เราจะไปที่นั่นด้วยกัน” เธอพูดทันที

~อ่าแม่ฮะ ผมจะบอกแม่ได้ไงว่าลูกของแม่ต้องเผชิญอันตรายอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน~ แม็กนัสครุ่นคิดอยู่ลึกๆ

“ว่าไงครับพ่อ?” แม็กนัสถาม

"ถ้าเกรซจะไป พ่อก็จะไปด้วย อีกอย่างเราไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันนานมากแล้ว พ่อจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เราออกไปนอกประเทศ คือตอนที่ลูกอายุแค่ 1 ขวบ หน้าลูกแทบจะติดอยู่กับหน้าต่างเครื่องบินตลอดเวลา ไม่ขยับแม้ผ้าอ้อมของลูกจะเต็ม” อดัมเห็นด้วยแม้ว่าเรื่องที่เขาเล่าจะไม่จำเป็นก็ตาม

[5555555555 ฮาแม็กนัสน้อย]

แต่แม็กนัสไม่ต้องการให้พ่อแม่ของเขาถูกเปิดโปงที่กระทรวง เพราะต้องใช้กุญแจที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวง ต้องไปที่นั่น "โอเคครับ! ผมจะจองตั๋วชั้นเฟิร์สคลาส สำหรับพวกเราทุกคน วันหยุดของเราจะต้องสนุกแน่ๆ”

เหมือนอย่างเคย พูดเรื่องเที่ยววันหยุดทีไร แม็กนัสมักจะตื่นเต้นเกินเหตุทุกที

...

โค้กเวิร์ธ,

สเนปสวมชุดที่ดีที่สุดของเขาและล่องลอยออกไปนอกบ้าน จุดหมายปลายทางของเขาคือต้นไม้ที่เขาได้พบกับลิลี่เป็นครั้งแรก เดิมทีวันที่เขาพบกันที่นี่เป็นวันที่น่าหดหู่ใจมากสำหรับเขา เพราะเขาเพิ่งทะเลาะกับพ่อและเห็นแม่ของเขาถูกทุบตีเป็นครั้งแรก

จากนั้นเขาได้พบกับลิลี่ เด็กสาวที่เกิดในตระกูลมักเกิ้ล สับสนเกี่ยวกับความสามารถทางเวทมนตร์ของเธอเอง และถูกพี่สาวของเธอบูลลี่ เขาเกลียดพี่สาวของเธอสุดหัวใจ

ตอนนี้เขาเตรียมสร้อยข้อมือไว้ในกระเป๋าและห่อของขวัญด้วยตัวเอง

ในไม่ช้า ต้นไม้ใหญ่ดังกล่าวก็ปรากฏให้เห็น และเธอก็อยู่ที่นั่น ในชุดฤดูหนาวสุดน่ารักของเธอ ผมสีแดงของเธอเปล่งประกายราวกับในวันฤดูใบไม้ผลิที่สวยงาม

"สุขสันต์วันคริสต์มาสนะ เซฟ" ลิลลี่ทักทายอย่างร่าเริง

รอยยิ้มที่เปล่งประกายของเธอทำให้สเนปรู้สึกอบอุ่น ปกติเขาจะไม่พูดจาอ่อนหวานกับใคร แต่กับลิลี่ต่างออกไป “เช่นกันนะลิลลี่ นี่ของขวัญจากฉัน”

ลิลลี่ตื่นเต้นและรีบเปิดมัน "อ๊ะ... ขอบคุณนะ เซฟ"

ในไม่ช้าเธอก็ได้สร้อยข้อมือมาไว้ในมือ และเธอก็รู้สึกทึ่งในความงามของมัน นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนมอบเครื่องประดับให้เธอเป็นของขวัญ พ่อแม่ของเธอยังคงปฏิบัติกับเธอเหมือนเด็กเล็กๆ และให้ตุ๊กตาเป็นของขวัญ ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนเป็นผู้ใหญ่แล้วจริงๆ

“อา มันต้องแพงมากแน่ๆ เซฟ ทำไมเธอต้องเสียเงินมากมายขนาดนี้ด้วย” เธอรีบถาม เธอรู้สถานะทางการเงินของสเนปดีและไม่ต้องการเป็นต้นเหตุของปัญหาของเขา

สเนปยิ้มเบาๆ “มันไม่มีค่าอะไรกับฉันเลย เชื่อฉันสิ นอกจากนี้ ตอนนี้ฉันได้รับเงินจากค่าสิทธิบัตรใหม่ของฉันแล้ว แถมยังมีเซอร์ไพรส์อีกนะ ฉันเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในละแวกบ้านของเธอพร้อมกับแม่ของฉันล่ะ เราอาศัยอยู่ห่างจากบ้านเธอไม่กี่หลัง”

ลิลลี่รู้สึกประหลาดใจกับสิ่งนี้จริงๆ “หมายความว่าตอนนี้ฉันไม่ต้องนั่งเบื่อการอยู่บ้านแล้วใช่ไหม เฮ้ บ้านเธอมีห้องทดลองปรุงยาไหม?”

~ฉันต้องรีบสร้างห้องทดลองปรุงยาโดยด่วนเลย~ สเนปตัดสินใจอยู่ในใจ

"ยังไม่มีหรอก แต่ฉันจะทำทันทีที่ได้รับเงินเดือนจากสิทธิบัตรแรกน่ะ เธอสามารถมาที่บ้านฉันได้ตลอดเวลาเลย เรามาเรียนปรุงยาขั้นสูงด้วยกันได้นะ” เขาเสนอ

"นั่นคงจะวิเศษมากเลย แล้วเราจะได้..."

พวกเขาพูดคุยเกี่ยวกับการปรุงยาเป็นเวลานานเพราะทั้งคู่ต่างก็ชอบวิชานี้ แต่มีความแตกต่างระหว่างพวกเขาอยู่

แม้ว่าลิลี่จะได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะด้านการปรุงยาจากซลักฮอร์น แต่ฝีมือของเธอก็ยังไม่อาจเทียบเท่ากับสเนป เหตุผลก็ง่ายๆ ลิลลี่มักจะทำตามหนังสืออย่างเคร่งครัด

ยาของเธอได้มาตรฐานตามแบบหนังสือเรียน แต่ในขณะเดียวกัน สเนปกลับคิดนอกกรอบมากกว่าและค้นพบแก้ไขวิธีการในหนังสือและเปลี่ยนยาที่ได้ตามมาตรฐานอยู่แล้วให้กลายเป็นยาที่พิเศษขึ้น

แม็กนัสแย่กว่าลิลลี่อีก เนื่องจากอัตราความสำเร็จของเขาต่ำมาก แต่ข้างกายเขามีรักนาร์ผู้คลั่งไคล้การปรุงยาขั้นสุดและตอนนี้เป็นอักษรรูนโบราณ เขาได้รับการขนานนามว่าเป็นอัจฉริยะด้านการปรุงยาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งศตวรรษ

สเนปรู้สึกสบายใจที่ได้คุยกับเธอ เขาสามารถเห็นพัฒนาการจากมิตรภาพของพวกเขา

"แล้ววันหยุดของเธอเป็นไงบ้างล่ะ?" เขาถาม

"น่าเบื่อเหมือนเดิมแหละ ฉันใช้เวทมนตร์ที่บ้านไม่ได้ แถมพี่สาวของฉันก็มักจะกวนประสาทฉัน พ่อกับแม่ยุ่งกับงานด้วย แล้วเธอล่ะ” เธอถามกลับ

“อ๋อ ฉันก็ได้เจอเพื่อนนะและไปเที่ยวที่ไหนสักแห่ง” สเนปตอบ

“จริงเหรอ? มีแม็กนัสด้วยเหรอ? เขาคลั่งไคล้ในการแข่งขันควิดดิชมากเลย พูดตามตรงฉันเกลียดกีฬานั่นแต่การได้ดูเขาเล่นมันก็ทำให้ตื่นเต้นมาก เขาเก่งไปหมดทุกอย่างเลย ก็ยกเว้นการปรุงยาอ่ะนะ ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันจะได้รู้จักกับกษัตริย์แห่งอังกฤษในอนาคต...” เธอพูดไม่หยุด

ยิ่งเธอพูดหน้าของสเนปก็ยิ่งมืดลง เขานึกขึ้นได้ว่า "งั้นเธอก็ชอบเขา..."

"ช่าย..." หลังจากนั้น สเนปก็คุยกับเธอตามปกติ ไม่นานก็ถึงเวลาอาหารกลางวัน พวกเขาบอกลาและกลับบ้าน ตอนนี้สเนปรู้สึกหดหู่ทันทีเมื่อเทียบกับอารมณ์ที่มีความสุขในตอนเช้า

[A/N จากผู้เขียน (ไม่เกี่ยวกับผู้แปลนะฮะ): พูดตามตรงเลยนะ สาวๆ โดยเฉพาะพวกวัยรุ่น มักจะเลือกผู้ชายที่ดูดีก่อนอย่างอื่น พวกเธอมักจะเลือกผู้ชายที่ฮอตไว้ก่อนเสมอ แม้ว่าจะมีตัวเลือกอื่นที่เป็นผู้ชายหน้าตาบ้านแต่มีเงินระดับมหาเศรษฐีพันล้านที่รักเธอก็ตาม สามารถไปได้ทั้งสองทาง พวกคนหนุ่มสาวมักจะให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์เท่านั้น ซึ่งสเนปโดยหลักๆ แล้วถูกกล่าวว่าเขาไม่หล่อ เห็นได้ชัดว่าสาวยอดนิยมอย่างลิลี่จะไม่ตกหลุมรักเขาโดยแรกเริ่ม แต่อาจจะรักได้เพราะเขาดีกับเธอภายหลัง

อีกอย่างจะไม่มีเรื่องสเนปมีปัญหากับแม็กนัสเพราะเรื่องลิลลี่เด็ดขาด]

[ผู้แปล : ข้อพวกนี้ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับผู้เขียนเท่าไหร่ อันที่จริงส่วนใหญ่แล้วอาจจะเป็นแบบนั้น แต่นิสัยของลิลลี่เธอมักไม่ค่อยสนใจรูปร่างน่าตา ดูได้จากนิสัยตอนเด็กของเธอจากเนื้อเรื่องหลักของเจเค เธอมามีปัญหากับสเนปก็เพราะถูกเขาด่าเสียๆ หายๆ ต่างหาก ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาถึงจุดแตกหัก(ถึงแม้สเนปจะไม่ได้ตั้งใจว่าเธอก็ตาม) ]

_____________________________

เพจแปลถ้าเช่นนั้นข้าขอลา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด