ตอนที่แล้วตอนที่ 496 ถงเก๋อแห่งวิญญาณมืด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 498 ค่าพลังวิญญาณ

ตอนที่ 497 พลังแสงสาง


ซี่ซี่ซี่,  น้ำแข็งใต้เท้าของเย่เฉาเกอเริ่มละลายหมอกหนาฟุ้งกระจายโดยรอบ ร่างที่ถูกครอบคลุมอยู่ในแสงมองเห็นเลือนราง

อากาศรอบตัวเย่เฉาเกอเริ่มเกิดแสงเจิดจ้านับไม่ถ้วน แสงนั้นเป็นเหมือนฝุ่นที่บาง กำลังลอยขึ้นมาเหมือนกับกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่เบาลอยอยู่ในอากาศ

นี่คือพลังงานที่ฉายขึ้นไปในอากาศ

ดาวที่เหมือนฝุ่นลอยอยู่ในพื้นที่ว่างและขยายออกไปไม่หยุดทำให้พวกเซียนผู้มองดูสีหน้าเปลี่ยน ทุกคนค่อยๆ ถอยหลังออกไป

“แสงสาง!  มันคือแสงสาง!”

กลุ่มคนตกใจและเกิดความโกลาหลขณะที่พวกเขาเริ่มเปลี่ยนแปลงสีหน้า สายตาพวกเขามองดูเย่เฉาเกอด้วยท่าทางกลัว ไม่มีใครคุ้นเคยกับเคล็ดจิตวิญญาณ  แต่ไม่มีเซียนนักสู้คนใดที่ไม่รู้จักวิชาจิตวิญญาณชื่อแสงสาง

นอกจากวิชาจิตวิญญาณชุดแสงสำหรับนักสู้ระดับบรอนซ์ของสมาพันธ์ชาวยุทธวิชาจิตวิญญาณที่ขึ้นชื่อมากที่สุดก็คือ แสงสาง แสงอรุณและแสงดารา แสงสางคือวิชาจิตวิญญาณระดับบรอนซ์ที่ขึ้นชื่อและขึ้นชื่อว่าเป็นวิชาที่เรียนได้ยาก

การฝึกแสงสางมีความยากมาก  ยากมากกว่าวิชาจิตวิญญาณอีกสองวิชา ยิ่งไปกว่านั้นในแผนกของสมาพันธ์ชาวยุทธมีเซียนน้อยคนนักที่สามารถฝึกพลังแสงสางได้โดยตรง

รังสีแสงสางแผ่กว้างไปไกลถึงสิบห้าฟุตจากนั้นจึงค่อยเงียบลง

ตาของผู้อาวุโสหวีเป็นประกายชื่นชม  พรสวรรค์ของเย่เฉาเกอน่าตกใจจริงๆในช่วงเวลาสั้นๆ อย่างนั้นก็สามารถเข้าใจแสงสางได้

นี่ยังเป็นต้นเหตุแห่งความมั่นใจของเขา  ความสำเร็จในวิชาแสงสางของเย่เฉาเกอ  แม้ว่าจะเป็นแค่การแนะนำ แต่ก็เพียงพอแล้ว  เพราะมันคือวิชาแสงสาง!

ถงเก๋อที่อยู่ในระยะไกลก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ  “เย่เฉาเกอเรียนวิชาแสงสางได้จริงๆ!”

แม้แต่บุรุษวัยกลางคนก็มีสีหน้าตื่นเต้นขึ้นเล็กน้อย

ความชิงชังกันระหว่างองค์การวิญญาณมืดและสมาพันธ์ชาวยุทธดำเนินมาเป็นเวลานานแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ความหมายและว่าแสงสางเป็นตัวแทนของอะไร  สำหรับองค์การวิญญาณมืด  พวกเซียนทุกคนสามารถเรียนรู้พลังแสงสางได้เป็นเป้าหมายที่ต้องระมัดระวังสำหรับองค์การวิญญาณมืดทุกคน  ในประวัติศาสตร์ของสมาพันธ์ชาวยุทธ  เซียนทุกคนที่เรียนรู้พลังแสงสางนับว่าเป็นคนแข็งแกร่งจริงๆ

กล้าฝึกพลังแสงสางย่อมเป็นสัญลักษณ์ถึงความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่สำหรับเซียนสมาพันธ์ชาวยุทธ

วิชาจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง  จำเป็นอย่างสูงต่อเซียนนักสู้   ถ้าบังคับให้ฝึก ผลก็จะอันตรายท่านสามารถใช้รักษาชีพจรที่บาดเจ็บ แต่ถ้าสนามพลังวิญญาณได้รับบาดเจ็บด้วย ก็เทียบเท่ากับคนพิการ  การเลื่อนขึ้นของเซียนนั้นนับว่ายากมาก  ทุกๆ ก้าวเหมือนกับเดินอยู่บนแผ่นน้ำแข็งโบราณเปราะบางต้องเดินช้า และระมัดระวัง แม้ชะล่าใจเล็กน้อยก็หมายความว่าร่วงลงไปสู้เหวที่ลึกล้ำ

เย่เฉาเกอเข้าใจแสงสางได้จริงๆ

องค์การวิญญาณมืดไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้และทั้งสองคนนี้จะไม่ตกใจได้อย่างไร?  นี่หมายความว่าองค์การวิญญาณมืดยังมีคนแข็งแกร่งอยู่ใต้บังคับบัญชาอยู่ในฝ่ายพวกเขา

เมื่อแสงเปล่งวาบขึ้นมา ถังเทียนรู้สึกได้ถึงคลื่นพลังที่อันตรายพลุ่งขึ้นมาจากใจของเขา  เขารู้สึกได้ถึงอันตรายในทุกที่  ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด

นี่ยังเป็นวิชาจิตที่อันตรายเต็มไปด้วยความงดงาม....

ถังเทียนตื่นตระหนกวิชาจิตวิญญาณที่คาดไม่ถึงนี้ เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน  มันทำให้เขาตาเบิกกว้าง ใจของเขาชื่นชมยินดีอย่างอธิบายไม่ถูก รังสีแสงหนาหมือนกับกระแสน้ำ และสามารถทำให้เกิดเปลวพลังงานในอากาศ...

แม้แต่แนวโน้มของการกระตุ้นทักษะก็ยังแข็งแกร่งและน่าตกใจมาก

ถังเทียนไม่ขยับ เมื่อเขาเข้าสู่พื้นที่หนาแน่นไปด้วยกลุ่มแสง  เขาจะเป็นเหมือนแมงเม่าบินเข้ากองไฟ  ภาพลวงตาเลือนรางอยู่ในวงล้อมของแสงสาง เหมือนเกิดอยู่ในโลกอื่น

โลกแห่งพลังกดขี่ทำลายล้าง

ต้องสร้าง....ใช่แล้ว  ต้องสร้างโดยใช้พลังงานที่ทรงพลังอย่างมาก!

ทันใดนั้นถังเทียนตระหนักในใจได้ทันที การสร้างส่วนของสนามพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด  สนามพลังวิญญาณของเขาก็คือร่างวิญญาณ  แม้ว่าเขาต้องการจะสร้างอะไรบางอย่าง ก็ต้องให้เสี่ยวเอ้อทำเขาไม่มีทางอื่นทำได้จริงๆ หรือ?

เขาช่างไร้ประโยชน์จริงๆหรือ?

ไม่! ต้องมีสักทางแน่นอน!

ถังเทียนไม่ยอมจำนน  เขาเค้นสมองคิดหาวิธีการ

สร้าง....สร้าง.....

ในเวลาไม่นานความคิดระห่ำก็เกิดขึ้นในหัวของเขา

บางที....

เสี่ยวเอ้อไม่คิดถึงมัน  เย่เฉาเกอดุดันจริงๆ จนทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป

ถังเทียนไม่รู้ว่าแสงสางทรงพลังมากเพียงไหน  เขาจะรู้ได้ยังไง?  ระดับพลังของเย่เฉาเกอเกินกว่าที่เขาคาดไปมาก

ทำไมเขาถึงได้ซวยนักนะ?

สุ่มเลือกคนดันกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งมากไปเสียได้  ถ้าเป็นเขาควบคุมร่างกาย  เขารับว่าเขามีพลังพอจะเอาชนะเย่เฉาเกอ  อย่างไรก็ตามร่างกายยามนี้ถูกเจ้าโง่ควบคุม

บัดซบเอ๊ย!

“เสี่ยวเอ้อ!”

เพียงเมื่อเสี่ยวเอ้อหงุดหงิดจนถึงขีดจำกัด  เสียงของถังเทียนดังขึ้นทันทีในใจเขา  ในเสียงนั้นไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อย  แต่เป็นความกระตือรือร้น

เจ้าโง่เอ๊ย  เจ้าไม่รู้หรือว่าแสงสางคืออะไร?

“รวมพลังมาครอบคลุมในมือของข้าให้มากเท่าที่เป็นไปได้!”

น้ำเสียงของถังเทียนเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ  เสี่ยวเอ้อคิดจะบอกเขาว่าอย่าเปลืองพลังงาน  แต่ขณะที่เขาจะอ้าปากพูด  เขาไม่สามารถพูดอะไรได้ คลื่นพลังงานรวมตัวกันเหมือนกระแสน้ำบนหมัดของถังเทียน

เห็นฝุ่นละเอียดอ่อนเรืองแสงเหมือนชิ้นดวงดาวหลากสีสันรุมล้อมหมัดของถังเทียนและเริ่มหมุนรอบ

“เอาอีก!”

ถังเทียนพูดต่อ

“นี่คือขีดจำกัดที่เจ้าจะควบคุมได้”  เสี่ยวเอ้อพูดอย่างเย็นชา  “ถ้าข้าเพิ่มพลังขึ้นไปอีกพลังงานจะพัฒนาจนทำร้ายร่างกายของเจ้า”

เสี่ยวเอ้อในอดีตภาคภูมิใจอย่างสิ้นเชิงในสนามพลัง อย่างไรก็ตามเสี่ยวเอ้อในตอนนี้สามารถเห็นได้ชัดผ่านความลึกลับของร่มดวงดาวหมีใหญ่  เขาจึงได้ตระหนักในเดี๋ยวนี้ เหตุผลที่ร่มดาวหมีใหญ่ได้รับยกย่องจนไม่มีผู้ทรงอิทธิพลคนใดในอดีตกล้าดูแคลน  ในยุคของนักสู้ร่มดวงดาวหมีใหญ่เป็นเหมือนประตูที่ช่วยให้นักสู้ก้าวเข้าสู่ดินของเซียน

หลังจากเข้าสู่ดินแดนของเซียนร่มดาวหมีใหญ่จะพลิกเป็นอีกโลกหนึ่ง แม้ว่าร่มดาวหมีใหญ่จะไม่บรรจุวิชาจิตวิญญาณไว้แต่ก็ประกอบไปด้วยมรดกดั้งเดิมที่เป็นต้นกำเนิดแก่นวิชากลุ่มดาวหมีใหญ่ส่งต่อแก่นของต้นกำเนิดทั้งหมด ดวงดาวของมัน

ดวงดาวของร่มดาวหมีใหญ่หมุนปั่นไม่มีสิ้นสุด  เป็นเป้าหมายที่ดีที่สุดในการทำความเข้าใจเซียนนักสู้จำเป็นต้องเริ่มการรู้แจ้งของพวกเขาจากภายในถึงวิธีการใช้วิชาจิตวิญญาณองพวกเขาเอง

เสี่ยวเอ้อตื่นตัวช้าเกินไป  เขาไม่เคยรู้แจ้งชุดวิชาจิตวิญญาณด้วยตัวเองเลย  อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังได้กำไรซึ่งก็คือน้ำหนักของดวงดาว

พลังงานในร่างกายของเขามีร่องรอยน้ำหนักคุณลักษณะซึ่งเป็นเหตุให้เขาสามารถพูดเช่นนั้นได้

“ไม่สำคัญต่อไปแล้ว ข้าคิดวิธีเอาชนะเขาได้แล้ว!” น้ำเสียงของถังเทียนมั่นใจและตื่นเต้น

เป็นไปไม่ได้!

เดิมทีเสี่ยวเอ้อไม่เชื่อเลย  แม้เขาก็ไม่รู้วิธีเอาชนะเย่เฉาเกอ  แล้วเจ้าเด็กโง่นี่จะคิดออกได้ยังไง?

“เร็วเข้า” ถังเทียนเร่งเขา

เสี่ยวเอ้อยืดตัวตรงเพิ่มพลังขึ้นไปอย่างบ้าคลั่งพลังนั้นไปรวมกันอยู่ที่หมัดของถังเทียน เพราะเขากินหินดวงดาวลงไปมาก พลังงานในร่างของเสี่ยวเอ้อจึงมากจนน่าตกใจ

ถังเทียนรู้สึกแต่ว่าหมัดของเขาแน่นขึ้นเล็กน้อย

พลังงานที่ปั่นป่วนและล้อมรอบหมัดของเขานำมาซึ่งพลังที่น่ากลัว  ถังเทียนรู้สึกเหมือนกับว่าเขาถูกยัดเข้าไปในวัตถุที่หนักหน่วงนับไม่ถ้วนและบดขยี้อย่างไม่ปราณี

เขาสามารถได้ยินเสียงของหมัดเขาถูกบดขยี้

“ยังไม่พอ เอาอีก!”

ตาของถังเทียนเป็นประกายระห่ำ เขาไม่รู้สึกถึงพลังของคู่ต่อสู้ได้อย่างไร?  แต่ เย่เฉาเกอข้าโดนเจ้าเล่นงานหนักในครั้งก่อน แล้วจะให้ข้าทนถูกเจ้าเล่นงานอีกได้ยังไง?

เรื่องแบบนั้นมันน่าขายขี้หน้า

ศัตรูหนทางคับแคบไม่ใช่แค่เพียงคำพูด....

ถึงกระนั้นความคิดที่บ้าระห่ำก็ผุดขึ้นมาในสมองของเขา ทำให้เขาสั่นสะท้านโดยไม่ได้ตั้งใจ มันบ้าเกินไป

เป๊าะ..หมัดของเขาแตก  เลือดพุ่งออกทุกที่  แม้ว่าถังเทียนจะมีร่างกายมีพลังเป็นศูนย์แต่ก็ยังไม่อาจทนต่อพลังดวงดาวอย่างนั้น!

ทันใดนั้นถังเทียนไม่มีความรู้สึก ความบ้าระห่ำของเขาจับจ้องมองดูวงแหวนแสงสางที่อยู่ห่างไม่ไกลนัก

สายตาของทุกคนจับจ้องอยู่ที่เย่เฉาเกอ  แสงสางที่มีชื่อเสียงพวกเขาสามารถเห็นได้เป็นครั้งแรก จะไม่มีโอกาสอื่นแบบนี้อีก ไม่มีใครเบือนสายตาออกไปได้

เทียบกันแล้วรัศมีของถังเทียนยังขาดและอ่อนสลัวมากกว่า

หมอกกระจ่างในพลังแสงสางเลือนราง เย่เฉาเกอที่มีรัศมีแสงสางครอบคลุมเป็นพันสายเหมือนกับเทพสงคราม

ถังเทียนเลียริมฝีปากเหมือนกับสัตว์ประหลาด  “เสี่ยวเอ้อ เรากำลังจะโจมตีแล้ว”

เสี่ยวเอ้อซึ่งอยู่ในตัวเขามีหน้าตกใจ  เจ้าเด็กโง่นี่ระห่ำจนน่าตกตะลึงจริงๆ

“บุก!”

ควับ!

ร่างของถังเทียนหายทันทีเคลื่อนในพริบตา

ถังเทียนมาปรากฏในวงรัศมีของแสงสาง  เรียกเสียงอุทานด้วยความตกใจ  เทียบกับแสงสางแล้ว แม้ว่าเคลื่อนย้ายในพริบตาจะไม่ใช่วิชาที่เล็กน้อย แต่ก็ไม่มีอะไร  เพียงเท่านั้นทุกคนที่ก่อนนั้นรู้สึกว่าคนแปลกหน้าที่ไม่คุ้นเคยจะไม่มีพลังสำหรับต่อต้านแน่นอน  แต่เมื่อเขาใช้วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตา  ทุกคนรู้ว่าประเมินสหายที่ไม่ธรรมดานี้ต่ำไป

แต่บุกเข้ามาในรัศมีแสงสางจะไม่เป็นการฆ่าตัวตายหรอกหรือ?

ดวงตาของเย่เฉาเกอเป็นประกายรัศมีแสงสางคือพื้นที่ของเขา ดังนั้นเขาสามารถตรวจสอบได้เมื่อถังเทียนบุกเข้ามา

โง่เสียจริง  ในรัศมีแสงสางนี้ความสามารถในการรบของเขามีมากเป็นสองเท่า

กระบี่ในมือของเขามีแสงคลุมโดยรอบ ทันใดนั้นเขายกกระบี่ขึ้นเหมือนกับว่าเขาได้ทำนายไว้ก่อนแล้วและฟันใส่ด้านหน้าของถังเทียน  จุดแวววาวนับไม่ถ้วนของแสงสางขยับ เข็มขนาดเส้นผมเข้าไปในกระบี่ทำให้กระบี่เปล่งแสง

ถังเทียนยิ้มไม่หลบเลี่ยงเขาใช้หมัดต่อยใส่กระบี่แสงและดันกระบี่แสงไปข้างหน้า  พลังที่หมัดของเขาปล่อยพลังทันที แต่เย่เฉาเกอประมาทพลังหมัดของถังเทียนอย่างเห็นได้ชัด!

สิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือพลังหมัดของถังเทียนระเบิดในทันใด

มันระเบิดออกมาจากหมัดของเขา

ปัง!

พลังระเบิดทำให้ถังเทียนอึดอัดแม้ด้วยร่างที่พลังกายเป็นศูนย์ หมัดของเขาฉีกขาด เลือดไหลกระเด็นไปทุกที่  อย่างไรก็ตามเขารู้สึกเหมือนกับว่าเป็นหมัดคนอื่น

เย่เฉาเกอไม่ทันระวัง  ร่างของเขาถูกดันถอยไปห้าก้าวอย่างควบคุมไม่ได้ จนถึงบัดนี้เขาถึงได้สังเกตเห็นตาของถังเทียนว่ามีสายตาเหมือนกับสัตว์ประหลาด  เจ้าผู้นี้....

เย่เฉาเกอตั้งหลักได้เร็ว  แทบในขณะเดียวกันเขากวัดแกว่งควงกระบี่ของเขา แสงสางที่อยู่รอบๆ รวมตัวอีกครั้งและเข้าไปในตัวกระบี่ทำให้กระบี่เปล่งแสงอีกครา

บึ้ม!

เสียงระเบิดดังอีกครา  หมัดซ้ายของถังเทียนฉีก

เย่เฉาเกอถูกดันถอยหลังอีก

“เสี่ยวเอ้อ!”

ถังเทียนตวาดอย่างโกรธเกรี้ยว  เขาบุกอีก หมัดขวาของเขามีพลังทะลักออกมาอย่างรุนแรงทันที  และมีพลังรุนแรงมากกว่าครั้งก่อน

ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเป็นแค่เพียงพลังงานที่บริสุทธิ์ที่สุด เสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้งทันทีที่ทั้งสองสัมผัสกัน

โจมตีแลกชีวิตหรือ?  เย่เฉาเกอเลิกคิ้ว  การโจมตีแบบนี้ไม่มีความหมายอะไรแม้แต่น้อย

พลังโจมตีนี้หมัดของคู่ต่อสู้ถือว่าตายแล้ว เห็นได้ชัดว่าแขนขวาของเขาไม่เหลือพลังไว้สู้แล้ว

นั่นหมายความเหลืออีกแขนหนึ่งไว้โจมตี

เห็นได้ชัดว่าการโจมตีที่เหลือของฝ่ายตรงข้ามจะมาถึงตามเวลาและระเบิดออกโดยไม่มีวิชาแฝงอะไรเลย

มาดูกันว่ารูปแบบการโจมตีเจ้าจะเป็นยังไง...เดี๋ยวก่อน...

สีหน้าของเย่เฉาเกอเปลี่ยนไปรัศมีแสงสางรอบตัวเขาหายไปจริงเขาเงยหน้าอย่างรวดเร็วและเห็นแต่คู่ต่อสู้กำลังยิ้มให้เขา

งี่เง่า....ถึงข้าจะสร้างไม่ได้  แต่ข้าทำลายได้!

จะเป็นยังไงถ้าข้าทำลายพื้นที่สนามพลังวิญญาณที่เจ้าสร้างขึ้นมา!

มีการโจมตีอีกหนึ่งครั้ง....

“เสี่ยวเอ้อ!”

ร่างของถังเทียนเคลื่อนไหวอีกครั้ง  เย่เฉาเกอที่สูญเสียรัศมีแสงสางช้าลงมาก

คลื่นพลังปั่นป่วนอยู่ด้านซ้ายเย่เฉาเกอไม่คิดอะไรใช้กระบี่ของเขาฟันใส่ทันที ไม่มีอะไรตรงนั้น!

แย่แล้ว!

เย่เฉาเกอสีหน้าเปลี่ยน  ปัง, ขาข้างหนึ่งยันใส่หลังของเขาพลังรุนแรงทำให้เขากระเด็นไปเกินกว่า 30 เมตรก่อนที่เขาจะยั้งตัวเองอยู่ได้

เงียบเหมือนป่าช้า  ทุกคนจ้องมองดูหมัดที่หลั่งเลือดของถังเทียน

เขายิ้มด้วยภาพลักษณ์ที่ไร้อันตรายและดูซื่อตรง

“เฮ้, ผ่านไป 20 ท่าแล้วนะ ข้าขอรับของไปก่อนละนะ  ขอบคุณ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด