ตอนที่แล้วตอนที่ 15-13 จ้างใหม่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 15-15 ข่าวของโอลิเวอร์

ตอนที่ 15-14 ภูเขาไฟ


กลุ่มของลินลี่ย์ยังคงอยู่นอกเมืองอิลลาน ขณะที่ห่างจากเมืองอิลลานไปทางตะวันออกเกือบร้อยกิโลเมตร  มีกลุ่มภูเขาไฟขนาดมหึมา

กลุ่มภูเขาไฟขนาดมหึมากินพื้นที่หลายพันตารางกิโลเมตร  ภายในพื้นที่พันกิโลเมตรนี้เป็นพื้นที่ภูเขาไฟทั้งหมด  และทั่วทั้งพื้นที่เป็นสีแดงหม่น

“แครก!”  หมอกขาวพ่นออกมาจากใจกลางเทือกเขา  กลิ่นของกำมะถันหนาแน่นรู้สึกได้แต่ไกลและมีโครงกระดูกมนุษย์ มนุษย์อสูรและเผ่าพันธุ์อื่นมากมายกองเกลื่อนกล่นอยู่ทั่วภูเขา  ที่นี่ไม่มีชีวิต  ไม่มีต้นหญ้าแม้แต่ต้นเดียว นี่คือดินแดนมรณะที่มีชื่อเสียงที่สุดในแดนนรก....

เทือกเขาไฟบิส!

ร่างมนุษย์หลายสิบคนกำลังบินอยู่เหนือแนวภูเขาไฟบิส  ดูจากลักษณะของพวกเขาดูเหมือนพวกเขาเป็นคนค่อนข้างหยาบ

“แดนนรกวุ่นวายยุ่งเหยิงจริงๆ เป็นไปไม่ได้ที่จะหาสถานที่สงบใช้ชีวิตได้เลย”  ผู้นำสบถอย่างโกรธเกรี้ยว

“พี่ใหญ่รีบหาสถานที่ให้เราตั้งหลักกันก่อนเถอะ” บุรุษร่างกำยำด้านหลังของเขาพูดเบาๆ “ลองค้นหาสถานที่ซึ่งเราสร้างอำนาจได้และจากนั้นค่อยกังวลเรื่องอื่น  ในแดนนรกมีอันตรายมากเกินไป”

“ใช่แล้ว” ผู้นำพยักหน้า

แต่ขณะนั้นเอง....

“บึ้ม!”  “บึ้ม!”  “บึ้ม!”  “บึ้ม!”  “บึ้ม!”

จากผิวของแนวภูเขาไฟบิส หินนับพันแฝงไปด้วยเปลวเพลิงเริ่มพุ่งสู่อากาศด้วยความเร็วที่น่ากลัวทันใดนั้นร่างทั้งสิบสองนั้นเริ่มหนีอย่างหวาดผวา แต่ศิลานับพันนี้สามารถเปลี่ยนแปลงวิถีของพวกมันได้

“โครม!”  “โครม!”

ในพริบตาเดียวพวกเทพนับสิบนี้ศีรษะถูกกระแทกแหลก ประกายเทพของพวกเขาปลิวกระเด็น วิญญาณของพวกเขาสูญสลาย  ร่างทุกคนร่วงจากกลางอากาศ

ศพของพวกเขากระทบพื้นระดับของภูเขา

“แครก...” แนวภูเขาไฟเหมือนกับสิ่งมีชีวิต มันกลืนศพทั้งหมด แหวนมิติเก็บของประกายเทพ และสมบัติเทพ

แนวภูเขาไฟบิสกลายเป็นสถานที่สงบเหมือนเมื่อก่อน  นอกจากความจริงที่ว่าบนผิวภูเขาไฟตอนนี้มีศพเพิ่มอีกสองสามศพแล้วไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย

แนวภูเขาไฟบิสเป็นพื้นที่อันตราย แต่สำหรับหลายคนผู้ไม่เคยอ่านหนังสือหรือผู้ไม่มีประสบการณ์ พวกเขาจะรู้ได้ยังไงว่าที่นี่เป็นเขตพื้นที่อันตราย?  ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มของลินลี่ย์รู้จักพื้นที่อันตรายบางที่เพราะพวกเขาได้ซื้อหนังสืออ่านบางส่วน

และนอกจากนี้...

พื้นที่อันตรายหลายแห่งในแดนนรกเพิ่งก่อตัวขึ้นใหม่ไม่มีการบันทึกไว้ในหนังสือ

พื้นที่อันตรายมีคลาคล่ำอยู่ไปทั่วทุกที่  เพราะว่านี่คือแดนนรก!

อสูรโลหะกำลังบินตรงสู่แนวภูเขาไฟบิสด้วยความเร็วสูง  ห่างจากแนวภูเขาไฟบิสไม่กี่สิบกิโลเมตรอสูรโลหะลงจอดบนภาคพื้น  จากภายในนั้นมีร่างคนสามคนออกมาจากพาหนะ  เป็นอินนิโกและบริวารทั้งสองคน

“คุณชาย, เราจะหยุดตรงนี้หรือ?  ทำไมเราไม่บินเข้าไปในแนวภูเขาไฟเล่า?”  หนึ่งในบริวารของเขาที่เป็นเทพชั้นสูงถามด้วยความสงสัย

อินนิโกชำเลืองมองเขาอย่างเย็นชา  “ฮึ่ม... ในแนวภูเขาไฟนี่น่ะหรือ?  เจ้ากำลังวอนหาเรื่องตาย  แนวภูเขาไฟบิสเป็นหนึ่งในแดนมรณะของแดนนรกไม่ง่ายที่เจ้าจะจินตนาการออกนักหรอก!  ตามข้ามา” ขณะที่เขาพูด อินนิโกก้าวเท้าด้วยความเร็วสูงเข้าสู่แนวภูเขาไฟ

“แนวภูเขาไฟบิสอันตรายขนาดไหนกันแน่?”  เทพชั้นสูงสองคนที่อยู่ด้านหลังของเขาสงสัย

พวกเขาเป็นเทพชั้นสูง  มีพื้นที่มากมายซึ่งสามารถคุกคามพวกเขาได้

“ถ้าเจ้าไม่อยากตายงั้นอย่าวิ่งสุ่มสี่สุ่มห้า” อินนิโกแค่นเสียง  “ในที่แห่งนี้ข้าไม่สามารถปกป้องพวกเจ้าได้”

แม้ว่าอินนิโกกำลังเดินอยู่บนพื้น  เขาสามารถไปได้หลายสิบกิโลเมตรในช่วงเวลาสั้นๆอินนิโกพาบริวารทั้งสองมาถึงด้านนอกแนวภูเขาไฟบิส เมื่อเห็นไอน้ำสีขาวและพื้นที่แห้งแล้งไร้ชีวิต  แนวภูเขาไฟเต็มไปด้วยกลิ่นกำมะถัน  อินนิโกอดกระแอมในลำคอมิได้

“ท่านเอลควิน ข้าคุณชายรองอินนิโกแห่งตระกูลเบย์ฟิลด์แห่งแคว้นโคล์ดคาล์ม  ข้าอยากจะขอความกรุณาท่านเอลควินช่วยออกมาพบข้าด้วยเถิด!”  อินนิโกคำนับขณะพูดด้วยความเคารพ

หลังจากพูดจบอินนิโกยังคงอยู่ในท่าโค้งคำนับรอคอยคำตอบรับเงียบๆ

“มีคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในแนวภูเขาไฟนี่ด้วยหรือ?” เทพชั้นสูงทั้งสองคนด้านหลังอินนิโกประหลาดใจทั้งคู่

พวกเขาได้ยินมาเช่นกันว่าแนวภูเขาไฟบิสเป็นพื้นที่อันตราย แต่พวกเขาไม่เคยได้ยินว่าแนวภูเขาไฟบิสจะมีผู้คนอยู่ในนั้น

“ตระกูลเบย์ฟิลด์?” เสียงทุ้มดังออกมาจากภายในแนวภูเขาไฟทำให้แนวภูเขาไฟทั้งหมดสั่นสะเทือนเล็กน้อย  “งั้นก็เข้ามา”

และจากนั้นผิวภูเขาไฟแยกออกปรากฏอุโมงค์สายหนึ่งข้างหน้า

อินนิโกสูดหายใจลึกจากนั้นเดินไปตามทาง  เทพชั้นสูงทั้งสองที่อยู่ด้านหลังประหลาดใจ

“รีบๆ ตามเข้ามา” อินนิโกตะคอก

“ขอรับ, คุณชาย”  ทั้งสองคนเดินตามอินนิโกเข้าไปในทางเดินทันที

ตามกฎของแดนนรกเมื่อนักสู้กลายเป็นอสูรเจ็ดดาว เขามีสิทธิ์จะท้าเทพอสูรสู้ เพียงแต่เอาชนะเทพอสูรได้ก็จะได้รับตำแหน่ง  เทพอสูรคนเก่าจะตายในการสู้รบหรือไม่ก็รอดตายและสูญเสียตำแหน่งไป  หลังจากท้าทายต่อสู้มามากมายนับไม่ถ้วน  แดนนรกในตอนนี้มียอดฝีมือถือสันโดษอยู่มากมายเป็นธรรมดา

ยอดฝีมือถือสันโดษนี้อาจเป็นอดีตเทพอสูรก็ได้หรือพวกเขาอาจเป็นอสูรเจ็ดดาวหรือบางทีเป็นยอดฝีมือที่ทรงพลังมากซึ่งไม่สนใจการต่อสู้เพื่อตำแหน่งเทพอสูร

อย่างไรก็ตามไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาจะมีพลังน่ากลัวกันทุกคน

คนทั่วไปของแดนนรกไม่รู้ว่ามีพวกเขาคงอยู่ แต่พวกตระกูลเก่าแก่บางตระกูลรู้เรื่องยอดฝีมือถือสันโดษเหล่านี้ไม่อาจล่วงเกินได้

บริวารทั้งสองของอินนิโกเข้าใจทันที “เป็นไปได้ว่าแนวภูเขาไฟบิสนี้จะมีสุดยอดฝีมืออาศัยอยู่ข้างใน”

ในเส้นทางเดินมืดมิดร่างทั้งสามเดินลึกเข้าไปในพื้น

ทันใดนั้น...

“แครก...” ผนังหินด้านข้างทางเดินแตกออกเป็นก้อนกรวดนับไม่ถ้วนเคลื่อนไปข้างหน้าทันที

“อ๊า!”  “อ๊า!”

เทพชั้นสูงสองคนถูกก้อนกรวดนับไม่ถ้วนนั้นยิงทะลุและแม้แต่ประกายเทพก็ถูกยิงใส่หลายครั้งครา  วิญญาณของพวกเขาแตกสลายไปทันที!

แต่หน้าของอินนิโกไม่เปลี่ยน  เขาคิดด้วยตัวเองว่า“ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าหลังจากผ่านมาหลายปีสัตว์เลี้ยงของท่านเอลควินก็ยังทำตัวเหมือนอย่างที่บิดาเขาพูด ฮึ่ม...เจ้าสองคนนี้กลายเป็นอาหารของสัตว์เลี้ยงของเอลควิน!”

ครู่ต่อมา...

อินนิโกเดินเข้าไปจนสุดทางเดินที่ซึ่งมีแม่น้ำลาวาไหลผ่าน อินนิโกมาถึงที่ใจกลางแนวภูเขาไฟแล้ว ใจกลางพื้นที่นี้เป็นถ้ำกว้างขวางว่างเปล่า  ในใจกลางถ้ำมีบ่อแม็กม่าสีทองร้อนแรง

“ไม่นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีสิ่งแปลกประหลาดแบบนี้ในถ้ำด้วย”  หน้าของอินนิโกเปลี่ยน

“ปุด..ปุด...” แม็กมาสีทองยังคงเดือด

กล้ามเนื้อบนใบหน้าของของอินนิโกกระตุกแล้วจากนั้นเขาเดินตรงไปที่ทางเดินอีกทางเข้ามาถึงตำหนักใต้ดินร่างหนึ่งในชุดดำนั่งอยู่กับที่ขณะที่ในอ้อมแขนมีลูกแมวทองตัวหนึ่ง

อินนิโกคำนับและกล่าวทันที  “อินนิโก เบย์ฟิลด์ขอคารวะท่านเอลควินและขอส่งความปรารถนาดีแทนบิดาของข้าด้วย”

“อืม”  ร่างในชุดดำตอบเขาอย่างใจเย็น  “อินนิโก, ข้าเคยได้ยินพ่อเจ้าพูดถึงเจ้ามาก่อน  ทำไมเจ้าถึงมาหาข้า?”

รอยยิ้มปรากฏอยู่ในใบหน้าของอินนิโก  “ท่านเอลควิน ความจริง,ความจริงข้าใช้เวลายาวนานมากและพาเทพชั้นสูงมาเป็นร้อยเพื่อเตรียมทำงานใหญ่  แต่ในที่สุดแม้จะใช้เงินไปมากมาย  บริวารของข้าตายจนหมด เราก็ยังล้มเหลว”

“เจ้าต้องการอะไรกันแน่ พูดออกมาให้ชัด!” ร่างชุดดำแค่นเสียงเย็นชาอย่างไม่พอใจ

อินนิโกรีบกล่าว“ขอรับ, ข้าจะพูดให้ชัด   เมื่อไม่นานมานี้ตระกูลบอยด์ได้ถูกทำลายลงแต่บ่าวสองคนของตระกูลได้เอามรดกสมบัติที่ตระกูลบอยด์สั่งสมมานานนับปีไม่ถ้วนหนีไป  ข้าได้ตามค้นหาพวกเขามาตลอดเวลาและไล่ตามพวกวเขามาจนถึงที่นี่ตั้งแต่ทวีปเจดโฟลท ในที่สุดข้าก็พบพวกเขา!”

“ตระกูลบอยด์?”

บุรุษชุดดำตกใจในที่สุด  “เจ้าหมายถึงตระกูลบอยด์ที่มีชื่อเสียงพอๆกับตระกูลเบย์ฟิลด์ของเจ้าน่ะหรือ?”

“ขอรับ” อินนิโกกล่าว

บุรุษชุดดำหัวเราะเบาๆสองสามครา “หึหึ  อินนิโกสมบัติของตระกูลบอยด์มีจำนวนมากมายน่าประหลาดใจ เจ้ามาแจ้งให้ข้าทราบแค่เพียงเหตุการณ์เกี่ยวมรดกสมบัตินั้นเท่านั้นเองหรือ? ทำไมเจ้าไม่หาสมาชิกจากตระกูลเบย์ฟิลด์ของเจ้า?  ข้าชักสงสัยว่าเจ้ามีความต้องการอะไรกันแน่”

อินนิโกรีบกล่าว  “ท่านเอลควิน มีสองเหตุผลหลังที่ข้าไม่สามารถไปที่ตระกูลของข้าได้”

“ประการแรก ถ้าข้ามองหายอดฝีมือภายในตระกูล อย่างน้อยข้าจะต้องกลับไปที่แคว้นโคล์ดคาล์มในทวีปเจดโฟลท  ระยะทางห่างไกลไพศาลมาก และก็ยากจะพูดได้ว่าอาจมีเหตุแปรเปลี่ยนเกิดขึ้นได้หรือไม่ซึ่งจะเป็นเหตุให้ข้าสูญเสียร่องรอยของพวกเขา”  อินนิโกรีบกล่าว  “สำหรับเหตุผลที่สองข้าเกรงว่าท่านเอลควินจะหัวเราะเยาะข้า”

อินนิโกหัวเราะเยาะเย้ยตนเอง  “ท่านเอลควิน! ท่านควรจะรู้ว่าพี่ใหญ่ของข้าคือบุตรคนโตของประมุขตระกูล  ในอนาคต เขาจะต้องเป็นผู้รับสืบทอดตำแหน่งประมุขตระกูล  สำหรับข้าในอนาคตเป็นไปได้ว่าจะถูกส่งไปในพื้นที่ห่างไกล อำนาจของข้าบางทีอาจด้อยกว่าในระดับปัจจุบันด้วยซ้ำ”

บุรุษชุดดำหัวเราะอยู่สองครา  “เจ้าเป็นเด็กฉลาด ก็ได้,  ลองพูดขยายความสมบัติตระกูลบอยด์หน่อยซิถ้าข้าได้รับสมบัตินี้ได้ ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า”

แม้ว่าเขาจะทรงพลังอำนาจมาก แต่สมบัติของตระกูลใหญ่เหล่านี้ก็เพียงพอทำให้เขาเกิดความโลภได้

“เอ่อ.. นี่...”  อินนิโกพึมพำ

บุรุษชุดดำหัวเราะ  “เด็กน้อย,เจ้านึกหรือว่าข้าไม่สามารถบอกได้ว่าเจ้ากำลังคิดอะไร?  ก็ได้ งั้นเจ้ากับข้ามาทำสัญญาจอมเทพ  ถ้าข้าได้สมบัติตระกูลบอยด์ ข้าจะแบ่งให้เจ้าหนึ่งในสิบ  เจ้าจะว่ายังไง?”

พลังของสัญญานั้นยิ่งใหญ่มาก

เหมือนกับสัญญาเสมอภาคหรือสัญญานายบ่าวระหว่างมนุษย์กับอสูร เมื่อสิ่งมีชีวิตโลหะอยู่ภายใต้สัญญากับอีกฝ่ายหนึ่ง ก็ด้วยสัญญาประเภทนี้

สำหรับสัญญาจอมเทพเป็นสัญญารุนแรงเด็ดขาดรูปแบบหนึ่ง

“ก็ได้” อินนิโกดีใจทันที หนึ่งในสิบของสมบัติทั้งหมด

ถ้าเขาให้ข้อมูลนี้กับตระกูลเขา  ตระกูลจะให้รางวัลเขาอย่างหนักแต่ว่าจะมากสักเพียงไหน? นี่เป็นสมบัติทั้งหมดของตระกูลบอยด์ ถ้าตระกูลของเขาเองให้เขาหนึ่งในร้อย นั่นก็นับว่าดีแล้ว พวกเขาจะให้เขาหนึ่งในสิบได้ยังไง?

อินนิโกและคนชุดดำร่างสัญญาจอมเทพ

“แครก...”

รังสีแสงสีดำลอยออกมาจากหน้าผากของอินนิโกและบุรุษชุดดำซึมเข้าไปในประกายเทพของพวกเขา

อินนิโกตอนนี้มีความดีใจ  เขาหัวเราะทันที  “ท่านเอลควิน การเดินทางครั้งนี้มองโดยผิวเผินจะเห็นว่าบ่าวชราสองคนเป็นผู้ว่าจ้างอสูร และบ่าวชราคนหนึ่งตายไปแล้ว เหลืออยู่เพียงคนเดียว”

“ดังนั้นสมบัติจะอยู่กับสองบ่าวชรานี่หรือเปล่า?”  บุรุษชุดดำกล่าว

อินนิโกกลับพูด  “ไม่..แน่นอน ท่านเอลควิน ข้าเห็นคนผู้หนึ่งอยู่ในกลุ่มของอสูรมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลบอยด์  ข้าสังสัยว่า... สมบัติมรดกตอนนี้คงจะอยู่กับเขา

“เขาเข้าร่วมกับอสูรใช่ไหม?”  บุรุษชุดดำพยักหน้าเล็กน้อย

“ท่านเอลควินไม่ต้องห่วง  เมื่อถึงเวลาข้าจะตามท่านไปและชี้ให้ท่านดูทันที”

บุรุษชุดดำพูดอย่างใจเย็น  “เอาอย่างนี้เป็นไง อินนิโก เจ้าจัดการทุกอย่างทั้งหมดที่เจ้าต้องทำก็คือแจ้งข้า” อินนิโกคำนับด้วยความเคารพ จากนั้นล่าถอยไป

หลังจากอินนิโกออกมาแล้วบุรุษชุดดำลุกขึ้นยืนทันที   ตอนนี้เขาเผยให้เห็นสีหน้าสีเทาซีด รอยยิ้มปรากฏที่มุมปกของเอลควิน เจ้าเด็กนี่ไม่กล้าโกหกข้า อย่างนั้นการเดินทางครั้งนี้ก็นับว่าคุ้มแล้ว”

เอลควินกังวลว่าอินนิโกจะเล่นไม่ซื่อแต่ตอนนี้ ไม่มีความจำเป็นแล้ว

“ฟูโซ่ ไปเตรียมตัวกันเถอะ”  เอลควินลูบขนลูกแมวน้อยในมือของเขา

“เมี้ยว” ลูกแมวน้อยสีทองร้องขึ้น

ภายนอกเมืองอิลลานอสูรโลหะยังคงจอดนิ่งอยู่กับที่ในนอกเมือง สามพี่น้องเอ็ดเวิร์ดและอสูรคนอื่นๆ รอคอยอยู่นอกเมืองเงียบๆ

“เจ้าเด็กนั่นฝึกหนักจริงๆ  เขายังคงฝึกอยู่เรื่อย”

“เป็นไปได้ว่าเพราะเขาเผชิญอันตรายมามากมาย  เขาก็เลยกลัวตาย”

สามพี่น้องเอ็ดเวิร์ดพูดคุยหัวเราะกันเองเงียบๆ ขณะเดียวกันมองดูลินลี่ย์ที่อยู่ข้างทางออกไปห่างๆ ลินลี่ย์กำลังฝึกวิชากระบี่ครั้งแล้วครั้งเล่า เขาฝึกฝนไม่หยุดหย่อนมาเป็นเวลาสิบแปดวันเต็ม ช่วงเวลาสิบแปดกว่าวันนี้ลินลี่ย์ยังคงฝึกขณะที่มีการแก้ไขและปรับปรุงวิชาที่ฝึก

ตามทฤษฎีและการฝึกฝนไม่เหมือนกัน  มักจะมีข้อแตกต่างกันอยู่บางข้อ

ลินลี่ย์สะบัดกระบี่เลือดม่วงครั้งแล้วครั้งเล่า  ขณะที่ฟันดาบออกไปทันทีเงากระบี่จะเลือนรางเหมือนกับว่าถึงขีดจำกัดความเร็วราวกับความเร็วของตัวสล็อธ ความรู้สึกแบบนี้สับสน ขณะที่ประกายกระบี่ผ่านไประลอกคมกระบี่จะปรากฎขึ้น

“แครก..” โลกถูกผ่าแบ่ง

นี่เป็นเหตุให้เกิดระลอกมิติเท่านั้น

“มาลองกันอีก” ตายของลินลี่ย์เป็นประกาย เพื่อการทดสอบลินลี่ย์เพียงแต่ใช้พลังหนึ่งในสิบแต่พลังโจมตีก็ทรงพลังน่าทึ่ง

รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าลินลี่ย์  “เป็นอย่างนี้นี่เอง พลังโจมตีเงาพิศวงในที่สุดก็ฝึกได้สำเร็จ!  ถ้าข้าโจมตีเต็มกำลังโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้คู่กับพลังและความเร็วที่แข็งแกร่งของร่างแปลงมังกรพลังโจมตีนี้จะเพิ่มมากขึ้นกว่านี้ถึงหลายสิบเท่า!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด